มีสปอยล์นะครับ
ก่อนอื่นเลยก็บอกว่าไปดูหนังเรื่องนี้เพราะชอบ Liam Neeson มากครับ
เห็น Trailer ก็คาดว่าไม่น่าจะใช่หนังเบาสมองสักเท่าไร คะแนนในเว็บต่างๆแต่ค่อนข้างต่ำ
Rotten 22% imdb 6.5/10 meta score 37/100 แต่ก็ยังอยากจะไปดู
พอดูจบแล้วรู้สึกว่าเป็นหนังที่สื่อถึง Theme ของหนังได้ชัดเจนมาก นั่นคือ การชดใช้ความผิด
ผ่านการเขียน Fiction ของตัวไมเคิลเอง
ถามว่ายังไง หากลองดูเนื้อเรื่องของทั้งสามเรื่องแล้ว
1.เรื่องราวของจูเลียผู้ที่ทุกคนกล่าวหาว่าทำผิดต่อลูก ต้องการที่จะพบลูกอีกครั้ง
2.เรื่องราวของสก็อตหนุ่มอเมริกาที่ยอมจ่ายเงินให้กับคนไม่รู้จักเพื่อให้เขาได้พบกับลูก
โดยเรื่องทั้งสองนี้จะมีจุดโยงกันคือการที่ทำเพื่อลูก(ของตัวเองหรือของคนอื่น)โดยมีเหตุผลในเรื่องมารองรับได้เป็นอย่างดี
และอีกเรื่องย่อยที่ผมยังไม่ค่อยเข้าใจ
3.เรื่องของตัวไมเคิลเองที่เป็นจินตนาการ สำหรับผมผมตีความว่าการที่ตอนนั้นไมเคิลไม่ได้อยู่เพื่อลูกก็เลยพบกับจุดจบอย่างนั้น
โดยรวมแล้วเป็นหนังที่เรื่อยๆไม่มีจุดพีคแต่ก็ค่อยๆดำเนินเรื่องจนปมนั้นคลายออกในตอนจบ นักแสดงผมว่าทำได้ค่อนข้างดี
หนังมีการถ่ายทอดทางภาพได้เยี่ยมคือดูแล้วรู้ว่าเกิดอะไรขึ้น หรือ ตัวละครคิดอย่างไรตอนนั้น แต่ตอนแรกทำคนดูงงกับของที่เหมือนกันในแต่ละเรื่อง(โน้ตที่จดไว้ , กุหลาบ , การถ่ายทำบางฉากที่ต่อเนื่องกัน) ซึ่งมันก็ไม่ได้เกี่ยวข้องกันจริงๆเหมือนใส่ไว้เพื่อให้รู้ว่าทั้งหมดนี้เป็นเรื่องเล่าของไมเคิลที่ใส่ของเหล่านี้ไว้เหมือนเป็น gimmick มากกว่า
โดยรวมแล้วผมว่าเป็นหนังที่โอเค อาจจะดูแล้วไม่รู้เรื่องสำหรับบางคน ถ้าตาไม่ไวพอ
เช่น ตอน สก๊อตถามว่าอยากเจอลูก แล้วยิปซีบอกว่าคุณที่โง่จริงๆที่เชื่อฉัน หลายๆคนก็อาจจะนึกว่าไม่มีลูกของยิปซีอยู่จริงๆ
แต่ตอนขับรถตอนสุดท้ายลูกของยิปซีจะโผล่มาให้เห็นแว้บๆในเบาะรถข้างหลัง
ผมให้ 7/10 ครับสำหรับเรื่องนี้ในแง่ของเนื้อเรื่องที่สื่อถึง Theme ได้ชัดเจน ฉากจบอาจจะสิ้นคิดไปหน่อยครับ
แต่ผมก็มีประเด็นที่ยังสงสัยอยู่ครับคือ
1.ฉากที่แอนนาโยนนาฬิกาลงอ่างน้ำมีต้องการจะสื่อว่าอะไรครับ?
2.สมาขิกท่านอื่นตีความเรื่องจินตนาการของไมเคิลว่าอย่างไรบ้างครับ?
แท๊ครางวัลภาพยนตร์เพราะผู้กำกับคือ Paul Haggis ผู้กำกับ Crash (2004)
Third Person ความรู้สึกหลังไปดูครับ(สปอยล์)
ก่อนอื่นเลยก็บอกว่าไปดูหนังเรื่องนี้เพราะชอบ Liam Neeson มากครับ
เห็น Trailer ก็คาดว่าไม่น่าจะใช่หนังเบาสมองสักเท่าไร คะแนนในเว็บต่างๆแต่ค่อนข้างต่ำ
Rotten 22% imdb 6.5/10 meta score 37/100 แต่ก็ยังอยากจะไปดู
พอดูจบแล้วรู้สึกว่าเป็นหนังที่สื่อถึง Theme ของหนังได้ชัดเจนมาก นั่นคือ การชดใช้ความผิด
ผ่านการเขียน Fiction ของตัวไมเคิลเอง
ถามว่ายังไง หากลองดูเนื้อเรื่องของทั้งสามเรื่องแล้ว
1.เรื่องราวของจูเลียผู้ที่ทุกคนกล่าวหาว่าทำผิดต่อลูก ต้องการที่จะพบลูกอีกครั้ง
2.เรื่องราวของสก็อตหนุ่มอเมริกาที่ยอมจ่ายเงินให้กับคนไม่รู้จักเพื่อให้เขาได้พบกับลูก
โดยเรื่องทั้งสองนี้จะมีจุดโยงกันคือการที่ทำเพื่อลูก(ของตัวเองหรือของคนอื่น)โดยมีเหตุผลในเรื่องมารองรับได้เป็นอย่างดี
และอีกเรื่องย่อยที่ผมยังไม่ค่อยเข้าใจ
3.เรื่องของตัวไมเคิลเองที่เป็นจินตนาการ สำหรับผมผมตีความว่าการที่ตอนนั้นไมเคิลไม่ได้อยู่เพื่อลูกก็เลยพบกับจุดจบอย่างนั้น
โดยรวมแล้วเป็นหนังที่เรื่อยๆไม่มีจุดพีคแต่ก็ค่อยๆดำเนินเรื่องจนปมนั้นคลายออกในตอนจบ นักแสดงผมว่าทำได้ค่อนข้างดี
หนังมีการถ่ายทอดทางภาพได้เยี่ยมคือดูแล้วรู้ว่าเกิดอะไรขึ้น หรือ ตัวละครคิดอย่างไรตอนนั้น แต่ตอนแรกทำคนดูงงกับของที่เหมือนกันในแต่ละเรื่อง(โน้ตที่จดไว้ , กุหลาบ , การถ่ายทำบางฉากที่ต่อเนื่องกัน) ซึ่งมันก็ไม่ได้เกี่ยวข้องกันจริงๆเหมือนใส่ไว้เพื่อให้รู้ว่าทั้งหมดนี้เป็นเรื่องเล่าของไมเคิลที่ใส่ของเหล่านี้ไว้เหมือนเป็น gimmick มากกว่า
โดยรวมแล้วผมว่าเป็นหนังที่โอเค อาจจะดูแล้วไม่รู้เรื่องสำหรับบางคน ถ้าตาไม่ไวพอ
เช่น ตอน สก๊อตถามว่าอยากเจอลูก แล้วยิปซีบอกว่าคุณที่โง่จริงๆที่เชื่อฉัน หลายๆคนก็อาจจะนึกว่าไม่มีลูกของยิปซีอยู่จริงๆ
แต่ตอนขับรถตอนสุดท้ายลูกของยิปซีจะโผล่มาให้เห็นแว้บๆในเบาะรถข้างหลัง
ผมให้ 7/10 ครับสำหรับเรื่องนี้ในแง่ของเนื้อเรื่องที่สื่อถึง Theme ได้ชัดเจน ฉากจบอาจจะสิ้นคิดไปหน่อยครับ
แต่ผมก็มีประเด็นที่ยังสงสัยอยู่ครับคือ
1.ฉากที่แอนนาโยนนาฬิกาลงอ่างน้ำมีต้องการจะสื่อว่าอะไรครับ?
2.สมาขิกท่านอื่นตีความเรื่องจินตนาการของไมเคิลว่าอย่างไรบ้างครับ?
แท๊ครางวัลภาพยนตร์เพราะผู้กำกับคือ Paul Haggis ผู้กำกับ Crash (2004)