คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 3
เห็นกระทู้คุณแล้วนึกถึงเรื่องของตัวเองเลยครับ อาจต่างที่ว่าพื้นฐานแฟนคุณมีกิจการแต่ผมไม่มี
ผมเข้าใจเลยกับความรู้สึกหนักใจของคุณ และเข้าใจแฟนคุณด้วยเพราะผมอยู่ในสถานะนั้น แต่ผมไม่แน่ใจว่สแฟนคุณทราบหรือเปล่า ในความเห็นผมเรื่องนี้เป็นเรื่องที่เป็นบทพิสูจน์ของคนรักของคุณสองคนเลยครับ เพราะเป็นเรื่องที่ครอบครัวพ่อแม่ที่เข้ามายุ่ง แทนที่จะเป็นเรื่องคุณสองคน ถามว่าฝ่ายใหนผิดคงตอบไม่ได้เต็มที่ ธรรมดาครอบครัวจีนมีพื้นฐานที่ต้องยอมรับในการปลูกฝังคนในครอบครัวว่าให้รักและเห็นคนในครอบครัวและพวกพ้องมาอันดับหนึ่ง ชอบทำธุรกิจค้าขายเงินต่อเงิน เป็นส่วนใหญ่(ไม่ได้ทั้งหมดนะครับ) จะเห็นได้ว่าครอบครัวคนจีนเดิมมักจะถ่ายถอดความรู้สึกมาแบบนี้ ไม่แปลกเลยที่ทางคุณแม่คุณโดยพื้นฐานจะไม่ชอบ แม้ว่าจะไม่รู้นิสัยใจคออะไรกับแฟนคุณเลยหรือไม่สนใจในรายละเอียดของแฟนคุณที่คุณเห็นเลย ถามว่าผิดมั้ยในฐานะพ่อแม่ที่ผ่านอะไรมาก่อนย่อมอยากให้ลูกสบายเรื่องปากท้องมาก่อน บางคนกลัวว่าถ้าเป็นคนไทยจะเสียความเอาใจใส่ในครอบครัวไป
โดยส่วนตัวผมไม่อยากให้มองมุมมองผมในสถานะเดียวกับคุณ แต่ผมมองเรื่องความรักคือความรัก การกตัญญตอบแทนเป็นเรื่องคนละส่วนถ้าเอามาปนกันในเรื่องนี้จะกลายเป็นแค่ทำตามความต้องการของแม่คุณอย่างเดียว ผมมองว่าเรื่องนี้คุณสองคนต้องหนักแน่นถ้าคุณรักกันจริงๆ คุณคงต้องเป็นกำลังใจหลักของคนที่คุณรักครับ เพราะเขาต้องพิสูจน์ตัวเอง คนเราเมื่อโตแล้ววัยพ่อแม่เมื่อผ่านจุดเราในตอนนี้แล้วเขามองเรื่องฐานะเป็นสำคัญ แต่ถ้าย้อนไปถ้าพ่อแม่เป็นเราก็ไม่อยากโดนกีดกันหรอกครับ คนเราชอบควบคุมแต่ถ้าโดนเองไม่ชอบหรอกครับ
ผมเป็นกำลังใจให้คุณและแฟนของคุณนะครับ ความรักความรู้สึกผมเชื่อว่าเป็นเรื่องของคนสองคนครัว เข้าใจว่าความกตัญญูค้ำคออยู่ แต่ผมเชื่อว่าคนที่ใช่คนที่รักหาไม่ได้ง่ายนักนะครับ จาก 4 ปีและสิ่งที่คุณเล่าคงเป็นเครื่องบ่งบอกระหว่างคุณกับแฟนคุณ ธรรมดาของพ่อแม่คือยินดีกับความสุขของลูกไม่ใช่ความสุขของตนเองครับ ถ้าแฟนคุณไม่ได้เลวเจ้าชู้ ใช้กำลัง ไม่มีอนาคต ก้อต้องพิสูจน์ครับ.หลายคู่ที่ผ่านจุดนี้มาแล้วที่ผมเห็น สุดท้ายพ่อแม่ฝ่ายหญิงกับชื่นชมฝ่ายชายด้วยครับ แต่ผลลัพที่ได้ต้องฝันฝ่าครับ ถ้าคุณรักและเป็นกำลังใจ ให้แฟนคุณเชื่อใจยังไม่ก้อต้องผ่านได้. ผมเองก้อหวังว่าจะเป็นคู่ทีผ่านไปได้ ถึงแม้จะมีอีกหลายคู่เหมือนกันที่เจอกรณีนี้ที่ผ่านไปได้ แต่คู่ที่ผ่านไปไม่ได้ร้อยทั้งร้อยเกิดจากความไม่มั่นคงในความรู้สึกรักกันเองของทั้งสองคน ไม่เกี่ยวกับพ่อแม่เลย ถ้าคุณจับมือกันแน่นพอก้อผ่านไปได้ครับ (ผมก็ไม่เข้าใจว่าทำไมต้องเหมาว่าเป็นคนไทย ทั้งๆที่ก้อพูดไทยเหมือนกัน อยู่บนแผ่นดินไทยด้วยซ้ำ ใช่ว่าคนเชื้อจีนจะดีหมด คนไทยเลวหมด) ดูแล้วไม่เกี่ยวกับหน้าตาหรอกครับ ผมเองก็เหมือนคู่คุณ ตกลงจะสู้พิสูจน์ด้วยกัน ตัวผมเองก้อสู้ไม่ถอยถ้าแฟนผมหนักแน่นและความเชื่อร่วมกัน คุณอาจจะเหนื่อยทางด้านประสาน แต่แฟนคุณก็เหนื่อยไม่แพ้กันครับ แต่ถ้าผ่านไปได้ผมว่าผลลัพที่ตามมากับครอบครัวคนที่คุณรักก้อมีค่าเกินคุ้มครับ ขอโทษด้วยนะครับ ร่วมแชร์ยาวเลย ขอบคุณครับ
ผมเข้าใจเลยกับความรู้สึกหนักใจของคุณ และเข้าใจแฟนคุณด้วยเพราะผมอยู่ในสถานะนั้น แต่ผมไม่แน่ใจว่สแฟนคุณทราบหรือเปล่า ในความเห็นผมเรื่องนี้เป็นเรื่องที่เป็นบทพิสูจน์ของคนรักของคุณสองคนเลยครับ เพราะเป็นเรื่องที่ครอบครัวพ่อแม่ที่เข้ามายุ่ง แทนที่จะเป็นเรื่องคุณสองคน ถามว่าฝ่ายใหนผิดคงตอบไม่ได้เต็มที่ ธรรมดาครอบครัวจีนมีพื้นฐานที่ต้องยอมรับในการปลูกฝังคนในครอบครัวว่าให้รักและเห็นคนในครอบครัวและพวกพ้องมาอันดับหนึ่ง ชอบทำธุรกิจค้าขายเงินต่อเงิน เป็นส่วนใหญ่(ไม่ได้ทั้งหมดนะครับ) จะเห็นได้ว่าครอบครัวคนจีนเดิมมักจะถ่ายถอดความรู้สึกมาแบบนี้ ไม่แปลกเลยที่ทางคุณแม่คุณโดยพื้นฐานจะไม่ชอบ แม้ว่าจะไม่รู้นิสัยใจคออะไรกับแฟนคุณเลยหรือไม่สนใจในรายละเอียดของแฟนคุณที่คุณเห็นเลย ถามว่าผิดมั้ยในฐานะพ่อแม่ที่ผ่านอะไรมาก่อนย่อมอยากให้ลูกสบายเรื่องปากท้องมาก่อน บางคนกลัวว่าถ้าเป็นคนไทยจะเสียความเอาใจใส่ในครอบครัวไป
โดยส่วนตัวผมไม่อยากให้มองมุมมองผมในสถานะเดียวกับคุณ แต่ผมมองเรื่องความรักคือความรัก การกตัญญตอบแทนเป็นเรื่องคนละส่วนถ้าเอามาปนกันในเรื่องนี้จะกลายเป็นแค่ทำตามความต้องการของแม่คุณอย่างเดียว ผมมองว่าเรื่องนี้คุณสองคนต้องหนักแน่นถ้าคุณรักกันจริงๆ คุณคงต้องเป็นกำลังใจหลักของคนที่คุณรักครับ เพราะเขาต้องพิสูจน์ตัวเอง คนเราเมื่อโตแล้ววัยพ่อแม่เมื่อผ่านจุดเราในตอนนี้แล้วเขามองเรื่องฐานะเป็นสำคัญ แต่ถ้าย้อนไปถ้าพ่อแม่เป็นเราก็ไม่อยากโดนกีดกันหรอกครับ คนเราชอบควบคุมแต่ถ้าโดนเองไม่ชอบหรอกครับ
ผมเป็นกำลังใจให้คุณและแฟนของคุณนะครับ ความรักความรู้สึกผมเชื่อว่าเป็นเรื่องของคนสองคนครัว เข้าใจว่าความกตัญญูค้ำคออยู่ แต่ผมเชื่อว่าคนที่ใช่คนที่รักหาไม่ได้ง่ายนักนะครับ จาก 4 ปีและสิ่งที่คุณเล่าคงเป็นเครื่องบ่งบอกระหว่างคุณกับแฟนคุณ ธรรมดาของพ่อแม่คือยินดีกับความสุขของลูกไม่ใช่ความสุขของตนเองครับ ถ้าแฟนคุณไม่ได้เลวเจ้าชู้ ใช้กำลัง ไม่มีอนาคต ก้อต้องพิสูจน์ครับ.หลายคู่ที่ผ่านจุดนี้มาแล้วที่ผมเห็น สุดท้ายพ่อแม่ฝ่ายหญิงกับชื่นชมฝ่ายชายด้วยครับ แต่ผลลัพที่ได้ต้องฝันฝ่าครับ ถ้าคุณรักและเป็นกำลังใจ ให้แฟนคุณเชื่อใจยังไม่ก้อต้องผ่านได้. ผมเองก้อหวังว่าจะเป็นคู่ทีผ่านไปได้ ถึงแม้จะมีอีกหลายคู่เหมือนกันที่เจอกรณีนี้ที่ผ่านไปได้ แต่คู่ที่ผ่านไปไม่ได้ร้อยทั้งร้อยเกิดจากความไม่มั่นคงในความรู้สึกรักกันเองของทั้งสองคน ไม่เกี่ยวกับพ่อแม่เลย ถ้าคุณจับมือกันแน่นพอก้อผ่านไปได้ครับ (ผมก็ไม่เข้าใจว่าทำไมต้องเหมาว่าเป็นคนไทย ทั้งๆที่ก้อพูดไทยเหมือนกัน อยู่บนแผ่นดินไทยด้วยซ้ำ ใช่ว่าคนเชื้อจีนจะดีหมด คนไทยเลวหมด) ดูแล้วไม่เกี่ยวกับหน้าตาหรอกครับ ผมเองก็เหมือนคู่คุณ ตกลงจะสู้พิสูจน์ด้วยกัน ตัวผมเองก้อสู้ไม่ถอยถ้าแฟนผมหนักแน่นและความเชื่อร่วมกัน คุณอาจจะเหนื่อยทางด้านประสาน แต่แฟนคุณก็เหนื่อยไม่แพ้กันครับ แต่ถ้าผ่านไปได้ผมว่าผลลัพที่ตามมากับครอบครัวคนที่คุณรักก้อมีค่าเกินคุ้มครับ ขอโทษด้วยนะครับ ร่วมแชร์ยาวเลย ขอบคุณครับ
แสดงความคิดเห็น
พ่อแม่กีดกันไม่ให้คบกับแฟนคนนี้
ตั้งแต่แฟนเราเรียนจบ เค้าก็ทำงานนอกบ้าน ทั้งที่ที่บ้านเค้าก็มีธุรกิจส่วนตัว แต่เค้าเลือกจะทำงานนอกบ้านก่อนเพื่อหาประสบการณ์ เรียนรู้งานนอกบ้านได้ 2 ปี ตอนนี้ก็ยังทำงานนอกบ้านอยู่ และก็ช่วยงานที่บ้านด้วยในขณะเดียวกัน ช่วงนี้เค้าก็ผ่อนรถด้วยเงินเก็บที่เค้ามี เราทั้งสองคนเป็นคนที่ชอบเก็บเงิน รักษาให้บัญชี มีเงินสะสมเยอะๆ
ด้วยความที่เริ่มจากความเป็นเพื่อนจนกลายเป็นเพื่อนสนิทกันมา ทำให้เราสองคนรู้ใจซึ่งกันและกัน จึงทำให้ไม่ค่อยได้ทะเลาะกันเท่าไหร่ ทะเลาะกันเราทั้งสองก็มักจะเคลียกันด้วยเหตุผล และจบด้วยการอภัยให้กัน เรายอมรับว่าที่ผ่านๆมาเราคบผู้ชายมาคนนี้เป็นคนที่ 4 นับได้ว่าทะเลาะกับคนนี้น้อยที่สุด คบแล้วเหนื่อยใจน้อยสุด
เราทะเลาะกับแม่เราประจำ ทุกครั้งที่คุยเรื่องอะไรก็ตามเค้าจะพยายามโยงเรื่องเราเลือกแฟนคนนี้มาคบ ติเรื่อง ตัวเตี้ยเหลี่ยมเยอะ บ้านมีเงินจริงหรือป่าว หรือมีแต่วัตถุ หาว่าเราคบเค้าเพราะเค้ามีรถบ้าง หาว่ามองแต่วัตถุ บ้างก็บอกเลือกที่หน้าตาดีกว่านี้ไม่ได้หรอไง เกิดแต่งงานไปใครเลี้ยงใครก็ไม่รู้ บางทีก็บอกเพราะเค้าเป็นคนไทย คนไทยเจ้าชู้ ทำไมไม่หาที่มีเชื้อสายจีน (บ้านเราเชื้อสายจีน 100%)
ส่วนตัวเราเอง ตั้งแต่เข้ามหาลัยก็พยายามเรียนจนได้เกียรตินิยมกลับมาให้พ่อแม่ พอจบมาเราก็พยายามหางานจนได้งานเพื่อไม่อยากรบกวนค่าใช้จ่ายพ่อแม่แล้ว อยากที่จะเลี้ยงดูตัวเอง มีเงินเดือนเป็นของตัวเอง ทำงานได้สองปี ก็ขอพ่อแม่ไปเรียนต่อที่จีน เป็นเวลา 1 ปีพยายามหาธุรกิจกลับไป ถึงแม้ตอนนี้ธุรกิจมันยังไม่สำเร็จ แต่เราก็พยายามที่จะทำมันทุกวิถีทาง เพราะเราก็ไม่อยากที่จะอยู่ในแบบที่ต้องไปขอให้ผู้ชายเลี้ยงเรา โดยสิ้นเปลืองความรู้ที่ร่ำเรียนมา ส่วนตัวยังไม่ได้คิดอยากแต่งงาน อาจด้วยเพราะแม่เราเป็นแบบนี้ด้วย แล้วอีกอย่างคือ อยากใช้เวลาที่เหลืออยู่กับพ่อแม่เราให้มากที่สุด ชีวิตคู่เรายังมีเวลาให้อยู่ด้วยกันอีกตั้งนาน แล้วเราก็คุยกับแฟนเราเรื่องนี้ว่าเราตกลงกันว่าจะรอให้ทั้งคู่ต่างฝ่ายต่างสร้างฐานะที่มั่นคงได้ก่อน ถึงตอนนั้นค่อยมาคิดเรื่องแต่งงานกันก็ยังไม่สาย
เราเคยเอาเรื่องนี้ไปเล่าให้เพื่อนๆฟัง เพื่อนๆเราล้วนแต่บอกว่าแม่เราหัวโบราณมาก เราเองก็ไม่รู้จะทำไงเพื่อที่จะจูนปรับกับเค้าได้ บอกตามตรงว่าเหนื่อยใจมาก อึดอัดใจมาก คุยด้วยนิดหน่อยก็ชอบเอาเรื่องแฟนเรามาชวนทะเลาะด้วยตลอด
สำหรับทัศนคติเรื่องผู้ชายของเรา ส่วนตัวเป็นคนมีเพื่อนผู้ชายเยอะ เห็นมาก็เยอะ กับความเจ้าชู้ เล่ห์เหลี่ยม จากเพื่อนๆตัวเอง จนทำให้เรารู้สึกว่า หน้าตาก็แค่องค์ประกอบ ชีวิตคู่สิ่งสำคัญคือ จะมีผู้ชายสักกี่คนที่สามารถเข้ากับนิสัยเราได้ เข้าใจเราได้ นั่นคือสิ่งสำคัญยิ่งกว่า ขอแค่ผู้ชายคนนั้นขยันทำงาน ช่วยกันเก็บช่วยกันสร้าง สักวันนึงก็รวยได้เอง มีปัญหาอะไรก็คอยช่วยเหลือกัน พึ่งพากัน จะตี๋ จะไทย ความเจ้าชู้ในผู้ชายมันก็มีด้วยกันทั้งนั้น
เพื่อนๆมีความเห็นอย่างไรกันบ้าง เราทำตัวไม่ถูกเลยจริงๆ เหนื่อยใจมากๆ เรายังเป็นลูกที่ไม่ดีพออีกหรือป่าว แล้วแค่ไหนมันถึงจะเป็นลูกที่ดีพอสำหรับพ่อแม่เราหรอ เราจะเข้าหาพ่อแม่อย่างไรเพื่อให้เค้ายอมรับในแฟนเรา ทำให้เรากล้าเล่าเรื่องราวที่เราเจอกับแฟนเรา แชร์ให้เค้าฟังได้บ้าง เพื่อพ่อแม่จะได้สบายใจ เราไม่อยากให้เค้าต้องมาเป็นห่วงเรา พะวงเรา อยากให้เค้าเชื่อในเราบ้างว่า เราก็พอที่จะเอาตัวรอดเองได้บ้างแล้ว
มาถึงตรงนี้ขอบคุณเพื่อนๆทุกคนที่พยายามอ่านบทความของเราจนจบ ขอบคุณสำหรับความเห็นทุกความเห็นนะคะ