ช่วยหาเหตุผลที่ควรไป Work and Travel

สวัสดีค่ะ จขกท.ตอนนี้เรียนอยู่ปี1 เรื่องมันมีอยู่ว่า จขกท.อยากจะไป WAT เลยจัดการหาข้อมูล และสัมภาษณ์เรียบร้อยแล้วกับเอเจนซี่หนึ่ง ทีนี้ทางเอเจนซี่ได้เสนอโปรโมชั่นมาว่าถ้าโอนภายในวันศุกร์นี้จะให้ส่วนลดพิเศษ ซึ่งจขกท.ก็สนใจเพราะลดไปประมาณ 5000 บาท (ก็ถือว่าเยอะเพราะจขกท.กะจะออกค่าใช้จ่ายครั้งนี้เองทั้งหมด) แต่ติดตรงที่จขกท.มีเงินเก็บอยู่แค่ 50000 บาท ซึ่งก็จะเก็บไว้ในส่วนของค่าเครื่องและพอกเกตมันนี่ ก็เลยจะขอยืมคุณแม่ก่อน ก็เลยโทรไปหาคุณแม่ พร้อมกับเล่ารายละเอียด  แต่ผลปรากฏว่าคุณแม่ไม่เห็นด้วย พร้อมกับร่ายจขกท.มายาวเหยียด จขกท.ก็พยามหาเหตุผลมาหว่านล้อม ทั้งบอกว่ามันได้ประสบการณ์ ไม่ต้องเสียเงินมาก แถมได้มาเรียนรู้ก่อนอีก(คือคุณแม่ของจขกท.มีแพลนว่าจะให้จขกท.ไปแลกเปลี่ยนตอนปี3) แต่คุณแม่ก็ตอบกลับมาว่า แล้วถ้าเกิดประสบการณ์ที่เลวร้ายขึ้นมาจะทำยังไง แล้วงานที่ไปจะมั่นใจได้แค่ไหนว่าเราจะได้ทหน้าที่นี้จริงๆ แล้วถ้าไม่ได้ทำจะทำยังไง แล้วงานที่ไปทำไม่เห็นว่าจะได้ภาษาเท่าไหร่เลย แล้วเค้าจ้างเราไปในฐานะลูกจ้างเค้าไม่มาสนใจเราหรอก แล้วที่เรียนอยู่ทุกวันนี้เข้าใจแค่ไหน ไหนจะสอบไอเอลอีก(อย่างที่บอกว่าจขกท.จะไปแลกเปลี่ยนซึ่งมันต้องใช้คะแนนไปยื่น) แล้วแล้ว แอนด์โซออน.... จขกท.ได้ฟังแล้วก็ไม่รู้ว่าจะตอบกลับไปยังไงดี คือจขกท.ก็รู้ว่าคุณแม่เป็นห่วง แต่จขกท.ก็อยากที่จะไปลองเผชิญชะตากรรมดูบ้าง (เหตุผลนี้ก็บอกแล้วแต่คุณแม่ก็บอกว่ามันไม่ได้ดูง่ายแบบที่จขกท.คิดอยู่หรอกนะ) คือเหมือนเค้ารอจะให้เราไปตอนปี3ลูกเดียวเลย

ก็เลยอยากจะให้พี่ๆที่เคยไป เพื่อนๆที่ตัดสินใจจะไป และผู้ใดก็ตามที่เห็นดีเห็นงามกับโครงการนี้ มาช่วยจขกท.หว่านล้อมคุณแม่หน่อยนะคะ แต่ถ้าไม่ได้ไปก็คงต้แงทำใจยอมรับแหละค่ะ ร้องไห้
คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 1
1. ลองถามกับเค้าดูก่อนว่าถ้าจ่ายหลังวันศุกร์โปร 5,000 ที่ว่าจะเหลือเท่าไร [ซึ่งส่วนมากคงบอกว่ายังไม่ได้ประชุมราคาใหม่  แต่ก็ส่วนมากอีกเค้าจะเหลือลดต่างกันแค่ 500-1000 บาท เป็นลด 4,000-4,500 แทน]

2. ถ้างบไม่มาก ภาษาแน่น ลองดูหลายๆเอเจนซี่ บางที่เค้าจัดสอบชิงทุนเป็นประจำเกือบทุกปี  ก็เป็นอีกโอกาสนึงที่น้องอาจจะลดค่าใช้จ่ายลงไปได้เยอะ

3. เรื่องความมั่นคงของงาน ถ้าคุณแม่กังวลเรื่องนี้มาก น้องลองไปสมัครของโครงการ London house ทำงานที่ disney world, FL ดูค่ะ  โครงการนี้ปลอดภัยและได้งานทำแน่นอน เนื่องจากทางสวนสนุกเป็นคนสปอนเซอร์เด็กเอง  อีกทั้งโครงการนี้ไม่มีค่าโครงการ[ส่วนค่าเอกสาร DS2019 อะไรพวกนี้ไม่ทราบว่าต้องจ่ายไหม] น้องก็จ่ายแค่วีซ่ากับตั๋วเครื่องบินและ pocket money

4. ในกรณีที่ไม่อยากไปทำงานสวนสนุก Disney จริงๆแล้วโครงการนี้มีคนดวงซวยตกงานน้อยกว่าคนที่ได้งานจริงๆ วิธีการคือน้องต้องเสิร์ชหางานเก่าๆที่มีคนไปทุกปี  โครงการนี้โอกาสโดนลอยแพแบบไปถึงแล้วไม่มีงานทำมีน้อยมาก[แต่ไม่ใช่ว่าจะไม่มี] ส่วนมากที่เจอจะเป็นไปถึงแล้วชั่วโมงงานน้อยกว่าที่ระบุไว้อะไรพวกนี้มากกว่า

5. จะประสบการณ์เลวร้ายหรือประสบการณ์ที่ดีก็ถือว่าเป็นประสบการณ์  การไปแลกเปลี่ยนที่น้องว่าก็ไม่ได้การันตีว่าน้องจะมีประสบการณ์ดีๆจริงไหม?

6.เรื่องภาษาก็คงจะเทียบเท่ากับการไปเรียนภาษาโดยตรงไม่ได้  แต่อย่างน้อยน้องก็จะกล้าพูดมากขึ้น เรียนรู้ประโยคที่มันยาวขึ้น  ประโยคที่เค้าใช้กันจริงๆไม่ใช่นั่งฟังเทปยานๆตามโรงเรียน  อีกอย่างคือมันแล้วแต่คนจะไขว่คว้า  คนที่ช่างพูดช่างคุยยังไงก็ได้อะไรมากกว่าคนที่ไม่ค่อยพูด  ถ้าอยากได้ภาษาก็ต้องเข้าหาเพื่อนต่างชาติ

7.เราไปในฐานะลูกจ้างก็จริง  แต่แรงงานทั่วไปที่อเมริกาเป็นอาชีพที่ใครๆก็ทำกัน จริงอยู่ที่มีคนรวยเป็นเจ้าของบริษัท มีคนที่เป็นนักเรียน มีคนทำงานในรัฐสภา แต่คนที่อยู่ในฐานะนั้นทั้งประเทศมันมีกี่คนกัน  คนส่วนใหญ่ของประเทศก็ยังเป็นลูกจ้างเป็นแรงงานขั้นต่ำอยู่ดี  ดังนั้นแล้วการปฏิบัติต่อลูกจ้างอย่างเราก็คือการปฏิบัติแบบเดียวกับลูกจ้างคนอื่นๆ  จะมีบ้างก็คือเพื่อนร่วมงานเอาเปรียบถ้าทนได้ก็ขอให้ทนไปเพราะเรามาทำแค่ชั่วคราวเก็บประสบการณ์ให้ได้มากที่สุด  แต่ถ้าทนไม่ไหวเรามีปากก็ไปแอบกระซิบพวกซุปเปอร์ไวเซอร์ได้

8.เหตุผลสุดท้ายถ้าน้องไปเวิร์คน้องไม่ได้ไปคนเดียวแน่ๆค่ะ เพื่อนร่วมงานที่ไปที่ทำงานเดียวกันยังมีอีกตรึมเทียบกับการไปแลกเปลี่ยนแล้วบอกตรงๆว่าคนละเรื่อง  ไปครั้งแรกมีหลายหัวมีปัญหาช่วยกันคิด ช่วยกันแก้  มันก็น่าจะดีกว่าไปครั้งแรกแล้วหัวเดียวกระเทียมลีบนะ

ที่ยกมาทั้งหมดนี้เป็นเหตุผลด้านดีๆ แต่ก่อนจะตัดสินใจไปก็คิดอีกทีแล้วกันเพราะด้านมืดๆก็คงมีไม่น้อย
โชคดีค่ะ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่