คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 11
อ่งกง นี่ดูแล อย่างดี มีจุดพัก จุดเช้ค และรอบการซ่อมบำรุง ของนองปิง กระเช้าที่ยาวที่สุดในเอเซีย เพราะ มันเป็นกระเช้า ข้ามเกาะ จาก ฮ่องกง ข้ามไปเกาะ ลันเตา แล้วพอข้ามทะเลไป แล้ว ยังต้องข้ามภูเขา ผ่านน้ำตก ดงไม่พุ่ม ซุ้มไม้เลื้อย และผาหินอีก กว่าจะไปถึง มันเลยจำเป็นต้องสร้าง ที่สำคัญ นองปิง มีพระใหญ่ ปรดิษย์ฐานอยู่ คนต้องการไปสักการะ
เกนติ้ง เป็น บ่อน และสวนสนุก และโรงแรมพักผ่อน คือดันให้ไปอยู่บนเขา เพื่อพัฒนากรท่องเที่ยว และ กักเขตการพนัน โดยใช้พื้นที่บนเขาแทน ซึ่ง บนเกนติ้ง มีโรงหนัง รถไฟเหาะ แมคโดนัล ร้านลีวาย สล๊อท บาคาร่า สระว่ายน้ำ โรงแรม 6 แห่ง บนเกนติ้ง เขาเลยสร้างกระเช้า เพื่อให้นักท่องเที่ยวขึ้นไป
Cr เพื่อนผมที่คุยกันในเฟส
บอกตามตรง ในมุมของเมืองไทยผมกลัวว่ามันจะกลายเป็นโฮปเวลที่ 2 ครับ เพราะอย่าลืมว่า ภูกระดึงเที่ยวได้แค่ช่วงเดือน ตุลาคม - เมษายน ช่วง พฤษภาคม - กันยายน น่าจะเป็นช่วงปิดป่า
ผมก็ให้สงสัยว่า กระเข้ามันจะคืนทุนได้อย่างไรเพราะข้างบนไม่มีอะไรที่เรียกได้ว่าจะสร้างรายได้ให้มาจ่ายกระเช้าเหมือนในต่างประเทศอย่างเกนติ้งที่เพื่อนผมยกตัวอย่าง
ถ้าเราจะสร้างกระเช้าเพื่อแคให้คนสามารถสะดวกสบายในการขึ้นภูเพื่อไปชมธรรมชาติมันสมควรแล้วจริงรึเปล่าในแง่ผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมทั้งตอนสร้าง และหลังสร้าง เอาง่าย ๆ คิดเล่น ๆ ถ้ามีฝูงช้างสักฝูงเดินผ่านมาทำให้เกิดปัญหากับกระเช้า เราจะทำอย่างไรกับฝูงช้างนั้นดี
คิดต่อเพิ่มการควบคุมกำหนดจำนวนนักท่องเที่ยวจะทำอย่างไร เพราะเมื่อก่อนถ้าว่ากันตรง ๆ การเดินขึ้นในช่วงพีก ๆ คนก็เกินปริมาณที่ภูจะรองรับได้แล้ว ทั้งที่นั่นก็กรองการขึ้นภูดวยการเดินแล้วยังเยอะขนาดนั้น เราจะมีมาตรการอะไรมาควบคุมปริมาณนักท่องเที่ยวกันดี ต้องเสียเงินจ้างเจ้าหน้าที่เพื่อควบคุมเพิ่ม นอกจากจะต้องลงทุนกระเข้าแล้วเราต้องเสียงบประมาณเพิ่มในการดูแลพื้นที่อีกงั้นรึ ที่สำคัญเราจะเชื่อมั่นได้ขนาดไหนว่าจะไม่ชุ่ย เจ้าหน้าที่จะรับสินบนเพียงเพื่อปล่อยให้นักท่องเที่ยวขึ้นไปไหม จะเกิดมาเฟียประจำพื้นที่เพื่อรับจองคิวการขึ้นภูหรือไม่ ปัญหาที่ตามมามันเยอะนะครับ ไม่ใช่แค่สร้างกระเช้าเสร็จดูแลให้ดี ควบคุมคนให้ได้ง่าย ๆ เอง พูดนะมันง่าย แต่ทำนะมันยาก เอาจริง ๆ ถ้ามองตัวอย่างที่เพื่อนผมยกมาสองที่ คือ ฮ่องกง มาเลย์ กระเช้าเข้าพาดผ่านพื้นที่ภูเขาก็จริงแต่มันไม่ใช่พื้นที่ธรรมชาตินะครับ
สุดท้าย ก็แค่พูดในแง่เศรษฐกิจบ้างนอกจากเพื่อธรรมชาติ มันคุ้มค่าที่จะสร้างกระเช้าจริง ๆ งั้นรึ ทั้งที่จริง ๆ แล้วในช่วงฤดูกาลท่องเที่ยวภูกระดึงก็มีนักท่องเต็มลิมิตอยู่แล้วการมีกระเซ้ามันเพิ่มมูลค่าให้การท่องเที่ยวได้จริงงั้นรึ
ปล. ถ้าจะสร้างกระเช้าและยกเลิกภูกระดึงจากอุทยานแห่งชาติ แล้วพัฒนาพื้นที่ให้เต็มที่อันนั้นก็เป็นอีกแบบหนึ่งอันนี้ไม่อยากให้ทำนะครับ แต่ถ้าสร้างกระเช้าเพื่อให้คนไปท่องชมธรรมชาติบนภูผมว่าไม่เมกเซนต์ในทางความคุ้มค่าทางการลงทุนเลย
เกนติ้ง เป็น บ่อน และสวนสนุก และโรงแรมพักผ่อน คือดันให้ไปอยู่บนเขา เพื่อพัฒนากรท่องเที่ยว และ กักเขตการพนัน โดยใช้พื้นที่บนเขาแทน ซึ่ง บนเกนติ้ง มีโรงหนัง รถไฟเหาะ แมคโดนัล ร้านลีวาย สล๊อท บาคาร่า สระว่ายน้ำ โรงแรม 6 แห่ง บนเกนติ้ง เขาเลยสร้างกระเช้า เพื่อให้นักท่องเที่ยวขึ้นไป
Cr เพื่อนผมที่คุยกันในเฟส
บอกตามตรง ในมุมของเมืองไทยผมกลัวว่ามันจะกลายเป็นโฮปเวลที่ 2 ครับ เพราะอย่าลืมว่า ภูกระดึงเที่ยวได้แค่ช่วงเดือน ตุลาคม - เมษายน ช่วง พฤษภาคม - กันยายน น่าจะเป็นช่วงปิดป่า
ผมก็ให้สงสัยว่า กระเข้ามันจะคืนทุนได้อย่างไรเพราะข้างบนไม่มีอะไรที่เรียกได้ว่าจะสร้างรายได้ให้มาจ่ายกระเช้าเหมือนในต่างประเทศอย่างเกนติ้งที่เพื่อนผมยกตัวอย่าง
ถ้าเราจะสร้างกระเช้าเพื่อแคให้คนสามารถสะดวกสบายในการขึ้นภูเพื่อไปชมธรรมชาติมันสมควรแล้วจริงรึเปล่าในแง่ผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมทั้งตอนสร้าง และหลังสร้าง เอาง่าย ๆ คิดเล่น ๆ ถ้ามีฝูงช้างสักฝูงเดินผ่านมาทำให้เกิดปัญหากับกระเช้า เราจะทำอย่างไรกับฝูงช้างนั้นดี
คิดต่อเพิ่มการควบคุมกำหนดจำนวนนักท่องเที่ยวจะทำอย่างไร เพราะเมื่อก่อนถ้าว่ากันตรง ๆ การเดินขึ้นในช่วงพีก ๆ คนก็เกินปริมาณที่ภูจะรองรับได้แล้ว ทั้งที่นั่นก็กรองการขึ้นภูดวยการเดินแล้วยังเยอะขนาดนั้น เราจะมีมาตรการอะไรมาควบคุมปริมาณนักท่องเที่ยวกันดี ต้องเสียเงินจ้างเจ้าหน้าที่เพื่อควบคุมเพิ่ม นอกจากจะต้องลงทุนกระเข้าแล้วเราต้องเสียงบประมาณเพิ่มในการดูแลพื้นที่อีกงั้นรึ ที่สำคัญเราจะเชื่อมั่นได้ขนาดไหนว่าจะไม่ชุ่ย เจ้าหน้าที่จะรับสินบนเพียงเพื่อปล่อยให้นักท่องเที่ยวขึ้นไปไหม จะเกิดมาเฟียประจำพื้นที่เพื่อรับจองคิวการขึ้นภูหรือไม่ ปัญหาที่ตามมามันเยอะนะครับ ไม่ใช่แค่สร้างกระเช้าเสร็จดูแลให้ดี ควบคุมคนให้ได้ง่าย ๆ เอง พูดนะมันง่าย แต่ทำนะมันยาก เอาจริง ๆ ถ้ามองตัวอย่างที่เพื่อนผมยกมาสองที่ คือ ฮ่องกง มาเลย์ กระเช้าเข้าพาดผ่านพื้นที่ภูเขาก็จริงแต่มันไม่ใช่พื้นที่ธรรมชาตินะครับ
สุดท้าย ก็แค่พูดในแง่เศรษฐกิจบ้างนอกจากเพื่อธรรมชาติ มันคุ้มค่าที่จะสร้างกระเช้าจริง ๆ งั้นรึ ทั้งที่จริง ๆ แล้วในช่วงฤดูกาลท่องเที่ยวภูกระดึงก็มีนักท่องเต็มลิมิตอยู่แล้วการมีกระเซ้ามันเพิ่มมูลค่าให้การท่องเที่ยวได้จริงงั้นรึ
ปล. ถ้าจะสร้างกระเช้าและยกเลิกภูกระดึงจากอุทยานแห่งชาติ แล้วพัฒนาพื้นที่ให้เต็มที่อันนั้นก็เป็นอีกแบบหนึ่งอันนี้ไม่อยากให้ทำนะครับ แต่ถ้าสร้างกระเช้าเพื่อให้คนไปท่องชมธรรมชาติบนภูผมว่าไม่เมกเซนต์ในทางความคุ้มค่าทางการลงทุนเลย
แสดงความคิดเห็น
กระเช้าภูกระดึง
ฟังแล้วสงสัยว่า จะเริ่มสร้างแล้วใช่ไหม
สงสัยจริง ๆ นะ ถ้าตัวเราไม่สามารถเดินขึ้นไปบนภูกระดึงได้
เราจะสามารถเที่ยวอะไรบนภูกระดึงได้
มันไม่ใช่ที่เที่ยวที่แค่เดนขึ้นถึงยอดถ่ายรูปแล้วกลับนี่ครับ
มันต้องเดินไปเที่ยวตามจุดต่าง ๆ ซึ่งระยะทางมันมากกว่าเดินขึ้นภูด้วยซ้ำในบางสถานที่
ถ้าถามผมนะ เมื่อไรที่ญี่ปุ่นสร้างกระเช้าให้คนขึ้นภูเขาไฟฟูจิ ค่อยมาคุยกันเรื่องสร้างกระเช้าขึ้นภูกระดึงจะดีกว่าไหม
ผมว่าการให้คนที่จะขึ้นภูได้ต้องเดินมันไม่ใช่การกีดกันคนที่เดินไม่ได้นะครับ
แต่มันแค่ธรรมชาติเลือกที่จะให้คนที่พร้อมขึ้นไปสัมผัสเค้า และธรรมชาติก็เตรียมสถานที่ให้กับคนที่ไม่พร้อมจะเดินไว้อยุ่แล้ว
มนุษย์เราต้องไปให้ได้มันทุกที่โดยที่จะไม่สนใจการเลือกของธรรมชาติเลยละมั้งนี้