คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 25
มีส่วนก่อให้เกิดอุบัติเหตุทั้งคู่ครับ
- A ผิดที่ไม่มีไฟท้ายส่องสว่าง ทำให้มองให้เห็นในยามดึก
- B อาจจะผิดที่เมาแล้วขับขี่ ไม่สวมหมวก อื่นๆ
น่าจะไปไกล่เกลี่ยกันได้ครับ แต่ผมว่าหากให้เลือกระหว่าง
A มีไฟท้าย กับ B ไม่ได้เมา+สวมหมวก อย่างใดอย่างหนึ่ง ว่าอันไหนมีส่วนป้องกันอุบัติเหตุได้มากกว่า
ผมว่า เขาเลือก A มีไฟท้าย ซึ่งจะแปลว่า A มีส่วนในการก่ออุบัติเหตุมากกว่าคู่กรณีครับ
คดีมันจะสนุกกว่านี้หากรถ B ไม่มีไฟหน้าด้วยนะเอ้อ
- A ผิดที่ไม่มีไฟท้ายส่องสว่าง ทำให้มองให้เห็นในยามดึก
- B อาจจะผิดที่เมาแล้วขับขี่ ไม่สวมหมวก อื่นๆ
น่าจะไปไกล่เกลี่ยกันได้ครับ แต่ผมว่าหากให้เลือกระหว่าง
A มีไฟท้าย กับ B ไม่ได้เมา+สวมหมวก อย่างใดอย่างหนึ่ง ว่าอันไหนมีส่วนป้องกันอุบัติเหตุได้มากกว่า
ผมว่า เขาเลือก A มีไฟท้าย ซึ่งจะแปลว่า A มีส่วนในการก่ออุบัติเหตุมากกว่าคู่กรณีครับ
คดีมันจะสนุกกว่านี้หากรถ B ไม่มีไฟหน้าด้วยนะเอ้อ
▼ กำลังโหลดข้อมูล... ▼
แสดงความคิดเห็น
คุณสามารถแสดงความคิดเห็นกับกระทู้นี้ได้ด้วยการเข้าสู่ระบบ
มันถูกต้องแล้วเหรอ ต้องชดใช้ค่าเสียหายให้คนที่ขับรถมาชนรถเรา
วันหนึ่งประมาณ 1-2 ทุ่ม พ่อก็ขับรถไถนากลับเข้าบ้านตามปกติ หลังจากเสร็จภารกิจที่ท้องนา
ได้มีคนเมาขับรถมอเตอร์ไซต์มาด้วยความเร็วสูง ไม่มีหมวกกันน็อค ไม่มีใบขับขี่ ชนเข้าท้ายรถพ่ออย่างจัง
รถเสียหายยับเยิน พ่อได้รับบาดเจ็บหน้าอกกระแทกกับที่จับคันรถ รถไถนาร่วงลงไปยังท้องร่อง
ส่วนคนขับมอเตอร์ไซต์กระเด็นกระดอนได้รับบาดเจ็บสาหัส
ฝั่งคนขับมอเตอร์ไซต์ได้ไปแจ้งความเรียกค่าเสียหายว่ารถพ่อเราไม่ได้จดทะเบียนไม่มีไฟท้ายส่องสว่าง
ทำให้เกิดอุบัติเหตุ เรียกค่าเสียหาย 50,000
ครอบครัวเราก็หาเช้ากินค่ำรถก็พัง ยังต้องมาจ่ายค่าเสียหายอีก
ไม่ใช่ว่าไม่เห็นใจเขานะ แล้วเราล่ะใครเห็นใจกันบ้าง
ขับรถมาดีถูกชนต้องเสียเงินซะงั้น
ทางก็เป็นทางชนบทธรรมดา
ใช้สัญจรระหว่างหมู่บ้านกะหมู่บ้าน หมู่บ้านกับทุ่งนา
ชาวบ้านก็ใช้ชีวิตแบบนี้เป็นปกติกลับเข้าบ้านไม่เป็นเวลา
เขาไปแจ้งความ
ตำรวจก็บอกพ่อผิดเต็มๆ เพราะเป็นรถใหญ่ ให้ไปไกล่เกลี่ยกันเอง
ชาวบ้านก็บอกผิดเต็ม แม้แต่รถจอดไว้เฉย คนมาชนตายเรายังผิดเลย เขาเรียกเป็นล้านก็ต้องให้
ก็เลยอยากขอความรู้เกี่ยวกับเรื่องนี้ค่ะ ว่าเราผิดเราต้องยอมจ่ายค่าเสียหายให้เขาไหม
ขอบคุณทุกคำตอบค่ะ