สวัสดีคะ...รบกวนขอคำปรึกษา..ขอความเห็นจากสมาชิกด้วยนะคะ
ขอเริ่มเรื่องเลยนะคะ...เนื่องจากปัจจุบันนี้ เราเป็นหนี้บัตรเครดิต...สินเชื่อเงินกู้....บัตรกดเงินสด...ผ่อนรถ...รวมแล้วประมาณ 1.3 ล้านบาท ซึ่งเกิดจากการนำเงินมาหมุนเวียนในธุรกิจ เปิดร้านขายเสื้อผ้าในห้าง + ขายของในเว็บไซส์ โดยทำควบคู่ไปกับงานประจำ
ระยะแรกที่ขาย เราขายตามตลาดนัด หลังเลิกงาน กิจการไปได้ด้วยดี จึงได้มีการขยายกิจการ โดยการลงทุนเปิดเป็นร้านประจำบนห้างฯ ซึ่งต้องใช้เงินลงทุนพอสมควร ก็จึงต้องพึ่งพาเงินจากการกู้เงินธนาคาร
กิจการตอนแรกเริ่มไปด้วยดี แต่เกิดการไล่ที่ขึ้น ทางห้างฯ ขอคืนพื้นที่ (หมดสัญญาเช่า 1 ปีพอดี) ต้องย้ายห้องเช่าใหม่ ตกแต่งใหม่ และทำเลที่ได้ ไม่ดีเหมือนห้องเดิม...กิจการเริ่มแย่ลง ขายไม่ดีเหมือนก่อน จึงทำให้ต้องใช้เงินหมุนเวียนจากบัตรเครดิต/บัตรกดเงินสดต่างๆ เพื่อพยุงธุรกิจ
จนสุดท้าย...ไปไม่รอด ได้หนี้กลับมาแทน ถึง 1.3 ล้านบาท ณ ตอนนี้ เริ่มจ่ายไม่ไหว เพราะเงินเดือน หลังหัก คชจ.ต่างๆ แล้ว เหลือ 37,xxx + ขายของทางเน็ต (ไม่ได้ขายดีเหมือนก่อน แม่ค้าเยอะขึ้น มีการตัดราคากันมากขึ้น ...คนขายมากขึ้น + กำไรน้อยลง) กำไรจากขายของทางเน็ต ไม่เกิน 10,000 บาท/เดือน
จากการศึกษาข้อมูลจากเว็บ ชมรมหนี้บัตรเครดิต เราคิดจะหยุดชำระหนี้ เพื่อเก็บเงินแล้วเคลียร์เป็นรายๆ ไป เลยปรึกษากับทางบ้านว่าจะหยุดชำระหนี้
ซึ่งแม่เราไม่เห็นด้วย และจะช่วยเหลือโดยการเอาบ้านที่มีอยู่ (ปัจจุบันให้ฝรั่งเช่า) เข้าจำนองกับธนาคาร เพื่อที่เราจะได้ชำระหนี้ทางเดียว และจำได้ไม่เสียประวัติ
บ้าน เป็นชื่อ คุณแม่ ซื้อด้วยเงินสด เมื่อ 8 ปีที่แล้ว ราคา 2.3 ล้านบ้าน (อยู่โรจนะ จ.อยุธยา)
เลยอยากปรึกษาดังนี้
1. แนวทางนี้ สมควรทำหรือไม่คะ ถ้าไม่สมควร รบกวนช่วยแนะนำแนวทางด้วยคะ
2. ปัจจุบัน คุณแม่อายุ 60 ปี สามารถทำเรื่องกู้ได้หรือไม่ โดยเราจะกู้ร่วมกับคุณแม่ด้วยคะ
3. โทรไปปรึกษาธนาคารสีส้ม แจ้งว่า คุณแม่ไม่สามารถกู้ได้ เพราะอายุเกิน 60 ปี ธนาคารแนะนำว่า ให้คุณแม่โอนบ้านเป็นชื่อเราก่อน แล้วค่อยยื่นกู้ ถ้ากรณีนี้ ต้องเสียค่าใช้จ่ายในการโอนกรรมสิทธิ์ยังไงบ้างคะ
4. เงินเดือน 37,xxx บาท สามารถทำเรื่องกู้คนเดียวได้ไหมคะ ในวงเงิน 1.3 ล้านบาท
รบกวนทุกท่านชี้แนะด้วยคะ...ขอบคุณคะ
ขอคำปรึกษา..เป็นหนี้ 1.3 ล้าน ต้องการจำนองบ้านเพื่อชำระหนี้ทางเดียว
ขอเริ่มเรื่องเลยนะคะ...เนื่องจากปัจจุบันนี้ เราเป็นหนี้บัตรเครดิต...สินเชื่อเงินกู้....บัตรกดเงินสด...ผ่อนรถ...รวมแล้วประมาณ 1.3 ล้านบาท ซึ่งเกิดจากการนำเงินมาหมุนเวียนในธุรกิจ เปิดร้านขายเสื้อผ้าในห้าง + ขายของในเว็บไซส์ โดยทำควบคู่ไปกับงานประจำ
ระยะแรกที่ขาย เราขายตามตลาดนัด หลังเลิกงาน กิจการไปได้ด้วยดี จึงได้มีการขยายกิจการ โดยการลงทุนเปิดเป็นร้านประจำบนห้างฯ ซึ่งต้องใช้เงินลงทุนพอสมควร ก็จึงต้องพึ่งพาเงินจากการกู้เงินธนาคาร
กิจการตอนแรกเริ่มไปด้วยดี แต่เกิดการไล่ที่ขึ้น ทางห้างฯ ขอคืนพื้นที่ (หมดสัญญาเช่า 1 ปีพอดี) ต้องย้ายห้องเช่าใหม่ ตกแต่งใหม่ และทำเลที่ได้ ไม่ดีเหมือนห้องเดิม...กิจการเริ่มแย่ลง ขายไม่ดีเหมือนก่อน จึงทำให้ต้องใช้เงินหมุนเวียนจากบัตรเครดิต/บัตรกดเงินสดต่างๆ เพื่อพยุงธุรกิจ
จนสุดท้าย...ไปไม่รอด ได้หนี้กลับมาแทน ถึง 1.3 ล้านบาท ณ ตอนนี้ เริ่มจ่ายไม่ไหว เพราะเงินเดือน หลังหัก คชจ.ต่างๆ แล้ว เหลือ 37,xxx + ขายของทางเน็ต (ไม่ได้ขายดีเหมือนก่อน แม่ค้าเยอะขึ้น มีการตัดราคากันมากขึ้น ...คนขายมากขึ้น + กำไรน้อยลง) กำไรจากขายของทางเน็ต ไม่เกิน 10,000 บาท/เดือน
จากการศึกษาข้อมูลจากเว็บ ชมรมหนี้บัตรเครดิต เราคิดจะหยุดชำระหนี้ เพื่อเก็บเงินแล้วเคลียร์เป็นรายๆ ไป เลยปรึกษากับทางบ้านว่าจะหยุดชำระหนี้
ซึ่งแม่เราไม่เห็นด้วย และจะช่วยเหลือโดยการเอาบ้านที่มีอยู่ (ปัจจุบันให้ฝรั่งเช่า) เข้าจำนองกับธนาคาร เพื่อที่เราจะได้ชำระหนี้ทางเดียว และจำได้ไม่เสียประวัติ
บ้าน เป็นชื่อ คุณแม่ ซื้อด้วยเงินสด เมื่อ 8 ปีที่แล้ว ราคา 2.3 ล้านบ้าน (อยู่โรจนะ จ.อยุธยา)
เลยอยากปรึกษาดังนี้
1. แนวทางนี้ สมควรทำหรือไม่คะ ถ้าไม่สมควร รบกวนช่วยแนะนำแนวทางด้วยคะ
2. ปัจจุบัน คุณแม่อายุ 60 ปี สามารถทำเรื่องกู้ได้หรือไม่ โดยเราจะกู้ร่วมกับคุณแม่ด้วยคะ
3. โทรไปปรึกษาธนาคารสีส้ม แจ้งว่า คุณแม่ไม่สามารถกู้ได้ เพราะอายุเกิน 60 ปี ธนาคารแนะนำว่า ให้คุณแม่โอนบ้านเป็นชื่อเราก่อน แล้วค่อยยื่นกู้ ถ้ากรณีนี้ ต้องเสียค่าใช้จ่ายในการโอนกรรมสิทธิ์ยังไงบ้างคะ
4. เงินเดือน 37,xxx บาท สามารถทำเรื่องกู้คนเดียวได้ไหมคะ ในวงเงิน 1.3 ล้านบาท
รบกวนทุกท่านชี้แนะด้วยคะ...ขอบคุณคะ