"ว่าด้วยระบบการทำงานภาพยนตร์แบบThai Style"

-ยอมรับว่าหนังหลายเรื่องมีการเตรียมการมาอย่างดี มีการใส่ใจทุกรายละเอียด ไม่ว่าจะเป็นทั้งผกก., Dop., Art Di., เสื้อผ้าหน้าผม, นักแสดง และหลายตำแหน่งมากมาย

-แต่มันก็มีหนังหลายเรื่องที่แม่มFail ทำให้คนดูบอกไม่อยากดูหนังไทย หนังไทยห่วย ซึ่งสิ่งที่ต้องโทษก็คือระบบการทำงาน การคิดแบบThai Style

1.เริ่มจากการทำงานกับเพื่อนๆ พี่ๆที่รู้จักคุ้นเคยกันดี ซึ่งเป็นข้อดีของการทำงาน แต่ข้อเสียของมันคือพวกแม่มไม่กล้าด่ากัน(เฉพาะเรื่องงาน) รุ่นพี่ทำผิด รุ่นน้องก็ว่าไม่ได้ จะกลายเป็นปีนเกลียว เช่น ผช.ผกก.1ทำงานผิดพลาดทำให้กองช้าหรือมีปัญหา จัดการกองไม่กล้าด่าเพราะเป็นรุ่นพี่ แต่ถ้าผช.ผกก.2เป็นรุ่นน้อง โดนใส่ไม่ยั้ง(ประสบการณ์ตรง)

2.การคิดว่าตัวเองติส อาร์ตของผู้กำกับ ผู้กำกับหลายคนเชื่อว่ากูนี่ติสกูนี่อาร์ต หลอกตัวเองไปวัน มีผกก.จำนวนหนึงที่เคยร่วมทำงานด้วย เปลี่ยนรายละเอียดนู่นนี่นั่นตลอดเวลา แล้วเชื่อว่ากูติสหนังกูดี หนังขายไม่ได้ก็เพราะคนดูโง่ "เขาไม่เข้าใจไม่เป็นไรหรอก" เอิ่ม...คือถ้าทำหนังให้คนดูมีอารมณ์ร่วมไม่ได้จงสรุปซะว่าหนังล้มเหลว

3.ครั้งแรกของการประชุมผกก.จะให้ทีมอ่านบทและมักถามว่า"บทเป็นไงมั่ง" ทุกคนก็จะตอบว่า"สนุกครับ, น่ากลัวดี, ตื่นเต้นดี, ตลกดี," แต่ในใจกลับคิดต่าง ไม่มีใครกล้าที่จะบอกจุดด้อยของหนังเรื่องที่จะทำอยู่เลย ทุกคนก็ต่างก็ก้มกน้าทำหน้าที่ของตัวเองไปตามที่ผกก.สั่งการ เพราะคิดว่าเป็นหนังของผกก.เท่านั้น ลองเป็นเด็กที่จบใหม่ที่บ้าคลั่งการดูหนัง เรียนสายวิจารณ์หนังมาวิจารณ์ หรือความจริงมีความรู้มากกว่าผกก.เอง กูว่าคงโดนด่าว่าโง่

4.นายทุนก็เป็นปัญหา คือนายทุนอยากได้หนังที่ทำเงินได้มากๆอย่าง เรื่องพี่มาก(GTH), แฟนฉัน(GTH) แต่แม่งกลับให้เงินทำหนังมาน้อยเกินไปทำให้ผกก.และทีมงานที่เวลาและปัจจัยหลายๆอย่างที่จำกัด แต่กูเป็นนายทุนก็ก็ไม่กล้าลงทุนกับ(ผกก.)หรอก ชื่อก็ไม่มี ทำบทหลวม เขียนๆลวกไปขายงานดีๆ(ปากดี)ขอให้ได้เงินมาทำหนังก็พอแล้ว เดี๋ยวทีเหลือทำเท่าที่ทำได้ แม่มก็คิดแบบนี้กัน

4.2นายทุนโง่ๆที่เป็นค่ายหนังเล็ก หวังกำไรจากการฉายหนัง ให้ทุนน้อยๆ ผกก.โง่ๆ Productionอ่อน แต่หวังกำไรเป็นกอบเก็นกำ เพราะคิดว่าแค่มีดารามีชื่อตั้งกล้องถ่ายๆไปคนดูคงจะเข้ามาดูกันล้นหลาม

5.เงินมันน้อยไปกับการลงแรง ใครจะกล้านั่งเขียนบท1ปีเต็ไม่ทำอะไรนอกจากReseachกับเขียนบทไปวันๆ แล้วได้เงินมาไม่พอยาใส้ไปทั้งปี ก็เลยต้องเขียนบทยังไงก็ได้ให้เร็วที่สุด

5.2 เงินน้อยนักแสดงที่ไหนจะกล้าลงทุนตัวเอง เราก็จะเห็นนักแสดงชายเกือบทุกคนไว้ผมรองทรงเหมือนๆกัน ต่างกันแค่ทางหวีผม บุคลิกแม่มเหมือนเรื่องนี้ เรื่องนู้น

6.นักแสดงมองเห็นตัวเองเป็นดาราราคแพง ตกลงรับงาน แต่ไม่มีเวลาทำงาน ได้เงินเยอะกว่าคนลงแรงมากๆ แต่การใส่ใจ(ดาราบางคน)กลับรีบมารีบกลับ ร้อนบ่น เย็นบ่น รีบอีเว้น ตัดผมไม่ได้ติดเรื่องอื่น แต่เรากลับชื่นชมนักแสดงต่างประเทศที่ยอมผอมบักโกรกอย่างMatthew McConaughey (dallas buyers club)ซึ่งต่างกับตอนเเสดงเรื่องMagic Mike หรืออย่างChris Pratt รับบทStar Lord ในGuardians of the Galaxy ที่สาวๆหลงรัก ใครจะรู้บ้างว่าเขาเคยโคตรอ้วน แต่ยอมฟิตหุ่นเพื่อมาแคสหนังเรื่องนี้

6.2กูยังไม่ค่อยเห็นดารามาแคสหนังเลย อยากเห็นณเดช, เคน ภูมิ, มาริโอ้ มาแคสเพื่อเล่นบทนี้จากหนังเรื่องนี้เลย แต่ถ้าเป็นหนังต่างประเทศเชื่อเหอะเป็นใครก็ยอมไปแคสแม้ไม่รู้ว่าจะได้งานรึเปล่า

ในใจยังอีกยาวแค่นี้ก่อนแระกันก็เบื่อและเก็บกด
ปล.ตอนเรียนอาจารย์ที่รักจะเข้มงวดไปไหน(เรื่องดี) เพราะออกมาทำงานจริงๆแม่มหลวมกว่าตอนเรียนเยอะเลย ต่างกันแค่มีคนด่า
แก้ไขข้อความเมื่อ
สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 3
ผมก็ไม่ค่อยเข้าใจส่วนของคนทำหนังนะ แต่ส่วนของคนดูผมสงสัยว่า ผกก แต่ละคนคงเป็นคนที่ดูหนังมามาก มากกว่าคนทั่วไปที่มีอาชีพอื่นแน่ๆ แต่ทำไมเวลาดูหนังที่ตัวเองสร้างเหมือนไม่รู้ว่าหนังตัวเองมันห่วย มีช่องโหว่ ดูไม่สนุก  หนังไทยหลายเรื่องมากใครก็บอกเป็นเสียงเดียวกันว่าแย่ แต่ทำไมคนสร้างก็ยังดันออกมาฉาย ไม่แก้ไข ไม่ปรับปรุง ปิดช่องโหว่ของบทต่างๆ ทั้งๆมีมันโคตรจะเห็นชัด ไม่ต้องตีความใดๆเลย  เช่น ผสมเลือดดันเป็นสีน้ำหวาน ซึ่งมันควรจะเป็แดงเข้มหนืดๆ เอามอเตอร์ไซค์ขี่ขึ้นไปบนตึกเพื่อไล่ล่าพระเอก คิดไปได้ยังไง เป็นผกกจะทำไหม ถ้าจะตามกระทืบใครสักคนเนี่ย แน่นอนว่ามันคือหนัง สร้างเพื่อบรรเทิง แต่มันก็ควรจะตั้งอยู่บนพื้นฐานความเป็นจริงในส่วนของพฤติกรรมมนุษย์ นี่ขนาดหมดยุคตลกทำหนังตีหัวเข้าบ้านแล้ว แต่ก็ยังมีหนังที่ทำแล้วเหมือนไม่คิดออกมาเรื่อยๆ ไม่เข้าใจครับ
ความคิดเห็นที่ 10
ดารา

บ้านเรา - ทีมงานไปขอเขามาเล่น
บ้านเขา - เขามาแคสกับทีมงาน

ปล.  อยากเห็นพระเอกบ้านเราที่ไม่หล่อแต่แสดงเก่งบ้าง
ความคิดเห็นที่ 25
ถ้าถามแบบ คห24 บนโลกนี้ไม่ต้องมีเวปบอร์ดหรอกครับ
ความคิดเห็นที่ 6
ผมเป็นอีกคนหนึ่งที่จะไม่ดูหนังไทยในโรงภาพยนต์เด็ดขาด เพราะคิดว่ามันไม่คุ้มค่าที่จะเสียเงินดูขนาดนั้น บางเรื่องผมว่าเอาไปทำเป็นละครยังจะดีกว่า
แต่ผมก็ยังรอ รอ และ รอ ว่าสักวันจะมีหนังไทยคุณภาพจริงๆออกมาให้ชม

อยากให้ ผกก. ไทยไม่ยึดติดกับกฏเกณฑ์เดิมๆ แบบที่ทำกันมาช้านาน น่าจะมองหาจุดที่แปลกใหม่และพัฒนาให้ได้มากที่สุด เพราะปัจจุบันนี้ หนังไทยส่วนมากจะเป็น หนังรัก หนังตลก หนังผี พอไปดูแล้วก็เดาทางได้หมด
เป็นกำลังใจให้หนังไทยครับ ยังคงนั่งรอนอนรอหนังไทยคุณภาพดี
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่