สวัสดีเพื่อน ๆ pantip ทุกคนนะครับ
เริ่มเรื่องเลยแล้วกัน ขอเล่าด้วยความอึดอัดใจ+อยากระบาย อย่างมาก!!!
"ผมเป็นเกย์ครับ" ตอนนี้ก็อายุ 27 แล้ว (บุคลิก ออกสาวนิดหน่อย นิดหน่อยจริงๆ คือถ้าไม่พูดนี่ไม่มีใครรู้ แต่ไม่ได้ปิดบัง คนที่ทำงานรู้หมดว่าเราเป็น) ทำงานด้านประชาสัมพันธ์ ในส่วนของออกแบบกราฟฟิกในหน่วยงานราชการแห่งหนึ่งมานานกว่าสามปีแล้วครับ
ลักษณะงานจะเป็นการออกแบบสื่อสิ่งพิมพ์ ตัดต่อวิดีโอ บลาๆๆๆ และงานที่รับผิดชอบหลักจริง ๆ คือออกแบบนิทรรศการ การจัดวาง จัดตกแต่งภาพรวม สวน ต้นไม้ งานครีเอททั้งหมด
ผมเป็นคนมีหัวครีเอทอยู่เสมอ ตั้งแต่ผมเข้ามาทำงานที่นี่ งานทุกอย่างมีภาพลักษณ์ที่ดีขึ้น สวยขึ้น มีมาตรฐานขึ้นมาก ผมจึงเป็นที่ไว้วางใจในการทำงานย้ำว่าการทำงานเพียงด้านเดียว ที่พวกเขาต้องพึ่งพิงผม
เข้าปัญหานะครับ--- ทีมนิทรรศการเนี่ยมีประมาณ 8-10 คน ชายล้วน มีผมประหลาดอยู่คนเดียว เราต้องออกจัดงานตามต่างจังหวัดบ่อยมากครับ ออกทีนึง 13-17 วัน พวกเราจะใช้ชีวิตรวมกัน ไปพักตามรีสอร์ท นอนห้องละสองสามคน
โดยปกติแล้วนิสัยผู้ชายเวลาทำงานนอกสถานที่จะมีเรื่องหลักๆ แค่ไม่กี่เรื่องยกตัวอย่างเช่น กินเหล้า บุหรี่ การพนัน ซึ่งจะปฏิบัติกันเป็นเรื่องปกติ แต่สำหรับผม จะไม่ค่อยทำทุกข้อที่กล่าวมา ผมจะชอบเที่ยวดูเมือง สถานที่ในจังหวัดนั้นมากกว่า และเพราะเหตุนี้เอง การใช้ชีวิตที่ต่างกัน ทำให้เพศอย่างเรา ดูเหมือนจะเข้ากับพวกเค้าไม่ได้เลย
ไม่ใช่ว่าผมไม่ปรับปรุงตัวให้เข้ากับทีมนะครับ ผมพยายามแล้ว บางครั้งผมก็ออกไปนั่งคุยกับพวกเค้าบ้าง ดื่มเหล้าบ้างนาน ๆ ที แต่ในวงมีแต่บุหรี่ซึ่งผมแพ้ควัน ผมจึงอยู่ได้ไม่นาน และ...มันไม่ใช่ตัวของเรา
ในหลายครั้งที่ผมพยายามจะออกไปดื่มกับพวกเค้า สถานการณ์ในวงเหล้าจากตลกขบขันอยู่ก่อนก็กลับจะนิ่งเงียบทันที ลักษณะการคุยจะไม่มีตลก แต่จะซีเรียส เน้นมาทางเรื่องงาน ปัญหาต่างๆ
เมื่อไม่นานมานี้ มีน้องใหม่เข้ามาในทีม อายุน้อยกว่าผมปีนึง การทำงานอาจจะยังไม่คล่องนัก ฝีมือนี่ไม่ต้องพูดถึง ทำงานมานานแต่ไม่มีการพัฒนางานเลย (อย่าหาว่าผมติเค้าเลยนะครับ แต่ฝีมือเด็กฝากคนนี้แย่จริงๆ) หลับในเวลางานบ่อย และเราออกมาทำงานต่างจังหวัดด้วยกัน น้องเค้ากินเหล้า เที่ยวผู้หญิง ทำทุกอย่างที่พี่ๆทีมงานทำกัน น้องคนนั้นจึงเป็นที่รักของทีมไปโดยปริยาย โดยที่ไม่ต้องใช้ฝีมือในการทำงานสักนิด
เห้อ...
มันมีหลายเหตุการณ์ที่ผมสังเกตุ ถ้าให้เล่าคงพิมพ์ไม่ไหว ว่าผู้ชายแท้ กับเกย์ มันมีเส้นบางๆกั้นระหว่างเราจริงๆ ทั้งลักณะการใช้ชีวิต รสนิยม และอื่นๆอีกเยอะมากมาย
ผมไม่รู้ว่าจะแก้ปัญหานี้อย่างไรดี ทุกวันนี้อยากลาออกมาก ทำงานทุกวันเหมือนเป็นส่วนเกินของทีม เค้าพูดอะไรกันเราก็ไม่รู้เรื่อง จะเห็นค่าของเราแค่ตอนที่ต้องคิดงาน ใช้งาน เท่านั้นเอง มันทำให้ผมน้อยใจครับ เราสู้ทำงานทุ่มเทและพิสูจน์ตัวเองมามากมายเท่าไหร่ก็ไม่สามารถซื้อใจทีมงานได้เลย หรือผมจะต้องกินเหล้าเมายา สูบบุหรี่ ไม่ต้องคำนึงถึงฝีมือก็ได้ ถึงจะเป็นที่รักของทุกคน
ขอระบายนะครับ เครียดมากจริงๆ
เพศที่สามจะไม่มีที่ยืนในสังคมจริงๆ หรอครับ
__________
ขอเพิ่มเติมในส่วนที่ยังไม่ครบถ้วนนะครับ
ในด้านเพศกับการทำงานเนี่ย สิ่งที่ผมเจอมานอกเหนือจากการใช้ชีวิตร่วมกันคือ
การมีปฏิกริยาขัดแย้งกับความคิดเห็นของเรา ผมเป็นคนยอมรับความคิดเห็นของผู้อื่น และผมเป็นคนชอบแชร์ความคิดเห็นและไอเดียครับ ซึ่งความคิดเห็นนั้นไม้ได้ดูเวอร์วังอลังการแต่อย่างใด
เราคิดในสิ่งที่ทีมเรามีศักยภาพทำได้ ทำแล้วประหยัด และรวดเร็ว ที่สำคัญคือเป็นประโยชน์ แต่คนในทีมบางส่วนยังมองว่าความคิดนั้นไม่สมควร หลายๆ ครั้งที่ผมเจอ เรียกได้ว่าทุกครั้งที่ทำงานร่วมกันก็เป็นได้
บางครั้งการหักล้างไอเดียคนอื่น เราควรมีทางออกที่ดีกว่าให้ด้วยใช่ไหมครับ แต่นี่ไม่มี
คนเป็นเกย์ กับที่ยืนในสังคมอันน้อยนิด ในชีวิตการทำงาน
เริ่มเรื่องเลยแล้วกัน ขอเล่าด้วยความอึดอัดใจ+อยากระบาย อย่างมาก!!!
"ผมเป็นเกย์ครับ" ตอนนี้ก็อายุ 27 แล้ว (บุคลิก ออกสาวนิดหน่อย นิดหน่อยจริงๆ คือถ้าไม่พูดนี่ไม่มีใครรู้ แต่ไม่ได้ปิดบัง คนที่ทำงานรู้หมดว่าเราเป็น) ทำงานด้านประชาสัมพันธ์ ในส่วนของออกแบบกราฟฟิกในหน่วยงานราชการแห่งหนึ่งมานานกว่าสามปีแล้วครับ
ลักษณะงานจะเป็นการออกแบบสื่อสิ่งพิมพ์ ตัดต่อวิดีโอ บลาๆๆๆ และงานที่รับผิดชอบหลักจริง ๆ คือออกแบบนิทรรศการ การจัดวาง จัดตกแต่งภาพรวม สวน ต้นไม้ งานครีเอททั้งหมด
ผมเป็นคนมีหัวครีเอทอยู่เสมอ ตั้งแต่ผมเข้ามาทำงานที่นี่ งานทุกอย่างมีภาพลักษณ์ที่ดีขึ้น สวยขึ้น มีมาตรฐานขึ้นมาก ผมจึงเป็นที่ไว้วางใจในการทำงานย้ำว่าการทำงานเพียงด้านเดียว ที่พวกเขาต้องพึ่งพิงผม
เข้าปัญหานะครับ--- ทีมนิทรรศการเนี่ยมีประมาณ 8-10 คน ชายล้วน มีผมประหลาดอยู่คนเดียว เราต้องออกจัดงานตามต่างจังหวัดบ่อยมากครับ ออกทีนึง 13-17 วัน พวกเราจะใช้ชีวิตรวมกัน ไปพักตามรีสอร์ท นอนห้องละสองสามคน
โดยปกติแล้วนิสัยผู้ชายเวลาทำงานนอกสถานที่จะมีเรื่องหลักๆ แค่ไม่กี่เรื่องยกตัวอย่างเช่น กินเหล้า บุหรี่ การพนัน ซึ่งจะปฏิบัติกันเป็นเรื่องปกติ แต่สำหรับผม จะไม่ค่อยทำทุกข้อที่กล่าวมา ผมจะชอบเที่ยวดูเมือง สถานที่ในจังหวัดนั้นมากกว่า และเพราะเหตุนี้เอง การใช้ชีวิตที่ต่างกัน ทำให้เพศอย่างเรา ดูเหมือนจะเข้ากับพวกเค้าไม่ได้เลย
ไม่ใช่ว่าผมไม่ปรับปรุงตัวให้เข้ากับทีมนะครับ ผมพยายามแล้ว บางครั้งผมก็ออกไปนั่งคุยกับพวกเค้าบ้าง ดื่มเหล้าบ้างนาน ๆ ที แต่ในวงมีแต่บุหรี่ซึ่งผมแพ้ควัน ผมจึงอยู่ได้ไม่นาน และ...มันไม่ใช่ตัวของเรา
ในหลายครั้งที่ผมพยายามจะออกไปดื่มกับพวกเค้า สถานการณ์ในวงเหล้าจากตลกขบขันอยู่ก่อนก็กลับจะนิ่งเงียบทันที ลักษณะการคุยจะไม่มีตลก แต่จะซีเรียส เน้นมาทางเรื่องงาน ปัญหาต่างๆ
เมื่อไม่นานมานี้ มีน้องใหม่เข้ามาในทีม อายุน้อยกว่าผมปีนึง การทำงานอาจจะยังไม่คล่องนัก ฝีมือนี่ไม่ต้องพูดถึง ทำงานมานานแต่ไม่มีการพัฒนางานเลย (อย่าหาว่าผมติเค้าเลยนะครับ แต่ฝีมือเด็กฝากคนนี้แย่จริงๆ) หลับในเวลางานบ่อย และเราออกมาทำงานต่างจังหวัดด้วยกัน น้องเค้ากินเหล้า เที่ยวผู้หญิง ทำทุกอย่างที่พี่ๆทีมงานทำกัน น้องคนนั้นจึงเป็นที่รักของทีมไปโดยปริยาย โดยที่ไม่ต้องใช้ฝีมือในการทำงานสักนิด
เห้อ...
มันมีหลายเหตุการณ์ที่ผมสังเกตุ ถ้าให้เล่าคงพิมพ์ไม่ไหว ว่าผู้ชายแท้ กับเกย์ มันมีเส้นบางๆกั้นระหว่างเราจริงๆ ทั้งลักณะการใช้ชีวิต รสนิยม และอื่นๆอีกเยอะมากมาย
ผมไม่รู้ว่าจะแก้ปัญหานี้อย่างไรดี ทุกวันนี้อยากลาออกมาก ทำงานทุกวันเหมือนเป็นส่วนเกินของทีม เค้าพูดอะไรกันเราก็ไม่รู้เรื่อง จะเห็นค่าของเราแค่ตอนที่ต้องคิดงาน ใช้งาน เท่านั้นเอง มันทำให้ผมน้อยใจครับ เราสู้ทำงานทุ่มเทและพิสูจน์ตัวเองมามากมายเท่าไหร่ก็ไม่สามารถซื้อใจทีมงานได้เลย หรือผมจะต้องกินเหล้าเมายา สูบบุหรี่ ไม่ต้องคำนึงถึงฝีมือก็ได้ ถึงจะเป็นที่รักของทุกคน
ขอระบายนะครับ เครียดมากจริงๆ
เพศที่สามจะไม่มีที่ยืนในสังคมจริงๆ หรอครับ
__________ขอเพิ่มเติมในส่วนที่ยังไม่ครบถ้วนนะครับ
ในด้านเพศกับการทำงานเนี่ย สิ่งที่ผมเจอมานอกเหนือจากการใช้ชีวิตร่วมกันคือ
การมีปฏิกริยาขัดแย้งกับความคิดเห็นของเรา ผมเป็นคนยอมรับความคิดเห็นของผู้อื่น และผมเป็นคนชอบแชร์ความคิดเห็นและไอเดียครับ ซึ่งความคิดเห็นนั้นไม้ได้ดูเวอร์วังอลังการแต่อย่างใด
เราคิดในสิ่งที่ทีมเรามีศักยภาพทำได้ ทำแล้วประหยัด และรวดเร็ว ที่สำคัญคือเป็นประโยชน์ แต่คนในทีมบางส่วนยังมองว่าความคิดนั้นไม่สมควร หลายๆ ครั้งที่ผมเจอ เรียกได้ว่าทุกครั้งที่ทำงานร่วมกันก็เป็นได้
บางครั้งการหักล้างไอเดียคนอื่น เราควรมีทางออกที่ดีกว่าให้ด้วยใช่ไหมครับ แต่นี่ไม่มี