หลังจากเจอเล่มควบจนรอกัน3อาทิตย์ มาตอนใหม่ก็คุยกันอย่างเดียวก่อนศึกใหญ่ เป็นตอนเรื่อยๆอีกตอน
เปิดตอน การแข่งขัน Cosmic grand battle กำลังจะเริ่มขึ้น โดยในดวงดาวต่างๆของกองดาวสมาพันธ์ต่างๆจะมีประตูไปสู่คลังแสงที่ทุกคนรวมไปถึงผู้ที่แพ้จนไม่สามารถเข้าคลังแสงตามปกติได้อีกแล้วสามารถจะเข้ามาได้ และจะมีหลายจุดในแต่ละดาวแบบฟรีๆ
เมื่อประตูเปิดแล้วก็มิวายที่จะมีผู้ที่คิดจะหากำไรโดยการหลอกลวงผู้เล่นอื่นที่ไม่รู้เรื่องโดยการตั้งโต๊ะจำหน่ายตั๋วปลอมเพื่อหลอกผู้ที่คิดจะเข้าไปในคอสมิกแกรนด์แบทเทิลที่ไม่รู้เรื่องอะไรยอมจ่ายเป็นค่าผ่านทาง และที่ประตูนึงใกล้เมืองๆหนึ่ง ผู้ที่จะเข้าไปคอสมิกแกรนด์แบทเทิลก็เจอเข้ากับกลุ่มต้มตุ๋นประเภทนี้เข้าโดยเรียกค่าเข้าถึง 5000 ผู้ที่ไม่รู้อะไรเลยถึงกับเหงื่อตกเมื่อเจอค่าผ่านทางขนาดนี้ แต่เมื่อคิดถึงความคุ้มค่าก็เลยยอมจ่ายแต่โดยดี ยิ่งมีคนที่ไม่รู้อะไรเข้ามาเยอะก็ยิ่งทำให้กลุ่มต้มตุ๋นนี้ยิ้มแป้นกันใหญ่หลอกไปได้ 5 กลุ่มแล้ว
ขณะที่กำลังหวานหมูอยู่นั้นเองก็มีกลุ่มอีกกลุ่มหนึ่งมา พอจะเริ่มเรียกเก็บอีกแต่ก็ต้องชะงักเมื่อผู้ที่มากลุ่มนี้หน้าตาไม่บ่งบอกถึงความเป็นมนุษย์แม้แต่น้อยจนกลุ่มต้มตุ๋นถึงกับตาถล่นจนกลัว พอถูกกลุ่มประหลาดหน้ามอนสเตอร์บอกให้หลีกทางก็เลยยอมหลีกให้ทันที เมื่อกลุ่มประหลาดหน้าตามอนสเตอร์ผ่านกลุ่มต้มตุ๋นมาได้แล้วแต่ละคนก็พูดกันเลยว่า สำเร็จ เป็นการปลอมตัวที่ไม่มีใครสงสัยเลยสักนิด กลุ่มผู้ปลอมตัวนี่ก็คือกลุ่มของกานดาเองที่ปลอมตัวเพื่อหนีจากการตามล่า แต่เพราะการปลอมด้วยหน้ากากมอนสเตอร์นี่เองเลยมีคนอื่นบางคนเข้าใจผิดจนจะเข้ามาโจมตีซะด้วยซ้ำ โดยเฉพาะภัสสรที่มีครั้งหนึ่งถึงกับเผลอยิงใส่ผู้เล่นคนหนึ่งที่จะเข้ามาโจมตีจากข้างหลังจนภัสสรตกใจเผลอโจมตีไป นอกจากนี้ยังมีเรื่องหนึ่งที่ทุกคนสงสัยคือ หน้ากากไฟเยอร์หายตัวไป แต่ทุกคนก็ไม่ได้แปลกใจเพราะคิดว่าคงไปไหนมาไหนตามใจชอบเหมือนเคยและเดี๋ยวก็ตามมาเอง
เมื่อกลุ่มกานดาพร้อมแล้ว(กลุ่มคนกองยานตอนนี้ไม่ได้อยู่กับกานดาแล้ว)ทุกคนก็เข้าประตูคลังแสงคอสมิกแกรนด์แบทเทิลเข้าไปกันทันที หลังจากเข้ามาภาพที่พวกกานดาเห็นตรงหน้าก็คือฝูงชนจำนวนมากที่ต่างอยู่รวมกันที่ลานกว้างขนาดใหญ่ พูดได้เลยว่าจำนวนคนเยอะกว่าที่เกรทเซอเคิลเสียอีก มัจฉาบอกที่นี่จะมีเพลเยอร์เข้ามานับล้านเพราะนี่คือคลังแสงแบบที่ใครๆก็เข้ามาได้ และเช่นเดียวกับคลังแสงตามปกติที่ผู้เล่นจะโจมตีกันเองไม่ได้จึงหมดห่วงเรื่องจะโดน Ranking Killer เล่นงานไปได้
จากนั้นพวกกานดาก็ไปหากลุ่มคนกลุ่มหนึ่งที่ได้นัดกันไว้แล้ว นั้นคือกลุ่มบ้านวินเชสเตอร์เดิมที่ได้แยกตัวจากพวกกานดาไปนั้นเอง กลุ่มบ้านวินเชสเตอร์พอรู้ว่าพวกกานดาจะมาก็เลยเข้ามารออยู่แล้ว และเพื่อฉลองที่ไม่ได้เจอกันนานกลุ่มจอมยุทธแห่งบ้านวินเชสเตอร์จึงใช้สกิลสุดสะดวกอัญเชิญ "โรงเตี๊ยม" ออกมาในพริบตาแบบทั้งหลังจนกานดายังตะลึง และชวนกันมาดื่ม "สุรามหาStun" ที่เป็นสุราชั้นเลิศที่ดื่มแล้วจะโชคดีไปทั้งวัน แต่มีผลข้างเคียงคือจะเกิดอาการมึนงง (Stun) อย่างรุนแรงเป็นระยะๆครั้งละ 15 วินาที จึงไม่ควรดื่มก่อนทำการต่อสู้หรือขับยานพาหนะ
แล้วทุกคนก็มาคุยกันเรื่องที่หลังจากแยกกันไปโดยประเด็นหลักคือเรื่องลู่ทางการหาไอเทมที่จะได้จากคำใบ้ในคลังแสงคอสมิกแกรนด์แบทเทิลนี้ โดยก่อนที่พวกกานดาจะมากลุ่มวินเชสเตอร์ก็ไปรวบรวมเอกสารคำใบ้มาได้ร่วมร้อยแผ่นแล้ว แต่ในกลุ่มบ้านวินเชสเตอร์ตอนนี้มีสองคนยังไม่มาก็คือ อัษฎา กับ เกษม ที่บอกจะตามมาทีหลัง และกำลังจะคุยเรื่องที่มีหลายกลุ่มที่โดน Ranking Killer ไล่ล่า แต่ขณะที่คุยๆบางครั้งคนที่พูดๆอยู่ก็เกิด stun ไปซะงั้นจากผลของสุราเลยทำให้การคุยกันขาดช่วงเป็นบางครั้ง ตอนนี้ในกลุ่มคนที่โดนไล่ล่าคือกานดาที่เป็นหนึ่งในผู้มีสิทธิ์จบเกมที่อันตรายจากการจะโดนล่าที่สุดแต่ก็โชคดีที่รอดมาได้อยู่ ยิ่งมัจฉายิ่งพูดเลยว่ายิ่งกานดายิ่งยังไม่ได้คิดเรื่องขอพรหลังจบเกมเลยด้วยซ้ำ
หลังจากนั้นทุกคนต่างก็คุยกันเฮฮาตามภาษาเพื่อนเก่ามาเจอกัน นอกจากกานดากับภัสสรที่ต้องเตรียมการต่อสู้ ทางกานดาก็กำลังเตรียมหีบแพนโดร่าอยู่ ส่วนด้านภัสสรก็เริ่มคิดเรื่องที่จะต้องสู้เหมือนกัน แต่ก็กำลังหนักใจกับข้อความอย่างเพียบที่ใครต่อใครส่งมาก็ไม่รู้ทั้งชวนเข้าร่วมกลุ่มทั้งขอดวลตั้งแต่เข้ามาในคลังแสงคอสมิกแกรนด์แบทเทิลนี่แล้ว
พอเหลือเวลา 20 นาที ไวพจน์ก็เข้ามาบอกเวลากับภัสสรและคุยกันนิดหน่อยคือเรื่องที่ไม่รู้ว่าจะต้องสู้กับใครบ้าง ไวพจน์เลยแซวเล่นว่าเผลอๆภัสสรอาจเจอกับกานดาซะเองก็ได้ ถึงจะแซวเล่นๆแต่ก็ทำเอาภัสสรหน้าซีดไปเลย ภัสสรเองก็มีคิดเรื่องนี้ไว้บ้างนิดหน่อยแล้วแต่ก็อดใจหายไม่ได้ ไวพจน์เลยถามว่าถ้าเจอกับกานดาจริงภัสสรคงจะยอมแพ้เลยใช่ไหม แต่ภัสสรคิดว่าคงไม่ง่ายแบบนั้นคิดว่ากานดาถือศักดิ์ศรีถึงเวลาก็ต้องสู้กัน ไวพจน์เลยบอกงั้นลองไปถามกานดากันเลย พอไปถามตรงๆกลายเป็นอย่างที่ไวพจน์คิดคือถ้าภัสสรจะยอมแพ้กานดายิ่งดีใจใหญ่ซะงั้น ทำเอาไวพจน์ถึงกับหันมามองภัสสรที่ทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้แก้ตัวว่ากานดาแค่ไม่อยากทำให้เธอลำบากใจเท่านั้น กานดาที่เหมือนจะเดินไปแล้วได้ยินก็เลยกลับมาตอบให้ว่าก็ตามนั้นแหละ บอกภัสสรใจดี ถ้าสู้กันก็คงออมมือกันอยู่ดี ถ้าภัสสรจะยอมแพ้ให้ก็ไม่ว่าอะไร(เพราะไม่มีศักดิ์ศรีอยู่แล้ว) เจอตอบกลับมาแบบนี้ภัสสรเลยต้องไประบายด้วยการตบหน้าไวพจน์พร้อมด่าเลยว่า "ไวพจน์บ้า" และวิ่งหนีไปเลย ทำเอาไวพจน์ถึงกับลงไปนอนเลย แต่ถึงอย่างนั้นไวพจน์ก็รู้สึกอดดูภัสสรที่กำลังชอบใครสักคนจนดูน่ารักไม่ได้อยู่ดี แต่ตัวเองพูดไปก็รู้สึกแปลกๆซะเองไม่รู้ตัวเองคิดไรอยู่ซะงั้น
อีกด้าน เกษมที่อยู่กับอัษฎาและถามอัษฎาว่าจะไม่ไปรวมกลุ่มเหรอ อัษฎาบอกไว้คนน้อยกว่านี้ก่อนแล้วค่อยไป(ยังหลบหลังพุ่มไม้เหมือนเดิม)จนเกษมบอกเลยว่างั้นแบบนี้งานนี้ไม่ได้ไปไหนแน่ แต่เกษมก็เสียดายแทนอัษฎาที่อีกนิดเดียวก็จะเรียนไม้ตายสำเร็จแล้ว แต่ก็ช่วยไม่ได้เพราะการฝึกอาวุธใหม่ต้องเสียเวลาไม่น้อย เกษมเองก็คิดว่าตัวเองหลังจากที่ไปเพิ่มเลเวลที่เพลทการ์เดี้ยนกับพวกกานดาตอนนั้นแล้วก็เหมือนไม่ได้ก้าวหน้าขึ้นเท่าไร ตอนนี้เกษมเลยกำลังเล็งแจ็คเก็ต 6 ดาวตัวหนึ่งที่ช่วยเพิ่มพลังและความเร็วให้เขาที่เป็นสายต่อสู้มือเปล่าอยู่
ขณะที่คุยกันอยู่ ตอนนั้นเองพิพัฒน์แห่งกลุ่ม Ranking Killer ก็มาทักทายอัษฎา บอกเลยว่าไม่คิดว่าอัษฎาจะได้ครอบครองอาวุธกับเขาด้วย ทางอัษฎาคิดว่าเป็นเรื่องบังเอิญที่พิพัฒน์มาแต่พิพัฒน์บอกตั้งใจมาหาต่างหาก อัษฎาทักก่อนเรื่องชุดของพิพัฒน์ที่กลับมาเป็นชุดแบบตอนเริ่มเกมแล้ว ไม่ใช่ชุดที่ดูโรคจิตแบบเดิม พิพัฒน์บอกเพราะหีบมีมิคสมบูรณ์แล้วจึงไม่จำเป็นต้องใส่ชุดเคลื่อนไหวยากนั้นอีก และที่พิพัฒน์แวะมาก็เพื่ออยากให้อัษฎาเข้ากลุ่มเผื่ออัษฎาจะเปลี่ยนใจและบอกเลยถ้าไม่มาเข้ากลุ่ม Ranking Killer อีกไม่นานอัษฎาก็จะอยู่ในรายชื่อผู้ถูกล่าแน่ แต่อัษฎาก็ไม่สนใจ
นอกจากนั้นอัษฎายังถามพิพัฒน์ว่าทำไมถึงร่วมมือกับพัมพ์กิ้น พิพัฒน์บอกแค่ทำหน้าที่ของหลานที่ดี อัษฎาที่คาดไม่ถึงก็เลยพึ่งจะเข้าใจจนพิพัฒน์พูดเลยว่าอัษฎายังไม่รู้เรื่องที่ลุงของเรากำลังทำอะไรทั้งๆที่อัษฎาเป็นถึงหลานรักแท้ๆ พิพัฒน์ก็เลยบอกให้ชัดเอย่างที่อัษฎานึกอยู่นั้นเองว่าลุงของอัษฎา(และพิพัฒน์)เป็นหนึ่งในกลุ่มทุนขนาดยักษ์ที่สร้างเกมนี้และวิจัย Esp และยังเป็นหัวหน้าจริงๆของพัมพ์กิ้นและพิพัฒน์ด้วย อัษฎาเลยแปลกใจว่าทำไมลุงที่เป็นถึงเจ้าของต้องส่งคนอย่างพัมพ์กิ้นมาจัดการในเกมด้วยทั้งๆที่น่าจะทำอะไรได้เลยแท้ๆ ถามเลยว่ากลุ่มทุนไม่ใช่ Ruler รึไง พิพัฒน์บอกอัษฎาไม่รู้อะไรซะเลย Ruler น่ะ...... แต่ก่อนจะได้บอกพิพัฒน์ก็ถูกพรรคพวกเรียกให้ไปได้แล้ว พิพัฒน์เลยขอตัวและปล่อยให้อัษฎาที่น่าจะเข้าใจได้แล้วว่าทำไมพัมพ์กิ้นถึงมาชวนเป็นพวก
ด้านกานดาและมัจฉาตอนนี้ก็มาคุยกันสองคน มัจฉาเสียดายที่ซ่อมจัสติสเรย์ไม่ทัน เสร็จไปได้แค่ 80% เอง กานดาก็ขออย่าให้พังระหว่างสู้เท่านั้น แล้วมัจฉาก็บอกให้กานดามองดูกลุ่มคนจำนวนมาก บอกว่าคนพวกนี้มาดูกานดาสู้ กานดาเลยเริ่มคิดว่าไม่เคยรู้สึกแบบนี้มาก่อนที่ตัวเองจะมีส่วนร่วมกับคนเยอะขนาดนี้ พอคิดแบบนี้เข้ากานดาก็เลยเริ่มจะตื่นเต้นจนตัวสั่นซะแล้วจนมัจฉาเหงื่อตก แต่กานดาก็ขอแก้ความเข้าใจผิดของมัจฉาเรื่องหนึ่งก็คือ จริงๆแล้วกานดาคิดเรื่องพรที่จะขอหากจบเกมได้แล้ว
จบตอน
เรื่อยๆไม่มีไรมาก มีประเด็นใหม่ตรงเรื่องของอัษฎานิดหน่อย ตอนหน้าคงเริ่มเกี่ยวกับกฎการสู้กัน(ละมั้ง) กว่าจะได้บู๊กันจริงๆคงอีก 2 ตอน
ภาพเดียวตอนนี้ เอาฉากการปลอมตัวของพวกกานดามาให้ดูกัน
[Spoil] EXEcutional - 240 # Cosmic grand battle : Start
เปิดตอน การแข่งขัน Cosmic grand battle กำลังจะเริ่มขึ้น โดยในดวงดาวต่างๆของกองดาวสมาพันธ์ต่างๆจะมีประตูไปสู่คลังแสงที่ทุกคนรวมไปถึงผู้ที่แพ้จนไม่สามารถเข้าคลังแสงตามปกติได้อีกแล้วสามารถจะเข้ามาได้ และจะมีหลายจุดในแต่ละดาวแบบฟรีๆ
เมื่อประตูเปิดแล้วก็มิวายที่จะมีผู้ที่คิดจะหากำไรโดยการหลอกลวงผู้เล่นอื่นที่ไม่รู้เรื่องโดยการตั้งโต๊ะจำหน่ายตั๋วปลอมเพื่อหลอกผู้ที่คิดจะเข้าไปในคอสมิกแกรนด์แบทเทิลที่ไม่รู้เรื่องอะไรยอมจ่ายเป็นค่าผ่านทาง และที่ประตูนึงใกล้เมืองๆหนึ่ง ผู้ที่จะเข้าไปคอสมิกแกรนด์แบทเทิลก็เจอเข้ากับกลุ่มต้มตุ๋นประเภทนี้เข้าโดยเรียกค่าเข้าถึง 5000 ผู้ที่ไม่รู้อะไรเลยถึงกับเหงื่อตกเมื่อเจอค่าผ่านทางขนาดนี้ แต่เมื่อคิดถึงความคุ้มค่าก็เลยยอมจ่ายแต่โดยดี ยิ่งมีคนที่ไม่รู้อะไรเข้ามาเยอะก็ยิ่งทำให้กลุ่มต้มตุ๋นนี้ยิ้มแป้นกันใหญ่หลอกไปได้ 5 กลุ่มแล้ว
ขณะที่กำลังหวานหมูอยู่นั้นเองก็มีกลุ่มอีกกลุ่มหนึ่งมา พอจะเริ่มเรียกเก็บอีกแต่ก็ต้องชะงักเมื่อผู้ที่มากลุ่มนี้หน้าตาไม่บ่งบอกถึงความเป็นมนุษย์แม้แต่น้อยจนกลุ่มต้มตุ๋นถึงกับตาถล่นจนกลัว พอถูกกลุ่มประหลาดหน้ามอนสเตอร์บอกให้หลีกทางก็เลยยอมหลีกให้ทันที เมื่อกลุ่มประหลาดหน้าตามอนสเตอร์ผ่านกลุ่มต้มตุ๋นมาได้แล้วแต่ละคนก็พูดกันเลยว่า สำเร็จ เป็นการปลอมตัวที่ไม่มีใครสงสัยเลยสักนิด กลุ่มผู้ปลอมตัวนี่ก็คือกลุ่มของกานดาเองที่ปลอมตัวเพื่อหนีจากการตามล่า แต่เพราะการปลอมด้วยหน้ากากมอนสเตอร์นี่เองเลยมีคนอื่นบางคนเข้าใจผิดจนจะเข้ามาโจมตีซะด้วยซ้ำ โดยเฉพาะภัสสรที่มีครั้งหนึ่งถึงกับเผลอยิงใส่ผู้เล่นคนหนึ่งที่จะเข้ามาโจมตีจากข้างหลังจนภัสสรตกใจเผลอโจมตีไป นอกจากนี้ยังมีเรื่องหนึ่งที่ทุกคนสงสัยคือ หน้ากากไฟเยอร์หายตัวไป แต่ทุกคนก็ไม่ได้แปลกใจเพราะคิดว่าคงไปไหนมาไหนตามใจชอบเหมือนเคยและเดี๋ยวก็ตามมาเอง
เมื่อกลุ่มกานดาพร้อมแล้ว(กลุ่มคนกองยานตอนนี้ไม่ได้อยู่กับกานดาแล้ว)ทุกคนก็เข้าประตูคลังแสงคอสมิกแกรนด์แบทเทิลเข้าไปกันทันที หลังจากเข้ามาภาพที่พวกกานดาเห็นตรงหน้าก็คือฝูงชนจำนวนมากที่ต่างอยู่รวมกันที่ลานกว้างขนาดใหญ่ พูดได้เลยว่าจำนวนคนเยอะกว่าที่เกรทเซอเคิลเสียอีก มัจฉาบอกที่นี่จะมีเพลเยอร์เข้ามานับล้านเพราะนี่คือคลังแสงแบบที่ใครๆก็เข้ามาได้ และเช่นเดียวกับคลังแสงตามปกติที่ผู้เล่นจะโจมตีกันเองไม่ได้จึงหมดห่วงเรื่องจะโดน Ranking Killer เล่นงานไปได้
จากนั้นพวกกานดาก็ไปหากลุ่มคนกลุ่มหนึ่งที่ได้นัดกันไว้แล้ว นั้นคือกลุ่มบ้านวินเชสเตอร์เดิมที่ได้แยกตัวจากพวกกานดาไปนั้นเอง กลุ่มบ้านวินเชสเตอร์พอรู้ว่าพวกกานดาจะมาก็เลยเข้ามารออยู่แล้ว และเพื่อฉลองที่ไม่ได้เจอกันนานกลุ่มจอมยุทธแห่งบ้านวินเชสเตอร์จึงใช้สกิลสุดสะดวกอัญเชิญ "โรงเตี๊ยม" ออกมาในพริบตาแบบทั้งหลังจนกานดายังตะลึง และชวนกันมาดื่ม "สุรามหาStun" ที่เป็นสุราชั้นเลิศที่ดื่มแล้วจะโชคดีไปทั้งวัน แต่มีผลข้างเคียงคือจะเกิดอาการมึนงง (Stun) อย่างรุนแรงเป็นระยะๆครั้งละ 15 วินาที จึงไม่ควรดื่มก่อนทำการต่อสู้หรือขับยานพาหนะ
แล้วทุกคนก็มาคุยกันเรื่องที่หลังจากแยกกันไปโดยประเด็นหลักคือเรื่องลู่ทางการหาไอเทมที่จะได้จากคำใบ้ในคลังแสงคอสมิกแกรนด์แบทเทิลนี้ โดยก่อนที่พวกกานดาจะมากลุ่มวินเชสเตอร์ก็ไปรวบรวมเอกสารคำใบ้มาได้ร่วมร้อยแผ่นแล้ว แต่ในกลุ่มบ้านวินเชสเตอร์ตอนนี้มีสองคนยังไม่มาก็คือ อัษฎา กับ เกษม ที่บอกจะตามมาทีหลัง และกำลังจะคุยเรื่องที่มีหลายกลุ่มที่โดน Ranking Killer ไล่ล่า แต่ขณะที่คุยๆบางครั้งคนที่พูดๆอยู่ก็เกิด stun ไปซะงั้นจากผลของสุราเลยทำให้การคุยกันขาดช่วงเป็นบางครั้ง ตอนนี้ในกลุ่มคนที่โดนไล่ล่าคือกานดาที่เป็นหนึ่งในผู้มีสิทธิ์จบเกมที่อันตรายจากการจะโดนล่าที่สุดแต่ก็โชคดีที่รอดมาได้อยู่ ยิ่งมัจฉายิ่งพูดเลยว่ายิ่งกานดายิ่งยังไม่ได้คิดเรื่องขอพรหลังจบเกมเลยด้วยซ้ำ
หลังจากนั้นทุกคนต่างก็คุยกันเฮฮาตามภาษาเพื่อนเก่ามาเจอกัน นอกจากกานดากับภัสสรที่ต้องเตรียมการต่อสู้ ทางกานดาก็กำลังเตรียมหีบแพนโดร่าอยู่ ส่วนด้านภัสสรก็เริ่มคิดเรื่องที่จะต้องสู้เหมือนกัน แต่ก็กำลังหนักใจกับข้อความอย่างเพียบที่ใครต่อใครส่งมาก็ไม่รู้ทั้งชวนเข้าร่วมกลุ่มทั้งขอดวลตั้งแต่เข้ามาในคลังแสงคอสมิกแกรนด์แบทเทิลนี่แล้ว
พอเหลือเวลา 20 นาที ไวพจน์ก็เข้ามาบอกเวลากับภัสสรและคุยกันนิดหน่อยคือเรื่องที่ไม่รู้ว่าจะต้องสู้กับใครบ้าง ไวพจน์เลยแซวเล่นว่าเผลอๆภัสสรอาจเจอกับกานดาซะเองก็ได้ ถึงจะแซวเล่นๆแต่ก็ทำเอาภัสสรหน้าซีดไปเลย ภัสสรเองก็มีคิดเรื่องนี้ไว้บ้างนิดหน่อยแล้วแต่ก็อดใจหายไม่ได้ ไวพจน์เลยถามว่าถ้าเจอกับกานดาจริงภัสสรคงจะยอมแพ้เลยใช่ไหม แต่ภัสสรคิดว่าคงไม่ง่ายแบบนั้นคิดว่ากานดาถือศักดิ์ศรีถึงเวลาก็ต้องสู้กัน ไวพจน์เลยบอกงั้นลองไปถามกานดากันเลย พอไปถามตรงๆกลายเป็นอย่างที่ไวพจน์คิดคือถ้าภัสสรจะยอมแพ้กานดายิ่งดีใจใหญ่ซะงั้น ทำเอาไวพจน์ถึงกับหันมามองภัสสรที่ทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้แก้ตัวว่ากานดาแค่ไม่อยากทำให้เธอลำบากใจเท่านั้น กานดาที่เหมือนจะเดินไปแล้วได้ยินก็เลยกลับมาตอบให้ว่าก็ตามนั้นแหละ บอกภัสสรใจดี ถ้าสู้กันก็คงออมมือกันอยู่ดี ถ้าภัสสรจะยอมแพ้ให้ก็ไม่ว่าอะไร(เพราะไม่มีศักดิ์ศรีอยู่แล้ว) เจอตอบกลับมาแบบนี้ภัสสรเลยต้องไประบายด้วยการตบหน้าไวพจน์พร้อมด่าเลยว่า "ไวพจน์บ้า" และวิ่งหนีไปเลย ทำเอาไวพจน์ถึงกับลงไปนอนเลย แต่ถึงอย่างนั้นไวพจน์ก็รู้สึกอดดูภัสสรที่กำลังชอบใครสักคนจนดูน่ารักไม่ได้อยู่ดี แต่ตัวเองพูดไปก็รู้สึกแปลกๆซะเองไม่รู้ตัวเองคิดไรอยู่ซะงั้น
อีกด้าน เกษมที่อยู่กับอัษฎาและถามอัษฎาว่าจะไม่ไปรวมกลุ่มเหรอ อัษฎาบอกไว้คนน้อยกว่านี้ก่อนแล้วค่อยไป(ยังหลบหลังพุ่มไม้เหมือนเดิม)จนเกษมบอกเลยว่างั้นแบบนี้งานนี้ไม่ได้ไปไหนแน่ แต่เกษมก็เสียดายแทนอัษฎาที่อีกนิดเดียวก็จะเรียนไม้ตายสำเร็จแล้ว แต่ก็ช่วยไม่ได้เพราะการฝึกอาวุธใหม่ต้องเสียเวลาไม่น้อย เกษมเองก็คิดว่าตัวเองหลังจากที่ไปเพิ่มเลเวลที่เพลทการ์เดี้ยนกับพวกกานดาตอนนั้นแล้วก็เหมือนไม่ได้ก้าวหน้าขึ้นเท่าไร ตอนนี้เกษมเลยกำลังเล็งแจ็คเก็ต 6 ดาวตัวหนึ่งที่ช่วยเพิ่มพลังและความเร็วให้เขาที่เป็นสายต่อสู้มือเปล่าอยู่
ขณะที่คุยกันอยู่ ตอนนั้นเองพิพัฒน์แห่งกลุ่ม Ranking Killer ก็มาทักทายอัษฎา บอกเลยว่าไม่คิดว่าอัษฎาจะได้ครอบครองอาวุธกับเขาด้วย ทางอัษฎาคิดว่าเป็นเรื่องบังเอิญที่พิพัฒน์มาแต่พิพัฒน์บอกตั้งใจมาหาต่างหาก อัษฎาทักก่อนเรื่องชุดของพิพัฒน์ที่กลับมาเป็นชุดแบบตอนเริ่มเกมแล้ว ไม่ใช่ชุดที่ดูโรคจิตแบบเดิม พิพัฒน์บอกเพราะหีบมีมิคสมบูรณ์แล้วจึงไม่จำเป็นต้องใส่ชุดเคลื่อนไหวยากนั้นอีก และที่พิพัฒน์แวะมาก็เพื่ออยากให้อัษฎาเข้ากลุ่มเผื่ออัษฎาจะเปลี่ยนใจและบอกเลยถ้าไม่มาเข้ากลุ่ม Ranking Killer อีกไม่นานอัษฎาก็จะอยู่ในรายชื่อผู้ถูกล่าแน่ แต่อัษฎาก็ไม่สนใจ
นอกจากนั้นอัษฎายังถามพิพัฒน์ว่าทำไมถึงร่วมมือกับพัมพ์กิ้น พิพัฒน์บอกแค่ทำหน้าที่ของหลานที่ดี อัษฎาที่คาดไม่ถึงก็เลยพึ่งจะเข้าใจจนพิพัฒน์พูดเลยว่าอัษฎายังไม่รู้เรื่องที่ลุงของเรากำลังทำอะไรทั้งๆที่อัษฎาเป็นถึงหลานรักแท้ๆ พิพัฒน์ก็เลยบอกให้ชัดเอย่างที่อัษฎานึกอยู่นั้นเองว่าลุงของอัษฎา(และพิพัฒน์)เป็นหนึ่งในกลุ่มทุนขนาดยักษ์ที่สร้างเกมนี้และวิจัย Esp และยังเป็นหัวหน้าจริงๆของพัมพ์กิ้นและพิพัฒน์ด้วย อัษฎาเลยแปลกใจว่าทำไมลุงที่เป็นถึงเจ้าของต้องส่งคนอย่างพัมพ์กิ้นมาจัดการในเกมด้วยทั้งๆที่น่าจะทำอะไรได้เลยแท้ๆ ถามเลยว่ากลุ่มทุนไม่ใช่ Ruler รึไง พิพัฒน์บอกอัษฎาไม่รู้อะไรซะเลย Ruler น่ะ...... แต่ก่อนจะได้บอกพิพัฒน์ก็ถูกพรรคพวกเรียกให้ไปได้แล้ว พิพัฒน์เลยขอตัวและปล่อยให้อัษฎาที่น่าจะเข้าใจได้แล้วว่าทำไมพัมพ์กิ้นถึงมาชวนเป็นพวก
ด้านกานดาและมัจฉาตอนนี้ก็มาคุยกันสองคน มัจฉาเสียดายที่ซ่อมจัสติสเรย์ไม่ทัน เสร็จไปได้แค่ 80% เอง กานดาก็ขออย่าให้พังระหว่างสู้เท่านั้น แล้วมัจฉาก็บอกให้กานดามองดูกลุ่มคนจำนวนมาก บอกว่าคนพวกนี้มาดูกานดาสู้ กานดาเลยเริ่มคิดว่าไม่เคยรู้สึกแบบนี้มาก่อนที่ตัวเองจะมีส่วนร่วมกับคนเยอะขนาดนี้ พอคิดแบบนี้เข้ากานดาก็เลยเริ่มจะตื่นเต้นจนตัวสั่นซะแล้วจนมัจฉาเหงื่อตก แต่กานดาก็ขอแก้ความเข้าใจผิดของมัจฉาเรื่องหนึ่งก็คือ จริงๆแล้วกานดาคิดเรื่องพรที่จะขอหากจบเกมได้แล้ว
จบตอน
เรื่อยๆไม่มีไรมาก มีประเด็นใหม่ตรงเรื่องของอัษฎานิดหน่อย ตอนหน้าคงเริ่มเกี่ยวกับกฎการสู้กัน(ละมั้ง) กว่าจะได้บู๊กันจริงๆคงอีก 2 ตอน
ภาพเดียวตอนนี้ เอาฉากการปลอมตัวของพวกกานดามาให้ดูกัน