เครื่องหมายสัตว์ร้าย
คุณอาจจะสงสัยว่าเครื่องหมายสัตว์ร้ายคืออะไร ก่อนที่เราจะเข้าใจนั้นเราต้องเข้าใจคำว่า “สัตว์ร้าย”ก่อนว่ามันคืออะไร? พระเจ้าได้อธิบายไว้ในพระคำภีร์ว่า “สัตว์มหึมาทั้งสี่คือ กษัตริย์สี่พระองค์ซึ่งเกิดมาจากพิภพ”(พระธรรมดาเนียล 7:14)
“สัตว์มหึมา”หรือ”สัตว์ร้าย”ก็คือความหมายเดียวกัน “สัตว์ร้าย”หมายถึงกษัตริย์หรือประเทศที่ดุร้าย(เมื่อมีกษัตริย์ต้องมี ประเทศ)ฉะนั้น”สัตว์ร้ายก็คือกษัตริย์หรือประเทศที่ ดุร้ายหรือประเทศมหา อำนาจนั่นเอง
ส่วนคำว่า”เครื่องหมาย”คือการทำตำหนิหรือตีตราเพื่อแสดงความแตกต่างหรือความ เป็นเจ้าของ เมื่อนำ2คำนี้มารวมกันจึงสรุปได้ว่า “เครื่องหมายสัตว์ร้าย”หมายถึงการทำตำหนิเพื่อจะรู้ว่าใครคือประชากรของ สัตว์ร้าย(ซึ่งไม่ไช่ประชากรของพระเจ้า)พระคำภีร์กล่าวว่า”เครื่องหมายนั้น จะไว้ที่มือขวาหรือที่หน้ากาก” สิ่งเหล่านี้คืออะไร ?คำตอบคือ การฝังไบโอชิพ(Bio-Chip)ในร่างกายของมนุษย์ จากการวิจัย มีการใช้เงินทุ่มถึง1.5ล้านดอลล่าในการค้นหาพบว่ามีเพียง 2 ตำแหน่งเท่านั้นที่สามารถฝังได้คือ บริเวณ “หน้าผาก”และ”หลังฝ่ามือ”
ไบโอชิพนี้คือเทคโนโลยีที่จะนำมาใช้ต่อจาก บัตรสมาร์ทการ์ด (ดูข้อมูลเพิ่มเติม คลิก)
ซึ่งสิ่งเหล่านี้ตรงกับคำพยากรณ์ที่พระเจ้าได้ให้ไว้ในพระคำภีร์ อีกข้อ หนึ่งกล่าวว่า ”เพื่อไม่ให้ผู้ใดทำการซื้อขายได้ นอกจากผู้ที่มีเครื่องหมายนั้น ”(วิวรณ์ 13:17) เมื่อมีการฝังไบโอชิพแล้วจะไม่มีการใช้เงินสดอีกต่อไป (Cashless Society ) ทุกอย่างจะรวมอยู่ใน ไบโอชิพ ทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็น”บัตรประชาชน ทะเบียนบ้าน ใบขับขี่ บัตรรักษาโรค ฯลฯ รวมทั้งบัตรเครดิต ATM หรือบัตรธนาคารต่างๆ ซึ่งหมายความว่า คุณอาจจะมีเงินสดเป็นแสนๆ แต่ถ้าคุณไม่ฝัง ไบโอชิพ คุณก็จะไม่สามารถซื้อสินค้าได้ เพราะเขาจะไม่รับเงินสด แต่จะใช้เพียงจำนวนเงินที่เป็นตัวเลขที่อยู่ใน ไบโอชิพของคุณยกตัวอย่างเช่น เมื่อคุณซื้อสินค้า คุณเพียงแค่นำ ไบโอชิพ ที่ฝังไว้ที่หน้าผากหรือที่มือวางลงที่เครื่องสแกน แล้วยอดเงินของคุณจะถูกหักไปโดยปริยาย หรือเมื่อคุณทำงาน นายจ้างของคุณแค่โอนค่าแรงของคุณเข้าไปใน ไบโอชิพ ของคุณเท่านั้นเอง นี่คือความหมายของคำว่า “เพื่อไม่ให้ผู้ใดทำการซื้อขายได้ นอกจากผู้ที่มีเครื่องหมายนั้น”
ในการฝัง ไบโอชิพ นั้นก็มีทั้งดีและเสีย คือเมื่อคุณฝังแล้ว จะได้รับสิทธิในการซื้อขาย แต่เมื่อคุณฝังแล้วคุณจะหมดอิสระภาพ เพราะใน ไบโอชิพ มีระบบ GPS ซึ่งเชื่อมต่อกับดาวเทียมระบุตำแหน่ง ไม่ว่าคุณจะอยู่ที่ไหนดาวเทียมก็จะจับภาพของคุณตลอดเวลา และในไบโอชิพมีสารนิวเคลียร์ อยู่ข้างใน เมื่อคุณไม่อยู่ในอาณัติของประเทศมหาอำนาจแล้ว ทางองค์กรเพียงแค่ กด สวิทส์ ไบโอชิพก็จะระเบิด
แล้วชีวิตของคุณก็จะจบลง !
อำนาจนี้เกิดจากการรวมตัวกันของ 2 อำนาจคือ “อำนาจทางการเมือง”และทาง “ ศาสนา” (ดูข้อมูลเพิ่มเติม คลิก) ซึ่งอำนาจทางการเมืองคือ การบังคับฝัง ไบโอชิพ ส่วนทางศาสนาคือ การบังคับใช้ “กฎหมายวันอาทิตย์สากล” (Sunday LAW) ซึ่งเป็นการรวมกันระหว่างอำนาจทางการเมืองกับศาสนา (New World Order คลิก ) อำนาจนี้มาจาก พระสันตะปาปา แห่งโรมันคาทอลิก พระคัมภีร์กล่าวว่า 666 คือหมายเลขของบุคคลผู้หนึ่งซึ่งเล็งถึงพระสันตะปะปา (ดูข้อมูลเพิ่มเติม คลิก) เมื่อกฎหมายนี้ประกาศแล้ว ไม่ว่าคุณจะนับถือศาสนาอะไรก็ช่าง คุณจะต้องประกอบพีธีทางศาสนาในวันอาทิตย์ เช่น จากที่คุณเคยเข้าวัดทุกวันพระ แต่เมื่อกฎหมายนี้ประกาศแล้ว คุณจะต้องเข้าวัดทุก วันอาทิตย์ (ดูข้อมูลเพิ่มเติม คลิก) แต่ถ้าคุณไม่ปฏิบัติตามจะเกิดอะไรขึ้น ? คำตอบคือ ไบโอชิพ ที่อยู่ฝังในร่างกายของคุณก็จะระเบิด ไม่ว่าคุณจะอยู่ประเทศใหน ศาสนาอะไร
คุณก็จะต้องเผชิญกับกฎหมายนี้แน่นอน !
เพราะพระคำภีร์ได้กล่าวไว้ว่า “และให้มีอำนาจที่จะกระทำให้บรรดาคนที่ไม่ยอมบูชารูปสัตว์ร้ายนั้น ถึงแก่ความตายได้”(วิวรณ์ 13:15 ตอนปลาย) กฎหมายนี้ผิดต่อกฎหมายของพระเจ้า(พระบัติ10ประการ)ในข้อที่ 4 “จงทำการงานทั้งสิ้นของเจ้าหกวัน แต่วันที่เจ็ด(วันเสาร์)นั้นเป็นสะบาโต(วันนมัสการพระเจ้า)ของพระเจ้าของ เจ้า ในวันนั้นอย่ากระทำการงานใดๆ ไม่ว่าเจ้าเอง หรือบุตรชายบุตรหญิงของเจ้า หรือทาสทาสีของเจ้า หรือสัตว์ใช้งานของเจ้า หรือแขกที่อาศัยอยู่ในประตูเมืองของเจ้า เพราะในหกวันพระเจ้าทรงสร้างฟ้าและแผ่นดิน ทะเล และสรรพสิ่งซึ่งมีอยู่ในที่เหล่านั้น แต่ในวันที่เจ็ดทรงพัก เพราะฉะนั้นพระเจ้าทรงอวยพระพรวันสะบาโต และทรงตั้งวันนั้นไว้เป็นวันบริสุทธิ์ (พระธรรมอพยพ 20:8-11) มนุษย์ได้เปลี่ยนแปลงกฎหมายของพระเจ้า(กฎหมายวันอาทิตย์สากล)จึงได้นำการลง โทษมายังมนุษย์ในแผ่นดินโลก
พระเจ้าตรัสว่า “จงทำงานแต่ในกำหนดหกวัน แต่ในวันที่เจ็ดเป็นวันสะบาโต เป็นวันหยุดพักสงบ เป็นวันบริสุทธิ์แด่พระเจ้า ผู้ใดทำงานในวันนั้นต้องถูกลงโทษถึงตาย” (พระธรรมอพยพ 31:15) พระคำภีร์ได้กล่าวถึงภัยพิบัต 7 อย่างที่จะกระหน่ำมายังคนทั้งหลายที่รับ “เครื่องหมายสัตว์ร้าย” และบูชา “กฎหมายวันอาทิตย์สากล” ว่า
1 ทูตสวรรค์องค์แรกจึงออกไป และเทขันของตนลงบนแผ่นดินโลก และคนทั้งหลายที่มีเครื่องหมายของสัตว์ร้าย และบูชารูปของมันก็เกิดเป็นแผลร้ายที่เป็นหนองทั่วตัว
2 ทูตสวรรค์องค์ที่สองก็เทขันของตนลงในทะเล และทะเลก็กลายเป็นเลือดเหมือนเลือดของคนตาย และบรรดาสิ่งที่มีชีวิตอยู่ในทะเลนั้นก็ตายหมดสิ้น
3 ทูตสวรรค์องค์ที่สามเทขันของตนลงที่แม่น้ำและบ่อน้ำพุทั้งปวง และน้ำเหล่านั้นก็กลายเป็นเลือด
4 ทูตสวรรค์องค์ที่สี่เทขันของตนลงที่ดวงอาทิตย์ และให้ดวงอาทิตย์คลอกมนุษย์ด้วยไฟ
5 ทูตสวรรค์องค์ที่ห้าเทขันของตนลงบนที่นั่งของสัตว์ร้ายนั้น และอาณาจักรของมันก็มืดไป คนเหล่านั้นได้กัดลิ้นของตนด้วยความระทม
6 ทูตสวรรค์องค์ที่หกเทขันของตนลงที่แม่น้ำใหญ่ คือแม่น้ำยูเฟรตีสทำให้น้ำในแม่น้ำนั้นแห้งเพื่อเตรียมมรรคาไว้สำหรับบรรดา กษัตริย์ที่มาจากทิศตะวันออก
7 ทูตสวรรค์องค์ที่เจ็ดได้เทขันของตนลงในอากาศ และมีพระสุรเสียงดังออกมาจากพระที่นั่งในพระวิหารนั้นว่า "สำเร็จแล้ว" และเกิดมีฟ้าแลบ มีเสียงต่างๆ มีฟ้าร้อง และเกิดแผ่นดินไหวครั้งใหญ่ ซึ่งตั้งแต่มีมนุษย์เกิดมาบนแผ่นดินโลก ไม่เคยมีแผ่นดินไหวร้ายแรงเช่นนี้เลยละมีลูกเห็บใหญ่ตกลงมาจากฟ้าถูกคนทั้ง ปวง แต่ละก้อนหนักประมาณห้าสิบกิโลกรัม คนทั้งหลายจึงสาปแช่งพระเจ้า เพราะภัยพิบัติที่เกิดจากลูกเห็บนั้น เพราะว่าภัยพิบัติจากลูกเห็บนั้นร้ายแรงยิ่งนัก (พระธรรม วิวรณ์ 16:1-21)
เมื่อ ภัยพิบัติอย่างที่ 7 สิ้นสุดลง พระเยซูคริสต์ก็จะเสด็จกลับมาเพื่อช่วยกู้บรรดาผู้ที่ซื่อสัตย์ต่อ พระองค์ คุณจะเชื่อหรือไม่นั้นพระเจ้าจะไม่บังคับใครแต่สิ่งเหล่านี้จะเกิด ขึ้นแน่นอน ทางเดียวที่จะรอดคือไม่ว่าคุณจะเป็นหรือตาย คุณต้องเชื่อฟัง และปฏิบัติตาม
พระบัญญัติของพระเจ้า ไว้วางใจพระองค์เสมอ เพื่อเป็นพยานให้กับพระบัญญัติของพระเจ้า แล้วคุณจะได้รับบำเหน็จ คือ ชีวิตนิรันดร์ และพระองค์จะช่วยกู้ท่านให้รอดจากภัยพิบัติต่างๆ
ข้าพเจ้าได้เห็นบัลลังก์หลายบัลลังก์ และผู้ที่นั่งบนบัลลังก์นั้น เป็นผู้ที่จะพิพากษาและข้าพเจ้ายังได้เห็นดวงวิญญาณของคนทั้งปวงที่ถูกตัด ศีรษะ เพราะเป็นพยานของพระเยซูและเพราะพระวจนะของพระเจ้า และผู้ที่ไม่ได้บูชาสัตว์ร้ายนั้นหรือรูปของมัน และไม่ได้ติดเครื่องหมายของมันไว้ที่หน้าผากหรือที่มือของเขา คนเหล่านั้นกลับมีชีวิตขึ้นมาใหม่ และได้ครอบครองร่วมกับพระคริสต์เป็นเวลาพันปี ( พระธรรม วิวรณ์ 20:4 )
เครื่องหมายสัตว์ร้าย 666 (ไมโครชิพ)
คุณอาจจะสงสัยว่าเครื่องหมายสัตว์ร้ายคืออะไร ก่อนที่เราจะเข้าใจนั้นเราต้องเข้าใจคำว่า “สัตว์ร้าย”ก่อนว่ามันคืออะไร? พระเจ้าได้อธิบายไว้ในพระคำภีร์ว่า “สัตว์มหึมาทั้งสี่คือ กษัตริย์สี่พระองค์ซึ่งเกิดมาจากพิภพ”(พระธรรมดาเนียล 7:14)
“สัตว์มหึมา”หรือ”สัตว์ร้าย”ก็คือความหมายเดียวกัน “สัตว์ร้าย”หมายถึงกษัตริย์หรือประเทศที่ดุร้าย(เมื่อมีกษัตริย์ต้องมี ประเทศ)ฉะนั้น”สัตว์ร้ายก็คือกษัตริย์หรือประเทศที่ ดุร้ายหรือประเทศมหา อำนาจนั่นเอง
ส่วนคำว่า”เครื่องหมาย”คือการทำตำหนิหรือตีตราเพื่อแสดงความแตกต่างหรือความ เป็นเจ้าของ เมื่อนำ2คำนี้มารวมกันจึงสรุปได้ว่า “เครื่องหมายสัตว์ร้าย”หมายถึงการทำตำหนิเพื่อจะรู้ว่าใครคือประชากรของ สัตว์ร้าย(ซึ่งไม่ไช่ประชากรของพระเจ้า)พระคำภีร์กล่าวว่า”เครื่องหมายนั้น จะไว้ที่มือขวาหรือที่หน้ากาก” สิ่งเหล่านี้คืออะไร ?คำตอบคือ การฝังไบโอชิพ(Bio-Chip)ในร่างกายของมนุษย์ จากการวิจัย มีการใช้เงินทุ่มถึง1.5ล้านดอลล่าในการค้นหาพบว่ามีเพียง 2 ตำแหน่งเท่านั้นที่สามารถฝังได้คือ บริเวณ “หน้าผาก”และ”หลังฝ่ามือ”
ไบโอชิพนี้คือเทคโนโลยีที่จะนำมาใช้ต่อจาก บัตรสมาร์ทการ์ด (ดูข้อมูลเพิ่มเติม คลิก)
ซึ่งสิ่งเหล่านี้ตรงกับคำพยากรณ์ที่พระเจ้าได้ให้ไว้ในพระคำภีร์ อีกข้อ หนึ่งกล่าวว่า ”เพื่อไม่ให้ผู้ใดทำการซื้อขายได้ นอกจากผู้ที่มีเครื่องหมายนั้น ”(วิวรณ์ 13:17) เมื่อมีการฝังไบโอชิพแล้วจะไม่มีการใช้เงินสดอีกต่อไป (Cashless Society ) ทุกอย่างจะรวมอยู่ใน ไบโอชิพ ทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็น”บัตรประชาชน ทะเบียนบ้าน ใบขับขี่ บัตรรักษาโรค ฯลฯ รวมทั้งบัตรเครดิต ATM หรือบัตรธนาคารต่างๆ ซึ่งหมายความว่า คุณอาจจะมีเงินสดเป็นแสนๆ แต่ถ้าคุณไม่ฝัง ไบโอชิพ คุณก็จะไม่สามารถซื้อสินค้าได้ เพราะเขาจะไม่รับเงินสด แต่จะใช้เพียงจำนวนเงินที่เป็นตัวเลขที่อยู่ใน ไบโอชิพของคุณยกตัวอย่างเช่น เมื่อคุณซื้อสินค้า คุณเพียงแค่นำ ไบโอชิพ ที่ฝังไว้ที่หน้าผากหรือที่มือวางลงที่เครื่องสแกน แล้วยอดเงินของคุณจะถูกหักไปโดยปริยาย หรือเมื่อคุณทำงาน นายจ้างของคุณแค่โอนค่าแรงของคุณเข้าไปใน ไบโอชิพ ของคุณเท่านั้นเอง นี่คือความหมายของคำว่า “เพื่อไม่ให้ผู้ใดทำการซื้อขายได้ นอกจากผู้ที่มีเครื่องหมายนั้น”
ในการฝัง ไบโอชิพ นั้นก็มีทั้งดีและเสีย คือเมื่อคุณฝังแล้ว จะได้รับสิทธิในการซื้อขาย แต่เมื่อคุณฝังแล้วคุณจะหมดอิสระภาพ เพราะใน ไบโอชิพ มีระบบ GPS ซึ่งเชื่อมต่อกับดาวเทียมระบุตำแหน่ง ไม่ว่าคุณจะอยู่ที่ไหนดาวเทียมก็จะจับภาพของคุณตลอดเวลา และในไบโอชิพมีสารนิวเคลียร์ อยู่ข้างใน เมื่อคุณไม่อยู่ในอาณัติของประเทศมหาอำนาจแล้ว ทางองค์กรเพียงแค่ กด สวิทส์ ไบโอชิพก็จะระเบิด
แล้วชีวิตของคุณก็จะจบลง !
อำนาจนี้เกิดจากการรวมตัวกันของ 2 อำนาจคือ “อำนาจทางการเมือง”และทาง “ ศาสนา” (ดูข้อมูลเพิ่มเติม คลิก) ซึ่งอำนาจทางการเมืองคือ การบังคับฝัง ไบโอชิพ ส่วนทางศาสนาคือ การบังคับใช้ “กฎหมายวันอาทิตย์สากล” (Sunday LAW) ซึ่งเป็นการรวมกันระหว่างอำนาจทางการเมืองกับศาสนา (New World Order คลิก ) อำนาจนี้มาจาก พระสันตะปาปา แห่งโรมันคาทอลิก พระคัมภีร์กล่าวว่า 666 คือหมายเลขของบุคคลผู้หนึ่งซึ่งเล็งถึงพระสันตะปะปา (ดูข้อมูลเพิ่มเติม คลิก) เมื่อกฎหมายนี้ประกาศแล้ว ไม่ว่าคุณจะนับถือศาสนาอะไรก็ช่าง คุณจะต้องประกอบพีธีทางศาสนาในวันอาทิตย์ เช่น จากที่คุณเคยเข้าวัดทุกวันพระ แต่เมื่อกฎหมายนี้ประกาศแล้ว คุณจะต้องเข้าวัดทุก วันอาทิตย์ (ดูข้อมูลเพิ่มเติม คลิก) แต่ถ้าคุณไม่ปฏิบัติตามจะเกิดอะไรขึ้น ? คำตอบคือ ไบโอชิพ ที่อยู่ฝังในร่างกายของคุณก็จะระเบิด ไม่ว่าคุณจะอยู่ประเทศใหน ศาสนาอะไร
คุณก็จะต้องเผชิญกับกฎหมายนี้แน่นอน !
เพราะพระคำภีร์ได้กล่าวไว้ว่า “และให้มีอำนาจที่จะกระทำให้บรรดาคนที่ไม่ยอมบูชารูปสัตว์ร้ายนั้น ถึงแก่ความตายได้”(วิวรณ์ 13:15 ตอนปลาย) กฎหมายนี้ผิดต่อกฎหมายของพระเจ้า(พระบัติ10ประการ)ในข้อที่ 4 “จงทำการงานทั้งสิ้นของเจ้าหกวัน แต่วันที่เจ็ด(วันเสาร์)นั้นเป็นสะบาโต(วันนมัสการพระเจ้า)ของพระเจ้าของ เจ้า ในวันนั้นอย่ากระทำการงานใดๆ ไม่ว่าเจ้าเอง หรือบุตรชายบุตรหญิงของเจ้า หรือทาสทาสีของเจ้า หรือสัตว์ใช้งานของเจ้า หรือแขกที่อาศัยอยู่ในประตูเมืองของเจ้า เพราะในหกวันพระเจ้าทรงสร้างฟ้าและแผ่นดิน ทะเล และสรรพสิ่งซึ่งมีอยู่ในที่เหล่านั้น แต่ในวันที่เจ็ดทรงพัก เพราะฉะนั้นพระเจ้าทรงอวยพระพรวันสะบาโต และทรงตั้งวันนั้นไว้เป็นวันบริสุทธิ์ (พระธรรมอพยพ 20:8-11) มนุษย์ได้เปลี่ยนแปลงกฎหมายของพระเจ้า(กฎหมายวันอาทิตย์สากล)จึงได้นำการลง โทษมายังมนุษย์ในแผ่นดินโลก
พระเจ้าตรัสว่า “จงทำงานแต่ในกำหนดหกวัน แต่ในวันที่เจ็ดเป็นวันสะบาโต เป็นวันหยุดพักสงบ เป็นวันบริสุทธิ์แด่พระเจ้า ผู้ใดทำงานในวันนั้นต้องถูกลงโทษถึงตาย” (พระธรรมอพยพ 31:15) พระคำภีร์ได้กล่าวถึงภัยพิบัต 7 อย่างที่จะกระหน่ำมายังคนทั้งหลายที่รับ “เครื่องหมายสัตว์ร้าย” และบูชา “กฎหมายวันอาทิตย์สากล” ว่า
1 ทูตสวรรค์องค์แรกจึงออกไป และเทขันของตนลงบนแผ่นดินโลก และคนทั้งหลายที่มีเครื่องหมายของสัตว์ร้าย และบูชารูปของมันก็เกิดเป็นแผลร้ายที่เป็นหนองทั่วตัว
2 ทูตสวรรค์องค์ที่สองก็เทขันของตนลงในทะเล และทะเลก็กลายเป็นเลือดเหมือนเลือดของคนตาย และบรรดาสิ่งที่มีชีวิตอยู่ในทะเลนั้นก็ตายหมดสิ้น
3 ทูตสวรรค์องค์ที่สามเทขันของตนลงที่แม่น้ำและบ่อน้ำพุทั้งปวง และน้ำเหล่านั้นก็กลายเป็นเลือด
4 ทูตสวรรค์องค์ที่สี่เทขันของตนลงที่ดวงอาทิตย์ และให้ดวงอาทิตย์คลอกมนุษย์ด้วยไฟ
5 ทูตสวรรค์องค์ที่ห้าเทขันของตนลงบนที่นั่งของสัตว์ร้ายนั้น และอาณาจักรของมันก็มืดไป คนเหล่านั้นได้กัดลิ้นของตนด้วยความระทม
6 ทูตสวรรค์องค์ที่หกเทขันของตนลงที่แม่น้ำใหญ่ คือแม่น้ำยูเฟรตีสทำให้น้ำในแม่น้ำนั้นแห้งเพื่อเตรียมมรรคาไว้สำหรับบรรดา กษัตริย์ที่มาจากทิศตะวันออก
7 ทูตสวรรค์องค์ที่เจ็ดได้เทขันของตนลงในอากาศ และมีพระสุรเสียงดังออกมาจากพระที่นั่งในพระวิหารนั้นว่า "สำเร็จแล้ว" และเกิดมีฟ้าแลบ มีเสียงต่างๆ มีฟ้าร้อง และเกิดแผ่นดินไหวครั้งใหญ่ ซึ่งตั้งแต่มีมนุษย์เกิดมาบนแผ่นดินโลก ไม่เคยมีแผ่นดินไหวร้ายแรงเช่นนี้เลยละมีลูกเห็บใหญ่ตกลงมาจากฟ้าถูกคนทั้ง ปวง แต่ละก้อนหนักประมาณห้าสิบกิโลกรัม คนทั้งหลายจึงสาปแช่งพระเจ้า เพราะภัยพิบัติที่เกิดจากลูกเห็บนั้น เพราะว่าภัยพิบัติจากลูกเห็บนั้นร้ายแรงยิ่งนัก (พระธรรม วิวรณ์ 16:1-21)
เมื่อ ภัยพิบัติอย่างที่ 7 สิ้นสุดลง พระเยซูคริสต์ก็จะเสด็จกลับมาเพื่อช่วยกู้บรรดาผู้ที่ซื่อสัตย์ต่อ พระองค์ คุณจะเชื่อหรือไม่นั้นพระเจ้าจะไม่บังคับใครแต่สิ่งเหล่านี้จะเกิด ขึ้นแน่นอน ทางเดียวที่จะรอดคือไม่ว่าคุณจะเป็นหรือตาย คุณต้องเชื่อฟัง และปฏิบัติตาม
พระบัญญัติของพระเจ้า ไว้วางใจพระองค์เสมอ เพื่อเป็นพยานให้กับพระบัญญัติของพระเจ้า แล้วคุณจะได้รับบำเหน็จ คือ ชีวิตนิรันดร์ และพระองค์จะช่วยกู้ท่านให้รอดจากภัยพิบัติต่างๆ
ข้าพเจ้าได้เห็นบัลลังก์หลายบัลลังก์ และผู้ที่นั่งบนบัลลังก์นั้น เป็นผู้ที่จะพิพากษาและข้าพเจ้ายังได้เห็นดวงวิญญาณของคนทั้งปวงที่ถูกตัด ศีรษะ เพราะเป็นพยานของพระเยซูและเพราะพระวจนะของพระเจ้า และผู้ที่ไม่ได้บูชาสัตว์ร้ายนั้นหรือรูปของมัน และไม่ได้ติดเครื่องหมายของมันไว้ที่หน้าผากหรือที่มือของเขา คนเหล่านั้นกลับมีชีวิตขึ้นมาใหม่ และได้ครอบครองร่วมกับพระคริสต์เป็นเวลาพันปี ( พระธรรม วิวรณ์ 20:4 )