แบบนี้ ผมคิดยังงัยกับเธอกันแน่ครับ

เริ่มต้น ผมและเธอมีแฟนแล้วทั้งคู่ แต่ได้มาเจอกัน ได้รู้จักกันโดยหน้าที่การงาน ต่างคนต่างรู้ว่าอีกฝ่ายมีแฟนแล้ว เราทั้งคู่สนิทกันมาก จนนับถือกันแบบพี่น้องเลยทีเดียว

เธอกับแฟนเธอ มีปัญหากันอยู่แล้วระดับนึง แต่ก็ยังคบกันอยู่เป็นปกติ

ผมกับแฟนผม ก็รักกันดี เคยมีปัญหากันบ้าง แต่ก็เคลียร์ได้ทุกครั้ง

ผมมีเล่าเรื่องของเธอให้แฟนผมฟังบ้างเล็กน้อย ไม่ได้เล่าว่าสนิทกันแค่ไหน เนิ่องจากเห็นว่ามันไม่มีประเด็นอะไรสำคัญ แล้วเดาได้ว่าถ้าแฟนผมรู้ว่าสนิทกันมาก ต้องไม่ชอบแน่ ตามแบบผู้หญิงไทยทั่วไป แต่ผมก็เล่าเรื่องของแฟนผมให้เธอฟังเสมอๆ

เท่าที่ผมเข้าใจ เธอก็ไม่ได้เล่าเรื่องของผม ให้แฟนเธอมากนัก น่าจะคล้ายกับผมคือเห็นว่าไม่มีประเด็นอะไรสำคัญ ส่วนเรื่องของแฟนเธอ ผมก็ได้ฟังแค่บางครั้ง ส่วนใหญ่ผมจะเป็นคนถามเรื่องราวมากกว่า

ผ่านไปซักปีนึงได้ ก็มีเรื่องราวเกิดขึ้น อย่างที่ใครๆก็คาดการณ์ได้ แฟนผมได้รู้เรื่องราวของผมและเธอ ผมได้เล่าเรื่องราวให้แฟนผมฟังมากขึ้น แต่ก็เป็นไปอย่างที่เดาไว้ มันไม่ได้มีอะไรดีขึ้นมา แต่ผมก็ยังยืนยันกับแฟนผมว่า ผมและเธอ คิดกันเป็นแค่พี่น้องเท่านั้น ผมคุยกับแฟนได้น้อยลงเรื่อยๆ

ในระหว่างนั้น เธอกับแฟนเธอก็เลิกกัน เท่าที่ผมทราบ ไม่ได้เกี่ยวกับผมซักเท่าไหร่ มันเป็นปัญหาของทั้งคู่อยู่แล้ว แฟนเธอไปมีแฟนใหม่ แล้วเธอก็ไม่ได้เศร้าอะไร แต่ออกแนวแค้นมากกว่า ผมก็ได้แต่ปลอบเธอไปตามระเบียบ

หลังจากนั้น ผมก็เริ่มสงสัยตัวเองว่า ผมคิดยังงัยกับเธอกันแน่ ซึ่งที่สงสัยเพราะมีหลายๆเหตุการณ์เกิดขึ้น แล้วผมก็รู้สึกอะไรแปลกๆ เช่นว่า ผมและเธอไม่ได้ร่วมงานกันแล้ว แต่ยังพยายามหาทางมาเจอกันอยู่เรื่อยๆ และอื่นๆอีกมาก แฟนผมยืนยันว่า ผมชอบเธอแน่ๆ

ผมได้คุยเรื่องนี้กับเธอ เธอบอกว่า ไม่ใช่หรอก สนิทกันเลยคิดมากไปล่ะมั้ง ส่วนเธอยืนยันว่า เธอชอบผมแบบพี่แน่ๆ และไม่เคยรักผมแบบชู้สาวเลย

ความสัมพันธ์ของผมกับแฟนผม แย่ลงเรื่อยๆ จนวันนึง ผมแน่ใจว่า ไม่สามารถมีอนาคตร่วมกันได้แน่ โดยเหตุผลนั้น ไม่ได้มาจากเธอ แต่มาจากปัญหาอื่นๆ ที่ขยายตัวใหญ่ขึ้น บางคนอาจคิดว่าผมเข้าข้างตัวเองหรือเปล่า ไปอ้างปัญหาอื่น คือแฟนผมอยู่ต่างประเทศ ตั้งแต่เป็นแฟนกันมา 5-6 ปี ได้เจอกัน 4 ครั้ง ครั้งละประมาณ 20 วัน แล้วแฟนผมยังไม่ได้มีแผนจะกลับมาในเร็วๆนี้แน่ นั่นเป็นปัญหาหลัก แล้วยังมีเรื่องอื่นๆอีกมาก ผมตัดสินใจบอกแฟนผมว่า เราควรจะเลิกคิดเป็นแฟนกันไปจนกว่าจะมีโอกาสได้มาอยู่ด้วยกันจริงๆ แล้วเริ่มต้นกันใหม่แบบคนทั่วๆไปที่เป็นแฟนกัน แน่นอนว่าแฟนผมเสียใจมาก แต่เราก็ยังคุยกันแบบเพื่อนกันอยู่ คุยกันเหมือนตอนเป็นแฟนกัน แค่เลิกคิดเรื่องอนาคต ทำแค่ปัจจุบันให้ดีต่อไป

ความสนิทสนมของผมและเธอยังคงดำเนินต่อไป ผมยังถามเธออีกหลายครั้งว่า เราชอบกันหรือเปล่า แต่คำตอบทุกครั้งของเธอยังเหมือนเดิม ผมเองก็ยังดูแลเธอแบบพี่ดูแลน้อง แต่ในใจก็ยังคงสงสัยว่า ผมคิดยังงัยกับเธอกันแน่ เราเคยคุยกันถึงขนาดว่า ถ้าแฟนผมกลับมา เธอก็ต้องไป คงเสียใจน่าดู ผมเองก็บ่นว่า ถ้าเธอมีแฟนใหม่ ผมก็ต้องไปเหมือนกัน เลยมาคิดว่า ถ้าต่างฝ่ายไปมีแฟน (ใหม่หรือเก่าก็ตาม) เราจะยังมีเวลาให้กัน และรักกันแบบพี่น้องแบบนี้ตลอดไป ระหว่างนั้น ผมยังมานั่งหาแฟนให้เธอเลย แบบว่า คนนั้นดีมั้ย เธอชอบแบบไหนกันแน่ ผมถือคติว่า รักใคร ก็ควรทำให้เค้ามีความสุข

และแล้ว โลกแห่งความจริง ก็เกิดขึ้น เธอมีแฟนใหม่ ทุกอย่างเกิดขึ้นเร็วมาก เธอไม่ได้เล่าเรื่องนี้ให้ผมฟังมากนัก แค่อยู่ๆ เธอก็ไม่ค่อยว่างบ่อยๆ ผมเองก็ไม่ได้จุกจิกถามอะไร หลายเรื่องผมถือเป็นเรื่องส่วนตัวของกันและกัน อยากเล่าก็เล่า ถามมาก็ตอบเท่าที่อยากตอบ แล้วไม่ได้ดาดคั้นอะไรกัน พอผมรู้เรื่อง ผมก็ถามมากขึ้น แต่เธอตอบน้อยลง ทุกวันนี้ ผมและเธอได้เจอกัน คุยกันน้อยมาก

ถึงแม้ว่าผมยังถือคติเดิม รักใคร ก็ควรทำให้เค้ามีความสุข แต่วันนี้ ผมรู้สึกทุกข์ รู้สึกเหมือนเสียของรักไป ผมเป็นคนไม่ค่อยมีเพื่อน เลยไม่ได้คุยอะไรกับใคร พอเธอหายไป เหมือนต้องกลับมาอยู่คนเดียวบนโลกอีกครั้ง เสียใจถึงขั้นร้องไห้อยู่บ่อยๆ ไม่รู้ว่าเพราะอะไร

ตกลงว่า ผมคิดยังงัยกับเธอกันแน่ครับ เต่าเอือม
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่