คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 6
อาจจะอายสังคมครับ เพราะก็ไปคิดเองอีกนั่นแหละ ว่าผู้คนจะคิดว่า แฟนของเขาน่าจะหาผู้ชายที่ดีกว่านี้ได้
อีกประเภทก็คือ กดดันครับ คือมันเหมือนเป็นการกดดันตัวเอง ว่าจะต้องดีกว่านี้ให้ได้
ทั้งๆที่ ลึกๆบางคน เขาอาจรู้ตัวอยู่แล้วว่า เขาไม่สามารถทำทุกอย่างให้ดีไปกว่านี้ได้ในเวลาอันรวดเร็ว
แย่สุดคือ ไปเจอประเภทขี้เกียจ ขี้เกียจถีบตัวเองให้ทัดเทียบเท่ากับแฟน หรือใกล้เคียงกับแฟน
ตัดความรำคาญใจตรงนี้ออกไป โดยการเลิกๆแล้วค่อยไปผู้หญิงที่เสมอกัน หรือด้อยกว่าหน่อย ชีวิตน่าจะง่ายกว่านี้แยะ
แย่แบบที่สุดของที่สุดคือ เขาเจอคนใหม่ เลยยกเหตุผลน้ำเน่ามาใช้เป็นข้ออ้างเพื่อบอกเลิก
กลายเป็นดูดีไปอีกตะหาก ว่ารักแฟนมากขนาดยอมปล่อยให้แฟนไปเจอผู้ชายคนที่ดีกว่า
มีหลายกรณีครับ ต้องสังเกตุพฤติกรรมเป็นคนคนไป
อีกประเภทก็คือ กดดันครับ คือมันเหมือนเป็นการกดดันตัวเอง ว่าจะต้องดีกว่านี้ให้ได้
ทั้งๆที่ ลึกๆบางคน เขาอาจรู้ตัวอยู่แล้วว่า เขาไม่สามารถทำทุกอย่างให้ดีไปกว่านี้ได้ในเวลาอันรวดเร็ว
แย่สุดคือ ไปเจอประเภทขี้เกียจ ขี้เกียจถีบตัวเองให้ทัดเทียบเท่ากับแฟน หรือใกล้เคียงกับแฟน
ตัดความรำคาญใจตรงนี้ออกไป โดยการเลิกๆแล้วค่อยไปผู้หญิงที่เสมอกัน หรือด้อยกว่าหน่อย ชีวิตน่าจะง่ายกว่านี้แยะ
แย่แบบที่สุดของที่สุดคือ เขาเจอคนใหม่ เลยยกเหตุผลน้ำเน่ามาใช้เป็นข้ออ้างเพื่อบอกเลิก
กลายเป็นดูดีไปอีกตะหาก ว่ารักแฟนมากขนาดยอมปล่อยให้แฟนไปเจอผู้ชายคนที่ดีกว่า
มีหลายกรณีครับ ต้องสังเกตุพฤติกรรมเป็นคนคนไป
แสดงความคิดเห็น
ขอถามคุณผู้ชาย กับแนวคิดที่ว่า " อยากให้เธอไปเจอคนที่ดีกว่าฉัน " ค่ะ
ไม่เข้าใจแนวคิดของคุณผู้ชาย ในกรณี ผู้ชายบอกเลิกผู้หญิง ด้วยเหตุผลที่ว่า
" อยากให้เธอไปเจอคนที่ดีกว่าฉัน " อ่ะค่ะ
คือ ตัวผู้หญิงเค้าก็ไม่ได้เดือดร้อนอะไร
คือถ้าเค้าเดือดร้อนในสิ่งที่ตัวผู้ชายคนนั้นเป็นอยู่ เค้าคงเดินจากไปเอง จริงไหมคะ
แล้วทำไมต้องผลักไสไล่ส่งให้ไป ในเมื่อผู้หญิงเค้าก็สมัครใจที่จะอยู่ตรงนี้เอง
ตัวผู้หญิงเค้าก็มีสิทธิ์เลือกป่ะคะ ว่าอยากจะอยู่หรือจะไป ควรจะอยู่หรือไป ทำไมต้องคิดแทน ?
แล้วถ้าอยากให้เจอคนใหม่ที่ดีกว่า ทำไมไม่ทำตัวเองให้ดีกว่าเดิมแทนอ่ะคะ
ไม่เข้าใจคุณผู้ชายจริงๆ ค่ะ
*** ขอแก้ไขนิดนึงนะคะ กรณีนี้พูดถึงนิสัยอย่างเดียวนะคะ ไม่นับเรื่องฐานะ หน้าที่การงาน หน้าตา หรืออย่างอื่นๆ ค่ะ ***