ตอนนี้กระแสบอร์ดเกมในไทยกำลังมาแรง มีบอร์ดเกมคาเฟ่เกิดขึ้นมากมาย วันนี้ผมเลยเอาประสบการณ์ร่วมงาน GenCon Indy 2014 ที่ Indianapolis มาฝากครับ
Gencon เป็นงานประชุมบอร์ดเกมที่ใหญ่ที่สุดในทวีปอเมริกา (ใหญ่เป็นอันดับสองของโลก) ปีนี้มีคนเข้าร่วมประมาณ 56,000 คน และมีประมาณ 13,000 ลานเกมให้เข้าไปร่วมเล่น และร้านจำหน่ายสินค้าประมาณ 2,500 ร้านเข้าร่วมครับ
ปกติงานจะมีทุกปี ช่วงเดือนสิงหาคม ปีนี้ตรงกับวันที่ 14-17 สิงหาคมที่ผ่านมา สถานที่จัดงานคือ Indianapolis Convention Center แรกเริ่มงานประชุมถูกจัดที่รัฐ Wisconsin ตั้งแต่ปี 1968 แต่เนื่องจากมีคนเข้าร่วมมากขึ้นทุกปี เลยต้องย้ายสถานที่มาที่ Indianapolis ตั้งแต่ปี 2003 ปีนี้ถึอเป็นปีที่ 47 ของ GenCon แล้วครับ
ก่อนจะเข้าร่วมงาน ก็ต้องลงทะเบียนก่อนครับ ค่าลงทะเบียนแบบ 4 วันรวดจะถูกกว่าลงทะเบียนทีละวัน แล้วถ้าลงทะเบียนก่อนล่วงหน้าก็จะได้ส่วนลดด้วยครับ ส่วนใหญ่ราคาจะอยู่ที่ $40-50 ต่อวัน แต่ถ้าลงทะเบียนเหมาจ่ายแบบ 4 วันจะอยู่ที่ประมาณ $70-80 (คือซื้อแบบสี่วัน แต่อยู่แค่สองวันก็เกินคุ้มแล้ว) ราคาเหมือนจะแพงนี้ถือว่าปกติมากสำหรับที่อเมริกา เพราะที่อื่นๆก็ราคาประมาณนี้ครับ
งานจะแบ่งเป็นสามส่วนหลักๆ ก็คือส่วน exhibition hall เป็นงานแสดงสินค้า จัดคล้ายๆงานสัปดาห์หนังสือฯบ้านเรา แต่ขายบอร์ดเกมแทน ส่วนที่สองคือ events ลานเล่นเกมต่างๆ และส่วนที่สามคือกิจกรรมเบ็ดเตล็ด ผมขอไล่ไปที่ละส่วนเลยนะครับ
Exhibition Hall เป็นส่วนที่ถือว่าร้อนแรงที่สุดของงาน เพราะบริษัทต่างๆพร้อมใจกันเอาเกมใหม่ๆมาเปิดตัวที่งาน GenCon เพราะถือเป็นงานที่ใหญ่ที่สุดของปี ปีนี้มีเกมใหม่เปิดตัวประมาณ 150 เกม โดยปกติแล้ว กว่าจะผลิตเกมเกมหนึ่งออกมาให้ได้เล่น ต้องใช้เวลาพัฒนานานมาก เป็นปี หรือหลายๆปี แล้วพอพิมพ์ออกมาแล้วก็ใช่ว่าจะขายดี เพราะฉะนั้นบริษัทส่วนใหญ่ก็จะพิมพ์ออกมาปริมาณน้อยๆ แล้วเอามาเปิดตัวที่ GenCon เพื่อดูประแสตอบรับ โดยปกติคนที่ได้ซื้อก็จะแกะเล่นมันตรงนั้นเลยล่ะครับ หลังจากนั้นประมาณเดินกว่าๆ หรืออาจจะนานถึงครึ่งปีกว่าเกมจะวางขายตามร้านทั่วไป ดังนั้น ใครที่ได้ซื้อเกมเปิดตัวที่ GenCon นี่โคตรยืดเลยครับ เพราะเป็นคนแรกๆของโลกที่ได้ลองเล่น (แต่บางคนก็เอาไปขายต่อใน Ebay)
ห้องแสดงสินค้าเปิดตอน 10 โมงเช้าถึง 6 โมงเย็น ภาพบรรยากาศก่อนเปิดประตู ก็จะเจอคนเป็นหมื่นๆพยายามที่จะเข้าไปเป็นคนแรกๆเพื่อให้ได้ซื้อเกมที่ตัวเองอยากได้
เกมที่ร้อนแรงที่สุดปีนี้ก็หนีไม่พ้น King of New York จากค่าย IELLO (อ่านว่า yellow) ซึ่งเป็นเกมที่สานต่อความสำเร็จของ King of Tokyo ที่ได้รับคะแนนวิจารณ์สูงลิ่วและโด่งดังสุดๆทั้งที่วางขายในปีเดียว เกมนี้ดีไซด์โดย Richard Garfield ซึ่งเป็นคนคิดเกม Magic: The Gathering อันเป็นตำนานนั่นเอง (คล้ายๆเกม Summoner Master บ้านเรา)
King of New York เป็นเกมที่ว่าด้วยเหล่าสัตว์ประหลาดที่แย่งกันครอบครองที่จะเป็นเจ้าแห่งมหานครนิวยอร์ก มีทั้งอาละวาดพังตึก ทำลายเทพีเสรีภาพ แย่งกันเป็น celebrity แต่ก็ต้องระวังหน่วยทหารที่เข้ามาทำร้าย สัตว์ประหลาดจะได้แต้มมากขึ้นถ้าได้ครอบครองเกาะแมนฮัตตัน แต่ในขณะเดียวกันก็จะโดนสัตว์ประหลาดตัวอื่นๆรุมทำร้าย เพราะใครๆก็อยากเป็น celebrity ในแมนฮัตตัน วิธีเล่นเกมนี้ไม่ต้องทำอะไรเลยนอกจากทอยลูกเต๋าอย่างเดียว แต่โคตรสนุกครับ
IELLO มีแค่ 50 กล่องต่อวันครับ แต่คนมาแย่งกันเป็นหมื่นๆ ผมก็อยากได้ครับ แต่ท้อใจ รอวางจำหน่ายเดือนหน้าก็ได้
ถ้าใครเคยชื่นชอบ King of Tokyo มาแล้ว รับรองว่าต้องชอบยิ่งหลงรัก King of New York ผมได้มีโอกาสลองเล่นกับเด็กๆที่นั่น รับประกันความสนุกครับ
ยินดีด้วย คุณคือผู้โชคดีได้ King of New York ไปเล่นก่อนใคร
ขายหมดภายใน 10 นาทีหลังเปิดประตู
ส่วนเกมที่ร้อนแรงอันดับสองน่าจะเป็น Five Tribes (สำนักพิมพ์ Days of Wonder)โดยสุดยอดเกมดีไซเนอร์ในตำนาน Bruno Cathala ที่ปีนี้เปิดตัวถึงสองเกม (อีกเกมคือ Abyss พิมพ์โดย Asmodee) Five Tribes เป็นเกมที่ว่าด้วยการอพยพของชนเผ่าห้ากลุ่มไปในทะเลทราย โดยแต่ละชนเผ่าจะมีความสามารถพิเศษแตกต่างกัน มีซื้อขายสินค้า สร้างปราสาท ปลูกต้นมะพร้าว รวมถึงหายักษ์จินนี่ กลไกของเกมคล้ายๆกับเกม Mancala ที่ต้องเคลื่อนย้ายชนเผ่าในแต่ละแผ่นทะเลทรายไปยังแผ่นรอบข้างเพื่อทำ action และทำคะแนน โดยส่วนตัวผมว่าเกมนี้ผู้เล่นต้องแก้ puzzle ขนาดยักษ์ที่เปลี่ยนไปๆมาๆตลอดเวลา ดูเหมือนจะยากแต่ถ้าลองเล่นจริงๆแล้ว เกมไม่ได้ซับซ้อนอะไรเลย ใช้ความคิดเล็กน้อย ไม่ต้องคิดถึงขั้นถอนผมมาเป็นกำๆ เกมนี้ได้คะแนนรีวิวสูงมากจนอาจจะได้เป็นเกมแห่งปีเลยทีเดียว เกมนี้มีแค่ 80 กล่องต่อวัน ขายหมดเกลี้ยงภายใน 10 นาทีหลังประตูเปิด หมดหวังเช่นกันครับ
Five Tribes กล่องนี้เซ็นโดยคุณพี่ Bruno Cathala ผมแทบอยากจะตีหัวเจ้าของแล้วขโมยกลับบ้าน
ลักษณะการเล่นเหมือน Mancala ที่ต้องเคลื่อนย้าย meeples ไปในทะเลทราย เกมนี้มี meeples เยอะมาก ซึ่งโดนใจครับ เพราะผมชอบ meeples
อีกเกมที่ผมสนใจเป็นพิเศษโดยส่วนตัวและเป็นที่พูดถึงอย่างหนาหูคือ Dead of Winter จากสำนักพิมพ์ Plaid Hat Games ดีไซน์โดย Isaac Vega และ Jon Gilmour อันนี้เป็นเกมซอมบี้ที่จำลองสถานการณ์เหมือนในหนังซอมบี้มาทุกประการ เกมเล่าถึงเหตุการณ์ซอมบี้บุกเข้ามาในเมืองในช่วงฤดูหนาวและหิมะตกจัด ตัวละครหลัก (ซึ่งควบคุมโดยผู้เล่น) ติดอยู่ในห้องลี้ภัย(ขอเรียกว่าโคโลนี) กับคนอื่นๆในเมือง แต่ทุกคนต้องการอาหาร ยา และอาวุธ เพราะฉะนั้นก็ต้องมีการเสี่ยงภัยไปหาของยังที่ต่างๆในเมืองทั้งโรงพยาบาล สถานีตำรวจ ปั๊มน้ำมัน ฯลฯ แต่ระหว่างทางก็อาจจะเจอกับซอมบี้ หรือโดนหิมะกัดบาดเจ็บ (หรือตาย) แม้กระทั้งหาของก็อาจเกิดเสียงดังและทำให้ซอมบี้หาเราเจอได้ เกมนี้เป็นเกม co-op กล่าวคือผู้เล่นทุกคนต้องช่วยกันต่อสู้ให้ผ่านฤดูหนาวและซอมบี้ไปให้ได้ ปกติเกม co-op จะไม่มีผู้เล่นคนในคนหนึ่งชนะ จะแพ้หรือชนะกันทั้งหมดเป็นทีม แต่เกม Dead of Winter ไม่ใช่อย่างนั้นครับ
สาเหตุที่เกมหน้าใหม่เกมนี้ร้อนแรงฉุดไม่อยู่ ก็เพราะผู้เล่นแต่ละคนจะมีจุดประสงค์ลับซ่อนอยู่ คล้ายๆปมในใจของแต่ละตัวละคร ถ้าจะชนะเกมนี้ นอกจากต้องช่วยให้โคโลนีอยู่รอดแล้ว ต้องแอบบรรลุจุดประสงค์ลับของตัวเองด้วย จุดประสงค์ลับมีตั้งแต่ต้องเป็นแม่พระช่วยคนเพิ่ม หรือเห็นแก่ตัวต้องรอดแบบไม่บาดเจ็บเลย ไปจนถึงโรคจิตขังคนแล้วจุดไฟเผาทั้งเป็น หรือไม่ก็ทรยศต่อโคโลนี อยากให้ทุกคนหมดความเชื่อมั่นและแยกย้ายไปตายเอาดาบหน้า เพราะไม่เชื่อว่าโคโลนีนี้จะรอด เกมยังเปิดโอกาสให้เนรเทศคนที่คิดว่าทรยศต่อโคโลนีออกไปได้ด้วย ซึ่งคนเหล่านี้ (ซึ่งก็คือหนึ่งในผู้เล่น) ก็จะไปหลบตามที่ต่างๆ แล้วลอบฆ่าเพื่อนๆกันเองได้ด้วย (เหมือนหนังซอมบี้จิตวิทยาสุดๆ) ส่วนตัวผมอยากได้เกมนี้มากที่สุด แต่ก็เหมือนเดิม มีแค่ 200 กว่ากล่อง (พี่แกเทขายหมดหน้าตักวันพฤหัสฯวันเดียว) หมดภายในพริบตา (เศร้ามาก)
เวลาดูหนังซอมบี้ สิ่งที่คนสนใจไม่ใช่ซอมบี้ แต่สนใจความเป็นมนุษย์ของตัวละคร เกมนี้เราจะสวมบทบาทเป็นตัวละครซึ่งอาจเป็นทั้งคนดี คนเลว ตัวประกอบ ทุกคนอยากรอดตาย แต่ขณะเดียวกันก็จะเผยธาตุแท้ออกมายามคับขันด้วย เป็นเกมที่ต้องมีการสื่อสาร มีการโกหก จับผิด และความเชื่อใจกันระหว่างผู้เล่นสูงมาก
เอาเป็นว่าแค่นี้ก่อนสำหรับเกมร้อนแรงแห่งปีที่ GenCon ยังมีเกมอื่นๆอีกมากมายไม่สามารถกล่าวได้หมด เอาไว้ถ้ามีเวลาจะมาเล่าให้ฟังวันหลังครับ
หมายเหตุ สำนักพิมพ์ที่กล่าวมาคือบริษัทที่พิมพ์เกมในประเทศสหรัฐอเมริกา เกมเดียวกันถ้าพิมพ์ที่ยุโรปหรือประเทศอื่นๆ อาจเป็นคนละสำนักพิมพ์ได้ครับ
ถ้านับเฉพาะส่วนของบริษัทเกมที่มาเปิดตัวเกม และสอนเล่นเกมใหม่ๆ จะมีประมาณ 300 บูท แต่ถ้ารวมส่วนของร้านค้าอื่นๆที่ไม่ใช่ของค่ายเกมที่ซื้อขายอุปกรณ์เสริมของเกมต่าง ไพ่สะสม ชุดคอสเพลย และแกลเลอรีศิลปะ รวมๆแล้วก็จะประมาณ 2,500 บูทครับ เรียกว่าเดินชมกันขาลากเลยทีเดียว ส่วนจิปาถะพวกนี้ผมคงกล่าวไม่หมด ขอยกตัวอย่างที่น่าสนใจบางบูทเช่น CoolStuffInc ที่เอาบอร์ดเกมมาเลหลังขายแบบถูกสุดๆ (บูทนี้บูทเดียว ผมจัดไป 5 เกมครับ) BoardGameGeek (อันนี้คือเวบไซต์ที่ใหญ่ที่สุดของบอร์ดเกม) และ Dice Tower (เวบไซต์รีวิวบอร์ดเกมที่ใหญ่ที่สุด) ที่ออกมาขาย/รับบริจากเงินสมทบเวบไซต์ผ่าน promo pack ของเกมต่างๆ นอกจากจะได้สมทบทุน หรือได้ชิ้นส่วนเกมสุดพิเศษแล้ว บางทีคุณอาจจะได้เจอเซเลบของบอร์ดเกมที่บูทด้วยนะครับ
อันนี้คือ Promo Packs ของเกม Dominions, Dixit และ Sheriff of Nottingham ที่ผมได้มาจาก BoardGameGeek และ Dice Tower เป็นการ์ดพิเศษที่มักหาไม่ได้จากที่อื่นครับ
เอาไว้แค่นี้ก่อน ขอมาต่อส่วนที่เหลือวันหลังนะครับ
สำหรับคนรักบอร์ดเกม เอาประสบการณ์งาน GenCon 2014 มาฝากครับ
Gencon เป็นงานประชุมบอร์ดเกมที่ใหญ่ที่สุดในทวีปอเมริกา (ใหญ่เป็นอันดับสองของโลก) ปีนี้มีคนเข้าร่วมประมาณ 56,000 คน และมีประมาณ 13,000 ลานเกมให้เข้าไปร่วมเล่น และร้านจำหน่ายสินค้าประมาณ 2,500 ร้านเข้าร่วมครับ
ปกติงานจะมีทุกปี ช่วงเดือนสิงหาคม ปีนี้ตรงกับวันที่ 14-17 สิงหาคมที่ผ่านมา สถานที่จัดงานคือ Indianapolis Convention Center แรกเริ่มงานประชุมถูกจัดที่รัฐ Wisconsin ตั้งแต่ปี 1968 แต่เนื่องจากมีคนเข้าร่วมมากขึ้นทุกปี เลยต้องย้ายสถานที่มาที่ Indianapolis ตั้งแต่ปี 2003 ปีนี้ถึอเป็นปีที่ 47 ของ GenCon แล้วครับ
ก่อนจะเข้าร่วมงาน ก็ต้องลงทะเบียนก่อนครับ ค่าลงทะเบียนแบบ 4 วันรวดจะถูกกว่าลงทะเบียนทีละวัน แล้วถ้าลงทะเบียนก่อนล่วงหน้าก็จะได้ส่วนลดด้วยครับ ส่วนใหญ่ราคาจะอยู่ที่ $40-50 ต่อวัน แต่ถ้าลงทะเบียนเหมาจ่ายแบบ 4 วันจะอยู่ที่ประมาณ $70-80 (คือซื้อแบบสี่วัน แต่อยู่แค่สองวันก็เกินคุ้มแล้ว) ราคาเหมือนจะแพงนี้ถือว่าปกติมากสำหรับที่อเมริกา เพราะที่อื่นๆก็ราคาประมาณนี้ครับ
งานจะแบ่งเป็นสามส่วนหลักๆ ก็คือส่วน exhibition hall เป็นงานแสดงสินค้า จัดคล้ายๆงานสัปดาห์หนังสือฯบ้านเรา แต่ขายบอร์ดเกมแทน ส่วนที่สองคือ events ลานเล่นเกมต่างๆ และส่วนที่สามคือกิจกรรมเบ็ดเตล็ด ผมขอไล่ไปที่ละส่วนเลยนะครับ
Exhibition Hall เป็นส่วนที่ถือว่าร้อนแรงที่สุดของงาน เพราะบริษัทต่างๆพร้อมใจกันเอาเกมใหม่ๆมาเปิดตัวที่งาน GenCon เพราะถือเป็นงานที่ใหญ่ที่สุดของปี ปีนี้มีเกมใหม่เปิดตัวประมาณ 150 เกม โดยปกติแล้ว กว่าจะผลิตเกมเกมหนึ่งออกมาให้ได้เล่น ต้องใช้เวลาพัฒนานานมาก เป็นปี หรือหลายๆปี แล้วพอพิมพ์ออกมาแล้วก็ใช่ว่าจะขายดี เพราะฉะนั้นบริษัทส่วนใหญ่ก็จะพิมพ์ออกมาปริมาณน้อยๆ แล้วเอามาเปิดตัวที่ GenCon เพื่อดูประแสตอบรับ โดยปกติคนที่ได้ซื้อก็จะแกะเล่นมันตรงนั้นเลยล่ะครับ หลังจากนั้นประมาณเดินกว่าๆ หรืออาจจะนานถึงครึ่งปีกว่าเกมจะวางขายตามร้านทั่วไป ดังนั้น ใครที่ได้ซื้อเกมเปิดตัวที่ GenCon นี่โคตรยืดเลยครับ เพราะเป็นคนแรกๆของโลกที่ได้ลองเล่น (แต่บางคนก็เอาไปขายต่อใน Ebay)
ห้องแสดงสินค้าเปิดตอน 10 โมงเช้าถึง 6 โมงเย็น ภาพบรรยากาศก่อนเปิดประตู ก็จะเจอคนเป็นหมื่นๆพยายามที่จะเข้าไปเป็นคนแรกๆเพื่อให้ได้ซื้อเกมที่ตัวเองอยากได้
เกมที่ร้อนแรงที่สุดปีนี้ก็หนีไม่พ้น King of New York จากค่าย IELLO (อ่านว่า yellow) ซึ่งเป็นเกมที่สานต่อความสำเร็จของ King of Tokyo ที่ได้รับคะแนนวิจารณ์สูงลิ่วและโด่งดังสุดๆทั้งที่วางขายในปีเดียว เกมนี้ดีไซด์โดย Richard Garfield ซึ่งเป็นคนคิดเกม Magic: The Gathering อันเป็นตำนานนั่นเอง (คล้ายๆเกม Summoner Master บ้านเรา)
King of New York เป็นเกมที่ว่าด้วยเหล่าสัตว์ประหลาดที่แย่งกันครอบครองที่จะเป็นเจ้าแห่งมหานครนิวยอร์ก มีทั้งอาละวาดพังตึก ทำลายเทพีเสรีภาพ แย่งกันเป็น celebrity แต่ก็ต้องระวังหน่วยทหารที่เข้ามาทำร้าย สัตว์ประหลาดจะได้แต้มมากขึ้นถ้าได้ครอบครองเกาะแมนฮัตตัน แต่ในขณะเดียวกันก็จะโดนสัตว์ประหลาดตัวอื่นๆรุมทำร้าย เพราะใครๆก็อยากเป็น celebrity ในแมนฮัตตัน วิธีเล่นเกมนี้ไม่ต้องทำอะไรเลยนอกจากทอยลูกเต๋าอย่างเดียว แต่โคตรสนุกครับ
IELLO มีแค่ 50 กล่องต่อวันครับ แต่คนมาแย่งกันเป็นหมื่นๆ ผมก็อยากได้ครับ แต่ท้อใจ รอวางจำหน่ายเดือนหน้าก็ได้
ถ้าใครเคยชื่นชอบ King of Tokyo มาแล้ว รับรองว่าต้องชอบยิ่งหลงรัก King of New York ผมได้มีโอกาสลองเล่นกับเด็กๆที่นั่น รับประกันความสนุกครับ
ยินดีด้วย คุณคือผู้โชคดีได้ King of New York ไปเล่นก่อนใคร
ขายหมดภายใน 10 นาทีหลังเปิดประตู
ส่วนเกมที่ร้อนแรงอันดับสองน่าจะเป็น Five Tribes (สำนักพิมพ์ Days of Wonder)โดยสุดยอดเกมดีไซเนอร์ในตำนาน Bruno Cathala ที่ปีนี้เปิดตัวถึงสองเกม (อีกเกมคือ Abyss พิมพ์โดย Asmodee) Five Tribes เป็นเกมที่ว่าด้วยการอพยพของชนเผ่าห้ากลุ่มไปในทะเลทราย โดยแต่ละชนเผ่าจะมีความสามารถพิเศษแตกต่างกัน มีซื้อขายสินค้า สร้างปราสาท ปลูกต้นมะพร้าว รวมถึงหายักษ์จินนี่ กลไกของเกมคล้ายๆกับเกม Mancala ที่ต้องเคลื่อนย้ายชนเผ่าในแต่ละแผ่นทะเลทรายไปยังแผ่นรอบข้างเพื่อทำ action และทำคะแนน โดยส่วนตัวผมว่าเกมนี้ผู้เล่นต้องแก้ puzzle ขนาดยักษ์ที่เปลี่ยนไปๆมาๆตลอดเวลา ดูเหมือนจะยากแต่ถ้าลองเล่นจริงๆแล้ว เกมไม่ได้ซับซ้อนอะไรเลย ใช้ความคิดเล็กน้อย ไม่ต้องคิดถึงขั้นถอนผมมาเป็นกำๆ เกมนี้ได้คะแนนรีวิวสูงมากจนอาจจะได้เป็นเกมแห่งปีเลยทีเดียว เกมนี้มีแค่ 80 กล่องต่อวัน ขายหมดเกลี้ยงภายใน 10 นาทีหลังประตูเปิด หมดหวังเช่นกันครับ
Five Tribes กล่องนี้เซ็นโดยคุณพี่ Bruno Cathala ผมแทบอยากจะตีหัวเจ้าของแล้วขโมยกลับบ้าน
ลักษณะการเล่นเหมือน Mancala ที่ต้องเคลื่อนย้าย meeples ไปในทะเลทราย เกมนี้มี meeples เยอะมาก ซึ่งโดนใจครับ เพราะผมชอบ meeples
อีกเกมที่ผมสนใจเป็นพิเศษโดยส่วนตัวและเป็นที่พูดถึงอย่างหนาหูคือ Dead of Winter จากสำนักพิมพ์ Plaid Hat Games ดีไซน์โดย Isaac Vega และ Jon Gilmour อันนี้เป็นเกมซอมบี้ที่จำลองสถานการณ์เหมือนในหนังซอมบี้มาทุกประการ เกมเล่าถึงเหตุการณ์ซอมบี้บุกเข้ามาในเมืองในช่วงฤดูหนาวและหิมะตกจัด ตัวละครหลัก (ซึ่งควบคุมโดยผู้เล่น) ติดอยู่ในห้องลี้ภัย(ขอเรียกว่าโคโลนี) กับคนอื่นๆในเมือง แต่ทุกคนต้องการอาหาร ยา และอาวุธ เพราะฉะนั้นก็ต้องมีการเสี่ยงภัยไปหาของยังที่ต่างๆในเมืองทั้งโรงพยาบาล สถานีตำรวจ ปั๊มน้ำมัน ฯลฯ แต่ระหว่างทางก็อาจจะเจอกับซอมบี้ หรือโดนหิมะกัดบาดเจ็บ (หรือตาย) แม้กระทั้งหาของก็อาจเกิดเสียงดังและทำให้ซอมบี้หาเราเจอได้ เกมนี้เป็นเกม co-op กล่าวคือผู้เล่นทุกคนต้องช่วยกันต่อสู้ให้ผ่านฤดูหนาวและซอมบี้ไปให้ได้ ปกติเกม co-op จะไม่มีผู้เล่นคนในคนหนึ่งชนะ จะแพ้หรือชนะกันทั้งหมดเป็นทีม แต่เกม Dead of Winter ไม่ใช่อย่างนั้นครับ
สาเหตุที่เกมหน้าใหม่เกมนี้ร้อนแรงฉุดไม่อยู่ ก็เพราะผู้เล่นแต่ละคนจะมีจุดประสงค์ลับซ่อนอยู่ คล้ายๆปมในใจของแต่ละตัวละคร ถ้าจะชนะเกมนี้ นอกจากต้องช่วยให้โคโลนีอยู่รอดแล้ว ต้องแอบบรรลุจุดประสงค์ลับของตัวเองด้วย จุดประสงค์ลับมีตั้งแต่ต้องเป็นแม่พระช่วยคนเพิ่ม หรือเห็นแก่ตัวต้องรอดแบบไม่บาดเจ็บเลย ไปจนถึงโรคจิตขังคนแล้วจุดไฟเผาทั้งเป็น หรือไม่ก็ทรยศต่อโคโลนี อยากให้ทุกคนหมดความเชื่อมั่นและแยกย้ายไปตายเอาดาบหน้า เพราะไม่เชื่อว่าโคโลนีนี้จะรอด เกมยังเปิดโอกาสให้เนรเทศคนที่คิดว่าทรยศต่อโคโลนีออกไปได้ด้วย ซึ่งคนเหล่านี้ (ซึ่งก็คือหนึ่งในผู้เล่น) ก็จะไปหลบตามที่ต่างๆ แล้วลอบฆ่าเพื่อนๆกันเองได้ด้วย (เหมือนหนังซอมบี้จิตวิทยาสุดๆ) ส่วนตัวผมอยากได้เกมนี้มากที่สุด แต่ก็เหมือนเดิม มีแค่ 200 กว่ากล่อง (พี่แกเทขายหมดหน้าตักวันพฤหัสฯวันเดียว) หมดภายในพริบตา (เศร้ามาก)
เวลาดูหนังซอมบี้ สิ่งที่คนสนใจไม่ใช่ซอมบี้ แต่สนใจความเป็นมนุษย์ของตัวละคร เกมนี้เราจะสวมบทบาทเป็นตัวละครซึ่งอาจเป็นทั้งคนดี คนเลว ตัวประกอบ ทุกคนอยากรอดตาย แต่ขณะเดียวกันก็จะเผยธาตุแท้ออกมายามคับขันด้วย เป็นเกมที่ต้องมีการสื่อสาร มีการโกหก จับผิด และความเชื่อใจกันระหว่างผู้เล่นสูงมาก
เอาเป็นว่าแค่นี้ก่อนสำหรับเกมร้อนแรงแห่งปีที่ GenCon ยังมีเกมอื่นๆอีกมากมายไม่สามารถกล่าวได้หมด เอาไว้ถ้ามีเวลาจะมาเล่าให้ฟังวันหลังครับ
หมายเหตุ สำนักพิมพ์ที่กล่าวมาคือบริษัทที่พิมพ์เกมในประเทศสหรัฐอเมริกา เกมเดียวกันถ้าพิมพ์ที่ยุโรปหรือประเทศอื่นๆ อาจเป็นคนละสำนักพิมพ์ได้ครับ
ถ้านับเฉพาะส่วนของบริษัทเกมที่มาเปิดตัวเกม และสอนเล่นเกมใหม่ๆ จะมีประมาณ 300 บูท แต่ถ้ารวมส่วนของร้านค้าอื่นๆที่ไม่ใช่ของค่ายเกมที่ซื้อขายอุปกรณ์เสริมของเกมต่าง ไพ่สะสม ชุดคอสเพลย และแกลเลอรีศิลปะ รวมๆแล้วก็จะประมาณ 2,500 บูทครับ เรียกว่าเดินชมกันขาลากเลยทีเดียว ส่วนจิปาถะพวกนี้ผมคงกล่าวไม่หมด ขอยกตัวอย่างที่น่าสนใจบางบูทเช่น CoolStuffInc ที่เอาบอร์ดเกมมาเลหลังขายแบบถูกสุดๆ (บูทนี้บูทเดียว ผมจัดไป 5 เกมครับ) BoardGameGeek (อันนี้คือเวบไซต์ที่ใหญ่ที่สุดของบอร์ดเกม) และ Dice Tower (เวบไซต์รีวิวบอร์ดเกมที่ใหญ่ที่สุด) ที่ออกมาขาย/รับบริจากเงินสมทบเวบไซต์ผ่าน promo pack ของเกมต่างๆ นอกจากจะได้สมทบทุน หรือได้ชิ้นส่วนเกมสุดพิเศษแล้ว บางทีคุณอาจจะได้เจอเซเลบของบอร์ดเกมที่บูทด้วยนะครับ
อันนี้คือ Promo Packs ของเกม Dominions, Dixit และ Sheriff of Nottingham ที่ผมได้มาจาก BoardGameGeek และ Dice Tower เป็นการ์ดพิเศษที่มักหาไม่ได้จากที่อื่นครับ
เอาไว้แค่นี้ก่อน ขอมาต่อส่วนที่เหลือวันหลังนะครับ