เครือ SCG ซื้อ LPG แพงกว่าเครือ PTT จริงหรือ?

กระทู้สนทนา
พอดีเมื่อวานผมได้ไปงานที่พุทธอิสระนั่งกลางโต๊ะให้แก๊งทวงคืนฯสอบถามเรื่องนี้กับฝั่ง ปตท. แล้วเขาบอกให้ตอบแค่ “ใช่” หรือ “ไม่ใช่” ถ้าจะให้ผมตอบแค่นี้ ผมตอบเลยว่า “ไม่ใช่” แล้วคุณจะเชื่อผมไหม?

แน่นอนถ้าคุณตั้งธงไว้ในใจว่าคำตอบคือ “ใช่” คุณย่อมไม่เชื่อคำตอบของผมอยู่แล้ว ดังนั้นการที่แก๊งทวงคืนฯมาแผนเหนือเมฆให้คนที่ถูกกล่าวหาตอบคำถามปลายปิดว่า “ใช่ หรือ ไม่ใช่” แค่นี้ มันถือเป็นกลวิธีที่กระทั่งพระที่นั่งอยู่ตรงกลางยังหลงเออออไปกับแก๊งทวงคืนฯ ด้วยเลย (ความเห็นส่วนตัวของผม ผมว่าพุทธอิสระไม่มีความรู้พื้นฐานเรื่องพลังงานมากพอที่จะมานั่งเป็นคนดำเนินงานเลยครับ)

ถ้าคุณอยากรู้ว่าทำไมคำตอบของผมว่าทำไมเรื่องที่ “เครือ SCG ซื้อ LPG แพงกว่าเครือ PTT เป็นเรื่องไม่จริง” รบกวนอ่านเพื่อความรู้แก่ตัวคุณเองครับ แต่ถ้าใจคุณปิดเหมือนพวกแก๊งทวงคืนฯ ที่ต้องการคำตอบแค่ “ใช่ หรือ ไม่ใช่” ไม่ต้องอ่านต่อแล้วครับ เชิญลงไปคอมเม้นต์ด่าผมได้เลยว่าเป็นขี้ข้า ปตท เป็นคนเลว เป็นคนเห็นแก่เงิน ฯลฯ เอาเลยครับ ตามสบายพวกใจปิดเขาถนัดอยู่แล้วเรื่องด่าคนเห็นต่างกับตัวเอง

มาเริ่มฟังคำอธิบายของผมกันครับ
1. ประเด็นนี้ถูกนายกรกสิวัฒน์เจ้าเก่าหยิบไปโพนทะนาในเพจของตัวเองตามภาพ


2. ผมจะอธิบายก่อนเลยว่าภาคปิโตรเคมีทั้งเครือ SCG และเครือ PTT นั้น “ไม่เคยนำ LPG ไปใช้เป็นวัตถุดิบปิโตรเคมีครับ” แต่เขานำสิ่งที่เรียกว่า Propane และ Butane ซึ่งสามารถนำมาใช้เป็น LPG ไปใช้ พูดง่ายๆ ก็คือถ้าปิโตรเคมีไม่นำ Propane และ Butane ไปใช้เราสามารถนำสารสองตัวนี้มาทำเป็น LPG ได้

3. Propane และ Butane นี้หากผ่านเข้าไปในกระบวนการของปิโตรเคมีจะสามารถผลิตเป็นสารอื่นๆได้อีกมากมายหลายชนิดและสุดท้ายสามารถผลิตเป็นเม็ดพลาสติก ยางสังเคราะห์ หรือเส้นใยสังเคราะห์ได้

4. . Propane และ Butane สามารถผลิตได้จาก 2 แห่งด้วยกัน
      4.1 คือจากโรงแยกก๊าซ
      4.2 จากโรงกลั่นน้ำมันดิบ

5. สำหรับบริษัทในเครือ PTT นั้นมีความสามารถตามข้อ 4.1 คือแยกก๊าซธรรมชาติออกมาเป็น Propane และ Butane เพราะเป็นเจ้าของโรงแยกก๊าซทั้ง 6 แห่ง และตามข้อ 4.2 คือแยกน้ำมันดิบออกมาเป็น Propane และ Butane เพราะเป็นเจ้าของโรงกลั่น ผมขอยกตัวอย่างคือโรงกลั่น PTTGC

6. แต่บริษัทในเครือ SCG นั้นไม่ได้เป็นเจ้าของทั้งโรงแยกก๊าซและโรงกลั่นน้ำมันดิบ จึงต้องซื้อสารตั้งต้นต่อจากเขามาอีกที ซึ่งโรงงานในเครือ SCG นั้นถูกออกแบบให้รับซื้อวัตถุดิบที่ชื่อว่าแนฟทา (Naphtha) เพื่อนำไปใช้ในการผลิตเป็นเม็ดพลาสติก ยางสังเคราะห์ หรือเส้นใยสังเคราะห์ เช่นเดียวกับบริษัทในเครือ PTT

7. อ่านถึงตรงนี้ผมอยากให้คุณจำไว้ว่า (ตรงจุดนี้สำคัญมากนะครับ ผมเลยเอามาย้ำอีกครั้งให้คุณอ่าน)

    7.1 สารตั้งต้นของบริษัทในเครือ PTT ไว้ว่าคือ Propane และ Butane และบริษัทในเครือ SCG ว่าคือ Naphtha (จะเห็นว่าทั้ง PTT และ SCG ใช้สารตั้งต้นที่ไม่เหมือนกัน ขอให้ทดไว้ในใจว่าเมื่อสารตั้งต้นที่ใช้มันคนละตัวกัน ราคามันก็น่าจะไม่เท่ากัน)
    7.2 Naphtha นั้นไม่ใช่ว่าอยู่ดีๆพระเจ้าก็ประทานมา ก่อนจะได้ Naphtha ต้องนำเอาน้ำมันดิบผ่านเข้าไปในโรงกลั่นแล้วก็จะได้ Naphtha ออกมา

8. เอาล่ะครับตอนนี้คุณมีความเข้าใจพื้นฐานมากพอแล้ว ลองดูตามรูปที่ผมนำมานะครับ


9. จากรูปคุณจะเห็นชัดเจนว่า ปตท จำเป็นต้องเปลี่ยนน้ำมันดิบเป็น Naphta ให้แก่ SCG ก่อน ซึ่งการดำเนินการดังกล่าวมันมีค่าใช้จ่ายนะครับ ไม่ใช่ทำกันฟรีๆ ดังนั้นนี่จึงเป็นเหตุผลที่ทำไมบริษัทในเครือ SCG ถึงซื้อวัตถุดิบปิโตรเคมีที่มีราคาแพงกว่าบริษัทในเครือ ปตท เปรียบเทียบง่ายๆครับ คุณซื้อข้าว ซื้อแตงกวา ซื้อไก่ ซื้อเครื่องปรุงมาทำข้าวมันไก่ใจคอคุณ คุณจะขายข้าวมันไก่ให้กับลูกค้าโดยคิดแค่ราคาต้นทุนข้าว+แตงกวา+ไก่+เครื่องปรุงหรือครับ? คุณจะไม่เอกำไรจากฝีมือการทำข้าวมันไก่ของคุณเลยหรือ

งดพาดพิงบุคคลที่ 3 นะครับ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่