คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 2
ให้ข้อมูลนิดนึงค่ะว่า ช่วงมกราคม-กุมภาพันธ์ เป็นช่วงที่หนาวมากที่สุดของปีเลยนะคะ (เคยเจอข้อมูลในเว็บท่องเที่ยวญี่ปุ่นค่ะ) เตรียมเสื้อผ้าไปดีๆนะคะ แล้วอีกอย่าง ระวังเรื่องมืดเร็วสว่างช้า สถานที่ปิดเร็วด้วยค่ะ
- Kawaguchiko ถ้าจะไปฟูจิคิว ก็ไปวันเดียวเลยค่ะ ถ้ามีเวลาเหลือค่อยว่ากันว่าจะไปไหนต่อ อาจจะไปหาอะไรนั่งทานแถวริมทะเลสาบหรือขี่จักรยานไปร้านชีสเค้กก็ยังได้ค่ะ ส่วนกระเช้าโรปเวย์ กับป่ากล่องดนตรี ไปทางเดียวกันค่ะ จับมัดรวมดีกว่าค่ะ อย่าแยกเลย จะได้ไม่เสียเวลา แล้วถ้าจะเที่ยวน้อยที่แบบนี้ไม่ต้องซื้อตั๋ววันก็ได้ค่ะ จ่ายเป็นเที่ยวๆดีกว่า
- คราวที่แล้วเราเที่ยวแค่ 2 ที่ใน 1 วันค่ะ คือขึ้นกระเช้าก็หมดไปครึ่งวันแล้ว ไหนจะตื่นมา ทานข้าวเช้า ต่อคิวตั๋ว ต่อคิวกระเช้า ต่อคืวถ่ายรูปกับทานุกิ ต่อคิวสั่นกระดิ่งรูปหัวใจ ต่อคิวถ่ายกับฟูจิซัง 5555 นั่งชิลล์อยู่บนนั้นอีก หมดไปครึ่งวันจริงๆค่ะ จากนั้นลงมาต่อรถไปป่ากล่องดนตรีก็อีก ชิลล์อีก เดินเล่น ถ่ายรูป ทานข้าว เดินดูของที่ระลึก เลือกของมาประดิษฐ์กล่องดนตรีของตัวเอง สรุปออกมามืดเลยค่ะ เลยเหมาแท๊กซี่กลับมาที่โรงแรมแทน ไม่ได้รอรถบัส
- แถบตลาดปลาเป็นชุมชน/เป็นย่านที่อบอุ่นมีสีสรรของตลาดสดมากๆค่ะ (ไม่นับร้านซูชิที่มีแต่นักท่องเที่ยวตามรอยไปยืนต่อแถวกินนะคะ) ออกจากตลาดปลามาถึงถนนใหญ่ เลี้ยวขวาเลยค่ะ ตลอดทางมี street food น่ากินมากมาย ทั้งของหวาน คาว ผัก ผลไม้ มีดทำครัว อุปกรณ์ทำครัวต่างๆ เดินดูเดินช้อปเดินถ่ายรูปก็น่าจะหมดเวลาแล้วค่ะ เราเองไปคราวที่แล้วดันอิ่มมาจากร้านซูชิที่ไปต่อแถวกิน - -* พอออกมาข้างนอกกินอะไรไม่ลงแล้ว แต่อยากกินไปหมดเลยค่ะ ดูมัน real หน่ะค่ะ เลยได้แต่ซื้อมีดมาเล่มนึงกับลูกพลับมาปอกกิน ขอบอกว่าหวานกรอบมากกกกค่ะ ^^
- Kawaguchiko ถ้าจะไปฟูจิคิว ก็ไปวันเดียวเลยค่ะ ถ้ามีเวลาเหลือค่อยว่ากันว่าจะไปไหนต่อ อาจจะไปหาอะไรนั่งทานแถวริมทะเลสาบหรือขี่จักรยานไปร้านชีสเค้กก็ยังได้ค่ะ ส่วนกระเช้าโรปเวย์ กับป่ากล่องดนตรี ไปทางเดียวกันค่ะ จับมัดรวมดีกว่าค่ะ อย่าแยกเลย จะได้ไม่เสียเวลา แล้วถ้าจะเที่ยวน้อยที่แบบนี้ไม่ต้องซื้อตั๋ววันก็ได้ค่ะ จ่ายเป็นเที่ยวๆดีกว่า
- คราวที่แล้วเราเที่ยวแค่ 2 ที่ใน 1 วันค่ะ คือขึ้นกระเช้าก็หมดไปครึ่งวันแล้ว ไหนจะตื่นมา ทานข้าวเช้า ต่อคิวตั๋ว ต่อคิวกระเช้า ต่อคืวถ่ายรูปกับทานุกิ ต่อคิวสั่นกระดิ่งรูปหัวใจ ต่อคิวถ่ายกับฟูจิซัง 5555 นั่งชิลล์อยู่บนนั้นอีก หมดไปครึ่งวันจริงๆค่ะ จากนั้นลงมาต่อรถไปป่ากล่องดนตรีก็อีก ชิลล์อีก เดินเล่น ถ่ายรูป ทานข้าว เดินดูของที่ระลึก เลือกของมาประดิษฐ์กล่องดนตรีของตัวเอง สรุปออกมามืดเลยค่ะ เลยเหมาแท๊กซี่กลับมาที่โรงแรมแทน ไม่ได้รอรถบัส
- แถบตลาดปลาเป็นชุมชน/เป็นย่านที่อบอุ่นมีสีสรรของตลาดสดมากๆค่ะ (ไม่นับร้านซูชิที่มีแต่นักท่องเที่ยวตามรอยไปยืนต่อแถวกินนะคะ) ออกจากตลาดปลามาถึงถนนใหญ่ เลี้ยวขวาเลยค่ะ ตลอดทางมี street food น่ากินมากมาย ทั้งของหวาน คาว ผัก ผลไม้ มีดทำครัว อุปกรณ์ทำครัวต่างๆ เดินดูเดินช้อปเดินถ่ายรูปก็น่าจะหมดเวลาแล้วค่ะ เราเองไปคราวที่แล้วดันอิ่มมาจากร้านซูชิที่ไปต่อแถวกิน - -* พอออกมาข้างนอกกินอะไรไม่ลงแล้ว แต่อยากกินไปหมดเลยค่ะ ดูมัน real หน่ะค่ะ เลยได้แต่ซื้อมีดมาเล่มนึงกับลูกพลับมาปอกกิน ขอบอกว่าหวานกรอบมากกกกค่ะ ^^
แสดงความคิดเห็น
รบกวนตรวจทริป โตเกียว ด้วยครับ
ทริปประมาณนี้ โอเคไหมครับ
วันแรก
ถึง นาริตะ ประมาณ 16.00 น. แวะซื้อ Tokyo subway (3 day 1,800 yen)
นั่ง airport limousine ไป โรงแรม Shinjuku Prince Hotel เช็คอิน
เดินเล่นชินจูกุ กินปูที่ร้าน Douraku Shinjuku
(มีที่เดินเล่น หรือที่เที่ยวอื่นใกล้ๆ แนะนำไหมครับ)
วันที่สอง
เช็คเอาท์ ฝากกระเป๋าที่โรงแรม
นั่งรถบัส เที่ยว 8.40 ไป Kawaguchiko แวะซื้อ Retro bus 2-day unlimited ที่สถานี
เรียกโรงแรมมารับกระเป๋า พักที่ Hotel New Century
นั่งรถไปดูวิว ป้าย 14 / ขึ้นกระเช้า ป้าย 10 / ชีสเค้ก ร้าน Cheese Cake Garden
ไปสวนสนุก ฟูจิคิว
กลับโรงแรม หากินข้าวเย็นแถวโรงแรม มีร้านแนะนำไหมครับ
วันที่สาม
อาหารเช้าที่โรงแรม
นั่งรถบัส ไปถ่ายรูป ป้าย 21 / ไป Music Forest ป้าย 16
กลับโรงแรม เช็คเอ้าท์ นั่งรถบัส 13.10 กลับ ชินจุกุ
เข้าพักที่เดิม Shinjuku Prince Hotel
ไปเที่ยว วัด Meiji / ฮาราจุกุ / ชินจูกุ อาหารเย็นร้าน Rokkasen ชินจูกุ
วันที่สี่
ไป Ueno park / ตลาด Ameyakocho / Asakusa
กลับมา Ueno เดินตึกม่วง
กินข้าว ปิ้งย่างซีฟูด ที่ Isomaru Suisan
ไป Odiba / เดินห้าง Venus Fort กลับชินจูกุ
วันที่ห้า
ไปตลาดปลา Tsukiji (มีที่เที่ยวแนะนำใกล้ๆตลาด ไหมครับ)
กลับโรงแรมเช็คเอ้าท์ นั่งรถบัสไปสนามบินนาริตะประมาณ 14.00 เครื่องออก 17.30