+++ ประสบการณ์ที่น่าประทับใจของอดีตนักศึกษาธรรมศาสตร์ และผู้ประสบภัยสึนามิ +++

ต้นแบบ...

ตะกี้ได้รับโทรศัพท์ โชว์เบอร์เป็นเบอร์แปลกๆ ก็รับสาย ปรากฏปลายสายเป็นเสียงของฝรั่งคนหนึ่งที่พยายามพูดไทย ...ชาร์ลอต เธอชื่อชาร์ลอต เธอถามว่าจำเธอได้หรือไม่ เธอคือ คนต่างชาติที่เราเคยให้ความช่วยเหลือเมื่อ 10 ปีก่อน ตอนมีสึนามิที่ภูเก็ต...

ย้อนกลับไป เมื่อตอนฉันปี 2 เรียนอยู่ที่ ธรรมศาสตร์ รังสิต เช้าตรู่ของวันหนึ่งในหมู่นักศึกษามีการพูดกันอย่างหนาหูว่าที่ใต้มีสึนามิ มีคนตายมาก แต่คนรอดก็มาก มีการประกาศหาอาสาสมัครที่พูดภาษาต่างประเทศได้ ตอนนั้นคิดยังไงไม่รู้ พูดอังกฤษได้นิดหน่อย ฝรั่งเศสได้งูๆ ปลาๆ เลยอาสาไป ...ตอนนั้นที่ มธ. มีการจัดที่พักให้ผู้ประสบภัยภายในมหาวิทยาลัย และฉันเป็นอาสาสมัครล่าม(อันที่จริงที่ทำส่วนใหญ่คือใช้แรงงานยกของมากกว่าแต่เราไม่เกี่ยง คือตอนนั้นพลังเยอะ อยากทำประโยชน์) ...เราช่วยเดินคุยกับผู้ประสบภัยหลายคนว่าต้องการอะไรมั้ย ให้เราช่วยอะไรมั้ย ทุกคนดูโอเคมากขึ้น จนเราเดินมาถึงผู้หญิงฝรั่งคนหนึ่ง สวย แต่ซีด สายตาดูว่างเปล่า นั่งอยู่ลำพัง เราเลยเขาไปคุยกับเธอ ... เธอแนะนำตัวว่าชื่อ ชาร์ลอต เป็นคนฝรั่งเศสมากับครอบครัวเพื่อมาจัดงานแต่งงานที่ภูเก็ตเพราะเธอชอบทะเลไทย ...สึนามิเข้าตอนเธอจัดงานเสร็จวันเดียว ...ตอนนั้นเรายังเด็ก ยอมรับว่าไม่เข้าใจความรู้สึกเขาเท่าไหร่เพราะเราไม่เคยสูญเสีย... แต่ก็พยายามช่วยเขาเท่าที่ทำได้ ...วันแล้ว วันเล่าที่ฉันไปคุยเป็นเพื่อน ช่วยเธอหาญาติ ติดต่อเพื่อนที่บ้านเกิดเธอ ... มาอยู่วันหนึ่งชาร์ลอตมีคำถามกับฉันว่า ทำไมฉันถึงมาเป็นอาสาสมัคร... ตอนนั้นไม่รู้คิดไง มองไปเห็นรูปในหลวงติดข้างฝาในสเตเดี่ยมที่เป็นศูนย์ เลยตอบชาร์ลอตว่า ฉันมาเป็นอาสาเพราะคนนี้ คนนี้เป็นต้นแบบแห่งการเสียสละ

... ปลายสายเสียงชาร์ลอตยังดังอยู่ เธอบอกว่าตอนนี้มาไทย อยู่กรุงเทพ เธออยากเจอฉัน อยากเจอเพื่อนเก่า ...นี่นับว่าเป็นความโชคดีก็ได้ ที่ตลอด 10 ปี เราไม่เคยเปลี่ยนเบอร์โทรศัพท์เลย ... เราถามชาร์ลอตว่ามาเที่ยวใช่มั้ย ...ชาร์ลอตตอบว่า เปล่า เธอไม่ได้มาเที่ยว เธอมาเป็นอาสาครูสอนหนังสือให้เด็กดอย เธอเล่าว่า ตั้งแต่วันนั้นที่เธอได้รับความช่วยเหลือจากเรา เธอก็ไปค้นประวัติผู้ชายในรูปที่เราบอกว่าเป็นต้นแบบของเรา และเธอรับท่านมาเป็นต้นแบบของเธอด้วย

...ชีวิตของชาร์ลอตทุกวันนี้ ไม่มีครอบครัวโดยสายเลือดเหลืออยู่เลยอันเป็นผลจากภัยสึนามิครั้งนั้น เธอเป็นทายาทคนเดียวที่เหลือจึงมีทรัพย์สินพอใช้ไปจนตายโดยไม่เดือดร้อนแม้ไม่ทำงาน เธอจึงใช้เวลาส่วนใหญ่ไปกับการช่วยสอนหนังสือแกเด็กผู้ด้อยโอกาสในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และ... เธอบอกว่าคนที่เป็นต้นแบบแห่งการเผื่อแผ่ของเธอ คือ ในหลวงของเรา

ฺBy Thitika Patchakapat
แก้ไขข้อความเมื่อ

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่