อ.เสรี (วง)เป็นอะไรหรือฮะ เห็นโพสระบายความอัดอั้นถึงขั้นคิดเข้าพบจิตแพทย์เพื่อรักษาโรคซึมเศร้า

กระทู้สนทนา

...............ดร.เสรี วงษ์มณฑา ได้โพสต์เฟซบุ๊กส่วนตัวระบายความอัดอั้นตันใจกับสิ่งที่ตัวเองเคยทำไปในอดีต และเป็นเหตุให้ประวัติของตัวเองมีความด่างพร้อยในชีวิต ถึงขั้นคิดเข้าพบจิตแพทย์เพื่อรักษาโรคซึมเศร้า โดยเนื้อหาจากโพสต์ของดร.เสรีได้เขียนระบายความในใจไว้ว่า

........."ที่เราเป็นอย่างที่เป็นอยู่เวลานี้ เพราะเราเป็นคนที่ใสสะอาด มีคนยกย่องมาตลอดชีวิต จนถึงอายุ65 แต่เราต้องมาเจอคนที่อายุน้อยกว่าทำให้เรามีรอยด่าง ที่กลายเป็นประวัติศาสตร์ที่ไม่อาจจะลบได้ เราเรียนหนังสือดี สอบได้ที่หนึ่งครูรักเราทุกคนตั้งแต่ประถมมัธยม อุดมศึษา บัณฑิตศึกษาเราเป็นหัวหน้าห้องเป็นรองประธานนักเรียน เป็นกรรมการนักศึกษาเป็นตัวแทนโรงเรียนในการแข่งขันทำกิจกรรมของโรงเรียนของมหาวิทยาลัยเป็นคนที่มีลักษณะผู้นำที่มีคนยินดีตามไปเมืองนอกเราก็ได้ทุนไปเรียนไม่เคยเสียเงินเป็นตัวแทนนักเรียนไทยในการนำเสนอวัฒนธรรมเป็นรองประธานนักเรียนต่างชาติของมหาวิทยาลัยได้ทุนเป็นอาจารย์ผู้ช่วยสอนในระดับปริญญาตรีได้ทุนผู้ช่วยวิจัย เพื่อนรักอาจารย์รัก เพราะเราชอบทำงานให้กับสังคมมารับราชการเราได้ 2ขั้นเกือบทุกปี

เราเป็นอาจา'ดร.เสรี วงษ์มณฑา' โพสต์เฟซบุ๊กตัดพ้อทำตัวเอง รย์ที่ลูกศิษย์รักเพื่อนอาจารย์รักจนได้เป็นคณบดีเราทำงานสื่อมวลชนมีคนชวนเขียนบทความได้รางวัลเทพทองนักจัดรายการวิทยุดีเด่นได้รางวัลนักประชาสัมพันธ์กิติคุณสังข์เงินได้รางวัลเมขลาได้รางวัลสื่อดีเด่นของสมาคมคาทอลิกได้รางวัลหน้ากากทองคำละครเวทียอดนิยม2ปีซ้อนได้รางวัลหน้ากากทองคำนักแสดงสมทบยอดเนี่ยมได้รางวัลวิก 07ทองนำนักแสดงอาวุโสยอดเยี่ยมด้านวิชาการได้เป็นรองศาสตราจารย์ได้ทุนทำวิจัยได้รับเลือกเป็นนักวิชาการดีเด่นของสมาคมมหาวิทยาลัยเอกชนเราเป็นนักบรรยายขายดีที่ค่าตัวสูงได้รับเชิญให้บรรยายทั้งบริษัทเอกชนรัฐวิสาหกิจ หน่วยงานราชการกองทัพ สถาบันพระปกเกล้าวปอ.โรงเรียนเสนาธิการวัดต่าง ๆ สถานศึษาต่าง ๆในทางธุรกิจเราอยู่เบื้องหลังความสำเร็จของสินค้าหลายยี่ห้อในฐานะที่ปรึกษาเราทำโครงการรณรงค์ให้รัฐบาลหลายเรื่องไม่ว่าเราทำอะไร เราทำด้วยจิตสาธารณะด้วยสำนึกความรับผิดชอบต้อสังคมต่อแผ่นดิน เราไม่เคยคิดร้ายใครเราไม่เคยมีเจตนาทำลายชาติเราทำในสิ่งที่เราคิดว่าจำเป็นในการแน่วแน่แก้ไข

แต่......บัดนี้เรามีรอยด่างในชีวิตเสียแล้วมันเป็นรอยด่างที่เป็นประวัติศาสตร์ที่ลบไม่ได้เป็นรอยด่างที่แสดงว่าเราเป็นคนไม่ดีเป็นคนสร้างปัญหา.....การแสดงว่าเราไม่ดีนั้นเขาแสดงออกอย่างเป็นรูปธรรมอย่างชัดเจนเป็นการกระทำที่ทำให้เราเสียใจมาจนทุกวันนี้ไม่เคยนึกว่าคนที่มีจิตสาธารณะและมีเจตนาดีต่อบ้านเมืองจะได้เจอมันเป็นความเสียใจอย่างสุดซึ้งที่แทบจะทำให้เราเป็นคนซึมเศร้ามันลบออกจากใจยากจริง ๆเพราะบัดนี้เราไม่อาจจะตายไปอย่างคนไร้ความด่างพร้อยบัดนี้มีรอยด่างที่ทำให้คนมองว่าเป็นคนไม่ดีเป็นคนสร้างปัญหาให้กับบ้านเมืองไปเสียแล้ว

เมื่อเป็นเช่นนี้แล้วจะตายอย่างมีความสุขได้อย่างไรเขาจะรู้บ้างไหมนะว่าเขาทำลายความภูมิใจในตัวเราไปหมดสิ้นแล้วเรารู้สึกรันทดเต็มประดาใครจะช่วยชี้ทางสว่างให้ใจเราสงบกับรอยด่างพร้อยในชีวิตครั้งนี้ได้บ้างทำไมคนที่พยายามทำดีเพื่อสังคมตลอดมาจึงต้องเจอกับเรื่องทั้งหลายทั้งปวงเหล่านี้บอกจริง ๆ ว่าเวลานี้ถ้าไม่มีนักศึกษาที่เป็นศิษย์ลูกค้าที่ยังชื่นชมความสามารถของเราป่านนี้เราคงต้องพึ่งจิตแพทย์แล้ว"

ทั้งนี้ในเฟซบุ๊กล่าสุดของ ดร.เสรีวงษ์มณฑา ยังได้เขียนอธิบายเพิ่มอีกว่า“บางคนยังเข้าใจผิดคิดว่าเรารันทดสลดหดหู่เพราะคำพูดของใครบางคนที่มาด่ามาว่าเราขอบอกว่ามันไม่ใช่คำพูดการสร้างตราบาปให้เราเป็นคนผิดที่สร้างปัญหานั้นมันออกมาเป็นการกระทำที่ชัดเจนที่ทำให้เราถูกตั้งคำถามว่า'โดนอะไรบ้าง'เหมือนนักเรียนที่ทำความผิดแล้วถูกครูใหญ่เรียกข้าไปพบที่ห้องพักเมื่อกลับลงมาเพื่อนๆก็จะถามว่าเราโดนอะไรบ้างเมื่อตอนไปพบครูใหญ่เราไม่เคยคิดมาก่อนเลยว่าคนตั้งใจทำดีเพื่อประเทศชาติทำไมต้องโดนเพื่อน ๆ ที่เป็นห่วงเราต้องมาถามเราว่า'เราโดรอะไรบ้าง'มันน่าเศร้าไหมล่ะ”
         ...............ไม่เข้าใจอาจารย์เครียดเรื่องอะไร..............                            ขอบคุณ เว็ปจากเดลินิวส์
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่