ประสบการณ์นั่งเรือหางยาวใน"คลองแสนแสบ"

เหตุการณ์นี้นานแล้วล่ะครับ น่าจะเกือบ 20 ปีได้ ตอนนั้นไปบ้านเพื่อนแถวบางกะปิ จำได้ว่า กลับประมาณ 3 ทุ่มมั้ง ทีนี้กะจะไปลงเรือแถวท่าเรือวัดศรีบุญเรือง ปรากฏเรือรอบปกติหมดแล้ว (ลืมนึกไป เพราะปกติจะนั่งแต่เรือรอบเช้าจนถึงเย็นๆหน่อย) ทีนี้แถวท่าเรือก็เจอพี่คนนึงอยู่ในเรือหางยาวบอกว่าเรือหมดแล้ว ไปเรือเขาไหม (เรื่องราคาจำไม่ได้แล้ว) ด้วยความสนุกในอารมณ์ นึกครึ้มอกครึ้มใจ อยากลองนั่งเรือแบบนี้ในคลองแสนแสบดูสักตั้ง เลยเซย์เยสไป

ก่อนลงเรือหางยาวก็เห็นความมืดของท่าเรือแล้วล่ะ เงียบและมืดจริงๆ ไฟเฟยไม่มีเลย เจอแต่ดวงไฟเล็กๆตามบ้านโผล่มาหลอมแหลม แถมมองเป็นทางยาวตลอดคลองแสนแสบ ก็มีแต่ความมืดเท่านั้น (ใจก็ไม่คิดอะไรในตอนนั้นนะ) ตอนก้าวลงไปนั่ง เรือมีโคลงเคลงตามแรงคลื่นเบาๆ แต่ผมกลับรู้สึกว่าเรือมันลำเล็กขึ้นมาทันที เลยแอบหวั่นนิดนึง แต่ก็ยังไม่อะไร วินาทีที่เรือเริ่มออกจากท่า แล้วแล่น สักพักเริ่มสปีด คราวนี้แหละที่ความจริงปรากฏกาย (อยากจะร้องเพลง"เมื่อรู้สึกตัว ก็สายเสียแล้ว..."จริงๆ) เรือหางยาวขับเร็วมากครับ อัดเต็มอัตราศึก (ขับไม่บันยะบันยังจริงๆ... พับผ่า) คือกระดาษเอกสารที่ทีแรกวางอยู่บนตักผม ต้องรีบม้วนเก็บ แล้วสอดลงทางกระดุมปกคอไปกองหน้าท้องให้เสื้อคลุมไว้ ไม่งั้นปลิวแน่

ท่ามกลางความมืด พี่คนขับก็เปิดดวงไฟ ส่องสปอตไลท์นำทางไปข้างหน้า (เหมือนจะอุ่นใจนะ) แต่สักพักเรือก็เริ่มมีเอี้ยวซ้ายเอี้ยวขวา เหมือนงูเลื้อยอย่างนั้น (ไอผมก็แอบงงและคิดในใจว่าขับตรงๆไม่ได้เหรอ ขับก็เร็วแถมโชว์ลีลาอีก) มือสองมือผมจับเรือไว้แน่น ตัวโยกไปโยกมาตามแรงเอียงของเรือ บางช่วงเทจนผมมีเสียว แล้วอยู่ดีๆท้องเรือก็กระแทกเสียงดังปั้งท่ามกลางความมืดและความเร็ว สะเทือนทั้งลำ ตอนนั้นผมตกใจจริงๆ (แถมหวั่นเรือรั่วหรือแตกด้วย) เลยรีบหันไปถามพี่คนขับว่า "เฮ้ยพี่ อะไรอะ" พี่เขาตอบแบบชิลๆว่า “อ๋อ ตอไม้น่ะ บางช่วงมันก็มี นี่พี่หลบมาได้ตลอด แต่เมื่อกี้พลาดไปหน่อย จำผิดตอ” (ผมเลยถึงบางอ้อว่าทำไมพี่แกต้อง"ดริฟไปดริฟมา" อันนี้ซูฮกเลย มืดๆมองไม่เห็นแบบนี้ แต่ความจำแกเป็นเลิศ เพราะหลบได้หลายตอทีเดียว)

ผ่านช่วงดริฟไป มาเจอขวากหนามอันต่อไป นั่นคือ คลื่น เพราะมีเรือหางยาวสวนมาคนละฟากด้วยความเร็ว คลื่นเลยฟาดงวงฟาดงากันไปมา แถมกระแทกตลิ่งอีก เลยเหมือนคลื่นถาโถมมาจากทุกทิศทาง (ระทึกใจได้โล่) และด้วยความแรงและเร็วของเรือผม ทำให้หน้าเรือเชิดขึ้นสูงทุกครั้งเวลาปะทะคลื่น (ยิ่งคลื่นใหญ่ยิ่งหน้าเชิด) แล้วเรือก็กระแทกลงแผ่นน้ำดังปั้ง แล้วก็เชิดใหม่ แล้วก็กระแทกซ้ำอีก ระลอกแล้วระลอกเล่า ร่างกายต้องเตรียมพร้อมรับมือทุกครั้งที่เห็นเรือหางยาวสวนมา ทุกวินาทีต้องมีสติ (ผมล่ะกลัวเรือคว่ำจริงๆ) ที่สำคัญเหนือสิ่งอื่นใด น้ำสีดำๆที่กระเซ็นสายเป็นช่วงๆ พอมาระยะเผาขนแบบเลอะไปทั้งตัว เรียกว่าสุดจะพรรณนาโวหาร คือผมเคยเห็นสุนัขลอยอืดอยู่ในคลองแสนแสบนะ และคิดว่าใครได้ตกลงไป คงซึ้งในรสพระธรรมแน่ แต่ตอนนี้ผมพอจะเข้าใจไม่มากก็น้อยแล้ว (ช่วงนั่งเรือรอบปกติ ยังไม่ซึ้งเท่าไหร่ เพราะดึงม่านบังช่วยได้บ้าง)

จนเรือมาส่งผมที่ท่าเรือประตูน้ำ จอดเทียบชานชะลา ผมลุกจากเรือ เหยียบท่าขึ้นมาแบบกระเซอะกระเซิง ตอนจ่ายเงินไป ยังงงๆกับชีวิตตัวเองว่าเพิ่งทำอะไรลงไป ตอนนั้นมีหนังดังเรื่องนึงที่เพิ่งเข้าฉายเมืองไทยไม่นาน ฉากในหนังลอยเข้ามาให้หัวผมแบบห้ามไม่ได้จริงๆ นั่นก็คือหนังของคีอานู รีฟ สปีดเร็วกว่านรก

ถือว่าเป็นประสบการณ์"คลองแสนแสบ"ครั้งนึงในชีวิตที่ลืมไม่ลง ยังจำได้ทุกโมเมนต์ครับ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่