คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 6
ถาม: อยากทราบอานิสงส์ของการซ่อมพระพุทธรูปค่ะ
ดังตฤณ : ต้องดูที่จิตด้วยครับ
บางคนซ่อมไปอย่างนั้นเอง
เพราะเขาจ้างให้ซ่อมจึงซ่อม
แบบนี้ผลก็ไม่ได้มากเท่าไร
แต่ถ้าเห็นพระพุทธรูปชำรุด
หรือแม้กระทั่งเปื้อนฝุ่น เปื้อนคราบ เปื้อนทองเปลว
แล้วอยากลงมือชำระล้างสะสาง
พอทำเสร็จเกิดปีติโสมนัสอย่างใหญ่
แบบนี้ผลก็ยากจะประมาณว่าได้อานิสงส์แค่ไหน
อย่าต้องกล่าวถึงการซ่อมแซมพระปฏิมาเลย
ในที่ที่กรรมเผล็ดผล...
๑) ทางชะตา จะไม่เป็นผู้ตกอับถึงที่สุด
ทุกสถานการณ์ "ซ่อมได้" หมด
กับทั้งจะไม่รู้สึกอยากยอมแพ้
เหมือนมีเครื่องหนุนใจให้รู้สึกอยู่ว่าตนแก้ปัญหาได้
หรือเชื่อว่าทุกอย่างจะต้องดีขึ้น แล้วก็ดีขึ้นจริงๆ
ถ้าทำอาชีพเกี่ยวกับการซ่อมแซม
ก็จะมีชื่อเสียงอุโฆษ
ประสบความสำเร็จในหน้าที่การงานอย่างใหญ่หลวง
หรือหากเป็นเจ้าของกิจการเอง ก็จะรุ่งเรืองเกินใครเทียบ
๒) ทางกาย จะมีร่างกายผุดผ่องน่าชม
และแม้เป็นโรคร้ายแค่ไหนก็เจอหมอดีรักษาได้ตรงจุด
๓) ทางใจ จะเป็นผู้ไม่ดูดาย
มีกำลังใจจะเปลี่ยนผิดให้เป็นถูก
แก้ไขเรื่องร้ายให้เป็นเรื่องดี
เหตุเพราะได้ชนวนสำคัญ
คือบุญที่จะปฏิสังขรณ์พระปฏิมาให้กลับดูดี
ยิ่งถ้าเป็นนักซ่อมพระปฏิมานะครับ
ทำไปทั้งชาติ ผลยิ่งบริบูรณ์
เห็นอานิสงส์คงเส้นคงวา
เริ่มต้นตั้งแต่ชาตินี้ คือเป็นทิฏฐธรรมเวทนียกรรม
(ผมแปลง่ายๆว่าทำกรรมใหม่แรงพอชนะกรรมเก่า)
ส่วนที่จะเผล็ดผลเป็นรูปร่างหน้าตา ฐานะ และความบริบูรณ์พูนสุขในชาติถัดๆไปนั้น
คงไม่อาจกล่าวได้ครอบคลุมทั้งหมด
มันขึ้นอยู่กับรายละเอียดทางใจในขณะทำ
เช่น ถ้ามีความใส่ใจประณีต ก็ย่อมได้รับผลประณีต
ถ้ามีความคิดริเริ่มสร้างสรรค์ในการใช้เทคนิคซ่อมแซม
ก็จะเป็นผู้มีปฏิภาณความคิดอ่านเฉลียวฉลาดในการแก้ปัญหาเกินมนุษย์ ฯลฯ
ผลานิสงส์ที่ชำระสะสางมลทินให้พระปฏิมานั้น
ถ้ากล่าวในทางที่เป็นประโยชน์สูงสุด
คือจะเป็นผู้ศรัทธาเลื่อมใสในพระพุทธเจ้าอย่างแรงกล้า
ขนาดเสริมส่งให้จิตเกิดฌานได้เมื่อฟังพระธรรมเทศนา
พูดง่ายๆว่าเป็นปัจจัยหนึ่งให้จิตเข้าถึงมรรคผลได้โดยง่าย
เพราะมีจิตแล่นไปในศรัทธาอันประกอบด้วยปัญญา
ไม่เคลือบแคลงสงสัยในพระองค์ครับ
ดังตฤณ (ศรันย์ ไมตรีเวช)
หมายเหตุ : ภาพประกอบนี้ เดิมเป็นพระหล่อปูนสีขาว
จัดส่งทางไปรษณีย์ เศียรเกิดหัก ผมทำการซ่อม
และลงสีใหม่ ตอนนี้ก็ยังตั้งกราบไหว้บูชาอยู่ที่ออฟฟิศครับ ^^
ดังตฤณ : ต้องดูที่จิตด้วยครับ
บางคนซ่อมไปอย่างนั้นเอง
เพราะเขาจ้างให้ซ่อมจึงซ่อม
แบบนี้ผลก็ไม่ได้มากเท่าไร
แต่ถ้าเห็นพระพุทธรูปชำรุด
หรือแม้กระทั่งเปื้อนฝุ่น เปื้อนคราบ เปื้อนทองเปลว
แล้วอยากลงมือชำระล้างสะสาง
พอทำเสร็จเกิดปีติโสมนัสอย่างใหญ่
แบบนี้ผลก็ยากจะประมาณว่าได้อานิสงส์แค่ไหน
อย่าต้องกล่าวถึงการซ่อมแซมพระปฏิมาเลย
ในที่ที่กรรมเผล็ดผล...
๑) ทางชะตา จะไม่เป็นผู้ตกอับถึงที่สุด
ทุกสถานการณ์ "ซ่อมได้" หมด
กับทั้งจะไม่รู้สึกอยากยอมแพ้
เหมือนมีเครื่องหนุนใจให้รู้สึกอยู่ว่าตนแก้ปัญหาได้
หรือเชื่อว่าทุกอย่างจะต้องดีขึ้น แล้วก็ดีขึ้นจริงๆ
ถ้าทำอาชีพเกี่ยวกับการซ่อมแซม
ก็จะมีชื่อเสียงอุโฆษ
ประสบความสำเร็จในหน้าที่การงานอย่างใหญ่หลวง
หรือหากเป็นเจ้าของกิจการเอง ก็จะรุ่งเรืองเกินใครเทียบ
๒) ทางกาย จะมีร่างกายผุดผ่องน่าชม
และแม้เป็นโรคร้ายแค่ไหนก็เจอหมอดีรักษาได้ตรงจุด
๓) ทางใจ จะเป็นผู้ไม่ดูดาย
มีกำลังใจจะเปลี่ยนผิดให้เป็นถูก
แก้ไขเรื่องร้ายให้เป็นเรื่องดี
เหตุเพราะได้ชนวนสำคัญ
คือบุญที่จะปฏิสังขรณ์พระปฏิมาให้กลับดูดี
ยิ่งถ้าเป็นนักซ่อมพระปฏิมานะครับ
ทำไปทั้งชาติ ผลยิ่งบริบูรณ์
เห็นอานิสงส์คงเส้นคงวา
เริ่มต้นตั้งแต่ชาตินี้ คือเป็นทิฏฐธรรมเวทนียกรรม
(ผมแปลง่ายๆว่าทำกรรมใหม่แรงพอชนะกรรมเก่า)
ส่วนที่จะเผล็ดผลเป็นรูปร่างหน้าตา ฐานะ และความบริบูรณ์พูนสุขในชาติถัดๆไปนั้น
คงไม่อาจกล่าวได้ครอบคลุมทั้งหมด
มันขึ้นอยู่กับรายละเอียดทางใจในขณะทำ
เช่น ถ้ามีความใส่ใจประณีต ก็ย่อมได้รับผลประณีต
ถ้ามีความคิดริเริ่มสร้างสรรค์ในการใช้เทคนิคซ่อมแซม
ก็จะเป็นผู้มีปฏิภาณความคิดอ่านเฉลียวฉลาดในการแก้ปัญหาเกินมนุษย์ ฯลฯ
ผลานิสงส์ที่ชำระสะสางมลทินให้พระปฏิมานั้น
ถ้ากล่าวในทางที่เป็นประโยชน์สูงสุด
คือจะเป็นผู้ศรัทธาเลื่อมใสในพระพุทธเจ้าอย่างแรงกล้า
ขนาดเสริมส่งให้จิตเกิดฌานได้เมื่อฟังพระธรรมเทศนา
พูดง่ายๆว่าเป็นปัจจัยหนึ่งให้จิตเข้าถึงมรรคผลได้โดยง่าย
เพราะมีจิตแล่นไปในศรัทธาอันประกอบด้วยปัญญา
ไม่เคลือบแคลงสงสัยในพระองค์ครับ
ดังตฤณ (ศรันย์ ไมตรีเวช)
หมายเหตุ : ภาพประกอบนี้ เดิมเป็นพระหล่อปูนสีขาว
จัดส่งทางไปรษณีย์ เศียรเกิดหัก ผมทำการซ่อม
และลงสีใหม่ ตอนนี้ก็ยังตั้งกราบไหว้บูชาอยู่ที่ออฟฟิศครับ ^^
สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 4
พระพุทธรูปคอหัก
บ่ายวันหนึ่ง ขณะที่หลวงปู่กำลังนั่งรถเข็นออกตรวจบริเวณวัด
พบชาย ๒ - ๓ คนกำลังก้ม ๆ เงย ๆ อยู่แถวโคนต้นไม้หลังอุโบสถ
หลวงปู่ ; ทำอะไร..โยม..?
โยม ; พวกกระผม เอาพระพุทธรูปมาปล่อย (ทิ้ง) ครับ
หลวงปู่ ; ทำไมเอาพระพุทธรูปมาปล่อยเสียล่ะ ?
โยม ; พระพุทธรูปสององค์นี้คอหักครับ พ่อว่าไม่ดี เลยให้เอามาปล่อย
หลวงปู่ ; อ้อ..พระพุทธรูปคอหักไม่ดี เลยเอามาปล่อยวัด
อะไรไม่ดี ก็เอามาปล่อยวัด หมากัดเป็ดกัดไก่ ไก่ ๓ ขา หมา ๔ หู
ต้นไม้ประหลาด ลูกบอกไม่ได้ สอนไม่เอา ก็ให้มาบวช
แต่เวลาขอของดี ต้องมาขอกับพระ มาหาพระมาหาของดี
ที่ไม่ดีก็เอามาทิ้งวัด มาทิ้งให้เป็นภาระพระ
พระพุทธรูปคอหักคุณว่าไม่ดี เพราะคุณเข้าใจว่าไม่ดี
ตอนไปบูชามาเสียเงินเสียทอง เอามากราบไว้บูชา
ถือว่าดีว่าขลัง พอตกแตกคอหักคุณก็ว่าเป็นของอัปมงคล
คนเราอยู่ด้วยกันรักกันชอบกัน พออีกคนตายหมดลมหายใจ ก็กลัวกัน
สมมุติกันว่าเป็นผีก็ พาลกลัวกันอีก
คุณเอ๋ย..ความเป็นพระไม่ได้อยู่ที่ก้อนอิฐก้อนดินดอกนะ
ความเป็นคน ก็ไม่ได้อยู่กับร่างกายสังขารดอกนะ
ความเป็นพระอยู่ที่คุณงามความดีของพระองค์
ความเป็นคน ก็อยู่ที่คุณงามความดีของเขา
คุณสมมติว่าพระคอหักคือพระตาย ก็กลัวพระคอหัก
คุณสมมติว่าคนหมดลมหายใจเป็นผี..ก็กลัวผี
ถ้าความเป็นพระอยู่ที่ใจเรา พระนั้นถึงจะแตกจะหัก
ก็น่ากราบน่าไหว้ ถ้าความเป็นคนอยู่ที่ความรักความผูกพัน
อยู่ในความดีของกันและกัน ถึงเขาหมดลมก็ยังน่าคิดถึงน่านับถือ ไม่น่ากลัว
แต่คุณคิดว่าเมื่อเสกพระพุทธรูปแล้วท่านมีชีวิต มีความขลัง
พอท่านคอหักก็คือท่านตาย ท่านหมดความขลังความศักดิ์สิทธิ์
ให้เข้าใจเสียใหม่ พระก็คือพระ จะคอหัก จะแตก จะบิ่น
ความเป็นพระก็ไม่ได้ลดน้อยลงเลย เพราะพระก็คือพระ ความดีเป็นพระ
ความดีที่พระองค์ทรงสั่งทรงสอนเป็นพระ ไม่ใช่ความเป็นอิฐเป็นดินเป็นพระ
ถ้ามีความเชื่อความศรัทธาอย่างนี้ พระจะแตกจะหักเราก็ยังเก็บไว้ได้ ยังกราบได้ เข้าใจนะ
โยม ; แล้วจะให้พวกผมทำอย่างไร กับพระพุทธรูปคอหักนี้ครับ
หลวงปู่ ; ที่บ้านมีกาวไหม ? มีก็ทาติดให้เหมือนเดิม
โยม ...................................
หลวงปู่หา สุภโร (หลวงปู่ไดโนเสาร์)
วัดสักกะวัน (ภูกุ้มข้าว) จ.กาฬสินธุ์
พระพุทธรูปคอหัก
บ่ายวันหนึ่ง ขณะที่หลวงปู่กำลังนั่งรถเข็นออกตรวจบริเวณวัด
พบชาย ๒ - ๓ คนกำลังก้ม ๆ เงย ๆ อยู่แถวโคนต้นไม้หลังอุโบสถ
หลวงปู่ ; ทำอะไร..โยม..?
โยม ; พวกกระผม เอาพระพุทธรูปมาปล่อย (ทิ้ง) ครับ
หลวงปู่ ; ทำไมเอาพระพุทธรูปมาปล่อยเสียล่ะ ?
โยม ; พระพุทธรูปสององค์นี้คอหักครับ พ่อว่าไม่ดี เลยให้เอามาปล่อย
หลวงปู่ ; อ้อ..พระพุทธรูปคอหักไม่ดี เลยเอามาปล่อยวัด
อะไรไม่ดี ก็เอามาปล่อยวัด หมากัดเป็ดกัดไก่ ไก่ ๓ ขา หมา ๔ หู
ต้นไม้ประหลาด ลูกบอกไม่ได้ สอนไม่เอา ก็ให้มาบวช
แต่เวลาขอของดี ต้องมาขอกับพระ มาหาพระมาหาของดี
ที่ไม่ดีก็เอามาทิ้งวัด มาทิ้งให้เป็นภาระพระ
พระพุทธรูปคอหักคุณว่าไม่ดี เพราะคุณเข้าใจว่าไม่ดี
ตอนไปบูชามาเสียเงินเสียทอง เอามากราบไว้บูชา
ถือว่าดีว่าขลัง พอตกแตกคอหักคุณก็ว่าเป็นของอัปมงคล
คนเราอยู่ด้วยกันรักกันชอบกัน พออีกคนตายหมดลมหายใจ ก็กลัวกัน
สมมุติกันว่าเป็นผีก็ พาลกลัวกันอีก
คุณเอ๋ย..ความเป็นพระไม่ได้อยู่ที่ก้อนอิฐก้อนดินดอกนะ
ความเป็นคน ก็ไม่ได้อยู่กับร่างกายสังขารดอกนะ
ความเป็นพระอยู่ที่คุณงามความดีของพระองค์
ความเป็นคน ก็อยู่ที่คุณงามความดีของเขา
คุณสมมติว่าพระคอหักคือพระตาย ก็กลัวพระคอหัก
คุณสมมติว่าคนหมดลมหายใจเป็นผี..ก็กลัวผี
ถ้าความเป็นพระอยู่ที่ใจเรา พระนั้นถึงจะแตกจะหัก
ก็น่ากราบน่าไหว้ ถ้าความเป็นคนอยู่ที่ความรักความผูกพัน
อยู่ในความดีของกันและกัน ถึงเขาหมดลมก็ยังน่าคิดถึงน่านับถือ ไม่น่ากลัว
แต่คุณคิดว่าเมื่อเสกพระพุทธรูปแล้วท่านมีชีวิต มีความขลัง
พอท่านคอหักก็คือท่านตาย ท่านหมดความขลังความศักดิ์สิทธิ์
ให้เข้าใจเสียใหม่ พระก็คือพระ จะคอหัก จะแตก จะบิ่น
ความเป็นพระก็ไม่ได้ลดน้อยลงเลย เพราะพระก็คือพระ ความดีเป็นพระ
ความดีที่พระองค์ทรงสั่งทรงสอนเป็นพระ ไม่ใช่ความเป็นอิฐเป็นดินเป็นพระ
ถ้ามีความเชื่อความศรัทธาอย่างนี้ พระจะแตกจะหักเราก็ยังเก็บไว้ได้ ยังกราบได้ เข้าใจนะ
โยม ; แล้วจะให้พวกผมทำอย่างไร กับพระพุทธรูปคอหักนี้ครับ
หลวงปู่ ; ที่บ้านมีกาวไหม ? มีก็ทาติดให้เหมือนเดิม
โยม ...................................
หลวงปู่หา สุภโร (หลวงปู่ไดโนเสาร์)
วัดสักกะวัน (ภูกุ้มข้าว) จ.กาฬสินธุ์
แสดงความคิดเห็น
ทำเศียรพระพุทธรูปหักต้องทำยังไงบ้าง