นครดูไบ เมืองแห่งทะเลทรายและนครแห่งความอัศจรรย์ อัศจรรย์ที่ว่าคือความเป็นที่สุดในหลาย ๆด้านท่ามกลางการเติบโตของประเทศอย่างรวดเร็ว มารู้จักเมืองที่สำคัญของสาธารณรัฐอาหรับเอมิเรสต์เมืองนี้ให้มากขึ้นด้วยเรื่องราวอันเป็นที่สุดของดูไบ 9 แห่งที่ นำมาฝากกันครับ
เริ่มต้นที่หมู่เกาะต้นปาล์ม (The Palm islands) เกาะเทียมขนาดใหญ่ที่สุดในโลก ซึ่งจำลองลักษณะเกาะ ให้มีรูปร่างเหมือนต้นปาล์ม และล้อมรอบด้วยเสี้ยววงกลม จัดสรรพื้นที่ให้เป็นที่อยู่อาศัยและที่พักรีสอร์ท โดยโครงการจะมีการสร้างทั้งหมด 3 เกาะ ได้แก่ ปาล์มจูไมราห์, ปาล์มเดียราห์ และ ปาล์มเจเบล อาลี
สนามกีฬาสุดหรู Meydan Rececourse เปิดตัวครั้งแรกในการเป็นเจ้าภาพจัดกีฬาแข่งม้าระดับโลก “ดูไบ เวิลด์คัพ 2010” ซึ่งมีมูลค่าเงินรางวัลสูงที่สุดในโลกและนอกจากจะเป็นสนามกีฬาแข่งม้าขนาดใหญ่ที่รองรับผู้เข้าชมการแข่งขันได้ถึง 6 หมื่นคนแล้ว ภายในยังมีทั้งโรงแรมหรู โรงภาพยนตร์ไอแมกซ์ และที่จอดรถ 10,000 คัน
สถานที่ยอดนิยมของดูไบต้องยกให้ Dubai Mall แหล่งช็อปปิ้งขนาดใหญ่ที่สุดในโลก โดยเนรมิตพื้นที่กว่า 3.7 ล้านตารางฟุต ให้ครบครันด้วยร้านค้ากว่า 1200 ร้าน, 160 ร้านอาหารและคาเฟ่ รวมไปถึงลานเอนกประสงค์ และลานไอซ์สเก็ตขนาดใหญ่ ซึ่งศูนย์การค้าแห่งนี้คือ กำลังสำคัญในการส่งเสริมจุดยืนของดูไบในฐานะเมือง ช็อปปิ้งสำคัญของโลก
ทึ่งไปกับโรงแรมสุดหรูของดูไบ Burj Al Arab โรงแรมระดับ 7 ดาวแห่งแรกของโลกและเป็นแลนด์มาร์กของความผสมกลมกลืนระหว่างตะวันออกกับตะวันตก ตัวโรงแรมถูกออกแบบมาให้เป็นเหมือนใบพัดเรือบนพื้นที่ที่เป็นเหมือนเกาะ อยู่ห่างจากหาดจูไมราห์ ประมาณ 280 เมตร ประกอบด้วยห้องสวีทถึง 202 ห้องราคาต่อคืนราว4,400 ดีแรห์ม(Dirham)
หนึ่งไฮไลต์ที่ไม่อยากให้พลาดคือการได้ชมความสวยงามของน้ำพุขนาดใหญ่ที่สุดของโลกโชว์ความงดงามพร้อมแสงสีอย่างยาวนานที่สุด โดยน้ำพุ
แห่งดูไบ หรือ น้ำพุเต้นระบำ มีความยาว 900 ฟุตตั้งอยู่ในทะเลสาบเบิร์จคาลิฟา สามารถพ่นน้ำได้มากถึง 22,000 แกลลอน (83,000ลิตร) ในความสูงเกือบเทียบเท่าตึก 50 ชั้น
พิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำดูไบ ตั้งอยู่ภายในห้างสรรพสินค้าดูไบมอลล์ มีพื้นที่ขนาด 50 สนามฟุตบอล ทำลายสถิติโลกกินเนสบุ๊ค “กระจกอะคริลิคขนาดใหญ่ที่สุดในโลก” ด้วยความหนาของกระจกกว่า 750 มิลลิเมตร สามารถทนต่อแรงดันของน้ำกว่า 10 ล้านลิตรได้เป็นอย่างดี อีกทั้งมีความโปร่งใสจนผู้ชมสามารถชมสัตว์น้ำกว่า 33,000 ชนิดได้อย่างชัดเจน
ความเป็นที่สุดอีกเรื่องของดูไบที่ต้องพูดถึง คือ ระบบรถไฟฟ้าอัตโนมัติที่วิ่งยาวที่สุดในโลก ด้วยระยะทางถึง 74 กิโลเมตร หรือราว 46 ไมล์ แบ่งชั้นที่นั่งออกเป็น ชั้นโดยสารทั่วไปและชั้นโกลด์คลาส ให้บริการเส้นทางสายสีแดงและสีเขียว เปิดให้บริการเป็นทางการครั้งแรกในปี 2009
เปิดตัวครั้งแรกในปี 2010ด้วยการเป็นไอคอนตึกระฟ้าที่สูงที่สุดในโลก Burj Khalifa Building ทุบสถิติแชมป์เก่าอย่างไทเป ด้วยความสูงกว่า 800 เมตร จำนวนชั้นมากถึง 169 ชั้น ภายในตึกประกอบด้วย สำนักงาน ภ้ตตาคาร คอนโดที่พักอาศัย และโรงแรมหรูที่ออกแบบโดย จิออร์จิโอ อาร์มานี่
ท่ามกลางนครดูไบอันทันสมัยนี้ กลับไม่น่าเชื่อว่าในย่านใจกลางเมืองเก่าแก่เขตเดียรา(Deira) ซึ่งอยู่ติดกับช่องแคบของดูไบ ที่นี่นักท่องเที่ยวสามารถใช้บริการเรือข้ามฟากด้วยราคาแสนถูกเพียง 1 ดีแรห์ม หรือราว 25 เซ็นต์เท่านั้น และแม้จะยังไม่ได้รับการบันทึกอย่างเป็นทางการ แต่ก็นับเป็นราคาที่ถูกมากจริงๆ
หลากหลายเรื่องราวของความเป็นที่สุดแห่งดูไบช่วยส่งเสริมให้นครแห่งทะเลทรายเมืองนี้มีเสน่ห์และน่าค้นหา จริง ๆ ครับ ไม่แปลกใจเลยว่าเมื่อเอ่ยถึงเมืองท่องเที่ยวที่คนทั่วโลกใฝ่ฝันอยากไป ชื่อของดูไบ คืออีกชื่อหนึ่งในใจที่ใคร ๆ ต้องนึกถึง
แต่ก็น่ะเมืองนี้เป็นเมืองทะเลทราย สู้บ้านเราไม่ได้ อย่าลืมน่ะครับ ใชัของไทย เที่ยวของไทย อุดหนุนของไทยด้วย ♥
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้http://www.lexussociety.com/scoop/travel/366/
9 เรื่องสุดเจ๋งในดูไบ...ไม่ไปไม่รู้!
นครดูไบ เมืองแห่งทะเลทรายและนครแห่งความอัศจรรย์ อัศจรรย์ที่ว่าคือความเป็นที่สุดในหลาย ๆด้านท่ามกลางการเติบโตของประเทศอย่างรวดเร็ว มารู้จักเมืองที่สำคัญของสาธารณรัฐอาหรับเอมิเรสต์เมืองนี้ให้มากขึ้นด้วยเรื่องราวอันเป็นที่สุดของดูไบ 9 แห่งที่ นำมาฝากกันครับ
เริ่มต้นที่หมู่เกาะต้นปาล์ม (The Palm islands) เกาะเทียมขนาดใหญ่ที่สุดในโลก ซึ่งจำลองลักษณะเกาะ ให้มีรูปร่างเหมือนต้นปาล์ม และล้อมรอบด้วยเสี้ยววงกลม จัดสรรพื้นที่ให้เป็นที่อยู่อาศัยและที่พักรีสอร์ท โดยโครงการจะมีการสร้างทั้งหมด 3 เกาะ ได้แก่ ปาล์มจูไมราห์, ปาล์มเดียราห์ และ ปาล์มเจเบล อาลี
สนามกีฬาสุดหรู Meydan Rececourse เปิดตัวครั้งแรกในการเป็นเจ้าภาพจัดกีฬาแข่งม้าระดับโลก “ดูไบ เวิลด์คัพ 2010” ซึ่งมีมูลค่าเงินรางวัลสูงที่สุดในโลกและนอกจากจะเป็นสนามกีฬาแข่งม้าขนาดใหญ่ที่รองรับผู้เข้าชมการแข่งขันได้ถึง 6 หมื่นคนแล้ว ภายในยังมีทั้งโรงแรมหรู โรงภาพยนตร์ไอแมกซ์ และที่จอดรถ 10,000 คัน
สถานที่ยอดนิยมของดูไบต้องยกให้ Dubai Mall แหล่งช็อปปิ้งขนาดใหญ่ที่สุดในโลก โดยเนรมิตพื้นที่กว่า 3.7 ล้านตารางฟุต ให้ครบครันด้วยร้านค้ากว่า 1200 ร้าน, 160 ร้านอาหารและคาเฟ่ รวมไปถึงลานเอนกประสงค์ และลานไอซ์สเก็ตขนาดใหญ่ ซึ่งศูนย์การค้าแห่งนี้คือ กำลังสำคัญในการส่งเสริมจุดยืนของดูไบในฐานะเมือง ช็อปปิ้งสำคัญของโลก
ทึ่งไปกับโรงแรมสุดหรูของดูไบ Burj Al Arab โรงแรมระดับ 7 ดาวแห่งแรกของโลกและเป็นแลนด์มาร์กของความผสมกลมกลืนระหว่างตะวันออกกับตะวันตก ตัวโรงแรมถูกออกแบบมาให้เป็นเหมือนใบพัดเรือบนพื้นที่ที่เป็นเหมือนเกาะ อยู่ห่างจากหาดจูไมราห์ ประมาณ 280 เมตร ประกอบด้วยห้องสวีทถึง 202 ห้องราคาต่อคืนราว4,400 ดีแรห์ม(Dirham)
หนึ่งไฮไลต์ที่ไม่อยากให้พลาดคือการได้ชมความสวยงามของน้ำพุขนาดใหญ่ที่สุดของโลกโชว์ความงดงามพร้อมแสงสีอย่างยาวนานที่สุด โดยน้ำพุ
แห่งดูไบ หรือ น้ำพุเต้นระบำ มีความยาว 900 ฟุตตั้งอยู่ในทะเลสาบเบิร์จคาลิฟา สามารถพ่นน้ำได้มากถึง 22,000 แกลลอน (83,000ลิตร) ในความสูงเกือบเทียบเท่าตึก 50 ชั้น
พิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำดูไบ ตั้งอยู่ภายในห้างสรรพสินค้าดูไบมอลล์ มีพื้นที่ขนาด 50 สนามฟุตบอล ทำลายสถิติโลกกินเนสบุ๊ค “กระจกอะคริลิคขนาดใหญ่ที่สุดในโลก” ด้วยความหนาของกระจกกว่า 750 มิลลิเมตร สามารถทนต่อแรงดันของน้ำกว่า 10 ล้านลิตรได้เป็นอย่างดี อีกทั้งมีความโปร่งใสจนผู้ชมสามารถชมสัตว์น้ำกว่า 33,000 ชนิดได้อย่างชัดเจน
ความเป็นที่สุดอีกเรื่องของดูไบที่ต้องพูดถึง คือ ระบบรถไฟฟ้าอัตโนมัติที่วิ่งยาวที่สุดในโลก ด้วยระยะทางถึง 74 กิโลเมตร หรือราว 46 ไมล์ แบ่งชั้นที่นั่งออกเป็น ชั้นโดยสารทั่วไปและชั้นโกลด์คลาส ให้บริการเส้นทางสายสีแดงและสีเขียว เปิดให้บริการเป็นทางการครั้งแรกในปี 2009
เปิดตัวครั้งแรกในปี 2010ด้วยการเป็นไอคอนตึกระฟ้าที่สูงที่สุดในโลก Burj Khalifa Building ทุบสถิติแชมป์เก่าอย่างไทเป ด้วยความสูงกว่า 800 เมตร จำนวนชั้นมากถึง 169 ชั้น ภายในตึกประกอบด้วย สำนักงาน ภ้ตตาคาร คอนโดที่พักอาศัย และโรงแรมหรูที่ออกแบบโดย จิออร์จิโอ อาร์มานี่
ท่ามกลางนครดูไบอันทันสมัยนี้ กลับไม่น่าเชื่อว่าในย่านใจกลางเมืองเก่าแก่เขตเดียรา(Deira) ซึ่งอยู่ติดกับช่องแคบของดูไบ ที่นี่นักท่องเที่ยวสามารถใช้บริการเรือข้ามฟากด้วยราคาแสนถูกเพียง 1 ดีแรห์ม หรือราว 25 เซ็นต์เท่านั้น และแม้จะยังไม่ได้รับการบันทึกอย่างเป็นทางการ แต่ก็นับเป็นราคาที่ถูกมากจริงๆ
หลากหลายเรื่องราวของความเป็นที่สุดแห่งดูไบช่วยส่งเสริมให้นครแห่งทะเลทรายเมืองนี้มีเสน่ห์และน่าค้นหา จริง ๆ ครับ ไม่แปลกใจเลยว่าเมื่อเอ่ยถึงเมืองท่องเที่ยวที่คนทั่วโลกใฝ่ฝันอยากไป ชื่อของดูไบ คืออีกชื่อหนึ่งในใจที่ใคร ๆ ต้องนึกถึง
แต่ก็น่ะเมืองนี้เป็นเมืองทะเลทราย สู้บ้านเราไม่ได้ อย่าลืมน่ะครับ ใชัของไทย เที่ยวของไทย อุดหนุนของไทยด้วย ♥
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้