สวัสดีครับ ขออนุญาติตั้งกระทู้แรก ผิดพลาดประการใดขออภัย
เนื่องจากผมได้มีโอกาสได้ทำการศึกษาระบบ DRM (Digital Right Management) ซึ่งเป็นระบบในการป้องกันการละเมิดลิขสิทธิ์การเข้าถึงไฟล์ หรือการก้อปปี้ไฟล์โดยไม่ได้รับอนุญาติจากเจ้าของลิขสิทธิ์ โดยตัว DRM นั้นมีอยู่หลายเจ้า ผมจึงลองเลือกศึกษาจากเจ้าใหญ่ๆ ในท้องตลาด นั่นก็คือ
1. Adobe Access
2. Widevine Cypher (ของ Google)
3. Microsoft PlayReady
4. VideoGuard (ของ Cisco)
โดยในแต่ละ product มีความแตกต่างกันบ้างในรายละเอียด เช่น
- Server ใช้ OS แตกต่างกัน บางตัวต้องใช้ Redhat เท่านั้น ส่วน Microsoft ต้องเป็น Windows Server 2008 x64 หรือ Windows Server 2008 R2 x64 (โดยต้องติดตั้งเป็น native OS เท่านั้นห้ามเป็น Virtualize)
- ฝั่ง web video player นั้น adobe ใช้ flash เล่นได้, microsoft ใช้ silverlight, google ต้องลง plugin, ส่วน cisco ไม่ได้ระบุไว้
- ฝั่ง iOS&Android ทุก product บอกว่ารองรับได้วิธีการไม่ชัดเจน
- adobe&cisco รองรับการเล่นไฟล์แบบ offline ได้ และ adobe ยังมี feature ในการป้องกันการปรับเวลาย้อนกลับในเครื่อง client เพื่อที่จะดูหนังที่หมดอายุไปแล้วได้
- microsoft นับจำนวนครั้งที่เล่นไฟล์ได้
- microsoft&google มีระบุข้อมูลเบื้องต้นเกี่ยวกับราคา DRM software license ไว้ระดับหนึ่ง
แต่ข้อมูลเกี่ยวกับวิธีการ implement มีน้อยมาก คืออ่านแล้วไม่เข้าใจเลยว่าถ้าผมมี VDO Server เดิมอยู่แล้วแล้วต้องการทำ DRM จะต้องทำอย่างไรบ้างหากใช้ software DRM ของแต่ละเจ้าดังกล่าว
ดังนั้น ผมจึงตัดสินใจเหมือนคนทั่วๆ ไปคือติดต่อผ่าน contact us บนแต่ละหน้าเวบเพื่อรอการติดต่อกลับ ผลปรากฎว่า
- adobe ไม่มีการตอบกลับใดๆ เลย T_T
- google มีการตอบกลับอย่างรวดเร็ว ซึ่งรายละเอียดคล้าย FAQ บนเวบ ส่วนการ implement นั้น ถ้าหา partner ในไทยมา implement ให้ไม่ได้จะต้องส่งคนขั้นต่ำ 2 คนไป train และสอบ certify ให้ผ่านที่สหรัฐเท่านั้น (ความรู้ขั้นต่ำของผู้ที่จะส่งไป train ก็ต้องเก่งมากด้วย) และ certificate มีอายุ 2 ปี
- cisco มีคนจาก cisco Malaysia โทรศัพท์มาเลยครับ เป็นคนไทยที่ทำงานอยู่ที่นั่น แต่เค้าไม่รู้รายละเอียดมากเลยแจ้งว่าจะให้ partner ประเทศไทยติดต่อผมกลับมาอีกทีหนึ่ง จากนั้นก็เงียบ... ผมจึงอีเมล์ไปถามคน Malaysia นั้นอีกที เค้าบอกจะเร่งให้
- microsoft ผมไม่ได้ติดต่อผ่านหน้าเวบเพราะผมรู้ว่ามี microsoft ประเทศไทย เฮ้!!! หลังจากการติดต่อไปหา microsoft partner เจ้าต่างๆ 2-3 ราย พบว่าเจ้าหน้าที่ยังไม่รู้จักชื่อ product ตัวนี้เลยและแจ้งว่าจะหาข้อมูลและติดต่อกลับมา จากนั้นก็ไม่มีวี่แววใดๆ จึงติดต่อเพิ่มเติมในเวบ product หลัก จากนั้นมี microsoft JP ติดต่อกลับมาขอนัด conference call ด้วยซึ่งถ้าได้คุยด้วยแล้วจะกลับมา update status อีกครั้งนะครับ
ประเด็น
- ในแง่ของ Management นั้น ผมไม่สามารถหาข้อมูลเบื้องต้นได้เลยเช่นต้องใช้ cost ทั้งหมดเท่าไหร่, ต้องลงทุนเครื่อง server อะไรเพิ่มอีกบ้าง, implement อย่างไร, จะ integrate เข้ากับ architecture เดิมได้อย่างไร, limitation&scope ของ software มีอะไรบ้าง, timeline ในการ implement นานหรือไม่, ใช้ resource กี่คน เป็นต้น
- Partner ที่ผมติดต่อไปในประเทศไทยไม่มีข้อมูลพวก DRM เลย
- มีบริษัทไหนในไทยที่ทำ DRM แล้วบ้าง?
- แล้วแต่ละบริษัทในไทยจะเริ่มป้องกันการละเมิดลิขสิทธิ์ได้อย่างไร ในเมื่อผู้ผลิต DRM ในไทยตอบโจทย์ไม่ได้!!!
DRM กับปัญหาการป้องกันลิขสิทธิ์ในประเทศไทยไม่ได้
เนื่องจากผมได้มีโอกาสได้ทำการศึกษาระบบ DRM (Digital Right Management) ซึ่งเป็นระบบในการป้องกันการละเมิดลิขสิทธิ์การเข้าถึงไฟล์ หรือการก้อปปี้ไฟล์โดยไม่ได้รับอนุญาติจากเจ้าของลิขสิทธิ์ โดยตัว DRM นั้นมีอยู่หลายเจ้า ผมจึงลองเลือกศึกษาจากเจ้าใหญ่ๆ ในท้องตลาด นั่นก็คือ
1. Adobe Access
2. Widevine Cypher (ของ Google)
3. Microsoft PlayReady
4. VideoGuard (ของ Cisco)
โดยในแต่ละ product มีความแตกต่างกันบ้างในรายละเอียด เช่น
- Server ใช้ OS แตกต่างกัน บางตัวต้องใช้ Redhat เท่านั้น ส่วน Microsoft ต้องเป็น Windows Server 2008 x64 หรือ Windows Server 2008 R2 x64 (โดยต้องติดตั้งเป็น native OS เท่านั้นห้ามเป็น Virtualize)
- ฝั่ง web video player นั้น adobe ใช้ flash เล่นได้, microsoft ใช้ silverlight, google ต้องลง plugin, ส่วน cisco ไม่ได้ระบุไว้
- ฝั่ง iOS&Android ทุก product บอกว่ารองรับได้วิธีการไม่ชัดเจน
- adobe&cisco รองรับการเล่นไฟล์แบบ offline ได้ และ adobe ยังมี feature ในการป้องกันการปรับเวลาย้อนกลับในเครื่อง client เพื่อที่จะดูหนังที่หมดอายุไปแล้วได้
- microsoft นับจำนวนครั้งที่เล่นไฟล์ได้
- microsoft&google มีระบุข้อมูลเบื้องต้นเกี่ยวกับราคา DRM software license ไว้ระดับหนึ่ง
แต่ข้อมูลเกี่ยวกับวิธีการ implement มีน้อยมาก คืออ่านแล้วไม่เข้าใจเลยว่าถ้าผมมี VDO Server เดิมอยู่แล้วแล้วต้องการทำ DRM จะต้องทำอย่างไรบ้างหากใช้ software DRM ของแต่ละเจ้าดังกล่าว
ดังนั้น ผมจึงตัดสินใจเหมือนคนทั่วๆ ไปคือติดต่อผ่าน contact us บนแต่ละหน้าเวบเพื่อรอการติดต่อกลับ ผลปรากฎว่า
- adobe ไม่มีการตอบกลับใดๆ เลย T_T
- google มีการตอบกลับอย่างรวดเร็ว ซึ่งรายละเอียดคล้าย FAQ บนเวบ ส่วนการ implement นั้น ถ้าหา partner ในไทยมา implement ให้ไม่ได้จะต้องส่งคนขั้นต่ำ 2 คนไป train และสอบ certify ให้ผ่านที่สหรัฐเท่านั้น (ความรู้ขั้นต่ำของผู้ที่จะส่งไป train ก็ต้องเก่งมากด้วย) และ certificate มีอายุ 2 ปี
- cisco มีคนจาก cisco Malaysia โทรศัพท์มาเลยครับ เป็นคนไทยที่ทำงานอยู่ที่นั่น แต่เค้าไม่รู้รายละเอียดมากเลยแจ้งว่าจะให้ partner ประเทศไทยติดต่อผมกลับมาอีกทีหนึ่ง จากนั้นก็เงียบ... ผมจึงอีเมล์ไปถามคน Malaysia นั้นอีกที เค้าบอกจะเร่งให้
- microsoft ผมไม่ได้ติดต่อผ่านหน้าเวบเพราะผมรู้ว่ามี microsoft ประเทศไทย เฮ้!!! หลังจากการติดต่อไปหา microsoft partner เจ้าต่างๆ 2-3 ราย พบว่าเจ้าหน้าที่ยังไม่รู้จักชื่อ product ตัวนี้เลยและแจ้งว่าจะหาข้อมูลและติดต่อกลับมา จากนั้นก็ไม่มีวี่แววใดๆ จึงติดต่อเพิ่มเติมในเวบ product หลัก จากนั้นมี microsoft JP ติดต่อกลับมาขอนัด conference call ด้วยซึ่งถ้าได้คุยด้วยแล้วจะกลับมา update status อีกครั้งนะครับ
ประเด็น
- ในแง่ของ Management นั้น ผมไม่สามารถหาข้อมูลเบื้องต้นได้เลยเช่นต้องใช้ cost ทั้งหมดเท่าไหร่, ต้องลงทุนเครื่อง server อะไรเพิ่มอีกบ้าง, implement อย่างไร, จะ integrate เข้ากับ architecture เดิมได้อย่างไร, limitation&scope ของ software มีอะไรบ้าง, timeline ในการ implement นานหรือไม่, ใช้ resource กี่คน เป็นต้น
- Partner ที่ผมติดต่อไปในประเทศไทยไม่มีข้อมูลพวก DRM เลย
- มีบริษัทไหนในไทยที่ทำ DRM แล้วบ้าง?
- แล้วแต่ละบริษัทในไทยจะเริ่มป้องกันการละเมิดลิขสิทธิ์ได้อย่างไร ในเมื่อผู้ผลิต DRM ในไทยตอบโจทย์ไม่ได้!!!