สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 1
ตอบเกาหลีนะครับ เพราะเคยอ่านบทความหลายที่เล่าเรื่องนี้ไว้ แต่ที่จำได้จะมาจากนิตยสาร Times ครับ
รัฐบาลเขาสนับสนุนมาตั้งแต่ต้นครับ ทำกันเป็นนโยบายแห่งชาติเลย โดยให้ทุนสนับสนุนและมีมาตรการช่วยเหลือทางภาษีให้กับช่องและผู้จัดละครเลย โดยกำหนดว่า "ละครที่ส่งเสริมประเทศเกาหลี ไม่ว่าจะสถานที่ท่องเที่ยว อาหาร หรือวัฒนธรรม" จะได้ทุน 100% เลย
เป็นโครงการระยะยาวและถาวรของรัฐบาลสมัยนั้นเลยครับ ใช้เวลาสร้างพื้นฐานผลักดันสิ่งบันเทิงของเขาเป็น "อุตสาหกรรมส่งออก" กินเวลา 10 ปี กว่าจะเห็นผล
ซีรีส์ฝรั่ง เขาจัดสตูดิโอขึ้นมาเป็นฉากโรงพยาบาลหรือสถานีตำรวจทั้งนั้นครับ เพราะมันจัดแสงง่าย จัดเสียงง่าย จัดบล็อกกิ้งง่าย
เช่นฉากรพ.ใน ER หรือสถานีตร.นิวยอร์กใน Law&Order SVU
แล้วผู้อำนวยการผลิต(โปรดิวเซอร์ ไม่ใช่ Executive producer นะครับ คนละตำแหน่งกัน) ก็จะคิดงบประมาณเลยว่าต้นทุนเท่าไหร่
การสร้างฉากถาวรมันคุ้มกว่าครับ เรียกว่าหลัก Economy of Scale คือยิ่งถ่ายทำฉ่ากนั้นมากเท่าไหร่ จุดคุ้มทุนยิ่งมาถึงง่าย ในระยะยาวแล้วถูกกว่าไปเช่าสถานที่เยอะเลยครับ
ส่วนญี่ปุ่นนี่ ผมไม่รู้เรื่องวงการละคร แต่แค่รู้เรื่องงานดนตรีนะครับ
มันเป็นสปิริตของคนญี่ปุ่นอยู่แล้วที่จะทำงานตัวเองออกมาให้มีคุณภาพเป็นเลิศ
รัฐไม่ได้สนับสนุนแต่เขาก็จะทำครับ ลงทุนแบบอลังการงานสร้างมากเลยพวกสายดนตรีเนี่ย
เห็นตัวเลขเงินลงทุนต่องานๆเดียวแล้วผมตกใจสิ้นสติ
ส่วนละครญี่ปุ่นเรื่องสายอาชีพ...ไม่ได้เกี่ยวกับเงินลงทุนครับ มันเกี่ยวกับการใส่ใจจะทำไหมตั้งแต่ต้น
ญี่ปุ่นไม่เอา"ตัวเงิน"เข้ามาคิดครับ เขาทำแบบนี้มาตั้งแต่สมัยเราเพิ่งคลอดเลย เรื่องทำการบ้านอย่างหนักเนี่ย
ส่วนอุปกรณ์เครื่องไม้เครื่องมือสายอาชีพที่เอามาใส่ในละคร...เนื่องจากเขาทำแบบนี้กันมาจนเป็นธรรมเนียมปฏิบัติ เขาก็จะเตรียมพร้อมเรื่องการทำฉากให้สมจริงตั้งแต่ต้นแล้ว เขาจะมีทีมที่ติดต่อเรื่องอุปกรณ์ประกอบฉากโดยเฉพาะเลย คนเขียนบทก็เขียนไป แผนกอุปกรณ์ประกอบฉากก็รับบทมาแล้วทำงานไป
เรื่องยอมทุ่มทุนสูงมากแบบเทงบหมดกระเป๋า มันจะไปอยู่ในละครประจำปี ฉลองนู่นนี่ของสถานีไปครับ
ละครปกติที่สมจริงอยู่แล้วเขาก็มีงบของเขาครับ
ที่ละครบ้านเราไม่ทำแบบนั้น ก็เพราะไม่ยอมทำเองมาตั้งแต่ต้น แต่อ้างว่าประหยัดงบ
ถ้าทำมาตั้งแต่ต้นมันจะมีงบของมันอยู่แล้วครับ
รัฐบาลเขาสนับสนุนมาตั้งแต่ต้นครับ ทำกันเป็นนโยบายแห่งชาติเลย โดยให้ทุนสนับสนุนและมีมาตรการช่วยเหลือทางภาษีให้กับช่องและผู้จัดละครเลย โดยกำหนดว่า "ละครที่ส่งเสริมประเทศเกาหลี ไม่ว่าจะสถานที่ท่องเที่ยว อาหาร หรือวัฒนธรรม" จะได้ทุน 100% เลย
เป็นโครงการระยะยาวและถาวรของรัฐบาลสมัยนั้นเลยครับ ใช้เวลาสร้างพื้นฐานผลักดันสิ่งบันเทิงของเขาเป็น "อุตสาหกรรมส่งออก" กินเวลา 10 ปี กว่าจะเห็นผล
ซีรีส์ฝรั่ง เขาจัดสตูดิโอขึ้นมาเป็นฉากโรงพยาบาลหรือสถานีตำรวจทั้งนั้นครับ เพราะมันจัดแสงง่าย จัดเสียงง่าย จัดบล็อกกิ้งง่าย
เช่นฉากรพ.ใน ER หรือสถานีตร.นิวยอร์กใน Law&Order SVU
แล้วผู้อำนวยการผลิต(โปรดิวเซอร์ ไม่ใช่ Executive producer นะครับ คนละตำแหน่งกัน) ก็จะคิดงบประมาณเลยว่าต้นทุนเท่าไหร่
การสร้างฉากถาวรมันคุ้มกว่าครับ เรียกว่าหลัก Economy of Scale คือยิ่งถ่ายทำฉ่ากนั้นมากเท่าไหร่ จุดคุ้มทุนยิ่งมาถึงง่าย ในระยะยาวแล้วถูกกว่าไปเช่าสถานที่เยอะเลยครับ
ส่วนญี่ปุ่นนี่ ผมไม่รู้เรื่องวงการละคร แต่แค่รู้เรื่องงานดนตรีนะครับ
มันเป็นสปิริตของคนญี่ปุ่นอยู่แล้วที่จะทำงานตัวเองออกมาให้มีคุณภาพเป็นเลิศ
รัฐไม่ได้สนับสนุนแต่เขาก็จะทำครับ ลงทุนแบบอลังการงานสร้างมากเลยพวกสายดนตรีเนี่ย
เห็นตัวเลขเงินลงทุนต่องานๆเดียวแล้วผมตกใจสิ้นสติ
ส่วนละครญี่ปุ่นเรื่องสายอาชีพ...ไม่ได้เกี่ยวกับเงินลงทุนครับ มันเกี่ยวกับการใส่ใจจะทำไหมตั้งแต่ต้น
ญี่ปุ่นไม่เอา"ตัวเงิน"เข้ามาคิดครับ เขาทำแบบนี้มาตั้งแต่สมัยเราเพิ่งคลอดเลย เรื่องทำการบ้านอย่างหนักเนี่ย
ส่วนอุปกรณ์เครื่องไม้เครื่องมือสายอาชีพที่เอามาใส่ในละคร...เนื่องจากเขาทำแบบนี้กันมาจนเป็นธรรมเนียมปฏิบัติ เขาก็จะเตรียมพร้อมเรื่องการทำฉากให้สมจริงตั้งแต่ต้นแล้ว เขาจะมีทีมที่ติดต่อเรื่องอุปกรณ์ประกอบฉากโดยเฉพาะเลย คนเขียนบทก็เขียนไป แผนกอุปกรณ์ประกอบฉากก็รับบทมาแล้วทำงานไป
เรื่องยอมทุ่มทุนสูงมากแบบเทงบหมดกระเป๋า มันจะไปอยู่ในละครประจำปี ฉลองนู่นนี่ของสถานีไปครับ
ละครปกติที่สมจริงอยู่แล้วเขาก็มีงบของเขาครับ
ที่ละครบ้านเราไม่ทำแบบนั้น ก็เพราะไม่ยอมทำเองมาตั้งแต่ต้น แต่อ้างว่าประหยัดงบ
ถ้าทำมาตั้งแต่ต้นมันจะมีงบของมันอยู่แล้วครับ
ความคิดเห็นที่ 7
มีความจริงอีกข้อหนึ่งที่ฟังแล้วเศร้า ไม่เกี่ยวกับกระทู้เท่าไหร่ค่ะ
แต่เชื่อไหมว่า โทรทัศน์ไทยเกิดขึ้นเป็นครั้งแรก ก่อนใครในเอเชียเลยค่ะ ประมาณปี พ.ศ. 2498
แล้วตอนนี้ดูสิ เป็นยังไง พอๆกับรถไฟเลย ล้าหลัง ตกขอบ ไม่ทันใครเขาแล้ว
ทีนี้จะบอกว่าต้องรอให้ภาครัฐมาช่วยแบบเกาหลี ถึงจะไปได้ไกล ก็คงไม่จริงเสียทั้งหมด
เพราะญี่ปุ่นก็พัฒนาด้วยตัวเองมาตลอด แล้วพัฒนามาดีก่อนเกาหลีอีก
แต่เชื่อไหมว่า โทรทัศน์ไทยเกิดขึ้นเป็นครั้งแรก ก่อนใครในเอเชียเลยค่ะ ประมาณปี พ.ศ. 2498
แล้วตอนนี้ดูสิ เป็นยังไง พอๆกับรถไฟเลย ล้าหลัง ตกขอบ ไม่ทันใครเขาแล้ว
ทีนี้จะบอกว่าต้องรอให้ภาครัฐมาช่วยแบบเกาหลี ถึงจะไปได้ไกล ก็คงไม่จริงเสียทั้งหมด
เพราะญี่ปุ่นก็พัฒนาด้วยตัวเองมาตลอด แล้วพัฒนามาดีก่อนเกาหลีอีก
แสดงความคิดเห็น
เกาหลี ญี่ปุ่น จีน เขาเอาเงินมาจากไหนในการทำซีรีย์อาชีพกันคะ ทั้งค่าคน อุปกรณ์ สถานที่ อื่นๆ (ถ้ายกเว้นขายให้ต่างชาติ)
เช่นอาชีพหมอ
ถ้าคนก็มีเงินพานักเเสดงไปฝึก จ้างคนที่มีความรู้ด้านหมอมาเข้าฉากด้วย(ทำได้ไหมคะ หรือทุกคนนักเเสดงหมด) คนไข้ คนเดินไปเดินมาในโรงพยาบาล (ถ้าไม่ได้ไปถ่ายสถานที่จริง)
อุปกรณ์ เช่นอุปกรณ์ของหมอทุกอย่างที่ต้องเข้าฉาก (เห็นว่าบางชิ้นเป็นเหมือน เป็นเเสน หรือว่ามันมีบริการให้เช่าของใหม่ได้) ของอื่นๆที่เกี่ยวข้องอย่างที่ตั้งสายน้ำเกลือ ขวดยา
สถานที่ ถ้าไม่ได้ถ่ายในโรงบาลก็ต้องสร้างห้องขึ้นมา เเล้วก็ตกเเต่งให้เมือนที่สุด (หรือเมืองนอกเขาให้ถ่ายในโรงบาลได้ เเล้วถ่ายได้เเค่ไหนคะ ทำอะไรได้บ้างคะ)
อื่นๆ เช่น ค่าเช้าสถานที่ตรงนั้น ถ้ามีนะคะ
ขอยกเว้นคำตอบขายให้ต่างชาตินะคะ เพราะถ้าต้องขายด้วยงี้มันคงต้องรอให้ขายก่อนพัฒนา เเล้วถ้ามันยังไม่พัฒนาใครจะซื้อ