เมื่อวันศุกร์ที่ 22 สิงหาคมที่ผ่านมา ทีมงาน Specphone ได้รับเกียรติจากทาง Vivo ประเทศไทย ให้ไปร่วมงานเปิดตัวในเมืองไทยอย่างเป็นทางการภายใต้ธีม Vivolution ปฏิวัติเพื่อพลังสร้างสรรค์อย่างไม่หยุดนิ่ง ชูจุดเด่นสมาร์ทโฟนสำหรับคนรุ่นใหม่ซึ่งเป็นผู้นำเทรนด์ โดดเด่นด้วยรูปลักษณ์โฉบเฉี่ยว เพรียวบาง เหนือชั้นกว่าด้วยระบบเสียง Hi-Fi acoustic fidelity เพื่อประสบการณ์สื่อสารที่สมบูรณ์แบบ ประเดิมตลาดไทยอย่างจริงจังด้วย Vivo Xshot ที่อัดแน่นด้วยสุดยอดฟังก์ชั่นการถ่ายภาพระดับกล้องมือโปร พร้อมตามด้วยตัวท็อปสุดๆ อย่าง Vivo Xplay 3S ในเร็วๆ นี้
อันที่จริงในงานเปิดตัวของ Vivo นั้นก็ได้ขนมือถือ Vivo ที่มีทั้งหมดมาให้ได้ลองจับเล่นกันบ้างแล้ว แต่ส่วนตัวผมก็ยังประทับใจ Vivo Xshot ที่สุดอยู่ดีครับ ด้วยปัจจัยหลายๆ อย่าง แต่ที่แน่ๆ เลยคือขนาดหน้าจอกำลังพอดีมือนี่แหละครับ เพราะ Vivo Xplay 3S ที่เป็นตัวท็อปหน้าจอ 2K มีขนาดหน้าจอใหญ่จนเกินไปครับ (ความรู้สึกส่วนตัวล้วนๆ 555)
โดย Vivo Xshot เป็นสมาร์ทโฟนหน้าจอ Full HD ขนาด 5.2 นิ้ว โดดเด่นด้วยฟังก์ชั่นกล้องถ่ายภาพที่เหนือชั้นระดับมืออาชีพ ด้วยกล้องหลังความละเอียด 13 ล้านพิกเซล เซ็นเซอร์ CMOS IMX214 จากโซนี่ พร้อมเลนส์ถึง 6 ชิ้น รูรับแสงขนาด f/1.8 สามารถเก็บรายละเอียดได้คมชัดแม้ในที่แสงน้อย คู่กับ Dual LED Flash และระบบป้องกันภาพสั่นไหว OIS พร้อมโหมดการถ่ายภาพหลากหลายให้เลือก นอกจากนั้นยังสมารถบันทึกวิดีโอได้ละเอียดสูงถึง 4K ความละเอียดของกล้องหน้าสูงถึง 8 ล้านพิกเซล พร้อม LED Flash และโหมด Face Beauty ให้คุณถ่ายภาพเซลฟีได้ดูดีทุกช๊อต นอกจากนี้ Vivo Xshot ยังอัดแน่นด้วยคุณสมบัติการใช้งานที่ล้ำสมัยที่สุด ไม่ว่าจะเป็นระบบปฏิบัติการ Funtouch OS ซึ่งพัฒนาบน Android 4.3 ระบบประมวลผล Snapdragon 801 quad-core 2.26 GHz, RAM ขนาด 2GB และ ROM ขนาด 16GB พร้อมรองรับเทคโนโลยี 4G และระบบเสียงที่คมชัดระดับ Extreme Hi-Fi ด้วยชิป CIRRUS LOGIC CS4398 จากประเทศสหรัฐอเมริกา
สเปค Vivo Xshot
- ชิปประมวลผล Qualcomm Snapdragon 801 Quad-core ความเร็วสูงสุด 2.5 GHz
- แรม 2 GB
- หน้าจอขนาด 5 นิ้ว ความละเอียด 1280 x 720
- รอม 16 GB ไม่รองรับ MicroSD
- Android 4.3 ครอบทับมาด้วย Funtouch OS
- กล้องหลังความละเอียด 13 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/1.8 พร้อมแฟลชคู่
- กล้องหน้า 8 ล้านพิกเซล มีแฟลช
- รองรับ 3G ทุกความถี่ และรองรับ 4G LTE
- แบตเตอรี่ 2000 mAh
- รองรับ USB-OTG
- มีชิป DAC CS4398 ประมวลผลด้านเสียงโดยเฉพาะ
- ราคา 16,990 บาท
สำหรับ Vivo Xshot สัมผัสแรกที่ทำให้ผมประทับใจมากคือวัสดุครับ วัสดุของ Vivo Xshot จะผสมกันระหว่างโลหะและพลาสติก ซึ่งเป็นการผสมกันได้อย่างลงตัวมากๆ โดยตัวเครื่อง Vivo Xshot จะดูหรูหราด้วยโลหะ แต่ในขณะเดียวกันน้ำหนักก็ไม่ได้หนักมาก เพราะวัสดุบางชิ้นทำจากพลาสติกนั่นเอง ส่วนงานประกอบก็ไม่ต้องพูดถึงครับ Vivo Xshot เป็นมือถือที่จับเครื่องแล้วรู้สึกดี งานประกอบเนี๊ยบมาก (อันที่จริง งานประกอบของ Vivo นี่โดดเด่นมาตั้งแต่คราว Vivo X3S แล้ว) ตัวเครื่องมีขนาดบางมาก แต่ก็ยังจับเครื่องใช้งานได้ถนัดด้วยมือเพียงข้างเดียว Vivo Xshot เป็นมือถือที่คล่องตัวมากครับ
ด้านหน้าของ Vivo Xshot ประกอบไปด้วยหน้าจอ 5.2 นิ้ว ความละเอียด Full HD เป็นหน้าจอที่สวยอีกรุ่นนึงเลยหล่ะ ภาพคมชัด สีสันสดใส (พูดกันตรงๆ ผมเทียบจอ Vivo Xshot กับหน้าจอ 2K ของ Vivo Xplay 3S ไม่ออกเลยครับในระยะใช้งานปกติ) ด้านบนของหน้าจอจะเป็นกล้องหน้าความละเอียด 5 ล้านพิกเซลพร้อมแฟลช, ลำโพงสำหรับสนทนา และเซนเซอร์วัดแสงสว่าง ส่วนด้านล่างหน้าจอจะเป็นปุ่มกด 3 ปุ่ม ได้แก่ปุ่มเมนู, ปุ่มโฮม และปุ่มย้อนกลับ
ด้านข้างของ Vivo Xshot เริ่มจากทางด้านซ้ายเป็นช่องใส่ซิมการ์ด โดยเจ้า Vivo Xshot รองรับการเชื่อมต่อ 4G LTE ด้วยนะครับ ด้านขวาเป็นปุ่มปรับระดับเสียง, ปุ่ม Power และปุ่มชัตเตอร์ ด้านล่างเป็นช่องเสียบสาย USB กับไมค์สำหรับสนทนา ส่วนด้านบนจะเป็นช่องเสียบสายหูฟังมาตรฐาน 3.5 มิลลิเมตร ความเจ๋งของ Vivo Xshot คือจะใช้ชิปประมวลผลเสียงแยก ซึ่งจะแสดงประสิทธิภาพสูงสุดก็ตอนที่เราเสียบหูฟังนี่แหละครับ สมกับสโลแกน Hifi & Smart
ด้านหลังของ Vivo Xshot จะใช้ฝาหลังเป็นพลาสติก ประกอบไปด้วยกล้องหลังความละเอียด 13 ล้านพิกเซล เซนเซอร์จาก Sony พร้อมแฟลชคู่, โลโก้ Vivo และลำโพงหลักของตัวเครื่อง ทีให้เสียงดังพอสมควรเลย (แต่ถ้าจะเอาเสียงเทพต้องเสียบหูฟังแล้วเปิดโหมด Hifi ครับ) แต่ในส่วนของกล้องนั้น Vivo Xshot เป็นมือถืออีกหนึ่งรุ่นที่จัดเต็มในส่วนนี้มากๆ และเท่าที่ลองถ่ายรูปด้วยกล้องหลังของ Vivo Xshot ต้องบอกว่า “ไม่ธรรมดาจริงๆ”
ความสมาร์ทของ Vivo Xshot รวมถึงสิ่งที่ Vivo เน้นย้ำมาตลอดทั้งงานไม่ใช่เรื่องของสเปคสุดโหด (ทั้งๆ ที่สเปคของ Vivo Xshot มันก็เรือธงดีๆ นี่เอง) แต่จะเป็นเรื่องความสมาร์ทสมกับชื่อสมาร์ทโฟนที่มาจากตัวระบบปฏิบัติการ Funtouch OS ที่มีพื้นฐานมาจาก Android 4.3 มากกว่า พูดถึงความลื่นไหลไม่ต้องห่วงครับด้วยสเปคแรงระดับนี้ ใช้งานได้สบายๆ แต่ที่บอกว่ามันสมาร์ทคือเรื่องของฟีเจอร์ ที่อัดเเน่นจริงๆ เรียกว่าใช้กันไม่หมดแน่นอน อาทิ Smart Wake (การเปิดเครื่องแบบสมาร์ทด้วยการวาดหน้าจอเป็นตัวอักษร), Air Wake (การเปิดตัวด้วยการวาดตัวเครื่องในอากาศ) เป็นต้น ส่วนราคาของ Vivo Xshot หากมองในมุมของมือถือน้องใหม่ก็อาจจะดูราคาแรงไปหน่อย แต่ถ้าตัดประเด็นเรื่องแบรนด์ทิ้งไป ผมคิดว่าราคา 16,990 บาทของ Vivo Xshot เนี่ยเป็นอะไรที่ค่อนข้างคุ้มค่าทีเดียว ไล่มาตั้งแต่สเปคระดับมือถือเรือธง Snapdragon 801 ความเร็ว 2.5 GHz, Ram 2 GB, กล้องหลังเลนส์ Sony, ชิปเสียงแยกเฉพาะ และงานประกอบกับวัสดุระดับดีมาก เชื่อว่าราคา 16,990 บาทของ Vivo Xshot ผมมองว่ามันไม่ได้แพงจนเกินไปครับ เมื่อเทียบกับเรือธงรุ่นอื่นๆ
สุดท้ายนี้ผมเชื่อว่าหลายท่านคงมีคำถามว่า Vivo เอาจริงหรือไม่ กับการเข้ามาขายมือถือตัวเองในประเทศไทยอย่างเป็นทางการ ผมก็ขอยกข้อความในงานเปิดตัวของ Vivo มาให้เพื่อนๆ ได้ตัดสินใจกันครับ “สำหรับการเปิดตัวในเมืองไทย vivo ได้ลงทุนด้านการจัดกิจกรรมส่งเสริมการตลาดอย่างเต็มรูปแบบ ทั้งโฆษณาในสื่อหลักต่าง ๆ รวมทั้งสื่อออนไลน์ ตลอดจนกิจกรรมประชาสัมพันธ์ในพื้นที่ต่าง ๆ ทั่วประเทศ โดยเน้นพื้นที่ในกรุงเทพมหานครและหัวเมืองหลัก อาทิ จังหวัดเชียงใหม่ ขอนแก่น นครราชสีมา สงขลา เป็นต้น โดยบริษัทมุ่งที่จะเจาะตลาดคนรุ่นใหม่ กลุ่มที่เป็นนักศึกษามหาวิทยาลัยและวัยเริ่มทำงาน ที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว ชื่นชอบในแฟชั่น ไม่ตามใครและชอบเป็นผู้นำเทรนด์ ทั้งนี้บริษัทฯ ตั้งเป้าที่จะครองส่วนแบ่งทางการตลาด 5% ภายในระยะเวลา 3 ปี และเราคาดหวังว่าจะสามารถก้าวขึ้นเป็นแบรนด์สมาร์ทโฟนที่ติดอันดับ 1 ใน 3 ของประเทศไทย โดยเรามั่นใจว่าการเข้ามาของ vivo จะเป็นทางเลือกใหม่ให้กับผู้บริโภค พร้อมช่วยสร้างมิติใหม่ให้กับวงการสมาร์ทโฟนของไทย”
ที่มา
Specphone
Hands-on พรีวิว Vivo Xshot สมาร์ทโฟนที่จะสมาร์ทกว่าทุกๆ เครื่อง สเปคเรือธง Snapdragon 801 ราคา 16,990 บาท
เมื่อวันศุกร์ที่ 22 สิงหาคมที่ผ่านมา ทีมงาน Specphone ได้รับเกียรติจากทาง Vivo ประเทศไทย ให้ไปร่วมงานเปิดตัวในเมืองไทยอย่างเป็นทางการภายใต้ธีม Vivolution ปฏิวัติเพื่อพลังสร้างสรรค์อย่างไม่หยุดนิ่ง ชูจุดเด่นสมาร์ทโฟนสำหรับคนรุ่นใหม่ซึ่งเป็นผู้นำเทรนด์ โดดเด่นด้วยรูปลักษณ์โฉบเฉี่ยว เพรียวบาง เหนือชั้นกว่าด้วยระบบเสียง Hi-Fi acoustic fidelity เพื่อประสบการณ์สื่อสารที่สมบูรณ์แบบ ประเดิมตลาดไทยอย่างจริงจังด้วย Vivo Xshot ที่อัดแน่นด้วยสุดยอดฟังก์ชั่นการถ่ายภาพระดับกล้องมือโปร พร้อมตามด้วยตัวท็อปสุดๆ อย่าง Vivo Xplay 3S ในเร็วๆ นี้
อันที่จริงในงานเปิดตัวของ Vivo นั้นก็ได้ขนมือถือ Vivo ที่มีทั้งหมดมาให้ได้ลองจับเล่นกันบ้างแล้ว แต่ส่วนตัวผมก็ยังประทับใจ Vivo Xshot ที่สุดอยู่ดีครับ ด้วยปัจจัยหลายๆ อย่าง แต่ที่แน่ๆ เลยคือขนาดหน้าจอกำลังพอดีมือนี่แหละครับ เพราะ Vivo Xplay 3S ที่เป็นตัวท็อปหน้าจอ 2K มีขนาดหน้าจอใหญ่จนเกินไปครับ (ความรู้สึกส่วนตัวล้วนๆ 555)
โดย Vivo Xshot เป็นสมาร์ทโฟนหน้าจอ Full HD ขนาด 5.2 นิ้ว โดดเด่นด้วยฟังก์ชั่นกล้องถ่ายภาพที่เหนือชั้นระดับมืออาชีพ ด้วยกล้องหลังความละเอียด 13 ล้านพิกเซล เซ็นเซอร์ CMOS IMX214 จากโซนี่ พร้อมเลนส์ถึง 6 ชิ้น รูรับแสงขนาด f/1.8 สามารถเก็บรายละเอียดได้คมชัดแม้ในที่แสงน้อย คู่กับ Dual LED Flash และระบบป้องกันภาพสั่นไหว OIS พร้อมโหมดการถ่ายภาพหลากหลายให้เลือก นอกจากนั้นยังสมารถบันทึกวิดีโอได้ละเอียดสูงถึง 4K ความละเอียดของกล้องหน้าสูงถึง 8 ล้านพิกเซล พร้อม LED Flash และโหมด Face Beauty ให้คุณถ่ายภาพเซลฟีได้ดูดีทุกช๊อต นอกจากนี้ Vivo Xshot ยังอัดแน่นด้วยคุณสมบัติการใช้งานที่ล้ำสมัยที่สุด ไม่ว่าจะเป็นระบบปฏิบัติการ Funtouch OS ซึ่งพัฒนาบน Android 4.3 ระบบประมวลผล Snapdragon 801 quad-core 2.26 GHz, RAM ขนาด 2GB และ ROM ขนาด 16GB พร้อมรองรับเทคโนโลยี 4G และระบบเสียงที่คมชัดระดับ Extreme Hi-Fi ด้วยชิป CIRRUS LOGIC CS4398 จากประเทศสหรัฐอเมริกา
สเปค Vivo Xshot
- ชิปประมวลผล Qualcomm Snapdragon 801 Quad-core ความเร็วสูงสุด 2.5 GHz
- แรม 2 GB
- หน้าจอขนาด 5 นิ้ว ความละเอียด 1280 x 720
- รอม 16 GB ไม่รองรับ MicroSD
- Android 4.3 ครอบทับมาด้วย Funtouch OS
- กล้องหลังความละเอียด 13 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/1.8 พร้อมแฟลชคู่
- กล้องหน้า 8 ล้านพิกเซล มีแฟลช
- รองรับ 3G ทุกความถี่ และรองรับ 4G LTE
- แบตเตอรี่ 2000 mAh
- รองรับ USB-OTG
- มีชิป DAC CS4398 ประมวลผลด้านเสียงโดยเฉพาะ
- ราคา 16,990 บาท
สำหรับ Vivo Xshot สัมผัสแรกที่ทำให้ผมประทับใจมากคือวัสดุครับ วัสดุของ Vivo Xshot จะผสมกันระหว่างโลหะและพลาสติก ซึ่งเป็นการผสมกันได้อย่างลงตัวมากๆ โดยตัวเครื่อง Vivo Xshot จะดูหรูหราด้วยโลหะ แต่ในขณะเดียวกันน้ำหนักก็ไม่ได้หนักมาก เพราะวัสดุบางชิ้นทำจากพลาสติกนั่นเอง ส่วนงานประกอบก็ไม่ต้องพูดถึงครับ Vivo Xshot เป็นมือถือที่จับเครื่องแล้วรู้สึกดี งานประกอบเนี๊ยบมาก (อันที่จริง งานประกอบของ Vivo นี่โดดเด่นมาตั้งแต่คราว Vivo X3S แล้ว) ตัวเครื่องมีขนาดบางมาก แต่ก็ยังจับเครื่องใช้งานได้ถนัดด้วยมือเพียงข้างเดียว Vivo Xshot เป็นมือถือที่คล่องตัวมากครับ
ด้านหน้าของ Vivo Xshot ประกอบไปด้วยหน้าจอ 5.2 นิ้ว ความละเอียด Full HD เป็นหน้าจอที่สวยอีกรุ่นนึงเลยหล่ะ ภาพคมชัด สีสันสดใส (พูดกันตรงๆ ผมเทียบจอ Vivo Xshot กับหน้าจอ 2K ของ Vivo Xplay 3S ไม่ออกเลยครับในระยะใช้งานปกติ) ด้านบนของหน้าจอจะเป็นกล้องหน้าความละเอียด 5 ล้านพิกเซลพร้อมแฟลช, ลำโพงสำหรับสนทนา และเซนเซอร์วัดแสงสว่าง ส่วนด้านล่างหน้าจอจะเป็นปุ่มกด 3 ปุ่ม ได้แก่ปุ่มเมนู, ปุ่มโฮม และปุ่มย้อนกลับ
ด้านข้างของ Vivo Xshot เริ่มจากทางด้านซ้ายเป็นช่องใส่ซิมการ์ด โดยเจ้า Vivo Xshot รองรับการเชื่อมต่อ 4G LTE ด้วยนะครับ ด้านขวาเป็นปุ่มปรับระดับเสียง, ปุ่ม Power และปุ่มชัตเตอร์ ด้านล่างเป็นช่องเสียบสาย USB กับไมค์สำหรับสนทนา ส่วนด้านบนจะเป็นช่องเสียบสายหูฟังมาตรฐาน 3.5 มิลลิเมตร ความเจ๋งของ Vivo Xshot คือจะใช้ชิปประมวลผลเสียงแยก ซึ่งจะแสดงประสิทธิภาพสูงสุดก็ตอนที่เราเสียบหูฟังนี่แหละครับ สมกับสโลแกน Hifi & Smart
ด้านหลังของ Vivo Xshot จะใช้ฝาหลังเป็นพลาสติก ประกอบไปด้วยกล้องหลังความละเอียด 13 ล้านพิกเซล เซนเซอร์จาก Sony พร้อมแฟลชคู่, โลโก้ Vivo และลำโพงหลักของตัวเครื่อง ทีให้เสียงดังพอสมควรเลย (แต่ถ้าจะเอาเสียงเทพต้องเสียบหูฟังแล้วเปิดโหมด Hifi ครับ) แต่ในส่วนของกล้องนั้น Vivo Xshot เป็นมือถืออีกหนึ่งรุ่นที่จัดเต็มในส่วนนี้มากๆ และเท่าที่ลองถ่ายรูปด้วยกล้องหลังของ Vivo Xshot ต้องบอกว่า “ไม่ธรรมดาจริงๆ”
ความสมาร์ทของ Vivo Xshot รวมถึงสิ่งที่ Vivo เน้นย้ำมาตลอดทั้งงานไม่ใช่เรื่องของสเปคสุดโหด (ทั้งๆ ที่สเปคของ Vivo Xshot มันก็เรือธงดีๆ นี่เอง) แต่จะเป็นเรื่องความสมาร์ทสมกับชื่อสมาร์ทโฟนที่มาจากตัวระบบปฏิบัติการ Funtouch OS ที่มีพื้นฐานมาจาก Android 4.3 มากกว่า พูดถึงความลื่นไหลไม่ต้องห่วงครับด้วยสเปคแรงระดับนี้ ใช้งานได้สบายๆ แต่ที่บอกว่ามันสมาร์ทคือเรื่องของฟีเจอร์ ที่อัดเเน่นจริงๆ เรียกว่าใช้กันไม่หมดแน่นอน อาทิ Smart Wake (การเปิดเครื่องแบบสมาร์ทด้วยการวาดหน้าจอเป็นตัวอักษร), Air Wake (การเปิดตัวด้วยการวาดตัวเครื่องในอากาศ) เป็นต้น ส่วนราคาของ Vivo Xshot หากมองในมุมของมือถือน้องใหม่ก็อาจจะดูราคาแรงไปหน่อย แต่ถ้าตัดประเด็นเรื่องแบรนด์ทิ้งไป ผมคิดว่าราคา 16,990 บาทของ Vivo Xshot เนี่ยเป็นอะไรที่ค่อนข้างคุ้มค่าทีเดียว ไล่มาตั้งแต่สเปคระดับมือถือเรือธง Snapdragon 801 ความเร็ว 2.5 GHz, Ram 2 GB, กล้องหลังเลนส์ Sony, ชิปเสียงแยกเฉพาะ และงานประกอบกับวัสดุระดับดีมาก เชื่อว่าราคา 16,990 บาทของ Vivo Xshot ผมมองว่ามันไม่ได้แพงจนเกินไปครับ เมื่อเทียบกับเรือธงรุ่นอื่นๆ
สุดท้ายนี้ผมเชื่อว่าหลายท่านคงมีคำถามว่า Vivo เอาจริงหรือไม่ กับการเข้ามาขายมือถือตัวเองในประเทศไทยอย่างเป็นทางการ ผมก็ขอยกข้อความในงานเปิดตัวของ Vivo มาให้เพื่อนๆ ได้ตัดสินใจกันครับ “สำหรับการเปิดตัวในเมืองไทย vivo ได้ลงทุนด้านการจัดกิจกรรมส่งเสริมการตลาดอย่างเต็มรูปแบบ ทั้งโฆษณาในสื่อหลักต่าง ๆ รวมทั้งสื่อออนไลน์ ตลอดจนกิจกรรมประชาสัมพันธ์ในพื้นที่ต่าง ๆ ทั่วประเทศ โดยเน้นพื้นที่ในกรุงเทพมหานครและหัวเมืองหลัก อาทิ จังหวัดเชียงใหม่ ขอนแก่น นครราชสีมา สงขลา เป็นต้น โดยบริษัทมุ่งที่จะเจาะตลาดคนรุ่นใหม่ กลุ่มที่เป็นนักศึกษามหาวิทยาลัยและวัยเริ่มทำงาน ที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว ชื่นชอบในแฟชั่น ไม่ตามใครและชอบเป็นผู้นำเทรนด์ ทั้งนี้บริษัทฯ ตั้งเป้าที่จะครองส่วนแบ่งทางการตลาด 5% ภายในระยะเวลา 3 ปี และเราคาดหวังว่าจะสามารถก้าวขึ้นเป็นแบรนด์สมาร์ทโฟนที่ติดอันดับ 1 ใน 3 ของประเทศไทย โดยเรามั่นใจว่าการเข้ามาของ vivo จะเป็นทางเลือกใหม่ให้กับผู้บริโภค พร้อมช่วยสร้างมิติใหม่ให้กับวงการสมาร์ทโฟนของไทย”
ที่มา Specphone