เห็นว่าช่วงนี้ ดราม่าเรื่องของการรับน้อง ถือว่ามาแรงพอสมควร เลยอยากจะแชร์ทั้งประสบการณ์ มุมมอง และความคิดเห็น ของคนที่เคยเป็นน้อง เข้ารับการรับน้อง และคนที่เคยเป็นรุ่นพี่ให้อ่านกันครับ
ย้อนไปเมื่อตอนเข้าปี 1 ใหม่ๆ ช่วงเป็นเฟรชชี่หน้าใส วัยว้าวุ่น เนื่องจากตอนเรียน ม.ปลาย ไม่เคยมีเรื่องการรับน้องมาก่อน จึงมีความตื่นเต้นเป็นธรรมดา 'การรับน้องมันจะเป็นยังไงนะ? มันจะสนุกหรือเปล่า? มันจะน่ากลัวแบบที่เป็นข่าวมั้ย?' (เมื่อก่อนมีข่าวบ้าง แต่ยังไม่แรงเท่าทุกวันนี้ครับ เลยไม่ค่อยกลัวเท่าไหร่) แต่ด้วยความตื่นเต้น อยากรู้ อยากลอง มันมีมากกว่า เลยตัดสินใจว่าจะเข้ารับการรับน้อง แบบไม่ให้ขาดเลยซักวัน
อ่อ...ผมเรียนมหาลัยที่เชียงรายแห่งหนึ่งครับ ไม่ขอเอ่ยนาม แต่เดาได้ไม่ยากหรอก
ช่วงก่อนเปิดเทอมใหม่ๆ จะมีเข้าค่าย คือมันนานมาแล้วนะครับ อาจจะมีอะไรคลาดเคลื่อนไปบ้าง ค่ายนี้จัดอยู่ประมาณ 1 หรือ 2 สัปดาห์นี่แหละ ตรงนี้อาจจะเรียกได้ไม่เต็มปากนักว่าเป็นการรับน้อง เพราะมันเป็นเพียงแค่กิจกรรม และการให้ความรู้เท่านั้นเอง ผมกับแก๊งเพื่อนๆ ก็พากันเข้าบ้าง โดดบ้าง ไม่มีอะไรพิเศษครับ เที่ยวแม่สายมั่ง ไปบิ๊กซีมั่ง (ตอนนั้นเชียงรายยังไม่มีเซ็นทรัลครับ) บอกตรงๆว่าช่วงนี้ค่อนข้างน่าเบื่อนิดๆครับ แต่ดีตรงที่ พอจะมีรุ่นพี่น่ารักๆ ให้กระชุ่มกระชวยหัวใจบ้าง
ทีนี้พอเปิดเทอม ทุกคนต้องได้อยู่หอในครับ เป็นกฎข้อบังคับ (เดี๋ยวนี้ไม่เห็นบังคับอย่างงี้มั่งฟะ) แถมไม่ให้เอารถแมงกะไซมาใช้ด้วย อ่าว...แล้วเดินทางไปเรียนยังไง ที่นี่เขามีรถ EVT ให้นั่งครับ เป็นรถไฟฟ้า (ตอนนี้เปลี่ยนชื่อเป็น Gem car แล้วมั้งถ้าจำไม่ผิดนะ) แต่ส่วนมากผมเดินเอามากกว่า เพราะรถไฟฟ้ามันชอบเต็ม คนรอเยอะ ขี้เกียจรอ ทำนองนั้นครับ
กิจกรรมหลักๆของทางมหาลัย มีทั้งหมด 9 อย่างครับ เรียกว่ารับน้องรวมก็ว่าได้ ไม่ได้จัดติดๆกันหรือครับ อาจจะสัปดาห์ละครั้งมั่ง เว้นสัปดาห์มั่ง รวมๆแล้วก็ราวๆ เกือบ 1 เทอมเต็มๆ ผมก็จำไม่ได้แล้วว่ามีอะไรก่อนอะไรหลังนะครับ แล้วทุกวันตอนเย็น จะมีกิจกรรมสันทนาการ จัดในโดมครับ เป็นที่สนุกสนานครับ เต้นรำทำเพลง พี่สันฯ ที่เต้นเป็นตัวอย่าง อยู่ใกล้ๆก็น่ารักซะด้วยสิ >< จนกระทั้ง 'พี่ว้าก' เข้ามา
'here เอ๊ย ตะโกนซะดัง kูตกใจหมด' นั่นเป็นความคิดแรกจากที่ได้เจอพี่ว้ากครับ (บางมหาลัยอาจจะมีชื่อเรียกพิเศษ พี่วินัยมั่ง พี่ระเบียบมั่ง บลาๆๆ เห็นว่าว้ากเหมือนกันอยู่ดี เลยขอเรียกรวมๆว่าพี่ว้ากเลยแล้วกันเนอะ) ก็มาสั่งจัดแถว สั่งโน่นสั่งนี่ จะสั่งอะไรนักหนาวะ แต่ด้วยความที่ตัวเองเป็นคนหัวอ่อน ก็เลยทำตามอย่างว่าง่าย แล้วเขาก็จะมีการแยกผู้ป่วยออกไป ที่นี่ป้ายชื่อเฟรชชี่ คนป่วยจะมีสีพิเศษแปะไว้ครับ มีตั้งแต่เขียว เหลือง แดง ผมเป็นหอบหืดนี่แดงแจ๋เลยครับ เลยต้องออกจากแถวไปอยู่นอกโดมอย่างน่าเสียดาย
ตอนนั้นก็คิดว่า อืม ก็ดีนะ ถือว่าเป็นห่วงสวัสดิภาพเด็กพอสมควร แต่ใจจริงผมอยากลองเข้าไปมากๆเลยล่ะ แต่อย่างว่าล่ะเนอะ เราเป็นอะไรไป รุ่นพี่ก็ต้องรับผิดชอบ พ่อแม่พี่น้องก็เสียใจอีก เลยอยู่เฉยๆ ตอนอยู่ข้างนอกก็มีพี่ว้ากมาคุมครับ แต่ยืนคุมเฉยๆ แล้วก็มีพี่สวัสดิการมาดูแลเป็นพิเศษ ข้างในก็เอะอะโวยวายมากๆ แถมมีบบางคนเป็นลม ชัก ถูกทยอยหามออกมาหลายคนอยู่เหมือนกัน (ตอนนั้นยังไม่มีเด็กแบบ Liberal จ๋าครับ ยังไม่เจอประเภทท้าทายตรงๆ เจอแค่แบบ กวนๆพี่เขานิดหน่อย แค่นั้นแหละ เลยไม่ค่อยมีอะไรให้เผือกเท่าไหร่)
หลังจากเปิดตัวพี่ว้ากครั้งแรก วันไหนที่มีกิจกรรมหลักๆนะครับ มาปลุกตั้งแต่ก่อนไก่โห่ นึกสภาพคนอ่านหนังสือ (ข้ออ้าง จริงๆเล่นเกม) ดึกๆ หลับตี 1 ตี 2 แล้วต้องตื่นตี 5 สิครับ ไม่ให้อาบน้ำแปรงฟันด้วยนะ ให้แต่งตัวจัดแถว แล้วไปทำกิจกรรม kูอยากจะบ้าตาย เรียกว่าเป็นช่วงชีวิตที่โสโครกมากครับ 55555+ แต่ก็สนุกดีนะ
มีอยู่วันนึง ผมโดด 1 กิจกรรม เพราะขี้เกียจตื่นเช้า ขี้เกียจให้พี่ว้ากมาปลุก ไปนอนหอรุ่นพี่กับเพื่อนอีกคนนึงในสาขา (ทุกวันนี้กลายเป็นเพื่อนสนิทกันครับ) แล้วบอกเพื่อนคนอื่นว่าไปกินเหล้า สรุปวันนั้นเขาแจกเข็มรุ่นกันด้วยครับ มีผมนี่แหละที่ไม่ได้
มาถึงตรงนี้แล้ว ผมอยากจะบอกน้องๆปี 1 ว่า ผมไม่คิดจะบังคับ ให้คุณคิดเหมือนใครหรอกครับ นอกกรอบสิดี จะเข้าหรือไม่เข้ากิจกรรมนั้น มันก็เป็นสิทธิและเสรีภาพของคุณ มนุษย์ทุกคนมีเสรีภาพตั้งแต่กำเนิดครับ ผมก็เป็นคนหนึ่งที่มีความคิดแบบ liberal แต่ก็เปิดกว้างกับสิ่งอื่นๆ ผมถึงได้เข้าใจพวกคุณ ผมมั่นใจว่ามันเป็นสัจธรรมของทุกๆมหาลัย ทุกๆกิจกรรม ที่ไม่มีทางที่ทุกคนจะเข้ากิจกรรมได้ครบหรอกครับ แต่สิ่งที่ผมอยากจะนำเสนอพวกคุณก็คือ อะไรที่มันไม่หนักหนาเกินไปสำหรับเรา ผมก็อยากจะให้คุณได้ไปลองซักครั้งนึงในชีวิต มันเป็นประสบการณ์ที่หาไม่ได้ มีหลายสิ่งที่ผมไม่ชอบสำหรับการรับน้อง แต่บางอย่างที่ผมชอบ ผมก็สนุกกับมันได้ คิดซะว่า เราไปสนุก เราไปหาเพื่อน ก็ได้ครับผม
สิ่งที่ผมได้จากการรับน้อง มีทั้งการได้รู้จักเพื่อน การเสียสละ การเคารพผู้อาวุโส อะไรต่างๆ ตามชื่อระบบ Sotus เลยครับ ข้อความนี้ขอฝากถึงน้องๆที่หัวอ่อนว่า คุณถูกสอนให้เคารพรุ่นพี่ แต่อย่าลืมเคารพอาจารย์กันด้วยนะครับ ไม่ใช่เคารพรุ่นพี่แล้วจะเหยียบหัวอาจารย์ แบบนี้ก็ไม่ถูก รุ่นพี่ ผ่านมา แล้วก็ผ่านไป สอนอะไรเราบ้างนิดๆหน่อยๆ (ซึ่งสิ่งที่สอน ไม่ต้องเจอระบบ Sotus ก็เรียนรู้ได้ นี่เปิดใจพูดตรงๆครับ) แต่อาจารย์เป็นผู้ให้ความรู้เรานะครับ เรียงลำดับความสำคัญให้ถูก
ไม่มีอะไรมากครับ เคยโดนอาจารย์บ่นมาแบบรวมๆ ว่าไหว้รุ่นพี่กัน แต่ไม่ค่อยจะไหว้อาจารย์ แค่นั้นแหละ ส่วนตัวผมเอง ก็เคารพรุ่นพี่ แต่เคารพ คนที่ผมเห็นว่า สมควรเคารพครับ แล้วก็ไหว้ตลอด ส่วนพี่ที่ผมเห็นว่าไม่น่าเคารพ (อย่างเช่นพวกชอบเขม่น พวกอวดเบ่ง ว่าข้าเป็นพี่ เอ็งต้องเคารพ) ผมก็อยู่เฉยๆ ต่างคนต่างอยู่ ไม่มีอะไรมากครับ
ขอบคุณที่อ่านกันมาถึงตรงนี้นะครับ จบเรื่องของการรับน้องรวมแล้ว ถ้า feedback ดี ผมจะมาเขียนเรื่องราวของตอนรับน้องแบบแยกสาขา รวมถึงปี 2 3 และ 4 ต่อนะครับ (ตั้งใจว่านอกจากจะเขียนถึงน้องแล้ว จะเขียนถึงคนเป็นพี่บ้างครับ)
ตั้งกระทู้ยาวๆแบบนี้ครั้งแรก ผิดพลาดประการใดก็ขออภัยด้วยนะครับ (เหมือนเขียนคำนำเลยวุ้ย)
ปล. การแก้ไขทุกครั้ง จะเป็นการแก้ไขคำผิดเท่านั้นครับ ไม่มีการเปลี่ยนแปลงเนื้อหาใดๆทั้งสิ้น
แชร์ประสบการณ์เกรียนๆ ของการรับน้อง และการเป็นพี่คนครับ
ย้อนไปเมื่อตอนเข้าปี 1 ใหม่ๆ ช่วงเป็นเฟรชชี่หน้าใส วัยว้าวุ่น เนื่องจากตอนเรียน ม.ปลาย ไม่เคยมีเรื่องการรับน้องมาก่อน จึงมีความตื่นเต้นเป็นธรรมดา 'การรับน้องมันจะเป็นยังไงนะ? มันจะสนุกหรือเปล่า? มันจะน่ากลัวแบบที่เป็นข่าวมั้ย?' (เมื่อก่อนมีข่าวบ้าง แต่ยังไม่แรงเท่าทุกวันนี้ครับ เลยไม่ค่อยกลัวเท่าไหร่) แต่ด้วยความตื่นเต้น อยากรู้ อยากลอง มันมีมากกว่า เลยตัดสินใจว่าจะเข้ารับการรับน้อง แบบไม่ให้ขาดเลยซักวัน
อ่อ...ผมเรียนมหาลัยที่เชียงรายแห่งหนึ่งครับ ไม่ขอเอ่ยนาม แต่เดาได้ไม่ยากหรอก
ช่วงก่อนเปิดเทอมใหม่ๆ จะมีเข้าค่าย คือมันนานมาแล้วนะครับ อาจจะมีอะไรคลาดเคลื่อนไปบ้าง ค่ายนี้จัดอยู่ประมาณ 1 หรือ 2 สัปดาห์นี่แหละ ตรงนี้อาจจะเรียกได้ไม่เต็มปากนักว่าเป็นการรับน้อง เพราะมันเป็นเพียงแค่กิจกรรม และการให้ความรู้เท่านั้นเอง ผมกับแก๊งเพื่อนๆ ก็พากันเข้าบ้าง โดดบ้าง ไม่มีอะไรพิเศษครับ เที่ยวแม่สายมั่ง ไปบิ๊กซีมั่ง (ตอนนั้นเชียงรายยังไม่มีเซ็นทรัลครับ) บอกตรงๆว่าช่วงนี้ค่อนข้างน่าเบื่อนิดๆครับ แต่ดีตรงที่ พอจะมีรุ่นพี่น่ารักๆ ให้กระชุ่มกระชวยหัวใจบ้าง
ทีนี้พอเปิดเทอม ทุกคนต้องได้อยู่หอในครับ เป็นกฎข้อบังคับ (เดี๋ยวนี้ไม่เห็นบังคับอย่างงี้มั่งฟะ) แถมไม่ให้เอารถแมงกะไซมาใช้ด้วย อ่าว...แล้วเดินทางไปเรียนยังไง ที่นี่เขามีรถ EVT ให้นั่งครับ เป็นรถไฟฟ้า (ตอนนี้เปลี่ยนชื่อเป็น Gem car แล้วมั้งถ้าจำไม่ผิดนะ) แต่ส่วนมากผมเดินเอามากกว่า เพราะรถไฟฟ้ามันชอบเต็ม คนรอเยอะ ขี้เกียจรอ ทำนองนั้นครับ
กิจกรรมหลักๆของทางมหาลัย มีทั้งหมด 9 อย่างครับ เรียกว่ารับน้องรวมก็ว่าได้ ไม่ได้จัดติดๆกันหรือครับ อาจจะสัปดาห์ละครั้งมั่ง เว้นสัปดาห์มั่ง รวมๆแล้วก็ราวๆ เกือบ 1 เทอมเต็มๆ ผมก็จำไม่ได้แล้วว่ามีอะไรก่อนอะไรหลังนะครับ แล้วทุกวันตอนเย็น จะมีกิจกรรมสันทนาการ จัดในโดมครับ เป็นที่สนุกสนานครับ เต้นรำทำเพลง พี่สันฯ ที่เต้นเป็นตัวอย่าง อยู่ใกล้ๆก็น่ารักซะด้วยสิ >< จนกระทั้ง 'พี่ว้าก' เข้ามา
'here เอ๊ย ตะโกนซะดัง kูตกใจหมด' นั่นเป็นความคิดแรกจากที่ได้เจอพี่ว้ากครับ (บางมหาลัยอาจจะมีชื่อเรียกพิเศษ พี่วินัยมั่ง พี่ระเบียบมั่ง บลาๆๆ เห็นว่าว้ากเหมือนกันอยู่ดี เลยขอเรียกรวมๆว่าพี่ว้ากเลยแล้วกันเนอะ) ก็มาสั่งจัดแถว สั่งโน่นสั่งนี่ จะสั่งอะไรนักหนาวะ แต่ด้วยความที่ตัวเองเป็นคนหัวอ่อน ก็เลยทำตามอย่างว่าง่าย แล้วเขาก็จะมีการแยกผู้ป่วยออกไป ที่นี่ป้ายชื่อเฟรชชี่ คนป่วยจะมีสีพิเศษแปะไว้ครับ มีตั้งแต่เขียว เหลือง แดง ผมเป็นหอบหืดนี่แดงแจ๋เลยครับ เลยต้องออกจากแถวไปอยู่นอกโดมอย่างน่าเสียดาย
ตอนนั้นก็คิดว่า อืม ก็ดีนะ ถือว่าเป็นห่วงสวัสดิภาพเด็กพอสมควร แต่ใจจริงผมอยากลองเข้าไปมากๆเลยล่ะ แต่อย่างว่าล่ะเนอะ เราเป็นอะไรไป รุ่นพี่ก็ต้องรับผิดชอบ พ่อแม่พี่น้องก็เสียใจอีก เลยอยู่เฉยๆ ตอนอยู่ข้างนอกก็มีพี่ว้ากมาคุมครับ แต่ยืนคุมเฉยๆ แล้วก็มีพี่สวัสดิการมาดูแลเป็นพิเศษ ข้างในก็เอะอะโวยวายมากๆ แถมมีบบางคนเป็นลม ชัก ถูกทยอยหามออกมาหลายคนอยู่เหมือนกัน (ตอนนั้นยังไม่มีเด็กแบบ Liberal จ๋าครับ ยังไม่เจอประเภทท้าทายตรงๆ เจอแค่แบบ กวนๆพี่เขานิดหน่อย แค่นั้นแหละ เลยไม่ค่อยมีอะไรให้เผือกเท่าไหร่)
หลังจากเปิดตัวพี่ว้ากครั้งแรก วันไหนที่มีกิจกรรมหลักๆนะครับ มาปลุกตั้งแต่ก่อนไก่โห่ นึกสภาพคนอ่านหนังสือ (ข้ออ้าง จริงๆเล่นเกม) ดึกๆ หลับตี 1 ตี 2 แล้วต้องตื่นตี 5 สิครับ ไม่ให้อาบน้ำแปรงฟันด้วยนะ ให้แต่งตัวจัดแถว แล้วไปทำกิจกรรม kูอยากจะบ้าตาย เรียกว่าเป็นช่วงชีวิตที่โสโครกมากครับ 55555+ แต่ก็สนุกดีนะ
มีอยู่วันนึง ผมโดด 1 กิจกรรม เพราะขี้เกียจตื่นเช้า ขี้เกียจให้พี่ว้ากมาปลุก ไปนอนหอรุ่นพี่กับเพื่อนอีกคนนึงในสาขา (ทุกวันนี้กลายเป็นเพื่อนสนิทกันครับ) แล้วบอกเพื่อนคนอื่นว่าไปกินเหล้า สรุปวันนั้นเขาแจกเข็มรุ่นกันด้วยครับ มีผมนี่แหละที่ไม่ได้
มาถึงตรงนี้แล้ว ผมอยากจะบอกน้องๆปี 1 ว่า ผมไม่คิดจะบังคับ ให้คุณคิดเหมือนใครหรอกครับ นอกกรอบสิดี จะเข้าหรือไม่เข้ากิจกรรมนั้น มันก็เป็นสิทธิและเสรีภาพของคุณ มนุษย์ทุกคนมีเสรีภาพตั้งแต่กำเนิดครับ ผมก็เป็นคนหนึ่งที่มีความคิดแบบ liberal แต่ก็เปิดกว้างกับสิ่งอื่นๆ ผมถึงได้เข้าใจพวกคุณ ผมมั่นใจว่ามันเป็นสัจธรรมของทุกๆมหาลัย ทุกๆกิจกรรม ที่ไม่มีทางที่ทุกคนจะเข้ากิจกรรมได้ครบหรอกครับ แต่สิ่งที่ผมอยากจะนำเสนอพวกคุณก็คือ อะไรที่มันไม่หนักหนาเกินไปสำหรับเรา ผมก็อยากจะให้คุณได้ไปลองซักครั้งนึงในชีวิต มันเป็นประสบการณ์ที่หาไม่ได้ มีหลายสิ่งที่ผมไม่ชอบสำหรับการรับน้อง แต่บางอย่างที่ผมชอบ ผมก็สนุกกับมันได้ คิดซะว่า เราไปสนุก เราไปหาเพื่อน ก็ได้ครับผม
สิ่งที่ผมได้จากการรับน้อง มีทั้งการได้รู้จักเพื่อน การเสียสละ การเคารพผู้อาวุโส อะไรต่างๆ ตามชื่อระบบ Sotus เลยครับ ข้อความนี้ขอฝากถึงน้องๆที่หัวอ่อนว่า คุณถูกสอนให้เคารพรุ่นพี่ แต่อย่าลืมเคารพอาจารย์กันด้วยนะครับ ไม่ใช่เคารพรุ่นพี่แล้วจะเหยียบหัวอาจารย์ แบบนี้ก็ไม่ถูก รุ่นพี่ ผ่านมา แล้วก็ผ่านไป สอนอะไรเราบ้างนิดๆหน่อยๆ (ซึ่งสิ่งที่สอน ไม่ต้องเจอระบบ Sotus ก็เรียนรู้ได้ นี่เปิดใจพูดตรงๆครับ) แต่อาจารย์เป็นผู้ให้ความรู้เรานะครับ เรียงลำดับความสำคัญให้ถูก
ไม่มีอะไรมากครับ เคยโดนอาจารย์บ่นมาแบบรวมๆ ว่าไหว้รุ่นพี่กัน แต่ไม่ค่อยจะไหว้อาจารย์ แค่นั้นแหละ ส่วนตัวผมเอง ก็เคารพรุ่นพี่ แต่เคารพ คนที่ผมเห็นว่า สมควรเคารพครับ แล้วก็ไหว้ตลอด ส่วนพี่ที่ผมเห็นว่าไม่น่าเคารพ (อย่างเช่นพวกชอบเขม่น พวกอวดเบ่ง ว่าข้าเป็นพี่ เอ็งต้องเคารพ) ผมก็อยู่เฉยๆ ต่างคนต่างอยู่ ไม่มีอะไรมากครับ
ขอบคุณที่อ่านกันมาถึงตรงนี้นะครับ จบเรื่องของการรับน้องรวมแล้ว ถ้า feedback ดี ผมจะมาเขียนเรื่องราวของตอนรับน้องแบบแยกสาขา รวมถึงปี 2 3 และ 4 ต่อนะครับ (ตั้งใจว่านอกจากจะเขียนถึงน้องแล้ว จะเขียนถึงคนเป็นพี่บ้างครับ)
ตั้งกระทู้ยาวๆแบบนี้ครั้งแรก ผิดพลาดประการใดก็ขออภัยด้วยนะครับ (เหมือนเขียนคำนำเลยวุ้ย)
ปล. การแก้ไขทุกครั้ง จะเป็นการแก้ไขคำผิดเท่านั้นครับ ไม่มีการเปลี่ยนแปลงเนื้อหาใดๆทั้งสิ้น