หากคุณเคยอ่านสารคดีไกลบ้านตอนเสด็จประพาสนอร์เวย์
คุณอาจจะคุ้นชื่อมาบ้างกับเมืองที่เรากำลังจะแนะนำต่อไปนี้
ไม่ใช่ Oslo...เมืองหลวงแห่งนอร์เวย์
ไม่ใช่ Bergen...เมืองแห่งมรดกโลก
และไม่ใช่ Tromso...เมืองแห่งแสงเหนือ
แต่เมืองนี้มีชื่อว่า...'' TRONDHEIM ''
Trondheim...ในอดีตคือเมืองหลวงเก่าของประเทศนอร์เวย์
และเป็นเมืองที่มีขนาดใหญ่เป็นอันดับสามรองจาก Oslo และ Bergen
นอกจากนี้ยังเป็นที่ตั้งของมหาวิหารที่งดงามและยิ่งใหญ่ที่สุดของประเทศนอร์เวย์อีกด้วย
เรามีโอกาสได้มาเยือนเมืองแห่งนี้เป็นครั้งที่สี่แล้วค่ะ
ซึ่งแต่ละครั้งก็จะอยู่ประมาณสามเดือนนะคะ
เรื่องข้อมูลต่างๆอาจไม่เชี่ยวชาญ หากมีอะไรแนะนำหรือตักเตือนมาได้นะคะเรายินดี
...............................................................................................................
หลายปีก่อนเราจำได้ว่าเคยดูรายการกบนอกกะลาถ้าจำไม่ผิดนะคะ
จำได้ว่ารายการในวันนั้นพาไปเยือนนอร์เวย์ตามรอยพระพุทธเจ้าหลวง
และหนึ่งในเมืองที่รายการแนะนำมีเมือง Trondheim ด้วยค่ะ
ตอนนั้นดีใจมากๆเพราะเหมือนกับว่าอย่างน้อย
เราก็ได้เคยไปอยู่ในเมืองที่ปรากฏอยู่ในสารคดีไกลบ้านกับเค้าด้วย
........................................................................................
ปีนี้นึกยังไงก็ไม่รู้นะคะว่าอยากเขียนรีวิวเกี่ยวกับเมืองนี้บ้าง
ถึงแม้ว่าจะไม่มีคนอ่านหรือคนชอบก็ตามที
แต่ทุกครั้งที่เราทำรีวิวขึ้นมาเราก็ตั้งใจไว้แล้วว่า
อย่างน้อยเราจะขอเลือกบันทึกความทรงจำของเราไว้ที่นี่
รูปภาพในรีวิวของเรามักจะมีตัวเราปรากฏเป็นส่วนใหญ่นะคะ
เพราะเราชอบบันทึกประวัติศาสตร์หน้าที่มีตัวเราเป็นตัวเอกเสมอค่ะ
..........................................................................................
ก่อนอื่นเราขอนำทุกท่านมาเยือนสัญลักษณ์ประจำเมืองกันก่อนเลยนะคะ
นั่นก็คือ Old Town Bridge หรือ Gamle Bybro ในภาษานอร์เวย์
สะพานแห่งนี้ถูกสร้างขึ้นในปี 1861 โดยวิศวกรนามว่า Carl Adolf Dahl
หากใครมีโอกาสได้มาเยือนเมืองนี้มักไม่พลาดที่จะมาถ่ายรูปกันที่นี่
และที่สำคัญชาวนอร์เวย์มีความเชื่อว่าหากคุณมีโอกาสได้ไปยืนอยู่ใต้ซุ้มประตูเหล็กสีแดง
หลังจากนั้นชีวิตของคุณจะโชคดีและมีความสุขตลอดไป
และนี่จึงเป็นสาเหตุที่ทำให้เราต้องมาเยือนสะพานแห่งนี้ทุกครั้งไป
นอกจากซุ้มประตูเหล็กสีแดงบนสะพานที่ดูแข็งแกร่งและงดงามแล้ว
วิวเบื้องหลังที่เต็มไปด้วยสีสันของบ้านริมน้ำก็เป็นอีกหนึ่งเสน่ห์ของที่นี่เช่นเดียวกันค่ะ
ปีนี้ทางเทศบาลได้เพิ่มอีกหนึ่งสะพานที่ทำขึ้นด้วยไม้มาให้ชมวิวและถ่ายรูปกันด้วยนะคะ
ต่อไปเราจะเริ่มพาไปชมสถานที่ๆปรากฏอยู่ในสารคดีไกลบ้านกันบ้างนะคะ
มหาวิหาร Nidaros ซึ่งพระพุทธเจ้าหลวงได้ทรงบันทึกไว้ดังนี้
'' กินเข้าแล้วไปดูคะทีดรัล ซึ่งเปนที่ราชาภิเศกเจ้าแผ่นดิน วันนี้ทำด้วยศิลาอย่างอ่อนสีเทา ที่เรียกว่า โซปสโตน สร้างมา ๖๐๐ ปีแล้ว สัณฐานวัดก็เปนรูปไม้กางเขน แต่มีด้านหลังยาวออกไป ซึ่งเปนหลังคามุงกระเบื้อง เห็นจะไม่สูงเท่ากันกับข้างน่า เพราะฉนั้น จึงได้เปนเวลาที่ช่างกำลังจัดการก่อสร้างขึ้นใหม่ทำเปนมุขยาวแลสูงทันกันกับมุขน่า ถ้าหากว่าแล้วเสร็จ หอระฆังจะเปนสูนย์กลางยอด ''
มหาวิหาร Nidaros
เป็นมหาวิหารที่มีความงดงามและยิ่งใหญ่ที่สุดของประเทศนอร์เวย์
นอกจากนี้ยังเป็นสถานที่ประกอบพระบรมราชาภิเษกตามโบราณราชประเพณี
ของกษัตริย์นอร์เวย์ทุกพระองค์ตั้งแต่ในอดีตจนถึงปัจจุบัน
นับเป็นอีกหนึ่งไฮไลท์สำคัญที่นักท่องเที่ยวไม่พลาดที่จะมาเยี่ยมชมอีกหนึ่งสถานที่เลยค่ะ
ด้านหน้าเราว่าคล้ายกับ Notre - Dame Cathedral ที่ปารีสมากเลยค่ะ
ภายในไม่อนุญาติให้ถ่ายรูปนะคะ แต่เราไม่ทันเห็นป้ายเลยถ่ายไปสองสามภาพค่ะ
มาชมความงดงามด้านหลังกันบ้างกับยอดโดมสีเขียวสูงเสียดฟ้า
ด้านข้างของมหาวิหารเป็นสถานที่ฝังศพของฝู้มีบุญหนักศักดิ์ใหญ่ของที่นี่เมื่อครั้งอดีต
สถานที่ต่อไปคือแม่น้ำ Nidelven
แม่น้ำแห่งนี้ มีเพลงเป็นของตัวเองด้วยนะคะ ชื่อเพลงว่า Nidelven Stille og Vakker du er
ความหมายเปรียบดั่ง หญิงสาวที่งดงามในขณะเดียวกันเธอก็ดูสงบนิ่งแบบน่าค้นหา
เพลงนี้เป็นที่นิยมสำหรับใช้ในงานเต้นรำของที่นี่เป็นอย่างมาก
บ้านเรือนที่นี่ดูน่ารักมากเลยค่ะ มองดูแบบนี้แล้วเหมือนบ้านตุ๊กตาเลยค่ะ
ร้าน Henrik Moller เป็นร้านเครื่องเงินเก่าแก่ที่ยังคงเปิดให้บริการมานานนับ ๑๐๐ ปี
พระพุทธเจ้าหลวงได้บันทึกไว้ว่า '' ได้เข้าร้านสามร้าน ซึ่งเปนแฟชันเนเบอล
ที่ใครใครมาต้องเข้าทั้งนั้น เหตุด้วยต้องซื้อเครื่องแต่งตัวขนสัตว์ต่างๆ
คนมักจะเข้าใจว่าทรอนด์เยมนี้เปนเมืองเหนือใกล้นอทเคป แต่ที่จริงยังไกลมาก
เพราะเหตุฉะนั้นจึงเปนท่าที่สำหรับจะตระเตรียมตัวขึ้นไปนอทเคป
สามร้านนี้เปนที่มีชื่อเสียงใครไปมาก็ซื้อ ''
ปัจจุบันร้านได้ถูกออกแบบตกแต่งใหม่แต่ยังคงความหรูหราคลาสสิคไม่เปลี่ยนแปลง
Stiftsgården...พระที่นั่งที่ใช้สำหรับเป็นที่ประทับของกษัตริย์และสมาชิกในราชวงศ์นอร์เวย์
หลังจากนี้เราจะพาไปชมสถานที่ๆน่าสนใจในเมืองนี้กันบ้างนะคะ
ตลาดนัดเมือง Trondheim ค่ะ
ซึ่งจะจัดเป็นประจำเฉพาะในช่วงฤดูร้อนของที่นี่เท่านั้นนะคะ
ของเปรี้ยว ของดองก็มีนะคะ
การแสดงบนเวทีของหนูๆตัวน้อยๆกับเพลง Waka Waka
ขนมตังเมค่ะ เห็นแล้วนึกถึงตังเมบ้านเราที่ทำเป็นตัวลิงบ้าง มังกรบ้างสวยกว่าของที่นี่อีกนะคะ
ร้านอาหารไทยร้านนี้ขายดีมากค่ะ เดินผ่านทีไรคิวเยอะทุกที
จากตลาดจะพาไปเข้าป่าเก็บบลูเบอร์รี่กันบ้างนะคะ
ต้นไม้เล็กๆที่ล้อมรอบเราอยู่คือต้นบลูเบอร์รี่ทั้งหมดเลยค่ะ
มาดูใกล้ๆกันบ้างนะคะ
เมื่อหน้าร้อนมาเยือน ผลไม้ทั้งหลายก็ออกผลให้เก็บเต็มไปหมดเลยค่ะที่สำคัญเก็บฟรีไม่เสียตังค์
จากบลูเบอร์รี่เราจะพามาเก็บเห็ดกันต่อเลยนะคะ
ป่าที่นี่อุดมสมบูรณ์มากเลยค่ะ เพราะเราเข้าป่าแต่ละครั้งไม่เคยซ้ำที่เลยค่ะ
เห็ดที่เก็บไปในวันนี้เราไม่ได้เก็บเอาไปกินหรอกนะคะ พอดีแฟนซื้อหนังสือมาเลยอยากนำกลับไปศึกษาอีกทีค่ะ
เราปีนขึ้นมาข้างบนเพื่อพามาชมวิวมุมสูงกันบ้างนะคะ
ผลพลอยได้จากการมาเก็บเห็ด คือการไปเจอสตรอเบอร์รี่ป่าโดยบังเอิญ
เราชอบมากๆเพราะเราว่ารสเค้าจะหวานกว่าผลโตที่ปลูกตามฟาร์มอีกค่ะ
เพียงแต่ต้องตาดีๆนะคะเพราะเค้าจะขึ้นอยู่ข้างทางรวมกับหญ้าทั่วไป ต้องแหวกหญ้าหาค่ะถึงจะเจอ
จากเห็ดจะพาไปเก็บแอปเปิ้ลข้างบ้านกันบ้าง อันนี้ก็ฟรีอีกแล้วค่ะ
แอปเปิ้ลแดงกำลังเริ่มจะเปลี่ยนสีนะคะ
แอปเปิ้ลเขียวกิ่งนี้ยาวลากดินแถมลูกห้อยเต็มไปหมด
เด็ดมาเป็นที่ระลึกค่ะเพราะเจ้าของบ้านคะยั้นคะยอให้เก็บไปเลยไม่ต้องเกรงใจ
ต่อไปจะพาไปชมต้นราสเบอร์รี่กันนะคะ ต้นนี้เป็นอะไรที่มีเยอะที่สุดในเมืองที่เราอยู่
เพราะเดินไปตามถนนสองข้างทางก็จะเจอตลอดทาง
แล้วรสเค้าจะหวานกว่าที่ซื้อที่ซุปเปอร์มากเลยค่ะ
ซึ่งทำให้เราได้รู้ว่าผลเล็กมักจะหวานกว่าผลใหญ่แถมฟรีอีกตะหาก
มาดูใกล้ๆแบบเต็มๆตากันบ้าง
ต่อไปเราจะพาไปรู้จักผลไม้ที่บ้านเกือบทุกหลังที่นี่นิยมปลูกไว้ในสวนหลังบ้าน
Red Currant Berries หน้าตางดงามส่วนรสชาติหวานซ่อนเปรี้ยว
Black Currant Berries เราไม่ค่อยชอบกลิ่นและรสของเจ้านี่เท่าไหร่นะคะ บอกไม่ถูกเลย
Gooseberry หน้าตาคล้ายลูกองุ่น เจ้านี่เราว่ารสชาติหวาน กรอบดีค่ะ อันนี้เราให้ผ่านค่ะ
ส่วนเจ้านี่มักจะเจอในป่าลึกนะคะ อันนี้แฟนชอบมาก ส่วนเราเฉยๆค่ะ
Cloudberry อันนี้เราว่าหน้าตากับชื่อคงไม่คุ้นหูแน่เลยใช่ไหมค่ะ พอสุกแล้วผลจะเปลี่ยนเป็นสีเหลือง
ปีนี้นอร์เวย์อากาศร้อนกว่าทุกปีทำให้สตรอเบอร์รี่ที่ฟาร์มออกผลน้อย
ทำให้จำนวนคนอยากไปเก็บมากกว่าจำนวนสตรอเบอร์รี่ค่ะ
ทุกปีเราไปก็ได้เก็บเลยแต่ปีนี้ต้องจองคิวแถมไม่มีคิวจนสตรอเบอร์รี่หมดฟาร์มเลยค่ะ
เราเลยต้องถ่อไปขึ้นเขาเพื่อเก็บสตรอเบอร์รี่ (ฟรีอีกแล้ว) ที่บ้านของน้องชายแฟนแทนคะ
ได้มาไม่เยอะเท่าไหร่เพราะส่วนใหญ่เด็ดไปชิมไปหน่ะค่ะ
มาถึง เชอร์รี่ ผลไม้อันดับหนึ่งในใจของเราบ้างนะคะ
เราจะพาไปชมเชอร์รี่ผลเล็กกันก่อนนะคะ พันธุ์เล็กนี้เราเจอข้างทางนะคะ
แชะกับผลไม้ในดวงใจสักนิสนึง
ต่อไปก็จะพาไปชมเชอร์รี่ผลโตแบบที่เห็นขายตามซุปเปอร์นะคะ ต้นนี้เจอบ้านเพื่อนแฟนค่ะ กรี๊ดเลยเรา
จบการรายงาน
[CR] ตามรอยพระพุทธเจ้าหลวง...ไปเยือนเมืองหลวงเก่าแห่งนอร์เวย์
หากคุณเคยอ่านสารคดีไกลบ้านตอนเสด็จประพาสนอร์เวย์
คุณอาจจะคุ้นชื่อมาบ้างกับเมืองที่เรากำลังจะแนะนำต่อไปนี้
ไม่ใช่ Oslo...เมืองหลวงแห่งนอร์เวย์
ไม่ใช่ Bergen...เมืองแห่งมรดกโลก
และไม่ใช่ Tromso...เมืองแห่งแสงเหนือ
แต่เมืองนี้มีชื่อว่า...'' TRONDHEIM ''
Trondheim...ในอดีตคือเมืองหลวงเก่าของประเทศนอร์เวย์
และเป็นเมืองที่มีขนาดใหญ่เป็นอันดับสามรองจาก Oslo และ Bergen
นอกจากนี้ยังเป็นที่ตั้งของมหาวิหารที่งดงามและยิ่งใหญ่ที่สุดของประเทศนอร์เวย์อีกด้วย
เรามีโอกาสได้มาเยือนเมืองแห่งนี้เป็นครั้งที่สี่แล้วค่ะ
ซึ่งแต่ละครั้งก็จะอยู่ประมาณสามเดือนนะคะ
เรื่องข้อมูลต่างๆอาจไม่เชี่ยวชาญ หากมีอะไรแนะนำหรือตักเตือนมาได้นะคะเรายินดี
...............................................................................................................
หลายปีก่อนเราจำได้ว่าเคยดูรายการกบนอกกะลาถ้าจำไม่ผิดนะคะ
จำได้ว่ารายการในวันนั้นพาไปเยือนนอร์เวย์ตามรอยพระพุทธเจ้าหลวง
และหนึ่งในเมืองที่รายการแนะนำมีเมือง Trondheim ด้วยค่ะ
ตอนนั้นดีใจมากๆเพราะเหมือนกับว่าอย่างน้อย
เราก็ได้เคยไปอยู่ในเมืองที่ปรากฏอยู่ในสารคดีไกลบ้านกับเค้าด้วย
........................................................................................
ปีนี้นึกยังไงก็ไม่รู้นะคะว่าอยากเขียนรีวิวเกี่ยวกับเมืองนี้บ้าง
ถึงแม้ว่าจะไม่มีคนอ่านหรือคนชอบก็ตามที
แต่ทุกครั้งที่เราทำรีวิวขึ้นมาเราก็ตั้งใจไว้แล้วว่า
อย่างน้อยเราจะขอเลือกบันทึกความทรงจำของเราไว้ที่นี่
รูปภาพในรีวิวของเรามักจะมีตัวเราปรากฏเป็นส่วนใหญ่นะคะ
เพราะเราชอบบันทึกประวัติศาสตร์หน้าที่มีตัวเราเป็นตัวเอกเสมอค่ะ
..........................................................................................
ก่อนอื่นเราขอนำทุกท่านมาเยือนสัญลักษณ์ประจำเมืองกันก่อนเลยนะคะ
นั่นก็คือ Old Town Bridge หรือ Gamle Bybro ในภาษานอร์เวย์
สะพานแห่งนี้ถูกสร้างขึ้นในปี 1861 โดยวิศวกรนามว่า Carl Adolf Dahl
หากใครมีโอกาสได้มาเยือนเมืองนี้มักไม่พลาดที่จะมาถ่ายรูปกันที่นี่
และที่สำคัญชาวนอร์เวย์มีความเชื่อว่าหากคุณมีโอกาสได้ไปยืนอยู่ใต้ซุ้มประตูเหล็กสีแดง
หลังจากนั้นชีวิตของคุณจะโชคดีและมีความสุขตลอดไป
และนี่จึงเป็นสาเหตุที่ทำให้เราต้องมาเยือนสะพานแห่งนี้ทุกครั้งไป
นอกจากซุ้มประตูเหล็กสีแดงบนสะพานที่ดูแข็งแกร่งและงดงามแล้ว
วิวเบื้องหลังที่เต็มไปด้วยสีสันของบ้านริมน้ำก็เป็นอีกหนึ่งเสน่ห์ของที่นี่เช่นเดียวกันค่ะ
ปีนี้ทางเทศบาลได้เพิ่มอีกหนึ่งสะพานที่ทำขึ้นด้วยไม้มาให้ชมวิวและถ่ายรูปกันด้วยนะคะ
ต่อไปเราจะเริ่มพาไปชมสถานที่ๆปรากฏอยู่ในสารคดีไกลบ้านกันบ้างนะคะ
มหาวิหาร Nidaros ซึ่งพระพุทธเจ้าหลวงได้ทรงบันทึกไว้ดังนี้
'' กินเข้าแล้วไปดูคะทีดรัล ซึ่งเปนที่ราชาภิเศกเจ้าแผ่นดิน วันนี้ทำด้วยศิลาอย่างอ่อนสีเทา ที่เรียกว่า โซปสโตน สร้างมา ๖๐๐ ปีแล้ว สัณฐานวัดก็เปนรูปไม้กางเขน แต่มีด้านหลังยาวออกไป ซึ่งเปนหลังคามุงกระเบื้อง เห็นจะไม่สูงเท่ากันกับข้างน่า เพราะฉนั้น จึงได้เปนเวลาที่ช่างกำลังจัดการก่อสร้างขึ้นใหม่ทำเปนมุขยาวแลสูงทันกันกับมุขน่า ถ้าหากว่าแล้วเสร็จ หอระฆังจะเปนสูนย์กลางยอด ''
มหาวิหาร Nidaros
เป็นมหาวิหารที่มีความงดงามและยิ่งใหญ่ที่สุดของประเทศนอร์เวย์
นอกจากนี้ยังเป็นสถานที่ประกอบพระบรมราชาภิเษกตามโบราณราชประเพณี
ของกษัตริย์นอร์เวย์ทุกพระองค์ตั้งแต่ในอดีตจนถึงปัจจุบัน
นับเป็นอีกหนึ่งไฮไลท์สำคัญที่นักท่องเที่ยวไม่พลาดที่จะมาเยี่ยมชมอีกหนึ่งสถานที่เลยค่ะ
ด้านหน้าเราว่าคล้ายกับ Notre - Dame Cathedral ที่ปารีสมากเลยค่ะ
ภายในไม่อนุญาติให้ถ่ายรูปนะคะ แต่เราไม่ทันเห็นป้ายเลยถ่ายไปสองสามภาพค่ะ
มาชมความงดงามด้านหลังกันบ้างกับยอดโดมสีเขียวสูงเสียดฟ้า
ด้านข้างของมหาวิหารเป็นสถานที่ฝังศพของฝู้มีบุญหนักศักดิ์ใหญ่ของที่นี่เมื่อครั้งอดีต
สถานที่ต่อไปคือแม่น้ำ Nidelven
แม่น้ำแห่งนี้ มีเพลงเป็นของตัวเองด้วยนะคะ ชื่อเพลงว่า Nidelven Stille og Vakker du er
ความหมายเปรียบดั่ง หญิงสาวที่งดงามในขณะเดียวกันเธอก็ดูสงบนิ่งแบบน่าค้นหา
เพลงนี้เป็นที่นิยมสำหรับใช้ในงานเต้นรำของที่นี่เป็นอย่างมาก
บ้านเรือนที่นี่ดูน่ารักมากเลยค่ะ มองดูแบบนี้แล้วเหมือนบ้านตุ๊กตาเลยค่ะ
ร้าน Henrik Moller เป็นร้านเครื่องเงินเก่าแก่ที่ยังคงเปิดให้บริการมานานนับ ๑๐๐ ปี
พระพุทธเจ้าหลวงได้บันทึกไว้ว่า '' ได้เข้าร้านสามร้าน ซึ่งเปนแฟชันเนเบอล
ที่ใครใครมาต้องเข้าทั้งนั้น เหตุด้วยต้องซื้อเครื่องแต่งตัวขนสัตว์ต่างๆ
คนมักจะเข้าใจว่าทรอนด์เยมนี้เปนเมืองเหนือใกล้นอทเคป แต่ที่จริงยังไกลมาก
เพราะเหตุฉะนั้นจึงเปนท่าที่สำหรับจะตระเตรียมตัวขึ้นไปนอทเคป
สามร้านนี้เปนที่มีชื่อเสียงใครไปมาก็ซื้อ ''
ปัจจุบันร้านได้ถูกออกแบบตกแต่งใหม่แต่ยังคงความหรูหราคลาสสิคไม่เปลี่ยนแปลง
Stiftsgården...พระที่นั่งที่ใช้สำหรับเป็นที่ประทับของกษัตริย์และสมาชิกในราชวงศ์นอร์เวย์
หลังจากนี้เราจะพาไปชมสถานที่ๆน่าสนใจในเมืองนี้กันบ้างนะคะ
ตลาดนัดเมือง Trondheim ค่ะ
ซึ่งจะจัดเป็นประจำเฉพาะในช่วงฤดูร้อนของที่นี่เท่านั้นนะคะ
ของเปรี้ยว ของดองก็มีนะคะ
การแสดงบนเวทีของหนูๆตัวน้อยๆกับเพลง Waka Waka
ขนมตังเมค่ะ เห็นแล้วนึกถึงตังเมบ้านเราที่ทำเป็นตัวลิงบ้าง มังกรบ้างสวยกว่าของที่นี่อีกนะคะ
ร้านอาหารไทยร้านนี้ขายดีมากค่ะ เดินผ่านทีไรคิวเยอะทุกที
จากตลาดจะพาไปเข้าป่าเก็บบลูเบอร์รี่กันบ้างนะคะ
ต้นไม้เล็กๆที่ล้อมรอบเราอยู่คือต้นบลูเบอร์รี่ทั้งหมดเลยค่ะ
มาดูใกล้ๆกันบ้างนะคะ
เมื่อหน้าร้อนมาเยือน ผลไม้ทั้งหลายก็ออกผลให้เก็บเต็มไปหมดเลยค่ะที่สำคัญเก็บฟรีไม่เสียตังค์
จากบลูเบอร์รี่เราจะพามาเก็บเห็ดกันต่อเลยนะคะ
ป่าที่นี่อุดมสมบูรณ์มากเลยค่ะ เพราะเราเข้าป่าแต่ละครั้งไม่เคยซ้ำที่เลยค่ะ
เห็ดที่เก็บไปในวันนี้เราไม่ได้เก็บเอาไปกินหรอกนะคะ พอดีแฟนซื้อหนังสือมาเลยอยากนำกลับไปศึกษาอีกทีค่ะ
เราปีนขึ้นมาข้างบนเพื่อพามาชมวิวมุมสูงกันบ้างนะคะ
ผลพลอยได้จากการมาเก็บเห็ด คือการไปเจอสตรอเบอร์รี่ป่าโดยบังเอิญ
เราชอบมากๆเพราะเราว่ารสเค้าจะหวานกว่าผลโตที่ปลูกตามฟาร์มอีกค่ะ
เพียงแต่ต้องตาดีๆนะคะเพราะเค้าจะขึ้นอยู่ข้างทางรวมกับหญ้าทั่วไป ต้องแหวกหญ้าหาค่ะถึงจะเจอ
จากเห็ดจะพาไปเก็บแอปเปิ้ลข้างบ้านกันบ้าง อันนี้ก็ฟรีอีกแล้วค่ะ
แอปเปิ้ลแดงกำลังเริ่มจะเปลี่ยนสีนะคะ
แอปเปิ้ลเขียวกิ่งนี้ยาวลากดินแถมลูกห้อยเต็มไปหมด
เด็ดมาเป็นที่ระลึกค่ะเพราะเจ้าของบ้านคะยั้นคะยอให้เก็บไปเลยไม่ต้องเกรงใจ
ต่อไปจะพาไปชมต้นราสเบอร์รี่กันนะคะ ต้นนี้เป็นอะไรที่มีเยอะที่สุดในเมืองที่เราอยู่
เพราะเดินไปตามถนนสองข้างทางก็จะเจอตลอดทาง
แล้วรสเค้าจะหวานกว่าที่ซื้อที่ซุปเปอร์มากเลยค่ะ
ซึ่งทำให้เราได้รู้ว่าผลเล็กมักจะหวานกว่าผลใหญ่แถมฟรีอีกตะหาก
มาดูใกล้ๆแบบเต็มๆตากันบ้าง
ต่อไปเราจะพาไปรู้จักผลไม้ที่บ้านเกือบทุกหลังที่นี่นิยมปลูกไว้ในสวนหลังบ้าน
Red Currant Berries หน้าตางดงามส่วนรสชาติหวานซ่อนเปรี้ยว
Black Currant Berries เราไม่ค่อยชอบกลิ่นและรสของเจ้านี่เท่าไหร่นะคะ บอกไม่ถูกเลย
Gooseberry หน้าตาคล้ายลูกองุ่น เจ้านี่เราว่ารสชาติหวาน กรอบดีค่ะ อันนี้เราให้ผ่านค่ะ
ส่วนเจ้านี่มักจะเจอในป่าลึกนะคะ อันนี้แฟนชอบมาก ส่วนเราเฉยๆค่ะ
Cloudberry อันนี้เราว่าหน้าตากับชื่อคงไม่คุ้นหูแน่เลยใช่ไหมค่ะ พอสุกแล้วผลจะเปลี่ยนเป็นสีเหลือง
ปีนี้นอร์เวย์อากาศร้อนกว่าทุกปีทำให้สตรอเบอร์รี่ที่ฟาร์มออกผลน้อย
ทำให้จำนวนคนอยากไปเก็บมากกว่าจำนวนสตรอเบอร์รี่ค่ะ
ทุกปีเราไปก็ได้เก็บเลยแต่ปีนี้ต้องจองคิวแถมไม่มีคิวจนสตรอเบอร์รี่หมดฟาร์มเลยค่ะ
เราเลยต้องถ่อไปขึ้นเขาเพื่อเก็บสตรอเบอร์รี่ (ฟรีอีกแล้ว) ที่บ้านของน้องชายแฟนแทนคะ
ได้มาไม่เยอะเท่าไหร่เพราะส่วนใหญ่เด็ดไปชิมไปหน่ะค่ะ
มาถึง เชอร์รี่ ผลไม้อันดับหนึ่งในใจของเราบ้างนะคะ
เราจะพาไปชมเชอร์รี่ผลเล็กกันก่อนนะคะ พันธุ์เล็กนี้เราเจอข้างทางนะคะ
แชะกับผลไม้ในดวงใจสักนิสนึง
ต่อไปก็จะพาไปชมเชอร์รี่ผลโตแบบที่เห็นขายตามซุปเปอร์นะคะ ต้นนี้เจอบ้านเพื่อนแฟนค่ะ กรี๊ดเลยเรา
จบการรายงาน