จากกระแส “Ice Bucket Challenge” สำหรับกิจกรรมบริจาคเงินช่วยเหลือผู้ป่วยโรคกล้ามเนื้ออ่อนแรง (ALS) ที่ใช้น้ำแช่น้ำแข็งเทราดรดลงบนศีรษะ แล้วส่งคำท้าในการกระทำแบบนี้ต่อกันเป็นทอดๆ โดยคนที่เอาน้ำแข็งราดหัวจะต้องโพสต์วีดิโอขึ้นโซเชียลมีเดีย หรือเลือกที่จะบริจาคเงิน นั้น
พอดีเพิ่งจะนึกขึ้นได้ว่า คุณแม่ ของคุณนัท มีเรีย ก็ป่วย เป็นโรค ALS เหมือนกัน
ขอเป็นกำลังใจให้คุณนัท ดูแลคุณแม่ ให้มีอาการดีขึ้น
และนี่คือบทสัมภาษณ์ล่าสุด ที่คุณนัท พูดถึงเกี่ยวกับคุณแม่
(ที่มา : นิตยสารแพรวฉบับ 839 (10 สิงหาคม 2557) คอลัมน์ เรื่องพิเศษ)
นอกจากนัท มีเรียจะมีประสบการณ์ใกล้ชิดพระองค์ท่านในฐานะศิลปินที่ได้ทำงานถวายแล้ว ในส่วนของคุณแม่ (จินดา เต็งมีศรี) ก็ยังได้รับพระมหากรุณาธิคุณจากสมเด็จพระนางเจ้าฯ โดยเป็นคนไข้ในพระราชินูปถัมภ์
"คุณแม่ป่วยเป็นโรค ALS หรือกล้ามเนื้ออ่อนแรง ต้องรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลศิริราช ปัจจุบันโรคนี้ยังไม่มีวิธีรักษา มีเพียงยาที่ช่วยประคองอาการ เราเคยทดลองรักษาด้วยการทำสเต็มเซลล์ แต่ไม่ได้ผล อาการของโรคนี้คือผู้ป่วยจะไม่มีแรง ซึ่งคุณแม่ของนัทเองก็มีอาการเซลล์ประสาทไขสันหลังเสื่อมอยู่แล้ว ทำให้ร่างกายไม่ค่อยมีแรงเคลื่อนไหว ไม่ว่าจะเป็นการขยับปาก การกลืน การรับประทานอาหาร และยังรวมถึงกล้ามเนื้อหัวใจที่ไม่สามารถบีบรัดเองได้ จึงต้องใช้เครื่องช่วยหายใจ เพื่อให้ออกซิเจนเข้าไปเลี้ยงหัวใจ และสมอง
"หลังจากนัทดูแลอาการป่วยของคุณแม่ได้ประมาณ 3 ปีกว่า พี่ตุ๊ก - เดือนเต็ม สาลิตุล แนะนำว่าให้ลองขอพระราชทานขอเป็นคนไข้ในสมเด็จฯ เพราะพี่ลินดา ค้าธัญเจริญ ซึ่งได้รับพระมหากรุณาธิคุณจากสมเด็จฯ อยู่ แนะนำมา นัทจึงเขียนจดหมายเล่าถึงอาการป่วยของคุณแม่ส่งไปทางกองราชเลขาในสมเด็จพระนางเจ้าฯ จากนั้นทางกองราชเลขาได้ติดต่อพูดคุย เช็คประวัติ อาการ และการรักษาที่ผ่านมา ซึ่งอาการป่วยของคุณแม่ถือว่าเป็นเคสที่ค่อนข้างยาก
"วันแรกที่ทราบว่าทรงมีพระมหากรุณาธิคุณรับคุณแม่นัทเป็นคนไข้ในพระองค์ นัทดีใจมากๆ เป็นความปลื้มปิติอย่างหาที่สุดไม่ได้...(เสียงเครือ) เพราะสำหรับคนป่วยนั้นการเป็นคนไข้ของพระองค์ท่านจะทำให้มีกำลังใจที่จะสู้ต่อ ซึ่งกำลังใจนี้ยิ่งใหญ่มากจริงๆ ทำให้คุณแม่ของนัทสู้มาจนถึงวันนี้
"ตอนที่นัทบอกคุณแม่ว่าพระองค์ทรงรับเป็นคนไข้ของพระองค์ แม้จะพูดไม่ได้ แต่ท่านสื่อสารผ่านทางสายตา พอนัทถามว่าแม่ดีใจไหม แม่ก็กะพริบตา ตลอดระยะเวลาที่รักษาทางกองราชเลขาฯ ก็จะแจ้งข่าวตลอดว่า พระองค์ทรงทราบเรื่องแล้วนะ ทรงอ่านรายงานผลการรักษาของคุณแม่ทุกฉบับ
"เมื่อถึงวันสำคัญต่างๆ อย่างวันปีใหม่ วันแม่ นัทจะเขียนการ์ดขอบคุณส่งไปถวายพระองค์ท่านเสมอ เวลาสวดมนต์ไหว้พระก็จะขอพรให้พระองค์มีพระพลานามัยที่แข็งแรง ทรงพระเกษมสำราญ
"ถ้ามีโอกาสได้เข้าเฝ้าฯ อีกครั้ง นัทอยากจะทูลฯว่านัทโชคดีและมีบุญเหลือเกินที่ได้เกิดมาเป็นคนไทย เป็นประชาชนของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ พระองค์ทรงเป็นทุกอย่าง เป็นทั้งพ่อแม่ เป็นที่พึ่งของประชาชน
"พระองค์ไม่เคยทอดทิ้งประชาชน และทรงทำทุกอย่างเพื่อประชาชนของพระองค์จริงๆ"
^___o
นัท มีเรีย... เล่าถึงคุณแม่ที่ป่วยเป็น ALS
พอดีเพิ่งจะนึกขึ้นได้ว่า คุณแม่ ของคุณนัท มีเรีย ก็ป่วย เป็นโรค ALS เหมือนกัน
ขอเป็นกำลังใจให้คุณนัท ดูแลคุณแม่ ให้มีอาการดีขึ้น
และนี่คือบทสัมภาษณ์ล่าสุด ที่คุณนัท พูดถึงเกี่ยวกับคุณแม่
(ที่มา : นิตยสารแพรวฉบับ 839 (10 สิงหาคม 2557) คอลัมน์ เรื่องพิเศษ)
นอกจากนัท มีเรียจะมีประสบการณ์ใกล้ชิดพระองค์ท่านในฐานะศิลปินที่ได้ทำงานถวายแล้ว ในส่วนของคุณแม่ (จินดา เต็งมีศรี) ก็ยังได้รับพระมหากรุณาธิคุณจากสมเด็จพระนางเจ้าฯ โดยเป็นคนไข้ในพระราชินูปถัมภ์
"คุณแม่ป่วยเป็นโรค ALS หรือกล้ามเนื้ออ่อนแรง ต้องรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลศิริราช ปัจจุบันโรคนี้ยังไม่มีวิธีรักษา มีเพียงยาที่ช่วยประคองอาการ เราเคยทดลองรักษาด้วยการทำสเต็มเซลล์ แต่ไม่ได้ผล อาการของโรคนี้คือผู้ป่วยจะไม่มีแรง ซึ่งคุณแม่ของนัทเองก็มีอาการเซลล์ประสาทไขสันหลังเสื่อมอยู่แล้ว ทำให้ร่างกายไม่ค่อยมีแรงเคลื่อนไหว ไม่ว่าจะเป็นการขยับปาก การกลืน การรับประทานอาหาร และยังรวมถึงกล้ามเนื้อหัวใจที่ไม่สามารถบีบรัดเองได้ จึงต้องใช้เครื่องช่วยหายใจ เพื่อให้ออกซิเจนเข้าไปเลี้ยงหัวใจ และสมอง
"หลังจากนัทดูแลอาการป่วยของคุณแม่ได้ประมาณ 3 ปีกว่า พี่ตุ๊ก - เดือนเต็ม สาลิตุล แนะนำว่าให้ลองขอพระราชทานขอเป็นคนไข้ในสมเด็จฯ เพราะพี่ลินดา ค้าธัญเจริญ ซึ่งได้รับพระมหากรุณาธิคุณจากสมเด็จฯ อยู่ แนะนำมา นัทจึงเขียนจดหมายเล่าถึงอาการป่วยของคุณแม่ส่งไปทางกองราชเลขาในสมเด็จพระนางเจ้าฯ จากนั้นทางกองราชเลขาได้ติดต่อพูดคุย เช็คประวัติ อาการ และการรักษาที่ผ่านมา ซึ่งอาการป่วยของคุณแม่ถือว่าเป็นเคสที่ค่อนข้างยาก
"วันแรกที่ทราบว่าทรงมีพระมหากรุณาธิคุณรับคุณแม่นัทเป็นคนไข้ในพระองค์ นัทดีใจมากๆ เป็นความปลื้มปิติอย่างหาที่สุดไม่ได้...(เสียงเครือ) เพราะสำหรับคนป่วยนั้นการเป็นคนไข้ของพระองค์ท่านจะทำให้มีกำลังใจที่จะสู้ต่อ ซึ่งกำลังใจนี้ยิ่งใหญ่มากจริงๆ ทำให้คุณแม่ของนัทสู้มาจนถึงวันนี้
"ตอนที่นัทบอกคุณแม่ว่าพระองค์ทรงรับเป็นคนไข้ของพระองค์ แม้จะพูดไม่ได้ แต่ท่านสื่อสารผ่านทางสายตา พอนัทถามว่าแม่ดีใจไหม แม่ก็กะพริบตา ตลอดระยะเวลาที่รักษาทางกองราชเลขาฯ ก็จะแจ้งข่าวตลอดว่า พระองค์ทรงทราบเรื่องแล้วนะ ทรงอ่านรายงานผลการรักษาของคุณแม่ทุกฉบับ
"เมื่อถึงวันสำคัญต่างๆ อย่างวันปีใหม่ วันแม่ นัทจะเขียนการ์ดขอบคุณส่งไปถวายพระองค์ท่านเสมอ เวลาสวดมนต์ไหว้พระก็จะขอพรให้พระองค์มีพระพลานามัยที่แข็งแรง ทรงพระเกษมสำราญ
"ถ้ามีโอกาสได้เข้าเฝ้าฯ อีกครั้ง นัทอยากจะทูลฯว่านัทโชคดีและมีบุญเหลือเกินที่ได้เกิดมาเป็นคนไทย เป็นประชาชนของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ พระองค์ทรงเป็นทุกอย่าง เป็นทั้งพ่อแม่ เป็นที่พึ่งของประชาชน
"พระองค์ไม่เคยทอดทิ้งประชาชน และทรงทำทุกอย่างเพื่อประชาชนของพระองค์จริงๆ"
^___o