zzz อธิการบดีจุฬาฯ สั่งเบรก เอก ลูกกตัญญู งดออกสื่อ หวั่นเสียภาพลักษณ์มหาวิทยาลัย zzz

กระทู้สนทนา
หนุ่มนิสิตจุฬาฯ ชั้นปีที่ 2 ขายแซนวิชช่วยหาเงินให้แม่รักษาอาการป่วยเป็นโรคมะเร็ง ที่กำลังเป็นกระแสกล่าวขวัญอยู่ในโลกโชเซียล มีรายงานข่าวล่าสุดซึ่งทีมข่าว Life on campus ได้นัดหมายกับ นายอินทัช สัตยานุรักษ์ หรือเอก เพื่อสอบถามและสัมภาษณ์ถึงที่มาที่ไปเรื่องราวที่เกิดขึ้น ในการต้องหาเงินช่วยรักษาแม่ป่วยเป็นมะเร็งเดือนละ 150,000 บาท

       โดยเอกได้นัดหมายยินดีให้ทีมข่าวมาพบและสัมภาษณ์ในช่วงเวลา 16.00 น. (วันศุกร์ที่ 29 สิงหาคม 2557) หลังจากเรียนคาบสุดท้ายเสร็จ แต่เมื่อทีมข่าวเดินทางไปตามเวลานัดหมาย ได้รับการแจ้งจากเจ้าหน้าที่ว่า เอก กำลังเข้าพบพูดคุยกับอาจารย์ในเรื่องกระแสที่เกิดขึ้น ซึ่งขณะนี้มีสื่อและเกิดกระแสฟีเวอร์ในตัวเอก ทั้งรายการทีวี รวมทั้งสื่อแขนงๆ ต่างเข้ามาดักรอเอก เพื่อเปิดใจถึงเรื่องดังกล่าว
       
        “ขณะนี้อธิการบดี จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย สั่งห้ามให้ นายอินทัช สัตยานุรักษ์ นิสิตคณะนิเทศน์ศาสตร์ ให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชน เพราะมีสื่อจำนวนมาดักรอ และเข้ามาสัมภาษณ์ ซึ่งทางจุฬาฯ หวั่นเกิดผลกระทบต่อภาพลักษณ์ที่ไม่ดีงาม ปล่อยให้นิสิตจุฬาฯ เร่ขายของ ในมหาวิทยาลัย โดยไม่ยอมช่วยเหลือ”
       
       เจ้าหน้าที่ ยังกล่าวอีกว่า เอก กำลังดัง มีสื่อมาดักรอตั้งแต่เช้า ทำให้ไปเรียนไม่ทัน อาจารย์จึงไม่อยากให้เกิดปัญหาตามมา เพราะมีทั้งคนเชื่อและไม่เชื่อในสิ่งที่เอก กำลังทำ จุฬาฯ ในฐานะสถาบันการศึกษาที่เอกเรียนอยู่ จึงอยากตัดปัญหา ให้เอกงดสัมภาษณ์กับสื่อต่างๆ
       
       ทั้งนี้นับตั้งแต่เอก ลูกกตัญญู ถูกเผยแพร่ไปในทางโลกออนไลน์ ได้มีการกล่าวถึงในแง่ดี ให้กำลังใจ ชื่นชม ในทางกลับกันมีการตั้งคำถามมากมาย ว่า เรื่องราวของเอกมีการตรวจสอบข้อเท็จจริงหรือไม่ เพราะมีเพียงการเขียนขึ้นจากผู้หวังดีให้ช่วยเหลือ อุดหนุนเอก ลูกกตัญญู โดยล่าสุดเอก ได้โพสต์ข้อความผ่าน บล็อกส่วนตัวที่ใช้ชื่อว่า "เก๊กฮวยช่วยแม่" ว่า
       
       "หลังจากที่เพื่อนๆ ผมได้มาทักว่า ตอนนี้ "เอกกำลังเป็นข่าวใหญ่ละนะ" ผมก็งงมากๆ ครับ คิดว่าอำแน่ๆ
       แต่เเล้วก็มีบริษัทและสื่อต่างๆ ติดต่อเข้ามามากมาย ซึ่งก็ต้องขอขอบคุณทุกๆ คนมากเลยคับ ขอบคุณพี่ที่ได้เเชร์เรื่องราวของผม มากๆเ ลยคับ ผมไม่รู้ว่าเป็นใคร หรือพี่อยู่ที่ไหน แต่ขอบคุณพี่มากๆ เลยคับ
       
       แต่สำหรับตอนนี้สิ่งที่ผมเป็นห่วงก็คือ คุณแม่อาจได้รับข่าวสารนี้ด้วย หากคุณแม่ ทางบ้านเห็นว่าผมทำงานหนัก ท่านจะหนักใจมั้ย อย่างไรก็ตาม มันผ่านไปแล้ว ผมจึงได้โทรไปหาแม่ และบอกความจริงถึงการทำงานที่เยอะ ตอนนี้คุณแม่ยังไม่เห็นภาพคงนึกไม่ออก แม่เอกบอกว่า อย่าโหมนะ เอก
       
       นั่นคือที่เราคุยกับครับ
       
       สำหรับสิ่งที่ผมต่อสู้อยู่นั้น ค่อนข้างซับซ้อนครับ เงินไม่ใช่อย่างเดียวที่จะแก้ปัญหาได้คับผม เพราะยังต้องจัดการกันอีกในหลายๆ เรื่อง ซึ่งนั่นก็รวมถึง เเนวทางการรักษา ด้วยครับผม
       
       สภาพในตอนนี้ เอกยังไม่สามารถทำเงินได้ถึงเป้าหมาย แต่หลังจากที่เพื่อนๆพี่ๆได้ช่วยกันมา รวมไปถึง การสั่งน้ำ หรือ ขนมที่เอกขายผ่านเพจนี้ ช่วยเอกได้เยอะมากจริงๆ ขอบคุณมากครับผม
       
       ตอนนี้ตั้งแต่ต้นเดือนมา เอกทำเงินได้ราวๆ 54,000 บาท คับผม รวมกับ เงินเก็บจากการขายเต้าฮวย เมื่อคราวม็อบ และถูกกันมาเพื่อนค่ายาแล้ว อีก 40,000 เอก คิดว่าเอกหาค่ายา คีโม เดือนถัดไปได้ละคับ แต่ยังขาดค่ายา อื่นๆ และ ค่าใช้จ่ายอื่นๆ ครับ
       
       คุณแม่เอกกำลังจะ เข้าทำการ ตรวจสแกนร่างกาย ในเร็วๆนี้ครับผม และผลน่าจะออกไม่เกินกลางเดือนนี้ครับผม
       
       ขอขอบคุณที่สนับสนุนและช่วยเหลือผมมากนะค้าบบบ
       
       ผมจะพยายามอย่างดีที่สุด ให้ถึงที่สุดครับ"
       

       จากการสอบถามเพื่อนๆ ของเอก เล่าว่า เอก มีครอบครัวอยู่ที่จังหวัดลำปาง พ่อเคยประสบปัญหาล้มละลาย แม่เริ่มป่วยและได้รับการตรวจพบเชื้อมะเร็งในระยะที่ 2 เมื่อเดือนพฤศจิกายน พ.ศ.2556 ซึ่งเอกก็พยายามหาเงินช่วยเหลือแม่ โดยการขายของกินหลายอย่าง เช่น เต้าฮวย แซนวิช ไอศกรีม นอกจากจะเดินขายตามคณะต่างๆ ในมหาวิทยาลัยแล้ว เอกยังเคยเดินเข้าไปขายตามจุดชุมนุมทางการเมือง เพื่อหารายได้มารักษาแม่ จนมีผู้หวังดีได้โพสถึงความกตัญญูของเอก ทำให้กลายเป็นที่สนอกสนใจ และมีผู้ยื่นมือเข้ามาช่วยเหลือจำนวนมาก รวมทั้งสื่อต่างๆ ก็ช่วยลงเรื่องราวของเอกอีกทางหนึ่ง.
       
       ขอบคุณภาพประกอบจาก : บล็อก เก๊กฮวยช่วยแม่

http://www.manager.co.th/Campus/ViewNews.aspx?NewsID=9570000099268




คำชี้แจงของจุฬา
ขอขอบคุณ คุณอุบลแมนค่ะ

นานาขอบคุณ

https://www.facebook.com/DramaAdd/photos/a.10151331013638291.508570.141108613290/10152681080353291?type=1&theater



ข่าวล่าจากมติชนค่ะ โโยคุณสาวซูโม่

ตามที่ ทีมข่าว Life on campus ได้นำเสนอข่าว อธิการบดีจุฬาฯสั่งเบรค เอก ลูกกตัญญู งดออกสื่อ หวั่นเสียภาพลักษณ์ ที่ปรากฏเป็นข่าวไปนั้น ทางจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ได้ติดต่อมาทางกองบรรณาธิการ และขอให้มีการชี้แจงอย่างละเอียดกับข่าวที่เกิดขึ้น
       
       ทีมข่าว Life on campus ขอชี้แจงดังนี้ คือ ทางทีมข่าวได้ติดต่อฝ่ายประชาสัมพันธ์มหาวิทยาลัย และได้เบอร์โทรศัพท์โดยตรง ของ นายอินทัช สัตยานุรักษ์ หรือ เอก ลูกกตัญญู นิสิตคณะนิเทศศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ซึ่งได้โทรนัดหมาย และได้รับการตอบรับจาก เอกโดยตรง ให้เข้ามาสัมภาษณ์พร้อมถ่ายรูป ในวันที่ 29 สิงหาคม เวลา 16.00 น. ซึ่งเป็นเวลาที่เอกเลิกเรียน และจะได้ถ่ายภาพขณะนำรถไปขายของรอบๆ มหาวิทยาลัย
       

        พอถึงเวลานัดหมาย ซึ่งทีมข่าวได้ไปตามเวลานัด ไม่สามารถติดต่อเอกได้ และทีมงานได้รออยู่บริเวณนัดเกือบสองชั่วโมงเต็ม มีการชี้แจงจากเจ้าหน้าที่ตึกคณะนิเทศศาสตร์ว่า ขณะนี้เอก กำลังเข้าพบผู้บริหารในมหาวิทยาลัย และรองอธิการบดี เพื่อพูดคุยในเรื่องราวที่เกิดขึ้น หลังจากเอกได้กลายเป็นคนดังชั่วข้ามคืน นับเป็นลูกกตัญญูตัวอย่าง จากการหาเงินช่วยแม่ที่ป่วยเป็นมะเร็ง
       
        โดยเจ้าหน้าที่ยืนยันกับทีมข่าวว่า การนัดหมายครั้งนี้จำเป็นต้องยกเลิกไปปัจจุบันทันด่วน เนื่องจาก ทางอาจารย์ที่ปรึกษาของเอก ขอให้เอกงดให้การสัมภาษณ์กับสื่อ เนื่องจากมีการพูดคุยกับทางผู้บริหารมหาวิทยาลัยแล้วว่า ตั้งแต่เกิดกระแสข่าวขึ้น มีการเข้ามาดักรอ ขอสัมภาษณ์เป็นจำนวนมาก ทำให้เกิดภาพลักษณ์ที่ไม่ดี มีผลต่อการเข้าเรียนของเด็ก แม้ทางทีมข่าวจะแจ้งว่าได้มีการนัดหมายตามขั้นตอนผ่านเจ้าหน้าที่มหาวิทยาลัย และ เจ้าตัวเอกก็รับทราบจากการพูดคุยกันทางโทรศัพท์
       
        ทั้งนี้เจ้าหน้าที่ยืนยัน กับทีมข่าว Life on campus เป็นคำสั่งจากอธิการบดีด้วยวาจามาว่า ให้เอกงดสัมภาษณ์กับสื่อช่วงนี้ไปก่อน และมีการอธิบายว่า เป็นคำสั่งจากอธิการบดีจริงๆ ให้บอกสื่อไปว่า ของดการสัมภาษณ์ ด้วยเหตุผลที่ว่า มีการเข้ามาสัมภาษณ์มากเกินไป รบกวนเด็ก และอาจจะเกิดภาพลักษณ์ที่ไม่ดีต่อมหาวิทยาลัย
       
       อาจารย์ เมธา เสรีธนาวงศ์ รองคณะบดี ฝ่ายกิจการนิสิต คณะนิเทศศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ชี้แจงกับ ทีมข่าว Life on campus ว่า การให้ข่าวที่เกิดขึ้นทีมข่าว Life on campus อาจจะเกิดความเข้าใจผิดจากเจ้าหน้าที่ซึ่งให้ข่าวว่าอธิการบดีสั่งห้าม แต่ยอมรับว่า ได้พูดคุยกับ เอก และพาเข้าพบ รองอธิการบดีจริง ถึงกระแสข่าวที่เกิดขึ้น และบอกกับเด็กว่า ถ้าเป็นไปได้ให้งดสัมภาษณ์ช่วงนี้ไปก่อน แต่ให้เอกตัดสินใจเอง เพราะเด็กอาจรับมือกับการตั้งคำถามของสื่อทุกๆ วันไม่ไหว
       
       “ทางอาจารย์ได้พูดคุยกันจริงครับ เพราะส่วนหนึ่งสื่อมาเยอะ บางสื่อไปดักรอน้องที่ห้องเรียน ผมจึงให้เอก ตัดสินใจเอง ให้งดสัมภาษณ์ช่วงนี้ก่อนดีไหม ซึ่งสงสารเด็ก บางวันมีโทรศัพท์เข้ามาเป็นร้อยๆ สาย ส่วนข่าวที่ว่า อธิการบดีสั่งนั้น เจ้าหน้าที่ซึ่งให้ข่าวไปอาจเข้าใจผิด คิดว่าเป็นคำสั่ง"
       
       ทางมหาวิทยาลัย โดยเฉพาะท่านอธิการบดี ขอยืนยันว่า ไม่เคยปิดกั้นคนทำความดี มีแต่จะช่วยเหลือเด็ก ให้ทุนและเด็กสามารถเดินขายของในมหาวิทยาลัยได้ แต่ข่าวที่เกิดขึ้นอาจเป็นความเข้าใจผิดของเจ้าหน้าที่จุฬาฯ บางคนที่ให้ข่าวว่า จุฬาฯ กลัวเสียภาพลักษณ์ โดยทางจุฬาฯ ขอทำหนังสือชี้แจงดังต่อไปนี้
       
       รศ.ดร.ธนิต ธงทอง รองอธิการบดี ฝ่ายกิจการนิสิต จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ชี้แจงข้อเท็จจริงกรณีข่าวนิสิตจุฬาฯ ที่หารายได้เสริม ด้วยการขายอาหารในมหาวิทยาลัยเพื่อเป็นค่ารักษาพยาบาลแม่ที่ป่วยเป็นมะเร็ง โดยได้มีการเผยแพร่ ข่าวว่าอธิการบดีจุฬาฯห้ามนิสิตไม่ให้สัมภาษณ์ในเรื่องนี้ว่า อธิการบดีไม่เคยห้ามนิสิตให้สัมภาษณ์เพราะจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยไม่มีนโยบายปกปิด "ความดีงามของนิสิต" การกระทำของนิสิตดังกล่าวเป็นสิ่งที่ดีงามและน่าชื่นชมเป็นอย่างยิ่ง นอกจากนี้ ยังสื่อให้เห็นถึงภาพลักษณ์ที่ดีของจุฬาฯ ที่มีนิสิตที่คิดดีทำดี มีความกตัญญู มีความรับผิดชอบต่อครอบครัว จุฬาฯมีความภาคภูมิใจในนิสิตผู้นี้ที่เป็นแบบอย่างที่ดีของนิสิต
       
       สำหรับแนวทางการให้ความช่วยเหลือนิสิตนั้น ทางคณะนิเทศศาสตร์ จุฬาฯได้ให้ ความช่วยเหลืออย่างต่อเนื่องเมื่อเกือบหนึ่งปีที่ผ่านมาในเรื่องค่าใช้จ่ายในการเรียน ค่ารักษาพยาบาล ค่าใช้จ่ายส่วนตัว ในส่วนของมหาวิทยาลัย ทางผู้บริหารจุฬาฯ ได้พูดคุยกับนิสิตและได้ให้คำแนะนำช่วยเหลือในเรื่องต่างๆตามมาตรการที่จุฬาฯ มีอยู่ไม่ว่าจะเป็นในเรื่องการให้คำปรึกษาเรื่องยาและการรักษาพยาบาล การพิจารณาทุนให้ความช่วยเหลือนิสิตในภาวะฉุกเฉิน และการช่วยเหลือจากพี่เก่าและหน่วยงานต่างๆ ฯลฯ เพื่อไม่ให้กระทบต่อการศึกษาเล่าเรียนของนิสิตด้วย.


++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++

อันความกรุณาปราณี
จะมีใครมาบังคับก็หาให้
หลั่งมาเองเหมือนสายฝนอันชื่นใจ
จากฝากฟ้าสุราลัยสู่แดนดิน

อันความกตัญญูรู้คุณ
ช่วยเกื้อหนุนจุนเจือเผื่อแผ่สิ้น
คุณพ่อแม่ทดแทนไปเป็นอาจิณ
ทั่วทุกถิ่นรู้ได้ใช่คนดี...


นานาชอบนานาเยี่ยมนานาเก่งนานาโอเค
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่