เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา (5/09/14) ที่โรงเรียนเจ้าลูกชายมีกิจกรรม ทำให้ได้หยุดเรียน ก็เลยต้องหาที่เที่ยว ดูแล้วดูอีกเพราะปรกติฤดูฝนไม่ค่อยเที่ยวไหนอยู่แล้ว
มีไปทะเลบ้างแต่ปีนี้ไปบ่อยมาก เลยมานั่งคิดๆดูว่าไปไหนดี.....และแล้วก็ได้ผลสรุปมาว่า ขับรถไปเที่ยวเขาค้อดีกว่า ไม่ได้ไปมานานนนนนนนนนนนมากแล้ว
ล่าสุดที่ไปก็เป็นสิบปีมาแล้ว ช่วงนั้นตอนหนุ่มๆไปก็นอนเต้นท์ แต่ตอนนี้ต้องหาที่พักแล้ว และเนื่องจากไม่เคยไปนอนรีสอร์ทแถวนั้นเลย มึนสิครับ
เปิดมา..โห....ที่พักเพียบจริงๆ เลยหลังบ้านไปหาคุณชานมฯ ท่านเทพเลยให้ข้อมูลมาแต่ให้ตัดสินใจเอาเอง......
ออกเดินทางตอนเจ็ดโมงครึ่ง เวลาเดียวกับตอนไปโรงเรียนเลย
ขับมายาวๆ จากซอยลาซาลวิ่งเข้าวงแหวนแล้วไปสระบุรี จากนั้นก็วิ่งไปทางลพบุรีเลี้ยวขวาที่แยกพุแคไปเพชรบูรณ์ เส้นนี้เคยมาเมื่อสองปีที่แล้ว
เพราะว่าไปทุ่งดอกกระเจียว แต่คราวนี้ต้องวิ่งเลยไปอีกไกลเลย
สถานที่แรกที่แวะครับ มาถึงวิเชียรบุรีทั้งทียังไงก็ต้องลองสักหน่อย เนื่องจากแวะรายทางมาตลอด มาถึงนี่ก็สิบเอ็ดครึ่งแล้วเลยกินข้าวเที่ยงซะเลย
ที่แวะต่อมาก็คือที่นี่ครับ กินกันไปตลอดทาง ที่นี่ได้ส้มมา 2 กก. อร่อยมากกกกกก ปีนี้ส้มแพงจริงๆแทบไม่ได้กินส้มเลย....เพิ่งได้กินนี่แหล่ะ
จากวิเชียรบุรีก็วิ่งเข้าเมืองเพชรบูรณ์ มีแวะซื้อโน่นนั่นนี่ตลอดทางโดยเฉพาะเซเว่น เลยตัวเมืองมาสัก 10 โล ก็จะเจอป้ายเลี้ยวซ้ายไปเขาค้อ
เข้าไปเลยครับ เส้นทางมีซ่อมอยู่นิดๆ แต่รถไปได้สะดวกสบายครับ แต่ทางบางช่วงชันมากจริงๆ ทำความเร็วไม่ขึ้นเลย วันที่ไปมีฝนนิดๆ
เส้นทางตรงนี้จะเป็นทางขึ้นเขาซะเป็นส่วนใหญ่ ในแผนที่มีเนินมหัสจรรย์อยู่ด้วยแต่ไม่มีป้ายแระ เพราะอาจจะกลัวอุบัติเหตุด้วยมั้ง ผมเลยหาไม่เจอ
ขับมาสักพักจะเจอจุดแวะพักกลางภูเขา เป็นร้านขายของแถวนั้นครับ สำหรับของที่ผมจะแนะนำว่าน่าลองสุดๆเพราะผมลองมาแล้วถูกใจจริงๆ
แนะนำสองตัวนี้ครับ รับรองว่าถูกใจแน่นอน
เนื่องจากที่พักที่จองไม่มีแอร์ และดูจากทิศทางแล้วแดดส่องเข้าห้องตอนบ่าย ผมเลยวางแผนไปถึงที่พักสักสี่โมงเย็น ก็เลยไม่รีบและก็ทำเวลาได้
ตรงตามเป้าหมาย โดยการถ้าเห็นอะไรสนใจระหว่างทาง แวะได้...แวะเลย
ที่พักเท่าที่ดูรีวิวมาทางเข้าอยู่ตรงสถานีตำรวจเขาค้อเลย แต่ตอนไปเขาเอาป้ายออกไปซ่อมแซมเพื่อเตรียมฤดูท่องเที่ยว ก็เลย...หาไม่เจอสิครับ
ขับเลยไปจนถึงไปรษณีย์ก็เลยโทรหา แต่เส้นทางเข้าไป ซอยข้างสถานีตำรวจเขาค้อนี่มันชันสุดๆๆๆๆๆๆๆๆๆจริงๆครับ ใครเคยไปแถวนี้ต้องรู้แน่ๆ
แต่ผมไม่รู้ ขับไปก็บ่นไป คิดถึงขากลับขึ้นมาแล้วหนักใจเลย ทั้งโค้ง ทั้งชัน ทั้งน่ากลัว ซึ่งจริงๆผมขับได้นะไม่มีปัญหา แต่แอบบ่นแค่นั้น
ซึ่งพอไปถึงรีสอร์ทแล้วถึงได้รู้ว่ามันมีอีกทางที่ไม่ชันมากขนาดนั้นซึ่งซอยนี้อยู่ข้างๆจุดชมวิวเขาค้อเลย ..... อืมมมม..ทำไมไม่มีใครบอกฟร่ะ
ที่พักชื่อ เขาค้อเบย์เบย์ ชื่อแปล๊กแปลก ไม่เคยรู้จักเลย มีคนรีวิวน้อยมากๆ และในรีวิวก็รายละเอียดน้อยเหลือเกิน
ตอนที่จองเป็นวันศุกร์ก็เลยว่าง แต่วันเสาร์....เต็ม!!!!! ซึ่งไม่เคยรู้เลยว่าช่วงหน้า Low แบบนี้แถวนี้ที่พักเต็มทั้งนั้น และที่สำคัญที่พักแถวนี้สำหรับผม
มันแพงมากๆ ซึ่ง Concept ของผมที่พักต้องไม่เกิน 2000 บาท แต่เท่าที่หามามันเกินทั้งนั้น มีที่นี่แหล่ะที่จองได้ราคามา 1300 บาทแถมมีอาหารเช้าด้วย
มาถึงแระ เขาค้อเบย์เบย์ ตัวที่พักเป็นสองชั้น จอดรถด้านหน้าเลย
แต่พอเข้าไปในห้องนี่สิ โห....... วิวสุดยอด!!!!!!!!!!
สักพักฝนเริ่มจะมา
สักแปล๊ปฝนหยุดเลยไปจุดชมวิวดีกว่า พระอาทิตย์ใกล้จะตกพอดี
เก็บภาพสุดท้ายตรงจุดชมวิวก่อน แล้วไปกินข้าวดีกว่า
สำหรับร้านอาหาร ไม่ได้เตรียมข้อมูลอะไรไปเลย แต่ขามาผ่านร้านนี้เลยขับกลับไปกิน อาหารใช้ได้เลยแฮ่ะ โดยเฉพาะปลาทอดน้ำปลา
ทอดได้เจ๋งจริงๆ
เช้าๆกำลังนอนอยู่ก็มีขามาเขี่ยๆ พร้อมเสียงเล็กๆว่า "ดูโน่น" เลยลืมตาขึ้นมาดู โห....แมร่งมาให้เห็นจากในห้องเลยเหรอฟร่ะ
รีบลุกเลย ออกไปริมระเบียง
แล้วก็นั่งมันอยู่ตรงนั้นแหล่ะ สักพักเจ้าสิ่งที่เห็นก็ค่อยๆเคลื่อนเข้ามา
หลังจากที่มีเสียงฮือฮาของพ่อแม่ เจ้าลูกชายตัวแสบก็เลยตื่นขึ้นมา แล้วก็มาช่วยกันทำเสียงฮือฮาเพิ่มขึ้นอีก
เลยตัดสินใจไปจุดชมวิวกันดีกว่าเพราะตอนนี้หมอกมันมาถึงห้องจนมองไม่เห็นอะไรแล้ว
ตื่นเต้นกับหมอกกันสักพัก แดดเริ่มมาหมอกก็ค่อยๆจาง เลยกลับไปกินอาหารเช้าดีกว่า
นี่....มุมกินอาหารเช้า ฟินสุดๆ
ส่วนนี่เป็นห้องที่มาคราวหน้าจะนอนห้องนี้ เพราะมีระเบียงส่วนตัว ในห้องเป็นแบบสองเตียงใหญ่สำหรับสี่คน และที่พิเศษสุดๆคือ
ขออนุญาตเจ้าของรีสอร์ทแล้วว่าจะเอาเต้นท์มากางนอนที่ระเบียงนี้เพื่อเป็นการฝึกหัดให้เจ้าตัวแสบมันหัดนอนเต้นท์
สำหรับอาหารเช้าของที่นี่ ผมได้เป็นชุดกาแฟ โอวัลติน ต่อด้วยไข่กระทะทรงเครื่อง ขอเพิ่มได้อีกต่างหาก คุณเก๋ใจดีมากๆ คุยสนุก
เหมือนรู้จักกันมาก่อนเลย
กลับมาที่ห้องเก็บวิวอีกเพียบเลย
สำหรับที่พัก กับราคา 1300 บาทที่ผมได้มา สำหรับผมถือว่าเกินคุ้มครับ แม้จะมีบางจุดอาจจะต้องปรับปรุงอีกนิดหน่อย แต่โดยรวมถือว่าดี
ห้องพักวิวดีมากๆ แม้แต่นั่งขรี้อยู่ในห้องน้ำก็ยังสามารถมองเห็นวิวได้เลย เครื่องทำน้ำอุ่นแบบแก๊สซึ่งนิยมใช้กับที่ที่อากาศเย็นมากๆๆๆๆๆ
ผมเคยไปเจอที่อ่างขางทีนึง แสดงว่าช่วงฤดูหนาวที่นี่น่าจะสาหัสเอาเรื่อง
แต่ผมมันคนบ้าความหนาวเลยไม่ได้ใช้ แม้ตอนที่ไปอากาศเย็นมากๆครับ น่าจะอยู่ที่ 20-21 องศา เรียกได้ว่านอนหนาวเลยอ่ะ
จริงๆมีไปต่ออีกสองวัน แต่ขอจบเพียงเท่านี้เลยดีกว่า....สวัสดี
***** tex *****
[CR] เอาไว้เป็นทางเลือก ที่เที่ยวหน้าฝน....เขาค้อ....ครับ
มีไปทะเลบ้างแต่ปีนี้ไปบ่อยมาก เลยมานั่งคิดๆดูว่าไปไหนดี.....และแล้วก็ได้ผลสรุปมาว่า ขับรถไปเที่ยวเขาค้อดีกว่า ไม่ได้ไปมานานนนนนนนนนนนมากแล้ว
ล่าสุดที่ไปก็เป็นสิบปีมาแล้ว ช่วงนั้นตอนหนุ่มๆไปก็นอนเต้นท์ แต่ตอนนี้ต้องหาที่พักแล้ว และเนื่องจากไม่เคยไปนอนรีสอร์ทแถวนั้นเลย มึนสิครับ
เปิดมา..โห....ที่พักเพียบจริงๆ เลยหลังบ้านไปหาคุณชานมฯ ท่านเทพเลยให้ข้อมูลมาแต่ให้ตัดสินใจเอาเอง......
ออกเดินทางตอนเจ็ดโมงครึ่ง เวลาเดียวกับตอนไปโรงเรียนเลย
ขับมายาวๆ จากซอยลาซาลวิ่งเข้าวงแหวนแล้วไปสระบุรี จากนั้นก็วิ่งไปทางลพบุรีเลี้ยวขวาที่แยกพุแคไปเพชรบูรณ์ เส้นนี้เคยมาเมื่อสองปีที่แล้ว
เพราะว่าไปทุ่งดอกกระเจียว แต่คราวนี้ต้องวิ่งเลยไปอีกไกลเลย
สถานที่แรกที่แวะครับ มาถึงวิเชียรบุรีทั้งทียังไงก็ต้องลองสักหน่อย เนื่องจากแวะรายทางมาตลอด มาถึงนี่ก็สิบเอ็ดครึ่งแล้วเลยกินข้าวเที่ยงซะเลย
ที่แวะต่อมาก็คือที่นี่ครับ กินกันไปตลอดทาง ที่นี่ได้ส้มมา 2 กก. อร่อยมากกกกกก ปีนี้ส้มแพงจริงๆแทบไม่ได้กินส้มเลย....เพิ่งได้กินนี่แหล่ะ
จากวิเชียรบุรีก็วิ่งเข้าเมืองเพชรบูรณ์ มีแวะซื้อโน่นนั่นนี่ตลอดทางโดยเฉพาะเซเว่น เลยตัวเมืองมาสัก 10 โล ก็จะเจอป้ายเลี้ยวซ้ายไปเขาค้อ
เข้าไปเลยครับ เส้นทางมีซ่อมอยู่นิดๆ แต่รถไปได้สะดวกสบายครับ แต่ทางบางช่วงชันมากจริงๆ ทำความเร็วไม่ขึ้นเลย วันที่ไปมีฝนนิดๆ
เส้นทางตรงนี้จะเป็นทางขึ้นเขาซะเป็นส่วนใหญ่ ในแผนที่มีเนินมหัสจรรย์อยู่ด้วยแต่ไม่มีป้ายแระ เพราะอาจจะกลัวอุบัติเหตุด้วยมั้ง ผมเลยหาไม่เจอ
ขับมาสักพักจะเจอจุดแวะพักกลางภูเขา เป็นร้านขายของแถวนั้นครับ สำหรับของที่ผมจะแนะนำว่าน่าลองสุดๆเพราะผมลองมาแล้วถูกใจจริงๆ
แนะนำสองตัวนี้ครับ รับรองว่าถูกใจแน่นอน
เนื่องจากที่พักที่จองไม่มีแอร์ และดูจากทิศทางแล้วแดดส่องเข้าห้องตอนบ่าย ผมเลยวางแผนไปถึงที่พักสักสี่โมงเย็น ก็เลยไม่รีบและก็ทำเวลาได้
ตรงตามเป้าหมาย โดยการถ้าเห็นอะไรสนใจระหว่างทาง แวะได้...แวะเลย
ที่พักเท่าที่ดูรีวิวมาทางเข้าอยู่ตรงสถานีตำรวจเขาค้อเลย แต่ตอนไปเขาเอาป้ายออกไปซ่อมแซมเพื่อเตรียมฤดูท่องเที่ยว ก็เลย...หาไม่เจอสิครับ
ขับเลยไปจนถึงไปรษณีย์ก็เลยโทรหา แต่เส้นทางเข้าไป ซอยข้างสถานีตำรวจเขาค้อนี่มันชันสุดๆๆๆๆๆๆๆๆๆจริงๆครับ ใครเคยไปแถวนี้ต้องรู้แน่ๆ
แต่ผมไม่รู้ ขับไปก็บ่นไป คิดถึงขากลับขึ้นมาแล้วหนักใจเลย ทั้งโค้ง ทั้งชัน ทั้งน่ากลัว ซึ่งจริงๆผมขับได้นะไม่มีปัญหา แต่แอบบ่นแค่นั้น
ซึ่งพอไปถึงรีสอร์ทแล้วถึงได้รู้ว่ามันมีอีกทางที่ไม่ชันมากขนาดนั้นซึ่งซอยนี้อยู่ข้างๆจุดชมวิวเขาค้อเลย ..... อืมมมม..ทำไมไม่มีใครบอกฟร่ะ
ที่พักชื่อ เขาค้อเบย์เบย์ ชื่อแปล๊กแปลก ไม่เคยรู้จักเลย มีคนรีวิวน้อยมากๆ และในรีวิวก็รายละเอียดน้อยเหลือเกิน
ตอนที่จองเป็นวันศุกร์ก็เลยว่าง แต่วันเสาร์....เต็ม!!!!! ซึ่งไม่เคยรู้เลยว่าช่วงหน้า Low แบบนี้แถวนี้ที่พักเต็มทั้งนั้น และที่สำคัญที่พักแถวนี้สำหรับผม
มันแพงมากๆ ซึ่ง Concept ของผมที่พักต้องไม่เกิน 2000 บาท แต่เท่าที่หามามันเกินทั้งนั้น มีที่นี่แหล่ะที่จองได้ราคามา 1300 บาทแถมมีอาหารเช้าด้วย
มาถึงแระ เขาค้อเบย์เบย์ ตัวที่พักเป็นสองชั้น จอดรถด้านหน้าเลย
แต่พอเข้าไปในห้องนี่สิ โห....... วิวสุดยอด!!!!!!!!!!
สักพักฝนเริ่มจะมา
สักแปล๊ปฝนหยุดเลยไปจุดชมวิวดีกว่า พระอาทิตย์ใกล้จะตกพอดี
เก็บภาพสุดท้ายตรงจุดชมวิวก่อน แล้วไปกินข้าวดีกว่า
สำหรับร้านอาหาร ไม่ได้เตรียมข้อมูลอะไรไปเลย แต่ขามาผ่านร้านนี้เลยขับกลับไปกิน อาหารใช้ได้เลยแฮ่ะ โดยเฉพาะปลาทอดน้ำปลา
ทอดได้เจ๋งจริงๆ
เช้าๆกำลังนอนอยู่ก็มีขามาเขี่ยๆ พร้อมเสียงเล็กๆว่า "ดูโน่น" เลยลืมตาขึ้นมาดู โห....แมร่งมาให้เห็นจากในห้องเลยเหรอฟร่ะ
รีบลุกเลย ออกไปริมระเบียง
แล้วก็นั่งมันอยู่ตรงนั้นแหล่ะ สักพักเจ้าสิ่งที่เห็นก็ค่อยๆเคลื่อนเข้ามา
หลังจากที่มีเสียงฮือฮาของพ่อแม่ เจ้าลูกชายตัวแสบก็เลยตื่นขึ้นมา แล้วก็มาช่วยกันทำเสียงฮือฮาเพิ่มขึ้นอีก
เลยตัดสินใจไปจุดชมวิวกันดีกว่าเพราะตอนนี้หมอกมันมาถึงห้องจนมองไม่เห็นอะไรแล้ว
ตื่นเต้นกับหมอกกันสักพัก แดดเริ่มมาหมอกก็ค่อยๆจาง เลยกลับไปกินอาหารเช้าดีกว่า
นี่....มุมกินอาหารเช้า ฟินสุดๆ
ส่วนนี่เป็นห้องที่มาคราวหน้าจะนอนห้องนี้ เพราะมีระเบียงส่วนตัว ในห้องเป็นแบบสองเตียงใหญ่สำหรับสี่คน และที่พิเศษสุดๆคือ
ขออนุญาตเจ้าของรีสอร์ทแล้วว่าจะเอาเต้นท์มากางนอนที่ระเบียงนี้เพื่อเป็นการฝึกหัดให้เจ้าตัวแสบมันหัดนอนเต้นท์
สำหรับอาหารเช้าของที่นี่ ผมได้เป็นชุดกาแฟ โอวัลติน ต่อด้วยไข่กระทะทรงเครื่อง ขอเพิ่มได้อีกต่างหาก คุณเก๋ใจดีมากๆ คุยสนุก
เหมือนรู้จักกันมาก่อนเลย
กลับมาที่ห้องเก็บวิวอีกเพียบเลย
สำหรับที่พัก กับราคา 1300 บาทที่ผมได้มา สำหรับผมถือว่าเกินคุ้มครับ แม้จะมีบางจุดอาจจะต้องปรับปรุงอีกนิดหน่อย แต่โดยรวมถือว่าดี
ห้องพักวิวดีมากๆ แม้แต่นั่งขรี้อยู่ในห้องน้ำก็ยังสามารถมองเห็นวิวได้เลย เครื่องทำน้ำอุ่นแบบแก๊สซึ่งนิยมใช้กับที่ที่อากาศเย็นมากๆๆๆๆๆ
ผมเคยไปเจอที่อ่างขางทีนึง แสดงว่าช่วงฤดูหนาวที่นี่น่าจะสาหัสเอาเรื่อง
แต่ผมมันคนบ้าความหนาวเลยไม่ได้ใช้ แม้ตอนที่ไปอากาศเย็นมากๆครับ น่าจะอยู่ที่ 20-21 องศา เรียกได้ว่านอนหนาวเลยอ่ะ
จริงๆมีไปต่ออีกสองวัน แต่ขอจบเพียงเท่านี้เลยดีกว่า....สวัสดี
***** tex *****
ดูแผนที่ขนาดใหญ่ขึ้น