ประธานาธิบดี วลาดิมีร์ ปูติน แห่งรัสเซีย
เอเอฟพี - ประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน แห่งรัสเซียวันนี้ (29 ส.ค.) วิงวอนให้กลุ่มติดอาวุธแบ่งแยกดินแดนฝักใฝ่รัสเซียทางภาคตะวันออกของยูเครน
เปิด “เส้นทางมนุษยธรรม” ให้กำลังทหารยูเครนที่ตกอยู่ในวงล้อมของกบฏถอนกำลังออกมา
ปูตินระบุในคำแถลงที่นำออกเผยแพร่หลังเที่ยงคืนวันพฤหัสบดีว่า
“ผมขอเรียกร้องให้กองกำลังฝ่ายกบฏเปิดเส้นทางมนุษยธรรมให้ทหารยูเครนซึ่งถูกปิดล้อม เพื่อไม่ให้เกิดการบาดเจ็บล้มตายโดยไม่จำเป็น
และเพื่อเปิดโอกาสให้พวกเขาถอนกำลังออกจากจุดปะทะ”
กำลังทหารยูเครนที่ตกอยู่ในวงล้อมได้สู้อย่างจนตรอก เพื่อเอาชีวิตรอดในเมืองอิโลวอยสค์มานานนับสัปดาห์ ขณะที่กลุ่มติดอาวุธนิยมรัสเซียซึ่งล่าถอยกลับไป
ได้กลับมาเปิดฉากโจมตีโต้กลับสายฟ้าแลบ
ปูตินได้เรียกกลุ่มแบ่งแยกดินแดนเหล่านี้ว่าเป็นผู้ปกป้อง “โนโวรอสสิยา” หรือรัสเซียใหม่ ซึ่งเป็นคำเรียกที่จักรวรรดิรัสเซียใช้เรียกดินแดนทางตอนเหนือของทะเลดำ
ที่ยึดครองมาได้ ซึ่งปัจจุบันได้กลายเป็นพื้นที่บางส่วนของรัสเซียและยูเครน
เขาได้กล่าวชื่นชม กลุ่มติดอาวุธที่สามารถยับยั้งปฏิบัติการของกองทัพยูเครนได้สำเร็จ เนื่องจากเป็นอันตรายต่อประชากรในแคว้นดอนบาส
ทางภาคตะวันออกของยูเครนซึ่งเป็นจุดที่เกิดการปะทะอยู่บ่อยครั้ง
ยูเครนและโลกตะวันตกได้กล่าวหาทหารรัสเซียว่า เป็นผู้อยู่เบื้องหลังการโจมตีโต้กลับชนิดสายฟ้าแลบ ที่ทำให้กบฏฝักใฝ่มอสโก
สามารถยึดครองอาณาเขตกว้างใหญ่มาจากกองกำลังของรัฐบาลยูเครน ซึ่งนับเป็นจุดพลิกผันครั้งสำคัญของวิกฤตความขัดแย้งซึ่งยืดเยื้อมานาน 4 เดือน
ปูตินได้เรียกร้องให้เคียฟ “ระงับปฏิบัติการทหาร, หยุดยิง และนั่งลงเจรจากับคณะผู้แทนจากดอนบาสส์ทันที ตลอดจนแก้ไขปัญหาทุกอย่างด้วยสันติวิธี”
นอกจากนี้ ประธานาธิบดีรัสเซียยังวอนให้กลุ่มติดอาวุธนำตัวทหารยูเครนที่บาดเจ็บไปเข้ารับการรักษา และเน้นย้ำว่ารัสเซีย
“พร้อมที่จะจัดหาความช่วยเหลือทางมนุษยธรรมให้ประชาชนในดอนบาส ที่กำลังประสบหายนะทางมนุษยธรรมครั้งนี้”
เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว รัสเซียได้ส่งขบวนรถบรรทุกกว่า 200 คัน ซึ่งขนสิ่งของบรรเทาทุกข์กว่า 1,800 ตัน เข้าไปในภาคตะวันออกของยูเครน
ทั้งที่ยังไม่ผ่านความเห็นชอบจากเคียฟ และเหล่าผู้สังเกตการ์ของกาชาดสากล
ยูเครน และบรรดาชาติตะวันตกรุมประณามการกระทำตามอำเภอใจของมอสโก เนื่องจากวิตกกังวลกันว่า รัสเซียอาจคิดแผนส่งความช่วยเหลือขึ้นมาบังหน้าการส่งทหารเข้ายูเครน
การสู้รบที่กำลังขยายวงกว้าง และการโจมตีโต้กลับอย่างยักแย่ยักยันของกลุ่มติดอาวุธใฝ่รัสเซียในสัปดาห์นี้ได้จุดชนวนให้ชาติตะวันตกวานนี้ (28)
ออกมากล่าวหาทหารรัสเซียว่า พวกเขามีส่วนสำคัญในการเคลื่อนไหวต่อสู้เพื่อแบ่งแยกดินแดนทางภาคตะวันออกของยูเครน
ผู้ประท้วงชาวยูเครนในแคว้นโดเนตสค์ ถือป้ายที่มีข้อความต่อต้านประธานาธิบดี วลาดิมีร์ ปูตินแห่งรัสเซีย เมื่อวันพฤหัสบดี (28 ส.ค.)
ผู้ชุมนุมชาวยูเครนขว้างระเบิดควัน ระหว่างรวมตัวประท้วงหน้าสถานกงสุลรัสเซีย ประจำเมืองคาร์คิฟ ทางภาคตะวันออกเฉียงใต้ของยูเครน เมื่อวันพฤหัสบดี (28 ส.ค.)
http://www.manager.co.th/around/ViewNews.aspx?NewsID=9570000099145
“ปูติน” เรียกร้องกบฏโปรรัสเซียเปิด “เส้นทางมนุษยธรรม” ให้ทหารยูเครนในวงล้อมล่าถอย
ประธานาธิบดี วลาดิมีร์ ปูติน แห่งรัสเซีย
เอเอฟพี - ประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน แห่งรัสเซียวันนี้ (29 ส.ค.) วิงวอนให้กลุ่มติดอาวุธแบ่งแยกดินแดนฝักใฝ่รัสเซียทางภาคตะวันออกของยูเครน
เปิด “เส้นทางมนุษยธรรม” ให้กำลังทหารยูเครนที่ตกอยู่ในวงล้อมของกบฏถอนกำลังออกมา
ปูตินระบุในคำแถลงที่นำออกเผยแพร่หลังเที่ยงคืนวันพฤหัสบดีว่า
“ผมขอเรียกร้องให้กองกำลังฝ่ายกบฏเปิดเส้นทางมนุษยธรรมให้ทหารยูเครนซึ่งถูกปิดล้อม เพื่อไม่ให้เกิดการบาดเจ็บล้มตายโดยไม่จำเป็น
และเพื่อเปิดโอกาสให้พวกเขาถอนกำลังออกจากจุดปะทะ”
กำลังทหารยูเครนที่ตกอยู่ในวงล้อมได้สู้อย่างจนตรอก เพื่อเอาชีวิตรอดในเมืองอิโลวอยสค์มานานนับสัปดาห์ ขณะที่กลุ่มติดอาวุธนิยมรัสเซียซึ่งล่าถอยกลับไป
ได้กลับมาเปิดฉากโจมตีโต้กลับสายฟ้าแลบ
ปูตินได้เรียกกลุ่มแบ่งแยกดินแดนเหล่านี้ว่าเป็นผู้ปกป้อง “โนโวรอสสิยา” หรือรัสเซียใหม่ ซึ่งเป็นคำเรียกที่จักรวรรดิรัสเซียใช้เรียกดินแดนทางตอนเหนือของทะเลดำ
ที่ยึดครองมาได้ ซึ่งปัจจุบันได้กลายเป็นพื้นที่บางส่วนของรัสเซียและยูเครน
เขาได้กล่าวชื่นชม กลุ่มติดอาวุธที่สามารถยับยั้งปฏิบัติการของกองทัพยูเครนได้สำเร็จ เนื่องจากเป็นอันตรายต่อประชากรในแคว้นดอนบาส
ทางภาคตะวันออกของยูเครนซึ่งเป็นจุดที่เกิดการปะทะอยู่บ่อยครั้ง
ยูเครนและโลกตะวันตกได้กล่าวหาทหารรัสเซียว่า เป็นผู้อยู่เบื้องหลังการโจมตีโต้กลับชนิดสายฟ้าแลบ ที่ทำให้กบฏฝักใฝ่มอสโก
สามารถยึดครองอาณาเขตกว้างใหญ่มาจากกองกำลังของรัฐบาลยูเครน ซึ่งนับเป็นจุดพลิกผันครั้งสำคัญของวิกฤตความขัดแย้งซึ่งยืดเยื้อมานาน 4 เดือน
ปูตินได้เรียกร้องให้เคียฟ “ระงับปฏิบัติการทหาร, หยุดยิง และนั่งลงเจรจากับคณะผู้แทนจากดอนบาสส์ทันที ตลอดจนแก้ไขปัญหาทุกอย่างด้วยสันติวิธี”
นอกจากนี้ ประธานาธิบดีรัสเซียยังวอนให้กลุ่มติดอาวุธนำตัวทหารยูเครนที่บาดเจ็บไปเข้ารับการรักษา และเน้นย้ำว่ารัสเซีย
“พร้อมที่จะจัดหาความช่วยเหลือทางมนุษยธรรมให้ประชาชนในดอนบาส ที่กำลังประสบหายนะทางมนุษยธรรมครั้งนี้”
เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว รัสเซียได้ส่งขบวนรถบรรทุกกว่า 200 คัน ซึ่งขนสิ่งของบรรเทาทุกข์กว่า 1,800 ตัน เข้าไปในภาคตะวันออกของยูเครน
ทั้งที่ยังไม่ผ่านความเห็นชอบจากเคียฟ และเหล่าผู้สังเกตการ์ของกาชาดสากล
ยูเครน และบรรดาชาติตะวันตกรุมประณามการกระทำตามอำเภอใจของมอสโก เนื่องจากวิตกกังวลกันว่า รัสเซียอาจคิดแผนส่งความช่วยเหลือขึ้นมาบังหน้าการส่งทหารเข้ายูเครน
การสู้รบที่กำลังขยายวงกว้าง และการโจมตีโต้กลับอย่างยักแย่ยักยันของกลุ่มติดอาวุธใฝ่รัสเซียในสัปดาห์นี้ได้จุดชนวนให้ชาติตะวันตกวานนี้ (28)
ออกมากล่าวหาทหารรัสเซียว่า พวกเขามีส่วนสำคัญในการเคลื่อนไหวต่อสู้เพื่อแบ่งแยกดินแดนทางภาคตะวันออกของยูเครน
ผู้ประท้วงชาวยูเครนในแคว้นโดเนตสค์ ถือป้ายที่มีข้อความต่อต้านประธานาธิบดี วลาดิมีร์ ปูตินแห่งรัสเซีย เมื่อวันพฤหัสบดี (28 ส.ค.)
ผู้ชุมนุมชาวยูเครนขว้างระเบิดควัน ระหว่างรวมตัวประท้วงหน้าสถานกงสุลรัสเซีย ประจำเมืองคาร์คิฟ ทางภาคตะวันออกเฉียงใต้ของยูเครน เมื่อวันพฤหัสบดี (28 ส.ค.)
http://www.manager.co.th/around/ViewNews.aspx?NewsID=9570000099145