สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 1
ภาคสอง
เวลา 14.00 >> หลังจากที่คิดว่า ไม่มีอะไรที่เราทำได้มากกว่านี้ ผมจึงตัดสินใจ ขับรถกลับกรุงเทพ โดยที่ตลอดทาง ผมก็จะบอกให้แฟนผม เคยเช็คใน FindMy Iphone เรื่อยๆ แบบไม่มีหวังเท่าไร ก่อนจะยิงยาวเข้ากรุงเทพ ก็เลยแวะปั้มน้ำมันใหญ่แถวๆ ท่ายาง เพื่อทำธุระ และเตรียมสเบียง
( ใจหนะ อยากจะไปกินอาหารทะเลแถวชะอำ แต่ ผู้โดยสารในรถอยู่ในอารมณ์มาคุ. . . อด )
หลังจากออกจากปั้มได้ ไม่กี่ร้อยเมตร แฟนผมก็บอกว่า อุ้ยๆ มันขึ้น Locating.... ผมขำๆ แล้วบอกว่า มันกำลังเช็คตำแหน่งแหละไม่มีไรหรอก . . . . แต่ มันไม่งั้นหนะสิ ขณะที่ผมกำลังเข้าห้องน้ำในปั้ม ไอ้คนร้าย มันเปิดมือถือแล้วโดนผมล็อคเครื่อง !!!! โดยตำแหน่งที่แสดง มันอยู่ ใกล้ๆ ผมนี่เอง เมื่อ 15 นาที ที่ผ่านมา !!!! ทำให้ผมได้ข้อสรุปว่า
1. คนร้ายไม่ใช่ คณะที่ไปสัมนาด้วยกัน แน่ๆ เพราะทุกคนได้ขึ้นรถบัส กลับเข้ากรุงเทพตั้งแต่ 12.30 แล้ว
2. คนร้ายอยู่รอในรีสอร์ท จนพวกผมขับออกจากรีสอร์ท แล้วจึงนำมือถืออกมา เนื่องจากเวลา และสถานที่ แทบจะเรียกได้ว่า ขับตามหลังกันมาเลย
ผมตัดสินใจ หักรถกลับเข้า เพรชบุรี ทันที พร้อมกับให้แฟน กดนำทางว่าเครื่องอยู่ไหน ผมก็แว้นนนนน เต็มที่ เคยอ่านหลายๆกระทู้ ในการจับโจรด้วย FindMy Iphone ไม่นึกว่า วันนี้จะได้แสดงนำเอง ครับ แต่ ก็ไม่ใช่หนังทุกเรื่องที่ผู้ร้ายโดนจับ เพราะ ด้วยเหตุผลหลายๆ อย่าง
หลังจากกดนำทางผ่าน FindMy Iphone โปรแกรมได้นำทางผมไป คนละทิศกับที่จับสัญญาณได้ แล้วผมเองก็ตั้งหน้าตั้งตาขับอย่างเดียว โดยฝากให้แฟนผมและเพื่อนเค้าช่วยบอกทางผลคือ พลาดครับ ตำแหน่งมันพาผมไปกลางทุ่งนาแห่งหนึ่ง (ห่างจากตำแหน่งจริง 31.5 km. ) ต้องขอขอบคุณ สถานีตำรวจท่าไม้รวก เป็นอย่างมากครับ ที่กรุณาพาพวกผมลงพื้นที่เพื่อสอบถามข้อมูล จากชาวบ้านบริเวณนั้น
จนกระทั้งเย็น พวกผมจึงถอดใจ ขับรถกลับกรุงเทพ
ในคืนนั้นเอง ผมก็ยังไม่หายคาใจ จึงได้ เปิดดู FindMy Iphone ผ่าน PC ตำแหน่งก็ยังที่เดิมครับ แต่ เอะใจตรงทีว่า ทำไม ถนน ตรงจุดที่พบ มันใหญ่ขนาดนั้นวะ ตอนที่ไปถนนมันแค่ 2 เลนสวนกันเล็กๆเองหนิ
เท่านั้นแหละครับ ปัญญาจึงบังเกิด หลายๆ คนอาจจะเคยได้ยินถึงปัญหาของ Map ที่ติดมากับ Iphone ว่าเคยทำคนหลงทางบ้าง บลาๆๆๆ . . . ครับ ผมคือ 1 ในนั้นละครับ ( อ้างอิงครับ http://www.techxcite.com/topic/11745.html )
โดยผมเอา ipad mini มาเปิด ก็เกิดปัญหาเดียวกันครับ พาไปคนละที่ คนละทางเลย . . . กลับมาต่อ หลังจากผมเทียบตำแหน่งของ FindMy Iphone PC แล้ว จึงได้พบว่า คนร้ายเปิดเครื่องที่ โลตัสท่ายาง เยื้องๆ กับป้ัมน้ำมันที่ผมแวะก่อนกลับกรุงเทพเลย . . . ฮืมมมมมม เอาไงดีๆๆๆ เอาวะ
เช้าวันอาทิตย์ ไปเพรชบุรีอีกรอบ 5555555 หลังจากเทียบตำแหน่ง จากจุดที่แสดง กับตำแหน่งของโลตัส พบว่า . . . คนร้ายเปิดเครื่องใน Zone ร้านขายมือถือ นั่นเอง เอาวะ ลุย !!!
บริเวณที่เทียบตำแหน่ง เป็นบริเวณที่ร้านมือถือ ได้ทำการเช่าพื้นที่ของโลตัส เพื่อเปิดตู้ขายมือถือ หลังจากดูลาดเลาแล้ว อย่างแรกไปติดต่อผู้จัดการโลตัสท่ายางก่อน ซึ่งทางผู้จัดการ ก็ให้ความร่วมมืออย่างดี ในการดูกล้องวงจรปิด แต่ สุดท้าย เราก็ไม่พบคนที่ต้องสงสัย เลย
ต่อมา พวกผมจึงตัดสินใจเข้าไปสุ่มคุยกับ ตู้ขายมือถือ ซึ่งมีอยู่ประมาณ 10 กว่าร้าน เป็นโซนลักษณะตัว U ซึ่งพี่ๆแถวนั้นก็ให้ความร่วมมืออย่างนี้ ช่วยถามร้านใกล้ๆ ให้
และ. . . ทันใดนั้นเอง ก็มีแม่ค้าร้านหนึ่งได้ บอกว่า เมื่อวาน มีคนเอา Iphone5s สีทอง มาให้ที่ร้านช่วยปลดล็อคให้ !!!!!!! โดย ทางแม่ค้าให้ข้อมูลว่า คนร้ายได้เอามือถือมาให้ทางร้าน โดยบอกว่าโดนล็อค ให้ช่วยปลดล็อคให้ที เมื่อแม่ค้าเปิดเครื่อง ก็พบว่า ติด Lock Password icloud และมีข้อความจากผม ว่าเครื่องนี้ถูกขโมยมา ทางแม่ค้าจึงได้บอกไปว่า
" พี่เครื่องขโมยมาหรือเปล่าเนี่ย โดนล็อคอย่างนี้ ปลดไม่ได้หรอกนะ reset ก็ยังติดอยู่ดี ทำได้แค่ทับกระดาษ ซึ่งคนร้ายก็ยังใจเย็น หยิบโทรศัพท์อีกเครื่อง โทรไปรายงานผล โดยพูดกับปลายสายว่า "พี่ ปลดล็อคไม่ได้หวะ!!!" "
ครับ คนร้าย ให้บุคคลที่ 3 เป็นผู้นำเครื่องมาปล่อย ขอบคุณคุณลุงที่อยู่ร้านใกล้ๆ ที่ให้เราดูกล้องวงจรปิด
( ในส่วนขอข้อมูลผู้ร้ายขอปิดไว้ก่อนนะครับ )
และนั่นทำให้คนร้าย ปิดเครื่องแล้ว เผ่นออกมาจากห้าง . . . .
หลายๆคน น่าจะสงสัยว่า แล้วรีสอร์ททำไรบ้าง. . . ครับ เท่าที่ทราบ ยังไม่ดำเนินการใดๆ รวมถึง รวมถึงเรื่องความรับผิดชอบของรีสอร์ทต่อเรื่องที่เกิดขึ้น ก็ยังไม่มีหลุดออกมาจากทางรีสอร์ทเลย
ห้องพัก ที่ผู้เข้าพักได้ทำการล็อคประตูแน่นหนาแล้ว กลับมีช่องให้คนร้ายเข้ามาประชิดตัว ขโมยของได้ ความปลอดภัยอยู่ตรงไหน ??? ( ผมบอกได้เลยว่า ห้องพักไม่ใช่ถูกๆครับ 4,000-5,000/คืน ครับ )
หากคืนนั้น แฟนผมนอนคนเดียวจะเกิดอะไรขึ้น ดีแค่ไหนแล้วที่มันเอาไปแต่มือถือ ดีแค่ไหนแล้วที่ไม่มีใครตื่นขึ้นมาในตอนที่คนร้ายเข้ามา หากเกิดเรื่องนี้กับ ผู้หญิงคนอื่นๆ เค้าจะโชคดีเสียแค่ iphone ไปไหม. . .
ทางหน่วยงานของแฟนผม ได้มีการสอบถามถึงความรับผิดชอบที่เกิดขึ้น ซึ่งทางรีสอร์ทก็พยายามบ่ายเบี่ยง ว่ากำลังตรวจสอบ ตรวจสอบอะไรกัน มาถามข้อมูลที่ผมดิ้นรนไป สืบหาด้วยตัวเองทั้งนั้น
จนถึงตอนนี้ ผมกำลังหาข้อมูล ว่า สามารถดำเนินการณ์อะไรกับทางรีสอร์ทได้บ้าง เพื่อให้ทางรีสอร์ทแสดงความรับผิดชอบกับเหตุการณ์ดังกล่าว
หากใครพอมีประสบการณ์ รบกวนช่วยชี้แนะด้วยครับ
สุดท้ายนี้ ขอขอบคุณ หลายๆ คนที่ให้ความช่วยเหลือ ไม่ว่าจะเป็น สถานีตำรวจท่าไม้รวก ที่ให้บริการอย่างเต็มที่ , ผู้จัดการโลตัสท่ายาง ที่ให้ความร่วมมือในการขอดูกล้องวงจรปิด , พ่อค้าแม่ค้า ร้านมือถือในโลตัสท่ายางที่ให้ข้อมูลอย่างดี
และ ท้ายที่สุด ผมอยากได้ความรับผิดชอบจากทาง รีสอร์ท ครับ
ปล. หากทางรีสอร์ทยังไม่แสดงความรับผิดชอบ ผมจะกลับมาจัดข้อมูลเต็มๆ ให้ครับ เอาให้เละกันไปข้างหนึ่ง เพราะผมก็ไม่ได้ใจเย็นขนาดนั้นครับ
เวลา 14.00 >> หลังจากที่คิดว่า ไม่มีอะไรที่เราทำได้มากกว่านี้ ผมจึงตัดสินใจ ขับรถกลับกรุงเทพ โดยที่ตลอดทาง ผมก็จะบอกให้แฟนผม เคยเช็คใน FindMy Iphone เรื่อยๆ แบบไม่มีหวังเท่าไร ก่อนจะยิงยาวเข้ากรุงเทพ ก็เลยแวะปั้มน้ำมันใหญ่แถวๆ ท่ายาง เพื่อทำธุระ และเตรียมสเบียง
( ใจหนะ อยากจะไปกินอาหารทะเลแถวชะอำ แต่ ผู้โดยสารในรถอยู่ในอารมณ์มาคุ. . . อด )
หลังจากออกจากปั้มได้ ไม่กี่ร้อยเมตร แฟนผมก็บอกว่า อุ้ยๆ มันขึ้น Locating.... ผมขำๆ แล้วบอกว่า มันกำลังเช็คตำแหน่งแหละไม่มีไรหรอก . . . . แต่ มันไม่งั้นหนะสิ ขณะที่ผมกำลังเข้าห้องน้ำในปั้ม ไอ้คนร้าย มันเปิดมือถือแล้วโดนผมล็อคเครื่อง !!!! โดยตำแหน่งที่แสดง มันอยู่ ใกล้ๆ ผมนี่เอง เมื่อ 15 นาที ที่ผ่านมา !!!! ทำให้ผมได้ข้อสรุปว่า
1. คนร้ายไม่ใช่ คณะที่ไปสัมนาด้วยกัน แน่ๆ เพราะทุกคนได้ขึ้นรถบัส กลับเข้ากรุงเทพตั้งแต่ 12.30 แล้ว
2. คนร้ายอยู่รอในรีสอร์ท จนพวกผมขับออกจากรีสอร์ท แล้วจึงนำมือถืออกมา เนื่องจากเวลา และสถานที่ แทบจะเรียกได้ว่า ขับตามหลังกันมาเลย
ผมตัดสินใจ หักรถกลับเข้า เพรชบุรี ทันที พร้อมกับให้แฟน กดนำทางว่าเครื่องอยู่ไหน ผมก็แว้นนนนน เต็มที่ เคยอ่านหลายๆกระทู้ ในการจับโจรด้วย FindMy Iphone ไม่นึกว่า วันนี้จะได้แสดงนำเอง ครับ แต่ ก็ไม่ใช่หนังทุกเรื่องที่ผู้ร้ายโดนจับ เพราะ ด้วยเหตุผลหลายๆ อย่าง
หลังจากกดนำทางผ่าน FindMy Iphone โปรแกรมได้นำทางผมไป คนละทิศกับที่จับสัญญาณได้ แล้วผมเองก็ตั้งหน้าตั้งตาขับอย่างเดียว โดยฝากให้แฟนผมและเพื่อนเค้าช่วยบอกทางผลคือ พลาดครับ ตำแหน่งมันพาผมไปกลางทุ่งนาแห่งหนึ่ง (ห่างจากตำแหน่งจริง 31.5 km. ) ต้องขอขอบคุณ สถานีตำรวจท่าไม้รวก เป็นอย่างมากครับ ที่กรุณาพาพวกผมลงพื้นที่เพื่อสอบถามข้อมูล จากชาวบ้านบริเวณนั้น
จนกระทั้งเย็น พวกผมจึงถอดใจ ขับรถกลับกรุงเทพ
ในคืนนั้นเอง ผมก็ยังไม่หายคาใจ จึงได้ เปิดดู FindMy Iphone ผ่าน PC ตำแหน่งก็ยังที่เดิมครับ แต่ เอะใจตรงทีว่า ทำไม ถนน ตรงจุดที่พบ มันใหญ่ขนาดนั้นวะ ตอนที่ไปถนนมันแค่ 2 เลนสวนกันเล็กๆเองหนิ
เท่านั้นแหละครับ ปัญญาจึงบังเกิด หลายๆ คนอาจจะเคยได้ยินถึงปัญหาของ Map ที่ติดมากับ Iphone ว่าเคยทำคนหลงทางบ้าง บลาๆๆๆ . . . ครับ ผมคือ 1 ในนั้นละครับ ( อ้างอิงครับ http://www.techxcite.com/topic/11745.html )
โดยผมเอา ipad mini มาเปิด ก็เกิดปัญหาเดียวกันครับ พาไปคนละที่ คนละทางเลย . . . กลับมาต่อ หลังจากผมเทียบตำแหน่งของ FindMy Iphone PC แล้ว จึงได้พบว่า คนร้ายเปิดเครื่องที่ โลตัสท่ายาง เยื้องๆ กับป้ัมน้ำมันที่ผมแวะก่อนกลับกรุงเทพเลย . . . ฮืมมมมมม เอาไงดีๆๆๆ เอาวะ
เช้าวันอาทิตย์ ไปเพรชบุรีอีกรอบ 5555555 หลังจากเทียบตำแหน่ง จากจุดที่แสดง กับตำแหน่งของโลตัส พบว่า . . . คนร้ายเปิดเครื่องใน Zone ร้านขายมือถือ นั่นเอง เอาวะ ลุย !!!
บริเวณที่เทียบตำแหน่ง เป็นบริเวณที่ร้านมือถือ ได้ทำการเช่าพื้นที่ของโลตัส เพื่อเปิดตู้ขายมือถือ หลังจากดูลาดเลาแล้ว อย่างแรกไปติดต่อผู้จัดการโลตัสท่ายางก่อน ซึ่งทางผู้จัดการ ก็ให้ความร่วมมืออย่างดี ในการดูกล้องวงจรปิด แต่ สุดท้าย เราก็ไม่พบคนที่ต้องสงสัย เลย
ต่อมา พวกผมจึงตัดสินใจเข้าไปสุ่มคุยกับ ตู้ขายมือถือ ซึ่งมีอยู่ประมาณ 10 กว่าร้าน เป็นโซนลักษณะตัว U ซึ่งพี่ๆแถวนั้นก็ให้ความร่วมมืออย่างนี้ ช่วยถามร้านใกล้ๆ ให้
และ. . . ทันใดนั้นเอง ก็มีแม่ค้าร้านหนึ่งได้ บอกว่า เมื่อวาน มีคนเอา Iphone5s สีทอง มาให้ที่ร้านช่วยปลดล็อคให้ !!!!!!! โดย ทางแม่ค้าให้ข้อมูลว่า คนร้ายได้เอามือถือมาให้ทางร้าน โดยบอกว่าโดนล็อค ให้ช่วยปลดล็อคให้ที เมื่อแม่ค้าเปิดเครื่อง ก็พบว่า ติด Lock Password icloud และมีข้อความจากผม ว่าเครื่องนี้ถูกขโมยมา ทางแม่ค้าจึงได้บอกไปว่า
" พี่เครื่องขโมยมาหรือเปล่าเนี่ย โดนล็อคอย่างนี้ ปลดไม่ได้หรอกนะ reset ก็ยังติดอยู่ดี ทำได้แค่ทับกระดาษ ซึ่งคนร้ายก็ยังใจเย็น หยิบโทรศัพท์อีกเครื่อง โทรไปรายงานผล โดยพูดกับปลายสายว่า "พี่ ปลดล็อคไม่ได้หวะ!!!" "
ครับ คนร้าย ให้บุคคลที่ 3 เป็นผู้นำเครื่องมาปล่อย ขอบคุณคุณลุงที่อยู่ร้านใกล้ๆ ที่ให้เราดูกล้องวงจรปิด
( ในส่วนขอข้อมูลผู้ร้ายขอปิดไว้ก่อนนะครับ )
และนั่นทำให้คนร้าย ปิดเครื่องแล้ว เผ่นออกมาจากห้าง . . . .
หลายๆคน น่าจะสงสัยว่า แล้วรีสอร์ททำไรบ้าง. . . ครับ เท่าที่ทราบ ยังไม่ดำเนินการใดๆ รวมถึง รวมถึงเรื่องความรับผิดชอบของรีสอร์ทต่อเรื่องที่เกิดขึ้น ก็ยังไม่มีหลุดออกมาจากทางรีสอร์ทเลย
ห้องพัก ที่ผู้เข้าพักได้ทำการล็อคประตูแน่นหนาแล้ว กลับมีช่องให้คนร้ายเข้ามาประชิดตัว ขโมยของได้ ความปลอดภัยอยู่ตรงไหน ??? ( ผมบอกได้เลยว่า ห้องพักไม่ใช่ถูกๆครับ 4,000-5,000/คืน ครับ )
หากคืนนั้น แฟนผมนอนคนเดียวจะเกิดอะไรขึ้น ดีแค่ไหนแล้วที่มันเอาไปแต่มือถือ ดีแค่ไหนแล้วที่ไม่มีใครตื่นขึ้นมาในตอนที่คนร้ายเข้ามา หากเกิดเรื่องนี้กับ ผู้หญิงคนอื่นๆ เค้าจะโชคดีเสียแค่ iphone ไปไหม. . .
ทางหน่วยงานของแฟนผม ได้มีการสอบถามถึงความรับผิดชอบที่เกิดขึ้น ซึ่งทางรีสอร์ทก็พยายามบ่ายเบี่ยง ว่ากำลังตรวจสอบ ตรวจสอบอะไรกัน มาถามข้อมูลที่ผมดิ้นรนไป สืบหาด้วยตัวเองทั้งนั้น
จนถึงตอนนี้ ผมกำลังหาข้อมูล ว่า สามารถดำเนินการณ์อะไรกับทางรีสอร์ทได้บ้าง เพื่อให้ทางรีสอร์ทแสดงความรับผิดชอบกับเหตุการณ์ดังกล่าว
หากใครพอมีประสบการณ์ รบกวนช่วยชี้แนะด้วยครับ
สุดท้ายนี้ ขอขอบคุณ หลายๆ คนที่ให้ความช่วยเหลือ ไม่ว่าจะเป็น สถานีตำรวจท่าไม้รวก ที่ให้บริการอย่างเต็มที่ , ผู้จัดการโลตัสท่ายาง ที่ให้ความร่วมมือในการขอดูกล้องวงจรปิด , พ่อค้าแม่ค้า ร้านมือถือในโลตัสท่ายางที่ให้ข้อมูลอย่างดี
และ ท้ายที่สุด ผมอยากได้ความรับผิดชอบจากทาง รีสอร์ท ครับ
ปล. หากทางรีสอร์ทยังไม่แสดงความรับผิดชอบ ผมจะกลับมาจัดข้อมูลเต็มๆ ให้ครับ เอาให้เละกันไปข้างหนึ่ง เพราะผมก็ไม่ได้ใจเย็นขนาดนั้นครับ
แสดงความคิดเห็น
ปรึกษาและเตือนภัย>>โดนขโมยของในรีสอร์ท>>ความรับผิดชอบของรีสอร์ท
ของที่หาย Iphone 5s
หมายเหตุ ผมเป็นแฟนของผู้เสียหายครับ
-------------------------------------------
เรื่องมีอยู่ว่า แฟนผมได้ไปสัมนากับที่ทำงานกว่า 70 คน ที่รีสอร์ทแห่งหนึ่งในจังหวัดเพรชบุรี ในวันที่ 22-23 สิงหาคม ที่ผ่านมา
โดยได้ที่พัก เป็นห้องชั้นเดียวเข้าพักห้องละสองคน โดยในคืนนั้น แฟนผมได้โทรหาผมครั้งสุดท้ายตอน 00.45 น. ของวันที่ 23
ก่อนที่จะเสียบสายชาร์ตข้างหัวนอนแล้วหลับไป(พี่ที่ทำงานนอนเตียงข้างๆ เป็นเตียงเดี่ยวสองเตียงแยกกัน)
โดยห้องพักได้ทำการล็อคประตูและคล้องโซ่ไว้ เรียบร้อย
6.30 น. >> มือถือของพี่ที่เข้าพักด้วยได้ดังขึ้น เนื่องจากตั้งปลุกไว้ เพื่อทำกิจกรรมในตอนเช้า แต่ มือถือของแฟนผม. . .เงียบ
หลังจากพยายามโทรเข้า เนื่องจากเข้าใจว่า เครื่องอาจจะหล่นข้างที่นอน หรือ ที่อื่นๆ ในห้องแล้ว. . . ในครั้งแรกโทรติดแต่ไม่มีคนรับ
(ปกติแฟนผมมักจะปิดเสียงมือถือไว้ ตั้งแต่สั่น และไม่ตั้ง password เครื่อง ) เมื่อทำการโทรครั้งที่สอง . . . เครื่องถูกปิด
ทันทีที่รู้ว่าเครื่องถูกปิด . . . งานเข้าครับ หายแน่นอนละ แฟนผมได้ยืมมือถือเพื่อโทรหาผม ซึ่ง หลับอยู่กรุงเทพอย่างสงบ
เนื่องจากผมเคยลง FindMy Iphone ไว้ในเครื่องของเค้า ผมจึงได้ทำการเช็คตำแหน่ง ซึ่งก็ Offline ไปแล้ว ใจก็คิดว่า ไปสวรรค์แล้ว Iphone5s
( เดือนกันยาจะเป็นการผ่านงวดสุดท้ายพอดี และ Iphone6 จะเปิดตัวพอดี เป็นข้ออ้างอันชอบธรรมมากๆ ในการสอยเครื่องใหม่ 555 )
ประกอบด้วยแฟนผม ไม่ยอมตั้ง password เครื่องไว้ ก็เกรงว่า หากคนที่เอาไป พอจะเคยเล่น iphone ก็น่าจะพอทราบถึงการใช้งาน
ก็น่าโดนปิด service ไปแล้ว . . . แต่ก็วัดใจ ผมได้ส่งรหัสเพื่อทำการ Lock เครื่องไป โดยหวังว่า คนร้ายจะยังไม่ปิด service แล้วเผลอเปิดเครื่อง เครื่องก็จะถูกล็อค และ ก็จะกลายเป็นที่ทับกระดาษ โดยสมบูรณ์ หรือ ขายซาก หลังจากหายเมาขี้ตา ก็ขับรถจากกรุงเทพไปเพรชบุรีทันที
12.00 น. >> ผมมาถึงรีสอร์ท โดยแฟนผมได้แจ้งเจ้าหน้าทีรีสอร์ท และ แจ้งความแล้ว พอไปถึงรีสอร์ท ผมก็ไปเช็คที่ห้องพัก ว่าเกิดอะไรขึ้น โดยประตูหน้าต่าง ได้ทำการล็อคอย่างแน่นหนา (แฟนผมเค้าเช็คประตูตั้งแต่ก่อนจะนอนแล้ว)
และด้วยความซน แฟนผมก็แอบไปปีนตรงอ่างล้างหน้าเพื่อเช็คแผ่นฝ้าในห้องน้ำก่อนแล้ว ว่ามีทางลักลอบเข้ามาได้หรือไม . . . . ไม่มี
จนสุดท้าย . . . หลายๆท่านอาจจะคุ้นกับกระจกฝ้าในห้องน้ำ ที่มีไว้ เพื่อให้แสงเข้ามาได้บ้าง พองาม เซ็นเซอร์คนที่กำลังอาบน้ำพอไม่ให้อุจาดตา
. . . มันดันทำเป็นบานเลื่อนให้เปิดได้ โดย 1 ใน 2 บาน ไม่ได้ล็อค
หากใครอ่านถึงตอนนี้ อาจจะคิดว่า เฮ้ย ทำไมคนที่เข้าพักสะเพร่าอย่างนี้ ทำไมไม่เช็คให้ดีก่อน
ครับ กระจกฝ้า ถูกติดตั้งอยู่เหนือบริเวณด้านบนของฝักบัว และด้วยความสูงของผม (189 cm.) เอื้อมสุดแขน . . . ถึงตัวล็อคพอดี
ดังนั้น ผมบอกได้เลยว่า ถ้าผู้หญิง หรือ ผู้ชายคนไหน ไม่สูงประมาณผม คุณปิดไม่ถึงหรอก
นอกเสียจาก คุณจะลากเก้าอี้ หรือ โต๊ะจากในห้องนอน มาในห้องน้ำ . . . แล้ว หากคนจะปีนเข้ามาละ ไม่ลำบากหรอ
ไม่ลำบากเลยครับ เนื่องจากกระจกฝ้า เป็นบานเลื่อน ที่ขนาดใหญ่พอที่ผม จะมุดเข้าได้สบายๆ (น่าจะประมาณ 100*80 cm) เพราะผมได้ไปลองมุดแล้ว
และ ไม่มีเหล็กดัด เพื่อครอบบานหน้าต่างดังกล่าว . . . .
และที่สำคัญ ที่พัก ได้วางตำหน่งห้องพักเป็น ขั้นบันได ทำให้ด้านหลังห้องพัก จะเป็นเนินดิน ให้ยืนได้สบายๆ
อีกทั้ง หากยังสะดวกไม่พอ บริเวณเนินดินหลังห้องที่ว่านี้ ยังมีการ ทำโครงปูน เพื่อกันดินทรุด
ซึ่ง ผมยืนเฉยๆ ก็สามาถเปิดหน้าต่างที่ว่า แล้วเข้าออกได้อย่างสบาย ไม่ต้องปีนเลย. . .
ถึงแม้ตอนนี้ จะยังสรุปไม่ได้ 100% ว่าคนร้ายเข้ามาทางนี้ (เพราะยังจับตัวไม่ได้) แต่จากการพยายาม หาทางเข้าออกห้องจนทั่วแล้ว เจอทางนี้ทางเดียวจริงๆ ( ห้องไม่ได้มีการเปลี้ยนแปลงใดๆ ตั้งแต่ตอนเช้าหลังทราบว่าเครื่องหาย เพราะผมกำชับไว้ว่า ไม่ว่าอย่างไงก็ตาม ให้มีคนเฝ้าในห้องไว้ เผื่อๆๆ ของมันยังอยู่ในห้อง )
โอเค จนมาถึงตอนนี้ สรุปได้เบื้องต้นว่า มีขโมย ปีนเข้าห้องที่แฟนผม และเพื่อน ได้นอนอยู่ในห้อง แล้วทำการหยิบ iphone5s สีทองออกไป( ในโชคร้าย ก็มีโชคดีนิดหน่อย Iphone5s วางข้างหมอน โดนสอยไปแต่ แหวนหมั้น นาฬิกา สร้อยข้อมือ วางอยู่ข้างหัวเตียง . . . อยู่ครบ เออนะ ) โดยส่วนตัว ผมไม่ได้ตัดข้อสงสัย ที่ว่า คนใน หรือ คนนอกเป็นคนขโมย เพราะยังไม่มีข้อมูลเพิ่มเติม
12.30 >> คณะที่ทำงานของแฟนผม นั่งรถบัส กลับ กรุงเทพ เหลือเพียงผม แฟน และเพื่อนของแฟนอีกสองคนที่อยู่เป็นเพื่อน เพื่อไปให้ปากคำตำรวจ
หมายเหตุ : ด้วยความคิดแง่ร้ายของผมเอง คุณตำรวจค่อนข้างจะ แก้ตัวให้ทางรีสอร์ทว่าทำการตรวจสอบแล้วยืนยันว่า ทางรีสอร์ทไม่มีคนนอกเข้ามาในบริเวณดังกล่าว เพราะตัวพนักงานในรีสอร์ท จะถูกกันไม่ให้เข้าใกล้บริเวณที่พัก ในเวลาค่ำคืน และตรงทางเข้าออกมียาม และกล้องวงจรปิด เป็นไปไม่ได้ที่จะมีใคร เข้ามาได้ สงสัยคนใน คนไหนหรือเปล่า มีใครมีพฤติกรรมบลาๆๆๆ หรือเปล่า . . . ครับ แค่คิดไปเอง ถ้าไม่ได้ไปอ่านข้อข้อความที่ติดหลังประตูห้องพัก ที่เขียนไว้ว่า
"โรงแรมขอสงวนสิทธิ์ในความรับผิดชอบ หากความสูญหายหรือเสียหายดังกล่าวเกิดขึ้นเพราะเหตุดังต่อไปนี้
1.เหตุสุดวิสัย , 2.เหตุแห่งสภาพของทรัพย์สินนั้น , 3. เป็นความผิดของผู้เข้าพัก บริวาร หรือบุคคลที่เข้าพักให้การต้อนรับ"
ไอ้ข้อ 3 เนี่ยแหละ ทำให้ผมรู้สึกขัดๆ ใจ แต่ก็โอเค ยังไม่มีข้อมูลไรเพิ่ม ปล่อยไป
จบภาคแรก