สถานการณ์อีโบลาในแอฟริกาตะวันตกเลวร้ายลง

สถานการณ์การระบาดของเชื้อไวรัสอีโบลาในแอฟริกาตะวันตก ยังคงเลวร้ายหนัก ประชาชนในชุมชนแออัดที่ถูกปิดในไลบีเรีย ประสบภาวะขาดแคลนอาหาร


หลังจากที่รัฐบาลไลบีเรีย ประกาศให้ชุมชนแออัดเวสต์พอยท์ในกรุงมอนโรเวีย เป็นเขตแยกกัก
ทำให้ราคาอาหารพุ่งสูงขึ้น เนื่องจากไม่มีการเตือนล่วงหน้า และประชาชนไม่ได้สำรองอาหารและสิ่งของจำเป็นได้ทัน
จนชาวบ้านหลายคนขาดแคลนอาหาร ทางการต้องเร่งขนส่งอาหาร และน้ำดื่ม ไปยังชุมชนดังกล่าว


ขณะทีกินี เร่งส่งแพทย์กว่า 100 คน ไปยังพรมแดนที่ติดกับไลบีเรียและเซียร์ราลีโอน เพื่อสังเกตอาการของประชาชนที่ข้ามพรมแดนเข้ามา
โดยผู้นำกินีได้พบกับผู้แทนจากหลายสายการบิน เพื่อเรียกร้องให้เปิดเส้นทางมายังกรุงโกนากรีของกินี อีกครั้ง


ส่วนแอฟริกาใต้เป็นประเทศล่าสุด ที่ไม่อนุญาตให้คนที่มาจากไลบีเรีย เซียร์ราลีโอน และกินี เดินทางเข้าประเทศ
ขณะที่เซเนกัล ประกาศปิดพรมแดนที่ติดกับประเทศกินี เช่นเดียวกับชาด ที่ปิดพรมแดนด้านที่ติดกับไนจีเรีย เพื่อป้องกันไม่ให้เชื้ออีโบลาระบาดเข้ามาในประเทศ
อย่างไรก็ตาม องค์การอนามัยโลก ออกมาเตือนว่าการที่นานาชาติประกาศระงับเที่ยวบิน และ ปิดพรมแดนไปยังประเทศที่พบการแพร่ระบาด
จะทำให้พื้นที่ดังกล่าวประสบภาวะขาดแคลนอาหารอย่างหนัก


ขณะที่นายแพทย์เคนท์ แบรนท์ลี วัย 33 ปี และ นางแนนซี่ ริทโบล์ วัย 59 ปี อาสาสมัครชาวสหรัฐฯ ที่ติดเชื้ออีโบลา
ระหว่างปฏิบัติงานให้กับองค์กรแพทย์การกุศล ซามาริทัน เพิร์ส ในกรุงมอนโรเวียของไลบีเรีย หายเป็นปรกติแล้ว
หลังทั้งคู่ได้รับยาแซทแมพพ์ ก่อนถูกส่งตัวกลับมารักษาที่โรงพยาบาลมหาวิทยาลัยอีโมรี ในนครแอตแลนตา รัฐจอร์เจีย
ของสหรัฐฯ เป็นเวลา 3 สัปดาห์

นายแพทย์แบรนท์ลี ได้ขอบคุณคำอธิษฐานของทุกๆคน และขอบคุณพระเจ้าพระเจ้าที่ทรงตอบคำอธิษฐานเหล่านั้น และทรงรักษาเขาให้หายดี
ขณะที่นางริทโบล์ แม้ว่าจะปลอดจากเชื้อไวรัสแล้ว แต่ร่างกายก็ยังอยู่ในภาวะอ่อนแอ ครอบครัวจึงยังให้รักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาลต่อไปก่อน

ทั้งคู่ได้รับการรักษาด้วยยาแซทแมพพ์ ซึ่งไม่เคยทดลองใช้กับมนุษย์มาก่อน และจนถึงขณะนี้ยังไม่สามารถระบุได้ชัดเจนว่า
อาการของทั้งคู่ดีขึ้นเพราะยาแซทแมพพ์หรือไม่ ซึ่งบาทหลวงชาวสเปนวัย 75 วัย ได้รับยาตัวนี้เช่นกัน แต่ก็เสียชีวิต
ขณะที่เจ้าหน้าที่สาธารณสุข 3 คน ในไลบีเรีย มีอาการดีขึ้น


ล่าสุด มีรายงานว่า พบผู้ป่วยต้องสงสัยว่าติดเชื้อไวรัสอีโบลาเสียชีวิตในกรุงดับลินของไอร์แลนด์
เจ้าหน้าที่สาธารณสุขเปิดเผยว่า กำลังนำตัวอย่างเลือดไปตรวจสอบ และ คาดว่าจะทราบผลภายในวันนี้
โดยชายคนดังกล่าวเดินทางไปทำงานในเซียร์ราลีโอน เมื่อหลายสัปดาห์ที่แล้ว


ขณะที่มีรายงานว่า พบผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 70 คน ทางภาคเหนือของสาธารณรัฐประชาธิปไตยคองโก
และ ติดเชื้ออีกกว่า 592 คน ด้วยอาการอาเจียน ท้องร่วง และ เลือดออกภายในร่างกาย ซึ่งคล้ายกับเชื้อไวรัสอีโบลา
ทางการเร่งส่งแพทย์ และ เจ้าหน้าที่สาธารณสุข เข้าควบคุมสถานการณ์ แต่องค์การอนามัยโลก ระบุว่า โรคดังกล่าวไม่ใช่เชื้อไวรัสอีโบลา
แต่เป็นโรคกระเพาะอาหารอักเสบชนิดเลือดออก หรือ HGE

http://www.krobkruakao.com/ข่าวต่างประเทศ/99418/สถานการณ์อีโบลาในแอฟริกาตะวันตกเลวร้ายลง.html
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่