เกริ่น
ความจริงผมไม่เคยให้ราคา "เพื่อน" คนนี้ที่ผมตั้งทู้ถึงหรอกครับ
เพราะผมรู้ดีว่า เพื่อนผมคนนี้ มันไม่ได้มีอะไรในกมลสมองเลย
ดีแต่ม่อไปวัน ๆ
กระทู้มันผมก็ไม่เคยแวะเข้าไปอ่านให้เสียตา แต่บางครั้งก็มีหลังไมค์ส่งกระทู้มันมาให้ผมดู
ฝากบอกว่า ตบเกรียนไอ้หน้าม่อให้หน่อย
วันนี้ เข้าพันทิปปั๊บ ผมก็ได้รับหลังไมค์ส่งกระทู้มันมาให้ดูอีก
พร้อมคำบอกว่า เฮ้ย ไอ้เพื่อนหล่อ มันกัดเอ็ง
จึงเป็นที่มาของกระทู้นี้
...............................................................
เรื่องเดิม
http://ppantip.com/topic/32485571
ไม่กล้าถกกันด้วยเหตุผล หลักคิด แค่เข้ามาย้อนยอก แล้วก็หายหัวไป
แต่มาแอบจิกกัด ลอบแขวะในทู้นี้
http://ppantip.com/topic/32487591
ก่อนอื่น อยากบอกคุณข้างบูรพาว่า หากจะแขวะ จะกัด จะแทะ ก็กล้า ๆ หน่อย
ตั้งทู้ถึง หรือโพสต์ถึงตรง ๆ เลย ไม่ต้องอ้อมค้อม ไม่ต้องใช้วิธีพาดพิง ด้วยการตีวัวกระทบคราด
เหมือนแอบซุกผ้าถุงพี่สาวเหลือน้อย แล้วโผล่หน้าออกมาร้องด่าคนอื่น
จะกัดใคร แขวะใคร ด่าใคร ต้องกล้าทำ ทำแล้วก็กล้ารับ
จำไว้
คุณข้างบูรพาครับ
ประเด็นเรื่อง "คนดี" ที่ผมสื่อถึงคุณ หรือคนอื่นถามคุณ
เป็นบริบท "คนดี" ที่เป็น fact ในสังคมที่อยู่ร่วมกัน แล้วมาถก มาคิด มาให้นิยามกัน
แต่คุณ ไม่มีสติปัญญาพอที่จะถก ที่จะหาเหตุผล ให้นิยามได้
ใช้วิธีไปก็อปคุณสมบัติคนดีจากตำราเล่มไหนไม่รู้มาอ้างว่า นี่แหละคือคนดีที่คุณบอกว่าคนอื่นไม่รู้
หากเอาตามที่คุณอ้างจากตำรา โลกนี้ไม่มีคนดีหรอกครับ
วันนี้ ยุคนี้ ไม่มีอรหันต์แล้ว
ไอ้คนดีที่คุณก็อปจากตำรามาแปะนี่ มันบอกถึงความบ้องตื้นทางสติปัญญาของคุณครับ
คิดดี คิดยังไงล่ะครับมันถึงจะดี
พูดดี คนชั่ว ๆ เลว ๆ ก็พูดได้ครับ
ทำดี ต่อให้เลวแสนเลว ชั่วสุดชั่ว ก็ทำดีได้ครับ
จะให้คิดดี พูดดี ทำดี แบบเซเว่นอีเลเว่นน่ะ อิมพอสสิเบิ้ลครับ
และหากยึดตามตำราที่คุณอ้างมา โลกนี้ก็ใสบริสุทธิ์ล่ะครับ
แต่มันเป็นไปไม่ได้ครับ ใน fact ที่สังคมเราเป็นอยู่
คิด พูด ทำ มันมีเหตุและปัจจัย มีองค์ประกอบแตกต่างกันอยู่
ไม่ว่าในกลุ่ม หรือปัจเจก
คิดอย่างหนึ่ง ปัจเจกอาจคิดว่าดี แต่กลุ่มเห็นว่าไม่ดี
คิดแบบหนึ่ง ทั้งกลุ่มอาจว่าดี แต่คนอื่น ๆ ในสังคมเห็นว่าไม่ดี
ไม่ต้องไปละเมอหาเรื่องทำ และเรื่องพูด
ขงจื้อสอนไว้ว่า คนจะดีจะเลว ให้ดูที่การกระทำของเขานั้นมีผลกระทบต่อสังคมอย่างไร
เห็นไหมครับ แบบอาบน้ำห้าขัน กินแต่ผัก ไม่นอนกับเมีย เหล้าไม่กิน บุหรี่ไม่แตะ ทำบุญทำกุศล
แต่สร้างความวุ่นวายให้บ้านเมืองอิ๊บอ๋ายเลย
เห็นไหมครับ ไอ้คนที่โดนชี้หน้าว่าเลว โกง สร้างโครงการ 30 บาท
ทำไมคนถึงเห็นว่าโรบินฮู้ดเป็นคนดี ?
ทั้งที่เป็นโจร
หากยึดตามตำราที่คุณอ้าง โรบินฮู้ดนี่ ดีไม่ได้หรอกครับ
ทำไมฝ่ายสัมพันธมิตรถึงเป็นฝ่ายดี ฮิตเลอร์ทำไมเป็นคนเลว
ทั้งที่ทั้งสองฝ่ายทำให้คนตายไปหลายสิบล้ายคนเหมือน ๆ คน
พอแระ ขี้เกียจสีซอ
คิดเองไม่ได้ก็แล้วไป
เรื่องระบบ กับ คน
เรื่องนี้สังคมไทยเถียงกันมาหลายสิบปีแล้วครับ
เถียงด้วยข้ออ้างเห่ย ๆ เหมือนทุกวันนี้แหละครับ คือยึดตัวบุคคลเป็นหลัก อ้างคนดีเป็นแบบ
มันถึงดีซะจนบ้านใกล้เรือนเคียงเขาไปถึงไหนต่อไหนแล้ว
ดีแบบไทย ๆ ดีแบบยึดตัวบุคคลนี่
ทำให้นึกถึงประธานาธิบดีเกาหลีเหนือครับ นั่นน่ะ สิ่งที่คนเกาหลีเหนือรับรู้ คือคนดีที่สุดในสามโลก
ในสังคมที่เขาพัฒนาแล้ว เขาจะยึดระบบเป็นหลักครับ
เพราะเขาผ่านการเรียนรู้มาแล้วว่า ถ้าระบบดี ต่อให้คนเลวแค่ไหน บ้านเมืองก็ไปได้
เพราะระบบนั้น จะมีกลไกในการแก้ไข ปรับปรุง ตรวจสอบ ถ่วงดุล
อเมริกา ยุโรป ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ เขาไม่ได้มีคนดีไปกว่าเราหรอกครับ
ประธานาธิบดีสหรัฐก็ไม่ได้ดีกว่านายกฯของเรา
นักการเมืองของประเทศที่ผมยกตัวอย่างมา ก็ไม่ได้ดีกว่าเรา เผลอเมื่อไรมันก็โกงเมื่อนั้นเหมือนกัน
แต่เพราะระบบเขาดี ทุกคนสามารถถูกตรวจสอบ ทุกคนต้องยืนอยู่ในที่แจ้ง
ไม่ใช่แบบดีและสะอาดอยุ่ในกรอบสี่เสา แบบตรวจสอบก็ไม่ได้
หากเราไปคิดว่า ต่อให้ระบบดี คนไม่ดี มันก็แทรกแซงระบบ
คิดไม่ถูกครับ เพราะหากระบบดี ไม่มีทางครับที่ใครจะแทรกแซงได้
ระบบนั้น ไม่ใช่สร้างปั๊บจะสมบูรณ์ปุ๊บ
ย่อมมีข่องโหว่ มีข้อบกพร่อง ซึ่งก็ต้องค่อยแก้ไขปรับปรุงพัฒนาไป
แม้กระทั่งวินัยสงฆ์ พระพุทธองค์ยังต้องค่อยสร้างค่อยแก้ค่อยบัญญัติยังใช้เวลา
เห็นไหมถึงวันนี้ ผ่านมาสองพันห้าร้อยกว่าปี ยังเห็นแย้งกันว่า 150 ข้อ หรือ 227 ข้อ
คนดีนั้น มันเป็นเรื่องที่ไม่มีกลไกป้องกัน เป็นเรื่องที่คนมากมายต้องไปเชื่อฟังคน ๆ เดียว หรือไม่กี่คน
จะมีอะไรรับประกันได้ล่ะ ว่าคนดีคนนั้น จะดีตลอดไป จะไม่มีอะไรอุบอิบไว้เบื้องหลัง
เมื่อยบ่ะ (คิดว่าสีซอไปก็ไร้ประโยชน์)
เอาเป็นว่า
ต่อไป ก่อนที่คุณจะหยามคนอื่นในเรื่องใด
คุณควรต้องมีภูมิรู้ในเรื่องนั้นพอตัวก่อน ไม่ใช่แขวะแล้วหายหัว ไม่ใช่โดนคนที่คุณแขวะเขาถามกลับแล้วทำเฉย
พอโดนไล่บี้ ชักจนมุม หาทางออกไม่เจอ ก็ไปก็อปตำรามาอ้างแบบไร้สำนึกความรับผิดชอบต่อการกระทำของตัวเอง
เหมือนเด็กที่ไม่มีความคิด ไม่มีเหตุผล แค่นจะเถียงเอาชนะเท่านั้นเอง
สุดท้าย
ในทัศนคติคนดีบ้านเมืองดีนั้น ทำไมเราไม่บวชกันทั้งประเทศซะล่ะ
หรือนำหลักธรรมคำสอนในศาสนามาเป็นรัฐธรรมนูญซะเลยล่ะ บ้านเมืองจะได้มีแต่คนดี ๆ
วาทกรรม "คนดี" มันก็แค่คำพูดที่ถูกผลิตขึ้นมาเพื่อโยนชั่วให้คนอื่นเท่านั้นเอง
อย่างที่ อ.นิธี เอียวศรีวงศ์ ว่าไว้ครับ อยู่กับคนเลวที่ตรวจสอบได้ ดีกว่าอยู่กับคนดีที่ตรวจสอบไม่ได้
คนอย่างทักษิณโกงหรือไม่โกง ตรวจสอบได้ครับ
แต่คนดีอย่างเปรม ใครตรวจสอบได้ แล้วมีอะไรเป็นหลักประกันว่าเปรมดีจริง ?
จำไว้ ทีหลังม่อไป อย่าบังอาจ
ไก่แจ้จงอยู่ตามประสาไก่แจ้ อย่าบังอาจกับแบรด พิตต์
มันคนละชั้ลลลลล...
จาก "ตระกองขวัญ" ถึง "ม่อ" กระทู้เบิกเนตร เปิดปัญญา แด่ม่อผู้ขาดแคลนความคิดที่น่าสงสาร
ความจริงผมไม่เคยให้ราคา "เพื่อน" คนนี้ที่ผมตั้งทู้ถึงหรอกครับ
เพราะผมรู้ดีว่า เพื่อนผมคนนี้ มันไม่ได้มีอะไรในกมลสมองเลย
ดีแต่ม่อไปวัน ๆ
กระทู้มันผมก็ไม่เคยแวะเข้าไปอ่านให้เสียตา แต่บางครั้งก็มีหลังไมค์ส่งกระทู้มันมาให้ผมดู
ฝากบอกว่า ตบเกรียนไอ้หน้าม่อให้หน่อย
วันนี้ เข้าพันทิปปั๊บ ผมก็ได้รับหลังไมค์ส่งกระทู้มันมาให้ดูอีก
พร้อมคำบอกว่า เฮ้ย ไอ้เพื่อนหล่อ มันกัดเอ็ง
จึงเป็นที่มาของกระทู้นี้
...............................................................
เรื่องเดิม
http://ppantip.com/topic/32485571
ไม่กล้าถกกันด้วยเหตุผล หลักคิด แค่เข้ามาย้อนยอก แล้วก็หายหัวไป
แต่มาแอบจิกกัด ลอบแขวะในทู้นี้
http://ppantip.com/topic/32487591
ก่อนอื่น อยากบอกคุณข้างบูรพาว่า หากจะแขวะ จะกัด จะแทะ ก็กล้า ๆ หน่อย
ตั้งทู้ถึง หรือโพสต์ถึงตรง ๆ เลย ไม่ต้องอ้อมค้อม ไม่ต้องใช้วิธีพาดพิง ด้วยการตีวัวกระทบคราด
เหมือนแอบซุกผ้าถุงพี่สาวเหลือน้อย แล้วโผล่หน้าออกมาร้องด่าคนอื่น
จะกัดใคร แขวะใคร ด่าใคร ต้องกล้าทำ ทำแล้วก็กล้ารับ
จำไว้
คุณข้างบูรพาครับ
ประเด็นเรื่อง "คนดี" ที่ผมสื่อถึงคุณ หรือคนอื่นถามคุณ
เป็นบริบท "คนดี" ที่เป็น fact ในสังคมที่อยู่ร่วมกัน แล้วมาถก มาคิด มาให้นิยามกัน
แต่คุณ ไม่มีสติปัญญาพอที่จะถก ที่จะหาเหตุผล ให้นิยามได้
ใช้วิธีไปก็อปคุณสมบัติคนดีจากตำราเล่มไหนไม่รู้มาอ้างว่า นี่แหละคือคนดีที่คุณบอกว่าคนอื่นไม่รู้
หากเอาตามที่คุณอ้างจากตำรา โลกนี้ไม่มีคนดีหรอกครับ
วันนี้ ยุคนี้ ไม่มีอรหันต์แล้ว
ไอ้คนดีที่คุณก็อปจากตำรามาแปะนี่ มันบอกถึงความบ้องตื้นทางสติปัญญาของคุณครับ
คิดดี คิดยังไงล่ะครับมันถึงจะดี
พูดดี คนชั่ว ๆ เลว ๆ ก็พูดได้ครับ
ทำดี ต่อให้เลวแสนเลว ชั่วสุดชั่ว ก็ทำดีได้ครับ
จะให้คิดดี พูดดี ทำดี แบบเซเว่นอีเลเว่นน่ะ อิมพอสสิเบิ้ลครับ
และหากยึดตามตำราที่คุณอ้างมา โลกนี้ก็ใสบริสุทธิ์ล่ะครับ
แต่มันเป็นไปไม่ได้ครับ ใน fact ที่สังคมเราเป็นอยู่
คิด พูด ทำ มันมีเหตุและปัจจัย มีองค์ประกอบแตกต่างกันอยู่
ไม่ว่าในกลุ่ม หรือปัจเจก
คิดอย่างหนึ่ง ปัจเจกอาจคิดว่าดี แต่กลุ่มเห็นว่าไม่ดี
คิดแบบหนึ่ง ทั้งกลุ่มอาจว่าดี แต่คนอื่น ๆ ในสังคมเห็นว่าไม่ดี
ไม่ต้องไปละเมอหาเรื่องทำ และเรื่องพูด
ขงจื้อสอนไว้ว่า คนจะดีจะเลว ให้ดูที่การกระทำของเขานั้นมีผลกระทบต่อสังคมอย่างไร
เห็นไหมครับ แบบอาบน้ำห้าขัน กินแต่ผัก ไม่นอนกับเมีย เหล้าไม่กิน บุหรี่ไม่แตะ ทำบุญทำกุศล
แต่สร้างความวุ่นวายให้บ้านเมืองอิ๊บอ๋ายเลย
เห็นไหมครับ ไอ้คนที่โดนชี้หน้าว่าเลว โกง สร้างโครงการ 30 บาท
ทำไมคนถึงเห็นว่าโรบินฮู้ดเป็นคนดี ?
ทั้งที่เป็นโจร
หากยึดตามตำราที่คุณอ้าง โรบินฮู้ดนี่ ดีไม่ได้หรอกครับ
ทำไมฝ่ายสัมพันธมิตรถึงเป็นฝ่ายดี ฮิตเลอร์ทำไมเป็นคนเลว
ทั้งที่ทั้งสองฝ่ายทำให้คนตายไปหลายสิบล้ายคนเหมือน ๆ คน
พอแระ ขี้เกียจสีซอ
คิดเองไม่ได้ก็แล้วไป
เรื่องระบบ กับ คน
เรื่องนี้สังคมไทยเถียงกันมาหลายสิบปีแล้วครับ
เถียงด้วยข้ออ้างเห่ย ๆ เหมือนทุกวันนี้แหละครับ คือยึดตัวบุคคลเป็นหลัก อ้างคนดีเป็นแบบ
มันถึงดีซะจนบ้านใกล้เรือนเคียงเขาไปถึงไหนต่อไหนแล้ว
ดีแบบไทย ๆ ดีแบบยึดตัวบุคคลนี่
ทำให้นึกถึงประธานาธิบดีเกาหลีเหนือครับ นั่นน่ะ สิ่งที่คนเกาหลีเหนือรับรู้ คือคนดีที่สุดในสามโลก
ในสังคมที่เขาพัฒนาแล้ว เขาจะยึดระบบเป็นหลักครับ
เพราะเขาผ่านการเรียนรู้มาแล้วว่า ถ้าระบบดี ต่อให้คนเลวแค่ไหน บ้านเมืองก็ไปได้
เพราะระบบนั้น จะมีกลไกในการแก้ไข ปรับปรุง ตรวจสอบ ถ่วงดุล
อเมริกา ยุโรป ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ เขาไม่ได้มีคนดีไปกว่าเราหรอกครับ
ประธานาธิบดีสหรัฐก็ไม่ได้ดีกว่านายกฯของเรา
นักการเมืองของประเทศที่ผมยกตัวอย่างมา ก็ไม่ได้ดีกว่าเรา เผลอเมื่อไรมันก็โกงเมื่อนั้นเหมือนกัน
แต่เพราะระบบเขาดี ทุกคนสามารถถูกตรวจสอบ ทุกคนต้องยืนอยู่ในที่แจ้ง
ไม่ใช่แบบดีและสะอาดอยุ่ในกรอบสี่เสา แบบตรวจสอบก็ไม่ได้
หากเราไปคิดว่า ต่อให้ระบบดี คนไม่ดี มันก็แทรกแซงระบบ
คิดไม่ถูกครับ เพราะหากระบบดี ไม่มีทางครับที่ใครจะแทรกแซงได้
ระบบนั้น ไม่ใช่สร้างปั๊บจะสมบูรณ์ปุ๊บ
ย่อมมีข่องโหว่ มีข้อบกพร่อง ซึ่งก็ต้องค่อยแก้ไขปรับปรุงพัฒนาไป
แม้กระทั่งวินัยสงฆ์ พระพุทธองค์ยังต้องค่อยสร้างค่อยแก้ค่อยบัญญัติยังใช้เวลา
เห็นไหมถึงวันนี้ ผ่านมาสองพันห้าร้อยกว่าปี ยังเห็นแย้งกันว่า 150 ข้อ หรือ 227 ข้อ
คนดีนั้น มันเป็นเรื่องที่ไม่มีกลไกป้องกัน เป็นเรื่องที่คนมากมายต้องไปเชื่อฟังคน ๆ เดียว หรือไม่กี่คน
จะมีอะไรรับประกันได้ล่ะ ว่าคนดีคนนั้น จะดีตลอดไป จะไม่มีอะไรอุบอิบไว้เบื้องหลัง
เมื่อยบ่ะ (คิดว่าสีซอไปก็ไร้ประโยชน์)
เอาเป็นว่า
ต่อไป ก่อนที่คุณจะหยามคนอื่นในเรื่องใด
คุณควรต้องมีภูมิรู้ในเรื่องนั้นพอตัวก่อน ไม่ใช่แขวะแล้วหายหัว ไม่ใช่โดนคนที่คุณแขวะเขาถามกลับแล้วทำเฉย
พอโดนไล่บี้ ชักจนมุม หาทางออกไม่เจอ ก็ไปก็อปตำรามาอ้างแบบไร้สำนึกความรับผิดชอบต่อการกระทำของตัวเอง
เหมือนเด็กที่ไม่มีความคิด ไม่มีเหตุผล แค่นจะเถียงเอาชนะเท่านั้นเอง
สุดท้าย
ในทัศนคติคนดีบ้านเมืองดีนั้น ทำไมเราไม่บวชกันทั้งประเทศซะล่ะ
หรือนำหลักธรรมคำสอนในศาสนามาเป็นรัฐธรรมนูญซะเลยล่ะ บ้านเมืองจะได้มีแต่คนดี ๆ
วาทกรรม "คนดี" มันก็แค่คำพูดที่ถูกผลิตขึ้นมาเพื่อโยนชั่วให้คนอื่นเท่านั้นเอง
อย่างที่ อ.นิธี เอียวศรีวงศ์ ว่าไว้ครับ อยู่กับคนเลวที่ตรวจสอบได้ ดีกว่าอยู่กับคนดีที่ตรวจสอบไม่ได้
คนอย่างทักษิณโกงหรือไม่โกง ตรวจสอบได้ครับ
แต่คนดีอย่างเปรม ใครตรวจสอบได้ แล้วมีอะไรเป็นหลักประกันว่าเปรมดีจริง ?
จำไว้ ทีหลังม่อไป อย่าบังอาจ
ไก่แจ้จงอยู่ตามประสาไก่แจ้ อย่าบังอาจกับแบรด พิตต์
มันคนละชั้ลลลลล...