อยากระบายน่ะ แต่ไม่รู้จะเริ่มจากตรงไหนดี
เอาเป็นว่า.....
ที่บ้านโทรมาหา บอกว่าอยากให้เรากลับไปอยู่บ้าน....งานที่เราทำอยู่ เงินเดือนมันน้อยและไม่มั่นคง....
กลับไปเป็นครูผู้ช่วย สอนโรงเรียนแถวบ้าน....ไม่มีใบประกอบวิชาชีพก็ไม่เป็นไร ค่อยหาเอาข้างหน้า....
เราไม่เข้าใจ....
ทำไมถึงบอกว่างานที่เราทำมันไม่มั่นคง....ทำไมต้องรับราชการ งานเอกชนไม่ดีตรงไหน จริงอยู่ที่ว่าเงินเดือนเราน้อยแค่หมื่นเดียว แต่เราก็พึ่งเริ่มทำงานนี้ได้แค่ 7 เดือน ถึงสิ้นปีก็จะได้ขึ้นเงินเดือนตามผลประเมินงานบุคคล+โบนัส ส่วนเรื่องความมั่นคง เราว่าถ้าทำงานไม่ดีมีผิดพลาด ไม่ว่าเอกชนหรือราชการก็ต้องได้ออกเหมือนกันอยู่ดี แล้วอาชีพครู....เราไม่เคยคิดจะเป็นเลย ในเมื่อไม่มีใจจะสอนแล้ว เด็กจะได้อะไรไปจากเรา แถมไม่รู้ว่าจะประเมินผ่านตอนไหน สุดท้ายเราว่าก็ไม่พ้นต้องวิ่งเต้น ตอนเรียนเราเคยไปทำงานพนักงานจ้างเหมาในกรมๆ หนึ่ง การได้สัมผัสชีวิตการทำงานในนั้น....มันทำให้เรารู้สึกขยาดกับงานราชการ....
บางทีเราก็คิด....หรือว่าพ่อแม่อายที่เราไม่ได้รับราชการเหมือนลูกคนอื่น (ครอบครัวเรารับราชการกันหมด มีเราคนเดียวที่ทำงานเอกชน) พ่อแม่ชอบพูดถึงลูกเพื่อนของเค้าว่าได้เงินเดือนเท่านั้นเท่านี้....
บางทีเราก็รู้สึก....ชีวิตฉันนี่มันดูไร้อนาคตขนาดนั้นเลยหรือ ถึงทำให้คนอื่นเป็นห่วงอยู่เสมอ ทั้งที่พยายามยืนหยัดด้วยตัวเองแล้วนะ แต่ที่ทำๆ มามันเหมือนไม่มีความหมาย....สุดท้ายเราก็รับผิดชอบตัวเองไม่ได้อยู่ดีในสายตาพ่อแม่....
ความรู้สึกที่ว่าตัวเองเป็น ลูกนอกคอก มันเริ่มหนักหน่วงขึ้นเรื่อยๆ ถ้าเป็นแบบนี้ต่อไปเราว่าตัวเองคงได้เป็นโรคซึมเศร้าเข้าสักวันแน่ๆ
ตอนนี้ชีวิตมาถึงทางแยก(อีกแล้ว)
ยอม กลับบ้าน ทำอย่างที่พ่อแม่ต้องการ....
ทน แบบนี้ต่อไป แม้ไม่มั่งมีแต่ก็ไม่ยากจน....
〈บ่น〉ต้องรับราชการเท่านั้นหรือถึงจะเรียกว่า "มั่นคง"
เอาเป็นว่า.....
ที่บ้านโทรมาหา บอกว่าอยากให้เรากลับไปอยู่บ้าน....งานที่เราทำอยู่ เงินเดือนมันน้อยและไม่มั่นคง....
กลับไปเป็นครูผู้ช่วย สอนโรงเรียนแถวบ้าน....ไม่มีใบประกอบวิชาชีพก็ไม่เป็นไร ค่อยหาเอาข้างหน้า....
เราไม่เข้าใจ....
ทำไมถึงบอกว่างานที่เราทำมันไม่มั่นคง....ทำไมต้องรับราชการ งานเอกชนไม่ดีตรงไหน จริงอยู่ที่ว่าเงินเดือนเราน้อยแค่หมื่นเดียว แต่เราก็พึ่งเริ่มทำงานนี้ได้แค่ 7 เดือน ถึงสิ้นปีก็จะได้ขึ้นเงินเดือนตามผลประเมินงานบุคคล+โบนัส ส่วนเรื่องความมั่นคง เราว่าถ้าทำงานไม่ดีมีผิดพลาด ไม่ว่าเอกชนหรือราชการก็ต้องได้ออกเหมือนกันอยู่ดี แล้วอาชีพครู....เราไม่เคยคิดจะเป็นเลย ในเมื่อไม่มีใจจะสอนแล้ว เด็กจะได้อะไรไปจากเรา แถมไม่รู้ว่าจะประเมินผ่านตอนไหน สุดท้ายเราว่าก็ไม่พ้นต้องวิ่งเต้น ตอนเรียนเราเคยไปทำงานพนักงานจ้างเหมาในกรมๆ หนึ่ง การได้สัมผัสชีวิตการทำงานในนั้น....มันทำให้เรารู้สึกขยาดกับงานราชการ....
บางทีเราก็คิด....หรือว่าพ่อแม่อายที่เราไม่ได้รับราชการเหมือนลูกคนอื่น (ครอบครัวเรารับราชการกันหมด มีเราคนเดียวที่ทำงานเอกชน) พ่อแม่ชอบพูดถึงลูกเพื่อนของเค้าว่าได้เงินเดือนเท่านั้นเท่านี้....
บางทีเราก็รู้สึก....ชีวิตฉันนี่มันดูไร้อนาคตขนาดนั้นเลยหรือ ถึงทำให้คนอื่นเป็นห่วงอยู่เสมอ ทั้งที่พยายามยืนหยัดด้วยตัวเองแล้วนะ แต่ที่ทำๆ มามันเหมือนไม่มีความหมาย....สุดท้ายเราก็รับผิดชอบตัวเองไม่ได้อยู่ดีในสายตาพ่อแม่....
ความรู้สึกที่ว่าตัวเองเป็น ลูกนอกคอก มันเริ่มหนักหน่วงขึ้นเรื่อยๆ ถ้าเป็นแบบนี้ต่อไปเราว่าตัวเองคงได้เป็นโรคซึมเศร้าเข้าสักวันแน่ๆ
ตอนนี้ชีวิตมาถึงทางแยก(อีกแล้ว)
ยอม กลับบ้าน ทำอย่างที่พ่อแม่ต้องการ....
ทน แบบนี้ต่อไป แม้ไม่มั่งมีแต่ก็ไม่ยากจน....