เนื่องจาก บริษัท เราได้ ซื้อที่ไว้แปลงหนึ่งในปี 2540 และถมที่ไว้สูงกว่า บ้านที่ติดกัน ทางเราใช้ ที่ตรงนั้นเป็นโรงงาน ประมาณ 5  ปี และย้ายออก ปัจจุบันโรงงานตรงนี้เป็นที่อยู่อาศัยของ พนักงาน 3 คนและเอาไว้เก็บรถ ของบริษัท

ประมาณ 4 เดือนที่แล้วที่มีฝนตก อยู่เนืองๆ รั้วข้างบ้านได้พังลงมา ( ลักษณะของรั้วคืออิฐบลอคไม่ฉาบปูน เก่ามากแล้ว) ทางนั้นมาขอให้เราชดใช้ค่าเสียหาย ทางบริษัท จึงเสนอว่า เราออก คนละ 50% ไหม เนื่องจากรั้วของคุณก็เก่ามาแล้ว แต่ทางนั้นไม่ยอม โดยอ้างว่า เพราะที่เราสูง ทำให้น้ำที่ไหลมาไปทำให้รั้วเขาพัง ทางเราจึงไม่ได้ยอมจ่าย 100% ตามที่เขาเรียกร้อง จึงมีการฟ้องร้องกันเกิดขึ้น

ทางนั้นอ้างต่อศาลว่า รั้วเขามี 4 ด้านแต่เฉพาะด้าน ที่อยู่ติดกับเราพัง // ทางบริษัท จึงถ่ายรูปรั้วทั้ง 4 ด้านมาว่า อีก 3 ด้านที่ไม่พัง คือรั้วที่ทำขึ้นมาใหม่ ก่ออิฐฉาบปูน แต่ที่พังคือ รั้วเก่าอิฐบลอกไม่ฉาบปูน รวมถึงทางบริษัทได้ยื่นเอกสารตอนขออนุญาตก่อสร้างที่ดิน ให้กับทางศาล โดยทางศาลแจ้งว่าจะอ่านเอกสารที่เราแนบมาทีหลัง และ ทางเรามียื่น งบประมาณค่าทำรั้วใหม่ คือ 60,000 บาท (รั้วยาว 20 เมตร) ทางศาลแจ้งอีกว่าจะอ่านงบการทำตรงนี้ทีหลัง

เมื่อวานศาลได้ตัดสินว่า ทางเราผิด และ ค่าทำรั้วที่เราเสนอไป 160,000 แพงกว่า ที่ฝั่งนั้นเสนอ ... คือศาลไม่ได้อ่านหรือเปล่า เพราะมันเป็นทางเราที่ เสนอไป 60,000 ส่วน 160,000 คือข้างบ้านเสนอ และทนายได้มีการพูดคุยกับศาลแล้ว และศาลบอกว่า ไม่ได้เห็นเอกสาร รูปภาพรัวที่ทางเราแนบไปให้ ถ้าไม่พอใจคำตัดสินให้ไปยื่นอุธรณ์เอาเอง...

ทางเราสงสัยมากว่า ศาลตัดสินแบบนี้ ถูกแล้วหรือไม่ และในกรณีนี้ เป็นสิ่งที่ยอมรับได้หรือไม่คะ

แก้ไข ข้อมูลที่อาจจะหมิ่นศาลแล้วนะคะ

ขอบคุณมากค่ะ