เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
ขอขอบคุณภาพประกอบจาก เฟซบุ๊ก GK Captain GifKe
ว่อนโซเชียล แพทย์ไร้จริยธรรม ไม่ยอมผ่าคลอดคนไข้เพราะไม่ได้ฝากครรภ์พิเศษ จนทารกพิการ แถมยังไม่รับผิดชอบต่อความผิดพลาดที่เกิดขึ้น
วันที่ 31 สิงหาคม 2557 ในโลกโซเชียลเน็ตเวิร์กได้มีการแชร์ข้อมูลของคุณแม่รายหนึ่ง ที่เข้าไปคลอดลูกยังโรงพยาบาล จ.สงขลา แต่เนื่องจากเธอไม่ได้ฝากครรภ์พิเศษไว้ แพทย์จึงไม่ยอมผ่าคลอดให้แม้ลูกตัวใหญ่ ยังคงฝืนดึงและงัดทารกออกมาจนเส้นประสาทของทารกขาด ทำให้หนูน้อยต้องพิการทั้งที่เกิดมาครบ 32 แถมแพทย์ยังไม่แสดงความรับผิดชอบใด ๆ ต่อเหตุที่เกิดขึ้นด้วย
โดยเฟซบุ๊ก GK Captain GifKe เจ้าของเรื่องราวได้มีการเปิดเผยรูปพร้อมข้อความเมื่อวันที่ 5 สิงหาคม 2557 โดยระบุว่า
"ความรับผิดชอบอยู่ที่ใหน ? จะมีใครรู้ซึ้งถึงหัวอกคนเป็น "แม่" คนนี้บ้าง ที่ต้องมาทนเห็นลูกตัวเองเสียแขนไปตั้งแต่แรกเกิด ทั้ง ๆ ที่ลูกของแม่ก็เกิดมาสมบูรณ์ครบ 32 ทุกอย่าง ทำไมเด็กตัวใหญ่หมอที่โรงบาลสงขลาถึงไม่ผ่าให้ ทำไมหมอให้คลอดเอง เพราะแม่ไม่ได้ฝากพิเศษเหรอ ? ถึงไม่ผ่าให้ พอตอนคลอดกลับคลอดไม่ออกเพราะเด็กตัวใหญ่มาก หมอจึงงัดและ ดึงคอและแขนออกมา จนทำให้เส้นประสาททั้ง 5 ขาด แขนยกไม่ขึ้น อ่อนแรง กระดิกนิ้วไม่ได้ ตาข้างซ้ายตก ! ได้อยู่ในตู้อบครึ่งเดือนกว่าจะฟื้น นี่จะเป็นความสับเพร่าของหมอที่ โรงพยาบาล จ.สงขลา ที่ไม่มีสติในการรักษา ทำแบบชุ่ย ๆ วินิจฉัยผิดผลาด หรือ เรียกว่าเวรกรรม ความซวย ! หรือ อะไรก็ตาม แต่หมอก็น่าจะออกมารับผิดชอบในการกระทำให้บ้าง ไม่ใช่ปล่อยให้เป็นแบบนี้ ในเมื่อหมอเป็นคนทำ ! ให้แขนลูกเป็นแบบนี้ หมอต้องรักษาให้ไม่ใช่เหรอ ? แม่ต้องหอบลูกอ่อนกระเตง ๆ ไปรักษาตัวที่กรุงเทพและกลับลงใต้อีก ขึ้นลง ๆ อยู่แบบนี้ "ถึงแม่จะเหนื่อแม่ก็ทนได้ แต่ลูกเสียแขนไปแม่ทนไม่ได้" นี่คือ ความเจ็บปวดทรมานที่แสนสาหัสที่สุด แม้สงสารลูกเหลือเกิน..ลูกเอ๋ย..
*ฝากแชร์เป็นอุทาหรณ์ หมอที่ไม่มีจริยธรรม และ ขาดความรับผิดชอบในวิชาชีพ"
"สิ่งที่ทำผิดผลาดไปแล้วไม่สามารถเอากลับคืนมาได้.. แต่สิ่งที่ทำได้ก็คือ..ความรับผิดชอบ ในสิ่งที่ทำผิดผลาดไป! และสามัญสำนึกในจิตใจที่ดีของคน ! ""
ขณะที่ชาวเน็ตต่างเข้ามาแสดงความเห็นใจคุณแม่และสงสารหนูน้อยที่ต้องรับชะตากรรมดังกล่าว โดยมีต้นเหตุจากความสะเพร่าและไม่รับผิดชอบของแพทย์ โดยมีผู้ใช้บางรายแนะนำให้คุณแม่รายนี้ นำเรื่องไปปรึกษายังฝ่ายจริยธรรมของแพทยสภาด้วย
แพทย์ไร้จริยธรรม ไม่ผ่าคลอดให้ ทำเด็กพิการ
รพ.สงขลา ไม่ผ่าคลอดคนไข้เหตุไม่ฝากครรภ์พิเศษ
ขอขอบคุณภาพประกอบจาก เฟซบุ๊ก GK Captain GifKe
ว่อนโซเชียล แพทย์ไร้จริยธรรม ไม่ยอมผ่าคลอดคนไข้เพราะไม่ได้ฝากครรภ์พิเศษ จนทารกพิการ แถมยังไม่รับผิดชอบต่อความผิดพลาดที่เกิดขึ้น
วันที่ 31 สิงหาคม 2557 ในโลกโซเชียลเน็ตเวิร์กได้มีการแชร์ข้อมูลของคุณแม่รายหนึ่ง ที่เข้าไปคลอดลูกยังโรงพยาบาล จ.สงขลา แต่เนื่องจากเธอไม่ได้ฝากครรภ์พิเศษไว้ แพทย์จึงไม่ยอมผ่าคลอดให้แม้ลูกตัวใหญ่ ยังคงฝืนดึงและงัดทารกออกมาจนเส้นประสาทของทารกขาด ทำให้หนูน้อยต้องพิการทั้งที่เกิดมาครบ 32 แถมแพทย์ยังไม่แสดงความรับผิดชอบใด ๆ ต่อเหตุที่เกิดขึ้นด้วย
โดยเฟซบุ๊ก GK Captain GifKe เจ้าของเรื่องราวได้มีการเปิดเผยรูปพร้อมข้อความเมื่อวันที่ 5 สิงหาคม 2557 โดยระบุว่า
"ความรับผิดชอบอยู่ที่ใหน ? จะมีใครรู้ซึ้งถึงหัวอกคนเป็น "แม่" คนนี้บ้าง ที่ต้องมาทนเห็นลูกตัวเองเสียแขนไปตั้งแต่แรกเกิด ทั้ง ๆ ที่ลูกของแม่ก็เกิดมาสมบูรณ์ครบ 32 ทุกอย่าง ทำไมเด็กตัวใหญ่หมอที่โรงบาลสงขลาถึงไม่ผ่าให้ ทำไมหมอให้คลอดเอง เพราะแม่ไม่ได้ฝากพิเศษเหรอ ? ถึงไม่ผ่าให้ พอตอนคลอดกลับคลอดไม่ออกเพราะเด็กตัวใหญ่มาก หมอจึงงัดและ ดึงคอและแขนออกมา จนทำให้เส้นประสาททั้ง 5 ขาด แขนยกไม่ขึ้น อ่อนแรง กระดิกนิ้วไม่ได้ ตาข้างซ้ายตก ! ได้อยู่ในตู้อบครึ่งเดือนกว่าจะฟื้น นี่จะเป็นความสับเพร่าของหมอที่ โรงพยาบาล จ.สงขลา ที่ไม่มีสติในการรักษา ทำแบบชุ่ย ๆ วินิจฉัยผิดผลาด หรือ เรียกว่าเวรกรรม ความซวย ! หรือ อะไรก็ตาม แต่หมอก็น่าจะออกมารับผิดชอบในการกระทำให้บ้าง ไม่ใช่ปล่อยให้เป็นแบบนี้ ในเมื่อหมอเป็นคนทำ ! ให้แขนลูกเป็นแบบนี้ หมอต้องรักษาให้ไม่ใช่เหรอ ? แม่ต้องหอบลูกอ่อนกระเตง ๆ ไปรักษาตัวที่กรุงเทพและกลับลงใต้อีก ขึ้นลง ๆ อยู่แบบนี้ "ถึงแม่จะเหนื่อแม่ก็ทนได้ แต่ลูกเสียแขนไปแม่ทนไม่ได้" นี่คือ ความเจ็บปวดทรมานที่แสนสาหัสที่สุด แม้สงสารลูกเหลือเกิน..ลูกเอ๋ย..
*ฝากแชร์เป็นอุทาหรณ์ หมอที่ไม่มีจริยธรรม และ ขาดความรับผิดชอบในวิชาชีพ"
"สิ่งที่ทำผิดผลาดไปแล้วไม่สามารถเอากลับคืนมาได้.. แต่สิ่งที่ทำได้ก็คือ..ความรับผิดชอบ ในสิ่งที่ทำผิดผลาดไป! และสามัญสำนึกในจิตใจที่ดีของคน ! ""
ขณะที่ชาวเน็ตต่างเข้ามาแสดงความเห็นใจคุณแม่และสงสารหนูน้อยที่ต้องรับชะตากรรมดังกล่าว โดยมีต้นเหตุจากความสะเพร่าและไม่รับผิดชอบของแพทย์ โดยมีผู้ใช้บางรายแนะนำให้คุณแม่รายนี้ นำเรื่องไปปรึกษายังฝ่ายจริยธรรมของแพทยสภาด้วย