สวัสดีคะทุกคน นี่ก็เป็นกระทู้ที่ 2 แล้วนะคะที่จะมาแชร์เรื่องราวบางอย่างกับเพือนๆในพันทิป
หลังจากที่เราได้แชร์เรื่องเกี่ยวกับการลงทุนทำธุรกิจเกี่ยวกับการซ่อมเครื่องจักรไป
ความคิดเห็น 100% ที่มีเพื่อนๆเข้ามาพูดคุย ล้วนแต่บอกว่าเสี่ยง และออกแนวคล้ายๆลูกโซ่
ก่อนที่จะเล่าภาคต่อ เราขอพูดเกี่ยวกับลักษณะของธุรกิจนั้นอีกรอบ เผื่อเพื่อนๆที่ยังไม่เคยได้อ่านจะเข้าใจ
รายละเอียดมีดังนี้คะ
พี่ที่ทำงาน สมมติ ชื่อ เอ มาเล่าให้ฟังว่าเขาได้ลงทุนร่วมทำธุรกิจเกี่ยวกับการซ่อมเครื่องจักร
มันจะมี หจก.เปิดใหม่ ซึ่งพี่เอรู้จักกับน้องของเจ้าของบริษัท (ซึ่งทำงานที่เดียวกันกับแฟนพี่เอ) ที่ทำธุรกิจเกี่ยวกับการซ่อมเครื่องจักรกลตามโรงงาน
แต่บริษัทเพิ่งเปิดใหม่ ทุนจดทะเบียนแค่ 50,000 ยังไม่มีเงินลงทุน ซึ่งโดยปกติเจ้าของบริษัทเขาลงทุนทำกับญาติเท่านั้น
ถ้าพี่เอจะทำ มีเรื่องต้องใช้เงิน เขาก็จะแบ่งให้ ซึ่งแกก็ทำ วิธีการก็มีดังนี้คะ
- เพื่อนพี่เอจะติดต่อมา ว่ามีเครื่องจักรราคา.....สมมติ มีเครื่องราคา 35,000 มา 10 ตัว ได้กำไรตัวละ 15,000 สนใจจะร่วมทำกี่ตัว
- จากนั้นก็จอง แล้วโอนเงินให้เขาไป รอครอบกำหนด ก็จะได้คืนมาทั้งต้นทั้งกำไร
- ซึ่งแต่ละรอบที่ลงทุนไป ก็ต้องรอประมาณ 1 เดือนแล้วถึงจะได้มา
- ในการลงทุนแต่ละครั้ง ไม่มีสัญญาใดๆทั้งสิ้น (คล้ายๆกับอาศัยความเชื่อใจ)
หลังจากที่ได้แชร์เรื่องนี้ไป เกือบทุกคนที่เข้ามาแสดงความคิดเห็นจะบอกว่ามันเสี่ยง และคล้ายๆกับแชร์ลูกโซ่
****ลืมบอกไปว่า ความโลภทำให้คนเราตาบอดจริงๆ นี่ลงทุนไปกับเขา 35,000 แล้วจะได้เงินคืน (รึป่าว) วันที่ 21 ก.ย. นี้
จากนั้น เราได้พูดคุยกับพี่ ที่เขาสนิทกับเราที่เขาก็ทำเช่นกัน สมมติชื่อว่า พี่บี ว่า
เรา : พี่ หลังจากที่หนูไปหาข้อมูลมานะ ธุรกิจแบบนี้ เจ้าของบริษัทเขาเอาเงินไปซ่อมเครื่องจักรจริงๆหรือ แน่ใจได้ไงว่าเขาไม่ทำเป็นแชร์ลูกโซ่???
พี่บี : มันไม่ใช่ลูกโซ่ เพราะพี่เอแกสนิทกับน้องเจ้าของบริษัทมาก เคยไปเห็นบ้านเขามาแล้ว โรงงานก็อยู่ที่บ้านเขาเลย
เรา : แต่การซ่อมเครืองจักรตามโรงงาน ส่วนใหญ่ที่เป็นเครื่องจักรเฉพาะทาง เขาจะส่งซ่อมกับบริษัทต้นตอมันนะพี่
พี่บี : มันไม่ใช่เครื่องจักรแบบนั้น แต่เป็นพวกไดนาโม เพลา อะไรทำนองนี้ (ซึ่งตอนแรกที่พี่เอบอกเรา เค้าบอกเป็นเครื่องจักร)
พี่บี : แล้วการทำแบบนี้ เขาก็ทำเฉพาะในญาติๆเขาเท่านั้น เขาก็ไม่อยากให้ใครมาทำด้วยเท่าไหร่หรอก เขากำลังทำเรื่องยื่นกู้แบงค์อยู่ ถ้ายื่นกู้ผ่านเขาก็อาจจะไม่ให้ทำ
**จากการสนทนาดังกล่าว สรุปได้คร่าวๆตามความเห็นส่วนตัวของเราว่า หจก.ก็เปิดมาได้เกือบปี ทำไมเพิ่งจะยื่นกู้แบงค์ (ผู้รู้ช่วยตอบทีนะคะ)
**แล้วที่เพื่อนพี่เอยอมให้ทำด้วย เพราะเขาเห็นว่าพี่เอกับแฟนจะแต่งงาน แต่ไม่มีเงิน เขาเลยชวนทำ แต่นี่ พี่เอบอกว่าได้มา 600,000 แล้ว เขาน่าจะไม่ให้ทำได้แล้ว
**แล้วทำไม พี่เอจึงต้องมาชวนคนอื่นทำด้วย ถ้าทางเพื่อนเขาไม่ต้องการให้คนอื่นทำด้วย (ถ้าคิดในแง่ดี อาจจะอยากให้เพื่อนที่สนิทกันได้เงินเหมือนตนเอง)
**แรกๆเขาลงทุนกันน้อยมาก พอหลังๆมา เริ่มลงกันหนักขึ้น
**ทำไมเครื่องจักรล๊อตใหม่ จะต้องมาก่อนหน้าวันที่จะจ่ายเงินคืนของล๊อตเก่าด้วย (เช่น พรุ่งนี้จะมีการคืนเงินของการลงทุนเดือนที่แล้ว วันนี้จะต้องมีออร์เดอร์เข้ามาให้โอนเงินไปให้แบบเร่งด่วน
ซึ่งคล้ายๆกับว่า จะเอาเงินของวันนี้ที่โอนไปให้ มาจ่ายให้ในวันพรุ่งนี้ สังเกตมาหลายรอบแล้วคะ)
จากการที่เราบอกและเตือนพี่บีไป เขาไม่ฟังคะ พี่แกไปเล่าให้พี่เอฟัง และแถมยังจิกกัดเราตามมาอีก
แต่เราก็เฉยๆนะคะ กลัวไม่ได้เงินคืน นี่จะเป็นการลงทุนครั้งแรกและครั้งสุดท้าย ได้แต่ภาวนาขอให้เราได้คืนเหมือนที่พี่แกได้คืน
*ในการเตือนของเรานั้น เราไม่ได้ว่าพี่เอแกจะมาหลอกเลย เราแค่บอกและเตือนเกี่ยวกะบ หจก.นั้น เขาก็ตีโพยตีพาย หาว่าเราไปพูดว่าเขาจะหลอก
ทำไมต้องเดือดร้อนด้วย ไม่เข้าใจ
**ดูท่าทางความโลภคงไม่สิ้นสุด พี่บีถึงขั้นไปกู้เงินมาทำเลยทีเดียว แล้วตั้งเป้าจะเอาเดือนละแสนเลยละคะ
**พี่เอนั้นไม่ต้องพูดถึง ทำแล้วได้เงิน อวดรวยมากๆคะ นี่เราคุยด้วย คุยข่ม ประมาณว่า คนมีเงินจะทำอะไรก็ได้ ประมาณนี้เลย
**สุดท้าย เรานิ่งๆ เฉยๆ และปล่อยวางไปก่อน กลัวเขาจะโกง ถ้าได้เงินคืนมา สัญญาเลยว่าจะไม่ทำ (เขาคงจะให้ทำหรอก ไปพูดซะขนาดนั้น)
สิ่งที่เราสงสัย ทำไมพี่บีเขาเปลี่ยนไป ทั้งๆที่เราก็คิดว่าที่พูดไป ก็แค่จะเตือนสติพี่บีเฉยๆ แถมยังเอาไปเล่าสู่พักพวกเขาฟังอีก
**เขาอาจจะทำธุรกิจจริงๆก็ได้มั่ง มันอาจจะดีจริงๆ แต่เราไม่เอาแล้ว ไม่อยากเสี่ยง ไม่อยากให้ความโลภมาบังตา จนทำให้กลายร่างเป็นอีกคน
****---****
เตือนด้วยความเป็นห่วง แต่กลับโดนด่า ความโลภทำให้คนตาบอดจริงๆ ....
หลังจากที่เราได้แชร์เรื่องเกี่ยวกับการลงทุนทำธุรกิจเกี่ยวกับการซ่อมเครื่องจักรไป
ความคิดเห็น 100% ที่มีเพื่อนๆเข้ามาพูดคุย ล้วนแต่บอกว่าเสี่ยง และออกแนวคล้ายๆลูกโซ่
ก่อนที่จะเล่าภาคต่อ เราขอพูดเกี่ยวกับลักษณะของธุรกิจนั้นอีกรอบ เผื่อเพื่อนๆที่ยังไม่เคยได้อ่านจะเข้าใจ
รายละเอียดมีดังนี้คะ
พี่ที่ทำงาน สมมติ ชื่อ เอ มาเล่าให้ฟังว่าเขาได้ลงทุนร่วมทำธุรกิจเกี่ยวกับการซ่อมเครื่องจักร
มันจะมี หจก.เปิดใหม่ ซึ่งพี่เอรู้จักกับน้องของเจ้าของบริษัท (ซึ่งทำงานที่เดียวกันกับแฟนพี่เอ) ที่ทำธุรกิจเกี่ยวกับการซ่อมเครื่องจักรกลตามโรงงาน
แต่บริษัทเพิ่งเปิดใหม่ ทุนจดทะเบียนแค่ 50,000 ยังไม่มีเงินลงทุน ซึ่งโดยปกติเจ้าของบริษัทเขาลงทุนทำกับญาติเท่านั้น
ถ้าพี่เอจะทำ มีเรื่องต้องใช้เงิน เขาก็จะแบ่งให้ ซึ่งแกก็ทำ วิธีการก็มีดังนี้คะ
- เพื่อนพี่เอจะติดต่อมา ว่ามีเครื่องจักรราคา.....สมมติ มีเครื่องราคา 35,000 มา 10 ตัว ได้กำไรตัวละ 15,000 สนใจจะร่วมทำกี่ตัว
- จากนั้นก็จอง แล้วโอนเงินให้เขาไป รอครอบกำหนด ก็จะได้คืนมาทั้งต้นทั้งกำไร
- ซึ่งแต่ละรอบที่ลงทุนไป ก็ต้องรอประมาณ 1 เดือนแล้วถึงจะได้มา
- ในการลงทุนแต่ละครั้ง ไม่มีสัญญาใดๆทั้งสิ้น (คล้ายๆกับอาศัยความเชื่อใจ)
หลังจากที่ได้แชร์เรื่องนี้ไป เกือบทุกคนที่เข้ามาแสดงความคิดเห็นจะบอกว่ามันเสี่ยง และคล้ายๆกับแชร์ลูกโซ่
****ลืมบอกไปว่า ความโลภทำให้คนเราตาบอดจริงๆ นี่ลงทุนไปกับเขา 35,000 แล้วจะได้เงินคืน (รึป่าว) วันที่ 21 ก.ย. นี้
จากนั้น เราได้พูดคุยกับพี่ ที่เขาสนิทกับเราที่เขาก็ทำเช่นกัน สมมติชื่อว่า พี่บี ว่า
เรา : พี่ หลังจากที่หนูไปหาข้อมูลมานะ ธุรกิจแบบนี้ เจ้าของบริษัทเขาเอาเงินไปซ่อมเครื่องจักรจริงๆหรือ แน่ใจได้ไงว่าเขาไม่ทำเป็นแชร์ลูกโซ่???
พี่บี : มันไม่ใช่ลูกโซ่ เพราะพี่เอแกสนิทกับน้องเจ้าของบริษัทมาก เคยไปเห็นบ้านเขามาแล้ว โรงงานก็อยู่ที่บ้านเขาเลย
เรา : แต่การซ่อมเครืองจักรตามโรงงาน ส่วนใหญ่ที่เป็นเครื่องจักรเฉพาะทาง เขาจะส่งซ่อมกับบริษัทต้นตอมันนะพี่
พี่บี : มันไม่ใช่เครื่องจักรแบบนั้น แต่เป็นพวกไดนาโม เพลา อะไรทำนองนี้ (ซึ่งตอนแรกที่พี่เอบอกเรา เค้าบอกเป็นเครื่องจักร)
พี่บี : แล้วการทำแบบนี้ เขาก็ทำเฉพาะในญาติๆเขาเท่านั้น เขาก็ไม่อยากให้ใครมาทำด้วยเท่าไหร่หรอก เขากำลังทำเรื่องยื่นกู้แบงค์อยู่ ถ้ายื่นกู้ผ่านเขาก็อาจจะไม่ให้ทำ
**จากการสนทนาดังกล่าว สรุปได้คร่าวๆตามความเห็นส่วนตัวของเราว่า หจก.ก็เปิดมาได้เกือบปี ทำไมเพิ่งจะยื่นกู้แบงค์ (ผู้รู้ช่วยตอบทีนะคะ)
**แล้วที่เพื่อนพี่เอยอมให้ทำด้วย เพราะเขาเห็นว่าพี่เอกับแฟนจะแต่งงาน แต่ไม่มีเงิน เขาเลยชวนทำ แต่นี่ พี่เอบอกว่าได้มา 600,000 แล้ว เขาน่าจะไม่ให้ทำได้แล้ว
**แล้วทำไม พี่เอจึงต้องมาชวนคนอื่นทำด้วย ถ้าทางเพื่อนเขาไม่ต้องการให้คนอื่นทำด้วย (ถ้าคิดในแง่ดี อาจจะอยากให้เพื่อนที่สนิทกันได้เงินเหมือนตนเอง)
**แรกๆเขาลงทุนกันน้อยมาก พอหลังๆมา เริ่มลงกันหนักขึ้น
**ทำไมเครื่องจักรล๊อตใหม่ จะต้องมาก่อนหน้าวันที่จะจ่ายเงินคืนของล๊อตเก่าด้วย (เช่น พรุ่งนี้จะมีการคืนเงินของการลงทุนเดือนที่แล้ว วันนี้จะต้องมีออร์เดอร์เข้ามาให้โอนเงินไปให้แบบเร่งด่วน
ซึ่งคล้ายๆกับว่า จะเอาเงินของวันนี้ที่โอนไปให้ มาจ่ายให้ในวันพรุ่งนี้ สังเกตมาหลายรอบแล้วคะ)
จากการที่เราบอกและเตือนพี่บีไป เขาไม่ฟังคะ พี่แกไปเล่าให้พี่เอฟัง และแถมยังจิกกัดเราตามมาอีก
แต่เราก็เฉยๆนะคะ กลัวไม่ได้เงินคืน นี่จะเป็นการลงทุนครั้งแรกและครั้งสุดท้าย ได้แต่ภาวนาขอให้เราได้คืนเหมือนที่พี่แกได้คืน
*ในการเตือนของเรานั้น เราไม่ได้ว่าพี่เอแกจะมาหลอกเลย เราแค่บอกและเตือนเกี่ยวกะบ หจก.นั้น เขาก็ตีโพยตีพาย หาว่าเราไปพูดว่าเขาจะหลอก
ทำไมต้องเดือดร้อนด้วย ไม่เข้าใจ
**ดูท่าทางความโลภคงไม่สิ้นสุด พี่บีถึงขั้นไปกู้เงินมาทำเลยทีเดียว แล้วตั้งเป้าจะเอาเดือนละแสนเลยละคะ
**พี่เอนั้นไม่ต้องพูดถึง ทำแล้วได้เงิน อวดรวยมากๆคะ นี่เราคุยด้วย คุยข่ม ประมาณว่า คนมีเงินจะทำอะไรก็ได้ ประมาณนี้เลย
**สุดท้าย เรานิ่งๆ เฉยๆ และปล่อยวางไปก่อน กลัวเขาจะโกง ถ้าได้เงินคืนมา สัญญาเลยว่าจะไม่ทำ (เขาคงจะให้ทำหรอก ไปพูดซะขนาดนั้น)
สิ่งที่เราสงสัย ทำไมพี่บีเขาเปลี่ยนไป ทั้งๆที่เราก็คิดว่าที่พูดไป ก็แค่จะเตือนสติพี่บีเฉยๆ แถมยังเอาไปเล่าสู่พักพวกเขาฟังอีก
**เขาอาจจะทำธุรกิจจริงๆก็ได้มั่ง มันอาจจะดีจริงๆ แต่เราไม่เอาแล้ว ไม่อยากเสี่ยง ไม่อยากให้ความโลภมาบังตา จนทำให้กลายร่างเป็นอีกคน
****---****