สวัสดีค่ะ..........เพื่อนๆทุกคน (สาเหตุที่เราเขียนกระทู้นี้ขึ้นมาคือเราอยากรู้ว่าตอนนี้เราตัดสินใจถูกเเล้วใจมั้ยค่ะ เราอยากจะให้เพื่อนๆช่วยเราคิดหน่อยว่าเราควรทำยังไงดี ตอนนี้เราเหมือนจะเข้มเเข็งเเล้ว เเต่ในใจเราลึกๆเรากลับยังรู้สึกว่าตัวเองเข้มเเข็งไม่พออยากได้กำลังใจมากๆเลยค่ะ เราเพิ่งจะเลิกกับเเฟนได้เเค่สามวัน)
เอาเป็นว่าเราขอเท้าความเลยเเล้วกัน.......เรากับเเฟนคบกันมาประมาณ 1 ปีกว่าๆค่ะ ตอนเริ่มรักครั้งเเรก เราเป็นคนที่รักเเละจีบเค้าก่อนค่ะ รักของเราสองคนตอนนั้นเราสองคนต่างฝ่ายต่างก็ยังเรียนหนังสืออยู่ พูดง่ายๆก็คือความรักของเราเกิดขึ้นตั้งเเต่สมัยเรียนค่ะ เราคบกันมาด้วยความรัก ความเข้าใจ ปลอบโยนกันเเละกันมาตลอด. เรากับเเฟนเราอายุห่างกันสองปี จนวันนึงเราทั้งคู่เรียนจบ เราสองคนตัดสินใจที่จะอยู่ด้วยกัน. เเต่การอยู่ด้วยกันของเราคือการเช่าหอพักใกล้กับที่ทำงานของเราค่ะ คือลืมบอกเป็นว่าเรากับเเฟนทำงานในสายอาชีพเดียวกันเเต่เเค่ที่ทำงานคนละที่กัน เเต่เราสองคนตัดสินใจให้ที่พักอยู่ใกล้ทึ่ทำงานของเราเอง เพื่อจะได้สะดวกเวลาเดินทางไปทำงาน ส่วนเเฟนเค้าก็จะได้ไปทำงานได้สะดวกเหมือนกัน เเต่เราสองคนก็ไม่ได้อยู่ด้วยกันทุกวันนะค่ะ เค้าจะมาหาเราเฉพาะช่วงวันพุธหรือไม่ก็วันพฤหัสบดีค่ะ เพราะพี่เค้าทำงานเป็นเเบบ past time ไม่ได้ประจำที่ใดที่หนึ่ง เเต่ที่เค้ามาอยู่กับเราหรือมาหาเราเฉพาะวันพุธหรือพฤหัสก็เพราะว่าที่พักเราใกล้ที่ทำงานพี่เค้าค่ะ. ส่วนวันที่เหลือที่ไม่ได้อยู่ด้วยกันพี่เค้าก็กลับไปนอนที่บ้าน เราสองคนอยู่ด้วยกันเเบบนี้ประมาณ 1 เดือน ชีวิตก็ปกติทั่วไป ต่างฝ่ายต่างทำงานของตัวเอง พูดตรงๆว่าบางครั้งเราสองคนไม่ค่อยมีเวลาให้กันซักเท่าไหร่ ชีวิตเหมือนจะไม่ค่อยมีสีสันซักเท่าไหร่ทั้ เราเชื่อใจเเฟนมากจนไม่คิดว่าเรื่องที่เราจะเล่าให้เพื่อนฟังต่อไปนี้จะเกิดขึ้น. จนกระทั้งปลายเดือนมิ.ย ต้นเดือน ส.ค วันนั้นเราจำได้ดีว่ามีเบอร์โทรศัพท์เเปลกๆ เบอร์ใครเราก็ไม่รู้จักโทรมา พอเรารับสายนี้กลับมีเสียงผญ.คนนึง คือบทสทนาระหว่างเรากับเจ้าของเบอร์เเปลกนั้น
ผญ: ฮัลโหล สวัสดีค่ะ
เรา:ฮัลโหลค่ะ สวัสดีค่ะ
เรา:นี้ใครเหรอค่ะ นี้เบอร์ใครเหรอค่ะ
ผญ.:ค่ะนี้เบอร์น้อง A หรือป่าวค่ะ
เรา:ค่ะ A พูดอยู่ค่ะ พี่มีอะไรหรือป่าวค่ะ
ผญ.น้อง A ที่เป็นเเฟนกับคุณ Bใช่มั้ยค่ะ
เรา: ใช่ค่ะ
ผญ: พี่เป็นพยาบาล รพ....นะค่ะ พี่อยากจะบอกน้องว่าพี่ชอบคุณ B ค่ะ พี่ชอบเค้ามากจริงๆนะค่ะ
เรา: เเล้วพี่มาบอกหน฿่ทำมันค่ะ ทำไมพี่ไม่ไปบอกคุณ B ล่ะคะ พี่บอกหนูพี่ต้องการอะไร?
เสียงโทรศัพท์ไม่ค่อยมีสัญญานเเล้วก็ตัดสายจากเราไป หลังจากบทสนทนาจบ. หลังจากนั้นเราเริ่มรู้สึกได้เเล้วว่ามันต้องมีอะไรเเน่นอน เราก็เลยตัดสินใจโทรหาเเฟนเราเพื่อท่ีจะเคลียร์ทุกๆเรื่องที่คาใจ เราถามเค้าว่าเค้าคุยกับผญ.คนอื่นหรือป่าว เเอบไปมีกิ๊กหรือป่าว เเต่เค้ากลับตอบเราว่าป่าว ไม่ได้คุยกับใครเลย ก็คุยเเค่น้องที่ทำงานด้วยกันนี้เเหละ ก็คุยในฐานะเพื่อนร่วมงานนี้เเหละ ไม่ได้คิดอะไร เราไม่อยากรู้สึกว่าตัวเองเป็นคนจู้จี้จุกจิกชอบคิดวุ่นวายเราเลยไม่ได้ถามอะไรต่อ หลังจากวันนั้นเวลาผ่านมาอีกประมาณ 1 อาทิตย์เค้าก็มาหาเราปกติ เเต่พูดตรงๆเลยว่าเราเองก็เป็นผญ. เราก็มีอาการระเเวง และอยากรู้ว่าเเฟนเราเค้ามีกิ๊กหรือป่าว เราเลยตัดสินใจที่จะขอยืมโทรศัพท์เเฟนมาส่อง เเต่เราเเกล้งทำเป็นว่าเน็ตมือถือเรามันช้าเลยจะขอเล่นเน็ตเครื่องเค้าหน่อย เค้าก็ไม่ไก้ระเเวงอะไร พอเราไก้โทรศัพท์มาเราก็ส่องดูรูปถ่ายในเครื่องเเฟน เรากลับเจอรูปคู่ผญ.คนนึงที่ถ่ายรูปคู่กับเเฟนเราสองรูป เรารู้สึกได้ว่ามันเเปลกๆ เลยเลื่อนขึ้นไปเพื่อหารูปคู่ของเรากับเเฟนเเต่กลับกลายเป็นว่าไม่มี รูปคู่ที่มีมันหายไป เราเลยเเกล้งถามเเฟนว่านี้ถ่ายคู่กับใครเหรอ เค้าตอบเราว่าเพื่อนเค้าสมัยเรียนเตรียมอุดม เราเลยตอบไปว่าน่ารักมากเลยเนอะ สวยด้วย เเฟนเราเค้าก็อึ้งไปสักพัก เราก็ทำการส่องต่อเเละก็ไปเจอเป็นบทสนทนากับพยาบาลคนนึงเเต่ตอนนัน้ เราไม่อยากคิดมากเราเลยไม่ได้ถามอะไรเยอะกลัวเค้าจะรำคาญ หลังจากวันนั้นก็ผ่านมาอีกหนึ่งอาทิตย์ สองอาทิตย์ที่ผ่านมาเรากล้าพูดเลยว่าเราอยู่ด้วยความหวาดระเเวงมากๆ เเต่เราเองก็ไม่กล้าถามเค้าจนพอเริ่มเข้าอาทิตย์ที่สามเราบอกกับเเฟนว่าอาทิตย์นี้ไม่ต้องมาหานะเพราะเราเลิกงานดึกเกือบทุกวัน. เลยไม่อยากให้เค้ามารอ เค้าก็ตอบว่าอื้ม หลังจากนั้นผ่านไป เค้าก็ไม่มาจริงๆ เรานั่งนับวันรอให้เค้ามาหา. วันเเล้ววันเล่าเเต่เค้าก็ไม่ได้มาจนสองอาทิย์ ตอนเเรกเราคิดว่าเพราะเค้ากลัวว่าเราจะทำงานยุ่งเลิกดึกหรือป่าวที่เค้าไม่มาเลยตัดสินใจ ไลด์หาเค้า เราลืมบอกเพื่อนๆไปค่ะว่าเราคุยโทรศัพท์กันน้อยมากส่วนใหญ่ก็มักจะเป็นไลด์หากันมากกว่า. เราเลยถามเค้าว่าเค้าจะมาหาเรามั้ยอาทิตย์เค้าบอกว่าไม่ เเล้วจากปกติที่เราไลด์หาเเฟนเราเค้าจะอ่านไลด์เร็วมาก เเละตอบเราเร็วมากกลับกลายเป็นว่าผ่านไปชั่วโมงนึง บางครั้งก็ครึ่งวันเค้าถึงจะอ่าน,....,..เเค่นี้ก่อนนะค่ะเดี๋ยวเข้ามาเล่าต่อ เกี่ยวกับความเลวของเเฟนเราใหม่
ฉันคิดถูกเเล้วใช่มั้ยที่เดินออกมา!
เอาเป็นว่าเราขอเท้าความเลยเเล้วกัน.......เรากับเเฟนคบกันมาประมาณ 1 ปีกว่าๆค่ะ ตอนเริ่มรักครั้งเเรก เราเป็นคนที่รักเเละจีบเค้าก่อนค่ะ รักของเราสองคนตอนนั้นเราสองคนต่างฝ่ายต่างก็ยังเรียนหนังสืออยู่ พูดง่ายๆก็คือความรักของเราเกิดขึ้นตั้งเเต่สมัยเรียนค่ะ เราคบกันมาด้วยความรัก ความเข้าใจ ปลอบโยนกันเเละกันมาตลอด. เรากับเเฟนเราอายุห่างกันสองปี จนวันนึงเราทั้งคู่เรียนจบ เราสองคนตัดสินใจที่จะอยู่ด้วยกัน. เเต่การอยู่ด้วยกันของเราคือการเช่าหอพักใกล้กับที่ทำงานของเราค่ะ คือลืมบอกเป็นว่าเรากับเเฟนทำงานในสายอาชีพเดียวกันเเต่เเค่ที่ทำงานคนละที่กัน เเต่เราสองคนตัดสินใจให้ที่พักอยู่ใกล้ทึ่ทำงานของเราเอง เพื่อจะได้สะดวกเวลาเดินทางไปทำงาน ส่วนเเฟนเค้าก็จะได้ไปทำงานได้สะดวกเหมือนกัน เเต่เราสองคนก็ไม่ได้อยู่ด้วยกันทุกวันนะค่ะ เค้าจะมาหาเราเฉพาะช่วงวันพุธหรือไม่ก็วันพฤหัสบดีค่ะ เพราะพี่เค้าทำงานเป็นเเบบ past time ไม่ได้ประจำที่ใดที่หนึ่ง เเต่ที่เค้ามาอยู่กับเราหรือมาหาเราเฉพาะวันพุธหรือพฤหัสก็เพราะว่าที่พักเราใกล้ที่ทำงานพี่เค้าค่ะ. ส่วนวันที่เหลือที่ไม่ได้อยู่ด้วยกันพี่เค้าก็กลับไปนอนที่บ้าน เราสองคนอยู่ด้วยกันเเบบนี้ประมาณ 1 เดือน ชีวิตก็ปกติทั่วไป ต่างฝ่ายต่างทำงานของตัวเอง พูดตรงๆว่าบางครั้งเราสองคนไม่ค่อยมีเวลาให้กันซักเท่าไหร่ ชีวิตเหมือนจะไม่ค่อยมีสีสันซักเท่าไหร่ทั้ เราเชื่อใจเเฟนมากจนไม่คิดว่าเรื่องที่เราจะเล่าให้เพื่อนฟังต่อไปนี้จะเกิดขึ้น. จนกระทั้งปลายเดือนมิ.ย ต้นเดือน ส.ค วันนั้นเราจำได้ดีว่ามีเบอร์โทรศัพท์เเปลกๆ เบอร์ใครเราก็ไม่รู้จักโทรมา พอเรารับสายนี้กลับมีเสียงผญ.คนนึง คือบทสทนาระหว่างเรากับเจ้าของเบอร์เเปลกนั้น
ผญ: ฮัลโหล สวัสดีค่ะ
เรา:ฮัลโหลค่ะ สวัสดีค่ะ
เรา:นี้ใครเหรอค่ะ นี้เบอร์ใครเหรอค่ะ
ผญ.:ค่ะนี้เบอร์น้อง A หรือป่าวค่ะ
เรา:ค่ะ A พูดอยู่ค่ะ พี่มีอะไรหรือป่าวค่ะ
ผญ.น้อง A ที่เป็นเเฟนกับคุณ Bใช่มั้ยค่ะ
เรา: ใช่ค่ะ
ผญ: พี่เป็นพยาบาล รพ....นะค่ะ พี่อยากจะบอกน้องว่าพี่ชอบคุณ B ค่ะ พี่ชอบเค้ามากจริงๆนะค่ะ
เรา: เเล้วพี่มาบอกหน฿่ทำมันค่ะ ทำไมพี่ไม่ไปบอกคุณ B ล่ะคะ พี่บอกหนูพี่ต้องการอะไร?
เสียงโทรศัพท์ไม่ค่อยมีสัญญานเเล้วก็ตัดสายจากเราไป หลังจากบทสนทนาจบ. หลังจากนั้นเราเริ่มรู้สึกได้เเล้วว่ามันต้องมีอะไรเเน่นอน เราก็เลยตัดสินใจโทรหาเเฟนเราเพื่อท่ีจะเคลียร์ทุกๆเรื่องที่คาใจ เราถามเค้าว่าเค้าคุยกับผญ.คนอื่นหรือป่าว เเอบไปมีกิ๊กหรือป่าว เเต่เค้ากลับตอบเราว่าป่าว ไม่ได้คุยกับใครเลย ก็คุยเเค่น้องที่ทำงานด้วยกันนี้เเหละ ก็คุยในฐานะเพื่อนร่วมงานนี้เเหละ ไม่ได้คิดอะไร เราไม่อยากรู้สึกว่าตัวเองเป็นคนจู้จี้จุกจิกชอบคิดวุ่นวายเราเลยไม่ได้ถามอะไรต่อ หลังจากวันนั้นเวลาผ่านมาอีกประมาณ 1 อาทิตย์เค้าก็มาหาเราปกติ เเต่พูดตรงๆเลยว่าเราเองก็เป็นผญ. เราก็มีอาการระเเวง และอยากรู้ว่าเเฟนเราเค้ามีกิ๊กหรือป่าว เราเลยตัดสินใจที่จะขอยืมโทรศัพท์เเฟนมาส่อง เเต่เราเเกล้งทำเป็นว่าเน็ตมือถือเรามันช้าเลยจะขอเล่นเน็ตเครื่องเค้าหน่อย เค้าก็ไม่ไก้ระเเวงอะไร พอเราไก้โทรศัพท์มาเราก็ส่องดูรูปถ่ายในเครื่องเเฟน เรากลับเจอรูปคู่ผญ.คนนึงที่ถ่ายรูปคู่กับเเฟนเราสองรูป เรารู้สึกได้ว่ามันเเปลกๆ เลยเลื่อนขึ้นไปเพื่อหารูปคู่ของเรากับเเฟนเเต่กลับกลายเป็นว่าไม่มี รูปคู่ที่มีมันหายไป เราเลยเเกล้งถามเเฟนว่านี้ถ่ายคู่กับใครเหรอ เค้าตอบเราว่าเพื่อนเค้าสมัยเรียนเตรียมอุดม เราเลยตอบไปว่าน่ารักมากเลยเนอะ สวยด้วย เเฟนเราเค้าก็อึ้งไปสักพัก เราก็ทำการส่องต่อเเละก็ไปเจอเป็นบทสนทนากับพยาบาลคนนึงเเต่ตอนนัน้ เราไม่อยากคิดมากเราเลยไม่ได้ถามอะไรเยอะกลัวเค้าจะรำคาญ หลังจากวันนั้นก็ผ่านมาอีกหนึ่งอาทิตย์ สองอาทิตย์ที่ผ่านมาเรากล้าพูดเลยว่าเราอยู่ด้วยความหวาดระเเวงมากๆ เเต่เราเองก็ไม่กล้าถามเค้าจนพอเริ่มเข้าอาทิตย์ที่สามเราบอกกับเเฟนว่าอาทิตย์นี้ไม่ต้องมาหานะเพราะเราเลิกงานดึกเกือบทุกวัน. เลยไม่อยากให้เค้ามารอ เค้าก็ตอบว่าอื้ม หลังจากนั้นผ่านไป เค้าก็ไม่มาจริงๆ เรานั่งนับวันรอให้เค้ามาหา. วันเเล้ววันเล่าเเต่เค้าก็ไม่ได้มาจนสองอาทิย์ ตอนเเรกเราคิดว่าเพราะเค้ากลัวว่าเราจะทำงานยุ่งเลิกดึกหรือป่าวที่เค้าไม่มาเลยตัดสินใจ ไลด์หาเค้า เราลืมบอกเพื่อนๆไปค่ะว่าเราคุยโทรศัพท์กันน้อยมากส่วนใหญ่ก็มักจะเป็นไลด์หากันมากกว่า. เราเลยถามเค้าว่าเค้าจะมาหาเรามั้ยอาทิตย์เค้าบอกว่าไม่ เเล้วจากปกติที่เราไลด์หาเเฟนเราเค้าจะอ่านไลด์เร็วมาก เเละตอบเราเร็วมากกลับกลายเป็นว่าผ่านไปชั่วโมงนึง บางครั้งก็ครึ่งวันเค้าถึงจะอ่าน,....,..เเค่นี้ก่อนนะค่ะเดี๋ยวเข้ามาเล่าต่อ เกี่ยวกับความเลวของเเฟนเราใหม่