ในสมัยก่อนนานมาแล้ว แอตแลนติส เป็นเมืองที่มีเทคโนโลยีที่ทันสมัยที่สุดบนโลก แต่ไม่เคยเผยแพร่เทคโนโลยีหรือให้เทคโนโลยีออกไปจากเกาะของต้นเลย เทคโนโลยีต่างๆจึงวนเวียนอยู่แต่ในแอตแลนติส แต่จะมีการแลกความรู้ขั้นพื้นฐานหรือด้อยกว่ามากที่เป็นการใช้ไม้ใช้หินแลกกับสินแร่ต่างๆ เพื่อเอามาพัฒนาตัวเอง แอตแลนติสติดต่อเมืองต่างๆโดยแต่งตั้งตัวเองเป็นพระเจ้า ไปเผยแพร่และใช้แรงงานของเมืองต่างๆแลกกับความรู้น้อยนิดที่ให้กลับไป คนไหนมีความฉลาดแอตแลนติสก็จะดึงตัวเข้าไปยังเกาะของเขาและไม่เคยกลับมาอีกเลย ผู้คนที่เคยเห็นแอตแลนติสจากภายนอกต่างตะลึกในความสวยงามไม่ต่างๆจากสวรรค์ เมื่อหลายปีผ่านไปแอตแลนติสก็ได้ทะยานสุ่ท้องฟ้า ผู้คนก็ต่างๆตกตะลึงงั้นในสิ่งที่พบเห็น เกาะทั้งเกาะกำลังทะยานสูงขึ้นไปยังท้องฟ้ากว้าง เสียงเครื่องจักรดังกึกก้องท้องฟ้า แล้วก็เงียบหายไปเมื่อสุดสายตา ตั้งแต่นั้นแอตแลนติสก็ไม่เคยกลับมายังโลกอีกเลย

       แอตแลนติสได้เดินทางท่องจักรวาลไปจนได้พบกับยานตรวจสอบอวกาศของสหพันธรัฐจักรวาล และได้เข้าร่วมกับสหพันธรัฐจักรวาลเป็น 1 ในอีกกว่าหมื่นกว่ารัฐที่ได้เป็นเนื่องจากสามารถมีเทคโนโลยีที่สามารถท่องจักรวาลได้ และได้รับหน้าที่ดูแลจักรวาลในแทบตัวเองร่วมถึงโลกเราด้วย แต่แอตแลนติสกลับกีดกันการพัฒนาของโลกทุกวีธีทาง ไม่ว่าจะเป็นการระเบิดจรวดที่จะไปยังอวกาศของมนุษย์ จรวดส่งดาวเทียม ไม่ว่าจะเป็นเหตุการณ์ที่ Cern เตาปฏิกรณ์ร้อนก็เกิดจากคนของแอตแลนติสที่ลงมายังโลกแล้วเอาเสดขนมปังใส่ลงไปในเครื่องหวังทำลายโดยไม่ผิดสังเกตุ ระยะหลังๆโลกเราร้อนขึ้นก็เพราะพระอาทิตย์ระเบิดรังสีออกมาบ่อยขึ้นก็มาจากแอตแลนติสกระตุ่นมันเพื่อมาทำลายๆโลกที่ละน้อยเพื่อไม่ให้สหพันธรัฐจักรวาลผิดสังเกตุ เราเคยจับภาพยานที่เคยแอบเข้าไปไกลพระอาทิตย์ของเรามาแล้ว