"โรงเรียนของเราน่าอยู่ คุณครูใจดีทุกคน"
หายไปซักพักนุง ขออภัยค่ะ มหาลัยเปิดละ ต้องจูนเข้าโลกแห่งความจริงอีกครั้ง ฮรืออออออ ปีสุดท้ายละ จะตั้งใจเรียน (เหรอออ) จะดึงคะแนนขึ้นให้ได้ค่าาา จะหนีการทำงานไปต่อโท ขอให้ดึงคะแนนขึ้นด้วยเทอดดดด
คราวที่แล้วเล่าไปคร่าวๆเกี่ยวกับการหลงในเดนมาร์ก วันนี้มาเล่าเรื่องการรับน้องของมหาลัยแบบเบาๆค่า
ที่มหาลัยมีการรับน้อง 5วัน แบบไปเช้าเย็นกลับ ที่เรียกว่า Introduction Week สำหรับนักเรียนต่างชาติทุกคนค่ะ ไม่ว่าจะมาแลกเปลี่ยนแค่เทอมเดียว หรือว่ามาเรียนปริญญาแบบเต็มเวลา
วันแรกจะมีป้ายชื่อ ประเทศ แล้วก็กลุ่มแปะไว้ที่ทางเข้าค่ะ มองหาชื่อตัวเองเจอแล้วก็เดินไปเข้ากลุ่มเลย แต่ด้วยความจุ้นจ้าน ปิ๊งก็ยืนสแกนรายชื่อประเทศ แต่แหม่ มี Thailand คนเดียวเองอ่า เศร้าใจ
พอไปถึงที่โต๊ะ ก็จะเจอบัดดี้แต่ละกลุ่มค่ะ บัดดี้คนนี้จะเป็นนักเรียนที่ DTU มีทั้งที่เป็นคนเดนมาร์ก และคนต่างชาติที่เรียนอยู่ที่ DTU
เราจะได้แฟ้มสีแดงคนละแฟ้ม ข้างในนี้จะมีข้อมูลเกี่ยวกับการเดินทาง กฏของการขี่จักรยาน ซิมโทรศัพท์แล้วก็ใบแนะนำที่เที่ยวอะไรต่างๆค่ะ
สำคัญที่สุดก็ซิมโทรศัพท์นี่ละค่ะ หึๆๆๆ ของฟรี หึๆๆๆ ชอบเหลือเกินค่ะ
วันแรกก็เป็นแค่ intro speech จากครูคุมนักเรียนต่างชาติ บวกกับเล่นเกมเล็กๆน้อยๆ แล้วก็การพาทัวร์โรงเรียนค่ะ แหม่ หนาวมาก บ่องตง
ตึกมหาลัยจะเป็นตึก 3 ชั้นไม่ใหญ่มากค่ะ แล้วอยู่กันเป็นแบบ 4 quadrant โดยมีใจกลางคือตึก main office building 101 ค่ะ ยิ่งไกล เลขก็ยิ่งเพิ่ม แยกเป็น major ที่แตกต่างกันค่ะ เท่าที่จำได้คือตึกใน
นี่คือแผนที่ในโรงเรียนค่ะ
http://www.dtu.dk/english/About/Practical-information/Directions/DTU-Lyngby-Campus
สำหรับคนที่อยากดูชัดๆค่ะ
Quadrant 2 จะเป็นตึกที่รวมคณะของวิศวะเคมี ชีวะเทคโนโลยี เภสัช อาหาร อะไรพวกนี้ค่ะ ปิ๊งเลยมีคลาสส่วนมากอยู่ในตึกพวกนี้ค่ะ ในตึก 208 มีบาร์ที่เปิดทุกวันอังคารด้วยค่ะ
Quadrant 3 จะเป็นของคณิตศาสตร์กับฟิสิกซ์ Campus village ก็จะอยู่ใน quadrant นี้ด้วยค่ะ และในกลุ่มตึกนี้ จะมีอยู่ 2 ตึกที่พวกเราไปบ่อยมาก คือตึก 341 ที่มีห้องคอมที่เปิด 24 ชม. กับตึกใหม่ คือตึก 324 ตึกนี้เราไปร้องคาราโอเกะกันค่ะ ตึกสวยมากกก >< มีต้นไม้ในตึกด้วยยย
ตึก 341 ค่ะ
ส่วนตึกนี้คือตึกไฮโซ 324 เจ้าาาา
Quadrant 4 คือวิศวะการไฟฟ้า วิศวะโยธา เคยไปเหยียบห้องเรียนฝั่งนี้แค่ครั้งเดียว ตอนสอบปลายภาคค่ะ แอบหลงเลยค่ะกว่าจะหาตึกเจอ แต่ปั่นจักรยานไปในกลุ่มนี้บ่อย เพราะมีร้าน Dogn Netto ซึ่งก็คือร้านในหมู่ Netto นี่ละค่ะ แต่จะเปิดเร็ว แล้วปิดช้ากว่า และก็จะเป็นหนึ่งในไม่กี่ที่ที่เปิดในช่วงวันหยุดราชการค่ะ แต่ราคาของจะแอบแพงกว่า Netto ทั่วไป พวกเราไปกันบ่อยค่ะ ไม่มีอะไรต้องซื้อก็ไปค่ะ ในอารมณ์การอ่านหนังสือ เราอยากทำทุกอย่างยกเว้นอ่านหนังสือค่ะ จ้องกำแพงว่างๆยังสนุกเลย
Quadrant 1 จะมีตึกเมน 101 ส่วนที่เหลือเป็นของคณะอะไรอันนี้ไม่ค่อยแน่ใจค่ะ 555 วันก่อนเคยเล่าถึงห้องสมุดเค้ากับโรงอาหารไป วันนี้เอารูปภายในมาให้ดูค่ะ
โรงอาหารค่ะ
สวยเนอะ น่านอนมากค่ะ
โมเดลเครื่องบินรู้สึกจะเป็นของขวัญจากที่ไหนสักแห่งค่ะ เรามาดูชั้นสองกันหน่อยดีกว่า
ฝั่งนึงจะมีคอมให้ให้ พร้อมปริ๊นเตอร์สองตัว ปริ๊นได้ไม่เสียตังค่ะ อยากปริ๊นอะไรปริ๊นไป ฟรีหมดดด
อีกฝั่งมีโต๊ะให้ทำงานกลุ่มด้วยค่ะ โต๊ะทุกตัวจะมีปลั๊กให้ใช้ค่ะ
ขอสารภาพว่าไม่เคยขึ้นไปชั้นสามค่ะ 555
มาที่ชั้นใต้ดินบ้างมะ อย่าลืมนะคะ นี่คือห้องสมุดนะ
มี x box, wii ให้เล่นได้ค่ะ เปรี้ยวมะ
ทีวีจอยักษ์นี่ใช้ทั้งเล่นเกม ทั้งดูบอลเลยค่ะ สังเกตุดีๆจะเห็นตารางหมากรุกยักษ์ด้วยค่ะ
เป็นไงคะ ห้องสมุด มีเบาะยักษ์ให้นั่งบนพื้นด้วยค่ะ จะนั่ง จะนอน ตามสบาย และที่สำคัญ คนไม่เยอะจนแออัดค่ะ ช่วงสอบก็ไม่เยอะขนาดต้องจองที่นั่งแบบในสิงคโปร์ค่ะ -.-
ในมหาลัยมีผับ/บาร์อยู่ทั้งหมด 5 ที่ค่ะ 2 บาร์ในตึก 101 1 บารใน 208 1 บาร์ที่ 306 แล้วก็อีกหนึ่งที่ Campsax ซึ่งเป็นหอพักนักเรียนค่ะ แต่จะเป็นหอพักที่ไฮโซขึ้นมาหน่อยค่ะ บาร์พวกนี้จะสลับวันกันเปิด (มั้งคะ) แต่เท่าที่จำได้คือวันศุกร์ เปิดทุกบาร์ค่ะ เค้าปาร์ตี้กันจริงจังนะคะ 5555
วันที่สองเริ่มด้วยเล็คเชอร์ค่ะ เล็คเชอร์แรกคือภาษาแดนิชขั้นเบสิค พร้อมกับข้อมูลสำหรับนักเรียนที่อยากเรียน เล็คเชอร์นี้สำคัญค่ะ เพราะสายตาของปิ๊งได้เหลือบไปเห็นหนุ่มหล่อเตะตากว่าคนอื่น และคาดว่าความหล่อของนางอาจจะเตะตาครูด้ย ครูเลยให้เค้าแนะนำตัวเป็นภาษาแดนิช พร้อมบอกว่าตัวเองมาจากประเทศอะไรค่ะ เค้าชื่อเจมส์ มาจากออสเตรเลียค่ะ (เก็บข้อมูลสุดฤทธิ์)
เราเรียนภาษากันแค่ชม.เดียวค่ะ แล้วก็ต่อด้วยการบรรยายจากอดีตนักเรียนแลกเปลี่ยนที่ตอนนี้ได้มาเรียนต่ออยู่ที่เดนมาร์กแบบเต็มเวลา (อิจฉา) เขาได้เล่าถึงวีรกรรมอะไรต่างๆเช่นว่า เปิดบอลดูกันในห้องเรียน ดูหนัอในห้องเรียนตอนกลางคืน อารมณ์ดูจอใหญ่อะค่ะ อาจารย์ที่ยืนอยู่ด้วยหันขวับแล้วถามว่า "จริงเหรอ?! ความคิดดีจริง" แหม่ ลองเป็นในเอเชียสิคะ นักเรียนไม่กล้าเล่าวีรกรรมหรอก เนอะ
หลังจากนั้นเราก็เริ่มเล่นเกม Amazing race ในตัวเมืองโคเปนเฮเกนค่ะ เป็นการที่ต้องไปตามที่ต่างๆแล้วถ่ายรูปให้ได้ฮาที่สุด แล้วเก็บแต้มค่ะ แต่เราทุกคนต้องไปเริ่มที่พิพิธภัณฑ์ก่อนค่ะ ไปกันทีละสองกลุ่ม ฟ้าก็ลิขิตให้กลุ่มหนูปิ๊งได้จับคู่กับกลุ่มของเจมส์นะคะ อร๊ายยย #เพ้อฝันประจำวัน
ภายในค่ะ
อะ แถมอีกรูปค่ะ บ้านจิ๋ววว
พอออกจากพิพิธภัณฑ์เราก็ได้ไปตามที่ต่างๆ ซึ่ง... เด๋วจะมาเล่าถึงสถานที่พวกนี้อีกครั้งนึงค่ะ เพราะเป็นที่เดียวกับที่เราไปอีกครั้งหนึ่งหลังจากวันนั้นค่ะ แต่เอารูปมาฝากละกัน ขอให้มองข้ามควา unglam ของปิ๊งไปนะคะ
หน้าปราสาทอะไรสักอย่างค่ะ 555
น่าจะเป็นบริษัทหุ้นนะคะ
Parliament house
Strøget
Happy wall
อีกหนึ่งรูปจาก Happy wall
Nyhavn
Theatre อะไรสักอย่างค่ะ
Marble Church
Opera house
Amalienborg Palace (ที่ประทับของราชวงศ์ปัจจุบันค่ะ)
หลังจากเสร็จกิจกรรม เราก็ไปกินร้านอาหารที่ทางมหาลัยได้จัดไว้ให้ คือเราทุกคนมีคูปอนคนละหนึ่งใบ เลือกได้สองรายกาว พร้อมไอติมคนละถ้วย (ค่ะ อากาศติดลบแต่เราก็ไม่แคร์ค่ะ) เครื่องดื่มแยกต่างหากค่ะ
หุๆ
หลังข้าวเย็น ก็ตามสไตล์เดนมาร์กค่ะ ไปผับค่ะ และด้วยความที่กลุ่มของแคสและเคเคไปที่ผับ ปิ๊งเลยตามไปด้วยค่ะ รอแคสกลับบ้าน
ที่ทางเข้า ผญ.ทุกคนจะได้ชิพไข้แลกเครื่องดื่มค่ะ ผู้ชาย รอขอจากเพื่อนผญ.ที่ไม่ดื่มเอาละกันค่ะ (หยางได้มาปล้นของปิ๊งไปตั้งแต่เห็นเราเดินเข้าไปในผับเพราะรู้ว่ายังไงยัยนี่ก็ไม่ดื่มแน่ๆ) อยู่ได้สักพักก็ชวนแคส (ที่ได้ดื่มเบียร์ไปสองแก้ว)กลับบ้านค่ะ
วันที่สามก็มีให้เลือกระหว่างจะเรียนเต้น Tango หรือไปดูอีกแคมปัสนึงของมหาลัย เลือกเต้นสิคะ ถึงจะสนุก ได้แต๊ะอั๋งผู้บ่าวด้วย โอกาสงามๆไม่ได้มากันง่ายๆค่ะ
เริ่มแรกคือแยกหญิงชาย ยืนคนละฝั่ง แล้วครูก็สอนท่าเต้น ท่านี้เรียกแบบนี้นะ ท่านี่ทำแบบนี้ พอถึงเวลาก็ให้ทุกคนยืนเป็นวงกลม แล้วจับคู่ค่ะ เราก็ต้องเปลี่ยนคู่ตามที่ครูบอก เราก็ได้ทำการจ้องหาเหยื่อ แต่แหม อยู่ไกลกันคนละฝั่งค่ะ
แต่แล้ว ด้วยความที่ครูเปลี่ยนคู่บ่อย หึๆๆ เราเห็นเป้าหมายใกล้เข้ามาเรื่อยๆค่ะ
ใกล้เข้าไปอีกนิด ชิดเข้าไปอีกหน่อยยย
อีก3 คน จะถึงเจมส์
2 คน..
อีกคนเดียว!!!!!!
"okay! That's it for today! Thank you everyone!"
ฉึก ครูขา ครูจะหยุดได้เวลาเป๊ะขนาดนี้เลยเหรอค้าาา T^T
เจ็บจนขึ้นเป็นสเตตัส
จากนั้นก็เป็นแค่เล่นเกมในกลุ่มค่ะ ไม่มีอะไรมาก
วันที่ 4 เป็นวันที่มี talk จากชมรมต่างๆ (รึเปล่านะ ไม่มั่นใจค่ะ) แล้วก็เป็นวันที่มหาลัยให้เจ้าหน้าที่มาจัดการเรื่อง Permit กับ Health card ที่มหาลัยค่ะ และด้วยความที่เราทำแล้ว และเราขี้เกียจ วันนั้ยเลยมาแค่ตอนบ่ายค่ะ มาถึง โผล่หัวไปในห้อง ว้าาาา น่าเบื่อ ไปกินข้าวดีกว่า
ระหว่างที่รอก๋วยเตี๋ยวผัด ก็มีพี่ผช.คนนึงเดินมา แล้วพูดว่า
"สวัสดีครับป้าาา สองกล่องคร้าบบบ"
"ได้จ้ะหนู"
"อ่าว! คนไทยเหรอคะ?" คือสิ่งที่หนูพูดออกไปค่ะ
ไม่ใช่มั้งยัยปิ๊ง แหม่ พี่เค้าคงเป็นคนเดนมาร์กหน้าเอเชียแล้วเรียนภาษาไทยได้มั้งจ๊ะ
สรุปปปปป วันนั้นเลยได้รู้จักกับพี่ๆคนไทยค่ะ เด๋วมาแนะนำอีกวันนึง อิอิ (สัญญาว่าจะไม่หายไปนานน้า)
วันสุดท้ายก็.. มีเกมในรร. อาหารเย็น แล้วก็ต่อด้วยปาร์ตี้ค่ะ และในปาร์ตี้นี้ เราก็ได้หลอกให้เคเคถ่ายรูปกับเราและเพื่อนๆ (ขอให้มองที่เคเคนะคะ หน้าตารูปนี้น่ากลัวมาก)
แต่นั่นยังไม่เท่าไหร่ค่ะ หึๆๆ
เราเห็นเจมส์ เพื่อนๆบอก ไปเลยปิ๊ง แค่ขอถ่ายรูป เด๋วไม่เจออีกแล้วจิเสียใจนะ
มีหรือคะ จะยุไม่ขึ้น ได้รูปมาหนึ่งรูปแต่บอกเลยค่ะว่าฟิน 5555 ขอให้โฟกัสที่ความหล่อทะลุความมืดนะคะ
ปล. เราเจอกันบ่อยๆอีกเพราะเจมส์อยู่ตู้เดียวกับวอลเตอร์ค่ะ แต่อย่าพึ่งจิ้นไปไกลนะคะ คนนี้มีไว้มองและกรี๊ดอยู่ห่างๆค่ะ
ปล2. ขอบอกเลยค่ะว่าปรกติเป็นคนเรียบร้อละขี้อายมากค่ะ (ให้ท่านผู้อ่านตัดสินใจเองค่ะ) แต่ด้วยความหนาวที่ยุโรป หนังเหมือนจะด้านๆขึ้น จริงจริ๊งงง นะคะ
ปล3. ไปละๆ เด๋วตอนใหม่จะตามมาติดๆค่ะ ขอบคุณนะคะที่ติดตาม ขอโทษนะคะที่หายไปนานนน อย่าพึ่งหนีเค้าไปไหนน้า
ลิ้งค์รวมกระทู้ #pingineurope ทั้งหมดค่ะ
#pingineurope EP. 6 - การรับน้องสไตล์เดนมาร์ก
หายไปซักพักนุง ขออภัยค่ะ มหาลัยเปิดละ ต้องจูนเข้าโลกแห่งความจริงอีกครั้ง ฮรืออออออ ปีสุดท้ายละ จะตั้งใจเรียน (เหรอออ) จะดึงคะแนนขึ้นให้ได้ค่าาา จะหนีการทำงานไปต่อโท ขอให้ดึงคะแนนขึ้นด้วยเทอดดดด
คราวที่แล้วเล่าไปคร่าวๆเกี่ยวกับการหลงในเดนมาร์ก วันนี้มาเล่าเรื่องการรับน้องของมหาลัยแบบเบาๆค่า
ที่มหาลัยมีการรับน้อง 5วัน แบบไปเช้าเย็นกลับ ที่เรียกว่า Introduction Week สำหรับนักเรียนต่างชาติทุกคนค่ะ ไม่ว่าจะมาแลกเปลี่ยนแค่เทอมเดียว หรือว่ามาเรียนปริญญาแบบเต็มเวลา
วันแรกจะมีป้ายชื่อ ประเทศ แล้วก็กลุ่มแปะไว้ที่ทางเข้าค่ะ มองหาชื่อตัวเองเจอแล้วก็เดินไปเข้ากลุ่มเลย แต่ด้วยความจุ้นจ้าน ปิ๊งก็ยืนสแกนรายชื่อประเทศ แต่แหม่ มี Thailand คนเดียวเองอ่า เศร้าใจ
พอไปถึงที่โต๊ะ ก็จะเจอบัดดี้แต่ละกลุ่มค่ะ บัดดี้คนนี้จะเป็นนักเรียนที่ DTU มีทั้งที่เป็นคนเดนมาร์ก และคนต่างชาติที่เรียนอยู่ที่ DTU
เราจะได้แฟ้มสีแดงคนละแฟ้ม ข้างในนี้จะมีข้อมูลเกี่ยวกับการเดินทาง กฏของการขี่จักรยาน ซิมโทรศัพท์แล้วก็ใบแนะนำที่เที่ยวอะไรต่างๆค่ะ
สำคัญที่สุดก็ซิมโทรศัพท์นี่ละค่ะ หึๆๆๆ ของฟรี หึๆๆๆ ชอบเหลือเกินค่ะ
วันแรกก็เป็นแค่ intro speech จากครูคุมนักเรียนต่างชาติ บวกกับเล่นเกมเล็กๆน้อยๆ แล้วก็การพาทัวร์โรงเรียนค่ะ แหม่ หนาวมาก บ่องตง
ตึกมหาลัยจะเป็นตึก 3 ชั้นไม่ใหญ่มากค่ะ แล้วอยู่กันเป็นแบบ 4 quadrant โดยมีใจกลางคือตึก main office building 101 ค่ะ ยิ่งไกล เลขก็ยิ่งเพิ่ม แยกเป็น major ที่แตกต่างกันค่ะ เท่าที่จำได้คือตึกใน
นี่คือแผนที่ในโรงเรียนค่ะ
http://www.dtu.dk/english/About/Practical-information/Directions/DTU-Lyngby-Campus
สำหรับคนที่อยากดูชัดๆค่ะ
Quadrant 2 จะเป็นตึกที่รวมคณะของวิศวะเคมี ชีวะเทคโนโลยี เภสัช อาหาร อะไรพวกนี้ค่ะ ปิ๊งเลยมีคลาสส่วนมากอยู่ในตึกพวกนี้ค่ะ ในตึก 208 มีบาร์ที่เปิดทุกวันอังคารด้วยค่ะ
Quadrant 3 จะเป็นของคณิตศาสตร์กับฟิสิกซ์ Campus village ก็จะอยู่ใน quadrant นี้ด้วยค่ะ และในกลุ่มตึกนี้ จะมีอยู่ 2 ตึกที่พวกเราไปบ่อยมาก คือตึก 341 ที่มีห้องคอมที่เปิด 24 ชม. กับตึกใหม่ คือตึก 324 ตึกนี้เราไปร้องคาราโอเกะกันค่ะ ตึกสวยมากกก >< มีต้นไม้ในตึกด้วยยย
ตึก 341 ค่ะ
ส่วนตึกนี้คือตึกไฮโซ 324 เจ้าาาา
Quadrant 4 คือวิศวะการไฟฟ้า วิศวะโยธา เคยไปเหยียบห้องเรียนฝั่งนี้แค่ครั้งเดียว ตอนสอบปลายภาคค่ะ แอบหลงเลยค่ะกว่าจะหาตึกเจอ แต่ปั่นจักรยานไปในกลุ่มนี้บ่อย เพราะมีร้าน Dogn Netto ซึ่งก็คือร้านในหมู่ Netto นี่ละค่ะ แต่จะเปิดเร็ว แล้วปิดช้ากว่า และก็จะเป็นหนึ่งในไม่กี่ที่ที่เปิดในช่วงวันหยุดราชการค่ะ แต่ราคาของจะแอบแพงกว่า Netto ทั่วไป พวกเราไปกันบ่อยค่ะ ไม่มีอะไรต้องซื้อก็ไปค่ะ ในอารมณ์การอ่านหนังสือ เราอยากทำทุกอย่างยกเว้นอ่านหนังสือค่ะ จ้องกำแพงว่างๆยังสนุกเลย
Quadrant 1 จะมีตึกเมน 101 ส่วนที่เหลือเป็นของคณะอะไรอันนี้ไม่ค่อยแน่ใจค่ะ 555 วันก่อนเคยเล่าถึงห้องสมุดเค้ากับโรงอาหารไป วันนี้เอารูปภายในมาให้ดูค่ะ
โรงอาหารค่ะ
สวยเนอะ น่านอนมากค่ะ
โมเดลเครื่องบินรู้สึกจะเป็นของขวัญจากที่ไหนสักแห่งค่ะ เรามาดูชั้นสองกันหน่อยดีกว่า
ฝั่งนึงจะมีคอมให้ให้ พร้อมปริ๊นเตอร์สองตัว ปริ๊นได้ไม่เสียตังค่ะ อยากปริ๊นอะไรปริ๊นไป ฟรีหมดดด
อีกฝั่งมีโต๊ะให้ทำงานกลุ่มด้วยค่ะ โต๊ะทุกตัวจะมีปลั๊กให้ใช้ค่ะ
ขอสารภาพว่าไม่เคยขึ้นไปชั้นสามค่ะ 555
มาที่ชั้นใต้ดินบ้างมะ อย่าลืมนะคะ นี่คือห้องสมุดนะ
มี x box, wii ให้เล่นได้ค่ะ เปรี้ยวมะ
ทีวีจอยักษ์นี่ใช้ทั้งเล่นเกม ทั้งดูบอลเลยค่ะ สังเกตุดีๆจะเห็นตารางหมากรุกยักษ์ด้วยค่ะ
เป็นไงคะ ห้องสมุด มีเบาะยักษ์ให้นั่งบนพื้นด้วยค่ะ จะนั่ง จะนอน ตามสบาย และที่สำคัญ คนไม่เยอะจนแออัดค่ะ ช่วงสอบก็ไม่เยอะขนาดต้องจองที่นั่งแบบในสิงคโปร์ค่ะ -.-
ในมหาลัยมีผับ/บาร์อยู่ทั้งหมด 5 ที่ค่ะ 2 บาร์ในตึก 101 1 บารใน 208 1 บาร์ที่ 306 แล้วก็อีกหนึ่งที่ Campsax ซึ่งเป็นหอพักนักเรียนค่ะ แต่จะเป็นหอพักที่ไฮโซขึ้นมาหน่อยค่ะ บาร์พวกนี้จะสลับวันกันเปิด (มั้งคะ) แต่เท่าที่จำได้คือวันศุกร์ เปิดทุกบาร์ค่ะ เค้าปาร์ตี้กันจริงจังนะคะ 5555
วันที่สองเริ่มด้วยเล็คเชอร์ค่ะ เล็คเชอร์แรกคือภาษาแดนิชขั้นเบสิค พร้อมกับข้อมูลสำหรับนักเรียนที่อยากเรียน เล็คเชอร์นี้สำคัญค่ะ เพราะสายตาของปิ๊งได้เหลือบไปเห็นหนุ่มหล่อเตะตากว่าคนอื่น และคาดว่าความหล่อของนางอาจจะเตะตาครูด้ย ครูเลยให้เค้าแนะนำตัวเป็นภาษาแดนิช พร้อมบอกว่าตัวเองมาจากประเทศอะไรค่ะ เค้าชื่อเจมส์ มาจากออสเตรเลียค่ะ (เก็บข้อมูลสุดฤทธิ์)
เราเรียนภาษากันแค่ชม.เดียวค่ะ แล้วก็ต่อด้วยการบรรยายจากอดีตนักเรียนแลกเปลี่ยนที่ตอนนี้ได้มาเรียนต่ออยู่ที่เดนมาร์กแบบเต็มเวลา (อิจฉา) เขาได้เล่าถึงวีรกรรมอะไรต่างๆเช่นว่า เปิดบอลดูกันในห้องเรียน ดูหนัอในห้องเรียนตอนกลางคืน อารมณ์ดูจอใหญ่อะค่ะ อาจารย์ที่ยืนอยู่ด้วยหันขวับแล้วถามว่า "จริงเหรอ?! ความคิดดีจริง" แหม่ ลองเป็นในเอเชียสิคะ นักเรียนไม่กล้าเล่าวีรกรรมหรอก เนอะ
หลังจากนั้นเราก็เริ่มเล่นเกม Amazing race ในตัวเมืองโคเปนเฮเกนค่ะ เป็นการที่ต้องไปตามที่ต่างๆแล้วถ่ายรูปให้ได้ฮาที่สุด แล้วเก็บแต้มค่ะ แต่เราทุกคนต้องไปเริ่มที่พิพิธภัณฑ์ก่อนค่ะ ไปกันทีละสองกลุ่ม ฟ้าก็ลิขิตให้กลุ่มหนูปิ๊งได้จับคู่กับกลุ่มของเจมส์นะคะ อร๊ายยย #เพ้อฝันประจำวัน
ภายในค่ะ
อะ แถมอีกรูปค่ะ บ้านจิ๋ววว
พอออกจากพิพิธภัณฑ์เราก็ได้ไปตามที่ต่างๆ ซึ่ง... เด๋วจะมาเล่าถึงสถานที่พวกนี้อีกครั้งนึงค่ะ เพราะเป็นที่เดียวกับที่เราไปอีกครั้งหนึ่งหลังจากวันนั้นค่ะ แต่เอารูปมาฝากละกัน ขอให้มองข้ามควา unglam ของปิ๊งไปนะคะ
หน้าปราสาทอะไรสักอย่างค่ะ 555
น่าจะเป็นบริษัทหุ้นนะคะ
Parliament house
Strøget
Happy wall
อีกหนึ่งรูปจาก Happy wall
Nyhavn
Theatre อะไรสักอย่างค่ะ
Marble Church
Opera house
Amalienborg Palace (ที่ประทับของราชวงศ์ปัจจุบันค่ะ)
หลังจากเสร็จกิจกรรม เราก็ไปกินร้านอาหารที่ทางมหาลัยได้จัดไว้ให้ คือเราทุกคนมีคูปอนคนละหนึ่งใบ เลือกได้สองรายกาว พร้อมไอติมคนละถ้วย (ค่ะ อากาศติดลบแต่เราก็ไม่แคร์ค่ะ) เครื่องดื่มแยกต่างหากค่ะ
หุๆ
หลังข้าวเย็น ก็ตามสไตล์เดนมาร์กค่ะ ไปผับค่ะ และด้วยความที่กลุ่มของแคสและเคเคไปที่ผับ ปิ๊งเลยตามไปด้วยค่ะ รอแคสกลับบ้าน
ที่ทางเข้า ผญ.ทุกคนจะได้ชิพไข้แลกเครื่องดื่มค่ะ ผู้ชาย รอขอจากเพื่อนผญ.ที่ไม่ดื่มเอาละกันค่ะ (หยางได้มาปล้นของปิ๊งไปตั้งแต่เห็นเราเดินเข้าไปในผับเพราะรู้ว่ายังไงยัยนี่ก็ไม่ดื่มแน่ๆ) อยู่ได้สักพักก็ชวนแคส (ที่ได้ดื่มเบียร์ไปสองแก้ว)กลับบ้านค่ะ
วันที่สามก็มีให้เลือกระหว่างจะเรียนเต้น Tango หรือไปดูอีกแคมปัสนึงของมหาลัย เลือกเต้นสิคะ ถึงจะสนุก ได้แต๊ะอั๋งผู้บ่าวด้วย โอกาสงามๆไม่ได้มากันง่ายๆค่ะ
เริ่มแรกคือแยกหญิงชาย ยืนคนละฝั่ง แล้วครูก็สอนท่าเต้น ท่านี้เรียกแบบนี้นะ ท่านี่ทำแบบนี้ พอถึงเวลาก็ให้ทุกคนยืนเป็นวงกลม แล้วจับคู่ค่ะ เราก็ต้องเปลี่ยนคู่ตามที่ครูบอก เราก็ได้ทำการจ้องหาเหยื่อ แต่แหม อยู่ไกลกันคนละฝั่งค่ะ
แต่แล้ว ด้วยความที่ครูเปลี่ยนคู่บ่อย หึๆๆ เราเห็นเป้าหมายใกล้เข้ามาเรื่อยๆค่ะ
ใกล้เข้าไปอีกนิด ชิดเข้าไปอีกหน่อยยย
อีก3 คน จะถึงเจมส์
2 คน..
อีกคนเดียว!!!!!!
"okay! That's it for today! Thank you everyone!"
ฉึก ครูขา ครูจะหยุดได้เวลาเป๊ะขนาดนี้เลยเหรอค้าาา T^T
เจ็บจนขึ้นเป็นสเตตัส
จากนั้นก็เป็นแค่เล่นเกมในกลุ่มค่ะ ไม่มีอะไรมาก
วันที่ 4 เป็นวันที่มี talk จากชมรมต่างๆ (รึเปล่านะ ไม่มั่นใจค่ะ) แล้วก็เป็นวันที่มหาลัยให้เจ้าหน้าที่มาจัดการเรื่อง Permit กับ Health card ที่มหาลัยค่ะ และด้วยความที่เราทำแล้ว และเราขี้เกียจ วันนั้ยเลยมาแค่ตอนบ่ายค่ะ มาถึง โผล่หัวไปในห้อง ว้าาาา น่าเบื่อ ไปกินข้าวดีกว่า
ระหว่างที่รอก๋วยเตี๋ยวผัด ก็มีพี่ผช.คนนึงเดินมา แล้วพูดว่า
"สวัสดีครับป้าาา สองกล่องคร้าบบบ"
"ได้จ้ะหนู"
"อ่าว! คนไทยเหรอคะ?" คือสิ่งที่หนูพูดออกไปค่ะ
ไม่ใช่มั้งยัยปิ๊ง แหม่ พี่เค้าคงเป็นคนเดนมาร์กหน้าเอเชียแล้วเรียนภาษาไทยได้มั้งจ๊ะ
สรุปปปปป วันนั้นเลยได้รู้จักกับพี่ๆคนไทยค่ะ เด๋วมาแนะนำอีกวันนึง อิอิ (สัญญาว่าจะไม่หายไปนานน้า)
วันสุดท้ายก็.. มีเกมในรร. อาหารเย็น แล้วก็ต่อด้วยปาร์ตี้ค่ะ และในปาร์ตี้นี้ เราก็ได้หลอกให้เคเคถ่ายรูปกับเราและเพื่อนๆ (ขอให้มองที่เคเคนะคะ หน้าตารูปนี้น่ากลัวมาก)
แต่นั่นยังไม่เท่าไหร่ค่ะ หึๆๆ
เราเห็นเจมส์ เพื่อนๆบอก ไปเลยปิ๊ง แค่ขอถ่ายรูป เด๋วไม่เจออีกแล้วจิเสียใจนะ
มีหรือคะ จะยุไม่ขึ้น ได้รูปมาหนึ่งรูปแต่บอกเลยค่ะว่าฟิน 5555 ขอให้โฟกัสที่ความหล่อทะลุความมืดนะคะ
ปล. เราเจอกันบ่อยๆอีกเพราะเจมส์อยู่ตู้เดียวกับวอลเตอร์ค่ะ แต่อย่าพึ่งจิ้นไปไกลนะคะ คนนี้มีไว้มองและกรี๊ดอยู่ห่างๆค่ะ
ปล2. ขอบอกเลยค่ะว่าปรกติเป็นคนเรียบร้อละขี้อายมากค่ะ (ให้ท่านผู้อ่านตัดสินใจเองค่ะ) แต่ด้วยความหนาวที่ยุโรป หนังเหมือนจะด้านๆขึ้น จริงจริ๊งงง นะคะ
ปล3. ไปละๆ เด๋วตอนใหม่จะตามมาติดๆค่ะ ขอบคุณนะคะที่ติดตาม ขอโทษนะคะที่หายไปนานนน อย่าพึ่งหนีเค้าไปไหนน้า
ลิ้งค์รวมกระทู้ #pingineurope ทั้งหมดค่ะ