สวัสดีค่าาาาา!
กระทู้นี้เป็นรีวิวครั้งแรกหลังจากที่แอบอ่านกระทู้ของเพื่อนๆในห้องบลูแพลเน็ตมานาน
รีวิวนี้จะพาเพื่อนๆไปเที่ยวแบบฟรุ้งฟริ้ง มุ้งมิ้งในสิงค์โปร์ 3วัน2คืน ฉบับตามใจฉัน
เนื้อหากระทู้นี้จึงไม่ใช่เน้นเที่ยวแบบอัดแน่นจัดเต็ม หรือละเอียดครบทุกตารางนิ้ว
แต่เป็นการบันทึกการเดินทางแบบสบายใจ สบายอารมณ์ และสบายตา
(จริงๆก็แอบมีซีเรียสนะแกร ชั้นทำ Passport หายที่ประเทศนอก! จะทำยังไงดีล่ะเมื่อPassportหายที่สิงค์โปร์?? =,=” )
เพราะสิงค์โปร์ง่ายนิดเดียว ใครๆก็เที่ยวได้! พร้อมแล้วไปกันเลยยยยยยย!
เราเริ่มต้นออกเดินทางตอนวันหยุดยาววันแม่ที่ผ่านมา เริ่มต้นที่สนามบินดอนเมือง โดยสายการบินแอร์เอเชีย จองตั๋วก่อนออกเดินทางประมาณ 4เดือน ราคาคนละประมาณ 4พันกว่าบาทค่ะ
วันแรก Donmuang Airport >> Changi Airport >> Clarke Quay >> Merlion
เครื่องออกจากกรุงเทพตอน 7:05 น. (เผื่อเวลาCheck-in นานหน่อยก็ดีนะคะ เราเกือบตกเครื่อง โดยเฉพาะใครเดินทางที่ดอนเมืองตอนหยุดยาว เที่ยวบินระหว่างประเทศคนเยอะมวากกกกกกจีๆ ><) ถึง สิงค์โปร์ตอน 10:35 น. เมื่อถึงสิงค์โปร์ก็ไม่รอช้า หนึ่งมือหิ้วกระเป๋าสองเท้าก้าวขึ้นรถไฟ มุ่งตรงไปยัง Terminal 2 (นั่งรถไฟไปอีกTerminal ฟรีค่ะ) เพื่อซื้อบัตร EZ-Link (เราซื้อตั๋ว Tourist 3-day pass ราคา 30$ สามารถ Refund ค่ามัดจำคืนได้ 10$ ขากลับ คุ้มค่ะคุ้ม)
เพราะการเดินทางในสิงค์โปร์ครั้งนี้จะเป็น Walking Tour (ทีน)ล้วนๆ โดยอาศัย MRT และ รถเมล์ เป็นภาชนะ เอ้ย พาหนะคู่กาย
เอาล่ะค่ะ จาก Changi Airport มุ่งหน้าไปไปเก็บของที่โรงแรมค่ะ
เราพักที่ Riverview Hotel โรงแรมและห้องพักจัดว่าใหญ่ สะอาด ได้มาตรฐาน แต่ติดอยู่ตรงที่ไม่มีอาหารเช้า+อยู่ไกล MRT ห่างจาก MRT China Town มา 2 ป้ายรถเมล์ ถ้าใครเน้นเดินทางสะดวกแนะนำให้พักใกล้ๆกับสถานี MRT China Town ค่ะ เพราะที่พีกแถวนั้นก็มีเยอะนะคะ ที่พักน่ารักราคาก็ไม่แพงด้วย ไว้แก้ตัวคราวหน้า ^^
อุปกรณ์ยังชีพ ในการท่องเที่ยวต่างแดน
รูปจากชั้นห้องพักในโรงแรม ด้านหลังโรงแรมมีสะพานเดินไปร้านกาแฟและร้านอาหารฝั่งตรงข้ามได้ใกล้ๆ สบายๆ
เมื่อเก็บของเสร็จออกเดินจากหลังโรงแรม เดินเลียบคลองมาเรื่อยๆ ถ่ายรูปไป นั่งพักไป
เจอร้านกาแฟ Tony’s Estate สาขา Singapore (ร้านนี้มีสาขาแม่อยู่ที่ Brooklyn New York City ด้วยนะแจ๊ะ)
ร้านกิ๊บเก๋น่านั่ง เจ้าของร้านก็อัธยาศัยดี ถ้ามีเวลาหยิบ Laptop มานั่งทำงาน หรือพ็อคเก็ตบุ๊คซักเล่มคงเกร๋ไม่เบาอะแกรรร!
เดินเลียบคลองไปเรื่อยๆ
ก็ถึงย่าน Clarke Quay ค่ะ (อ่านว่า คลาค-คีย์ อย่าไปอ่านออกเสียงแบบอื่นละแกร - -)
วิวตรงมันดีชริงๆเลออออออ
เดินมาเรื่อยๆ (ไกลพอสมควร) ขาเริ่มหมดแรงเลยต่อรถเมล์ไปยัง Merlion หรือสิงค์โปร์พ่นน้ำ
กะว่าจะมาสร้างแลนด์มาร์คที่นี่ แต่วันที่ไป (9ส.ค. เป็นวันชาติสิงค์โปร์) ก็เลยเจอเจ้าของประเทศมาสร้างแลนด์มาร์ค
กันอย่างเนืองแน่น คนไทยอย่างเราขอโบกมือบ๊ายบายคลื่นมหาประชาชน
หนีมากินเค้กแบบ New Yorker สวยๆที่ร้าน Lady M ตรง One Fullerton (ข้างๆ Merlion)
เครปเค้กชาเขียวที่นี้อร่อยอย่าบอกใคร (แต่ถ้าใบเสร็จมา ช่วยบอกคนอื่นด้วยจะได้มีคนช่วยหาร เพราะราคาเอาเรื่องอยู่เหมือนกัน)
กินเสร็จกลัวฝนถล่มเลยรีบเรียก Taxi (ตอนนั้นขาพี่ลากมาก มากกว่าพี่มากขาอีก) กลับไปดินเนอร์แถวโรงแรม
(เซเว่นอีเลเล่นเรสเทอร์รอล์งฟอร์ดินเนอร์)
กินเสร็จ ไปเดินเล่นหลังโรงแรมซะหน่อย ได้วิวนี้กลับมา หลับฝันดี
วันที่ 2 Universal Singapore >> Marina Bay Sands >> Singapore Flyer (แถมโรงพักสิงค์โปร์ให้ด้วย)
วันนี้ตื่นแต่เช้าตั้งใจจะไปกินอาหารเช้าแบบชาวสิงค์โปร์ที่ร้าน Ya Kun Kaya Toast สาขา China Street แต่ร้านปิดค่ะ! สันนิฐานว่าเจ้าของร้านชาวสิงค์โปร์เชื้อสายจีนน่าจะปิดไปไหว้สารทจีน (ไปถึงวันไหว้พอดี) ชาวไทยเชื้อชาติจีนแบบเราก็คอตก อกหัก รักคุด ตุ๊ดเมิน น้ำตาคลอ (อันนี้ก็เว่อร์ไป กะอิแค่ร้านอาหารปิดอะไรจะขนาดน้านนน)
ร้านปิด อดเลย T___T ใครอยากกินแบบไม่ต้องมาถึงสิงค์โปร์ ร้านนี้เพิ่งมาเปิดสาขาที่กรุงเทพ อยู่ที่ I'm Park Chula นะคะ
เราเลยเดินไปยัง China Town หาร้านอาหารเช้าแถวนั้นกินแทนค่ะ
จากนั้นก็มุ่งหน้าสู่ Universal Studio โดยขึ้น MRT Harbourfront เข้าสู่ห้าง Vivo City เพื่อนั่งรถไฟสาย Sentosa Express
ข้ามไปยังเกาะ Sentosa ค่ะ บัตร Ez-Link จ่ายค่ารถไฟ+เข้าเกาะเพิ่มคนละ 4$ ค่ะ
วิวระหว่างทาง
ถึงแล้วววววววววววววว!
บัตร Universal Studio เราซื้อจากเมืองไทยไปค่ะ ราคา 1,700 บาท
ข้างในมีร้านค้าและที่ให้ถ่ายรูปเยอะแยะเลย
อาจเป็นเพราะว่าวันที่ไปคือวันอาทิตย์ ทำให้เครื่องเล่น ต้องรอคิวนานมาก อย่างต่ำก็ 30 นาที บางอันฮ็อทหน่อยก็รอ 70นาทีค่ะ เรารอรถไฟเหาะตรงโซน Jurassic Park ไป 70นาที เล่นจริงไม่ถึง 5 นาที (คือร่ะะะะ!)
แต่ถ้าใครอยากประหยัดเวลา แนะนำบัตร Express ค่ะ เร็วปรื้ดๆ แต่ต้องจ่ายเพิ่มอีกคนละ 30$ นะคะ
จ่ายตังแล้วชีวิตจะดีขึ้นมาทันทีค่ะ
จาก Universal Studio นั่ง MRT มาลง สถานี Bayfront เดินมายัง Marina Bay Sands ขึ้นจากสถานีมาปุ๊ป จะเป็นห้าง The Shoppe@ Marina Bay Sands จะเจอ mini Venetian (ต้องจ่ายตังนั่งเรือนะเทอว์ จ่ายเงินแล้วยังต้องเป็นตัวประกอบในฉากให้คนอื่นถ่ายรูปด้วยนะเทอว์)
ใครอยาก Shopping แนะนำที่นี่ ที่เดียวจบ Orchard ยังต้องยอมแพ้ มีหลายแบรนด์ไฮโซโบว์ใหญ่ื ให้เลือกช้อป
เนื่องจากที่นี่ไม่ใช่แนวเรา เลยออกเดินมาข้างนอก ชักภาพอ่าวกับตึกไว้เป็นที่ระทึกดีกว่า
จาก Marina Bay Sands เราเดินต่อไปยัง Singapore Flyer เดินผ่านสะพาน Helix Bridge
ไม่ไกลก็ถึง Singapore Flyer เราซื้อตั๋วแบบช่วง Peak ราคา 630บาท ขึ้นได้ตั้งแต่6โมงเย็นเป็นต้นไป
(ตั๋วธรรมดา 530บาท ขึ้นได้ก่อน6 โมงเย็นเท่านั้น)
กระเช้าใหญ่มวาก 1กระเช้า สามารถจุคนได้ 23คน (1รอบ ใช้เวลา 30นาที)
วิวก็อลังการอย่างนี้ ถ้ามา่ช่วงพลบค่ำ มีแสงไฟจากตึกคงสวยน่าดู
[CR] [Moment Kidnapper] ฟรุ้งฟริ้ง มุ้งมิ้งไปในสิงค์โปร์ 3วัน 2คืน แบบตามใจฉัน
กระทู้นี้เป็นรีวิวครั้งแรกหลังจากที่แอบอ่านกระทู้ของเพื่อนๆในห้องบลูแพลเน็ตมานาน
รีวิวนี้จะพาเพื่อนๆไปเที่ยวแบบฟรุ้งฟริ้ง มุ้งมิ้งในสิงค์โปร์ 3วัน2คืน ฉบับตามใจฉัน
เนื้อหากระทู้นี้จึงไม่ใช่เน้นเที่ยวแบบอัดแน่นจัดเต็ม หรือละเอียดครบทุกตารางนิ้ว
แต่เป็นการบันทึกการเดินทางแบบสบายใจ สบายอารมณ์ และสบายตา
(จริงๆก็แอบมีซีเรียสนะแกร ชั้นทำ Passport หายที่ประเทศนอก! จะทำยังไงดีล่ะเมื่อPassportหายที่สิงค์โปร์?? =,=” )
เพราะสิงค์โปร์ง่ายนิดเดียว ใครๆก็เที่ยวได้! พร้อมแล้วไปกันเลยยยยยยย!
เราเริ่มต้นออกเดินทางตอนวันหยุดยาววันแม่ที่ผ่านมา เริ่มต้นที่สนามบินดอนเมือง โดยสายการบินแอร์เอเชีย จองตั๋วก่อนออกเดินทางประมาณ 4เดือน ราคาคนละประมาณ 4พันกว่าบาทค่ะ
วันแรก Donmuang Airport >> Changi Airport >> Clarke Quay >> Merlion
เครื่องออกจากกรุงเทพตอน 7:05 น. (เผื่อเวลาCheck-in นานหน่อยก็ดีนะคะ เราเกือบตกเครื่อง โดยเฉพาะใครเดินทางที่ดอนเมืองตอนหยุดยาว เที่ยวบินระหว่างประเทศคนเยอะมวากกกกกกจีๆ ><) ถึง สิงค์โปร์ตอน 10:35 น. เมื่อถึงสิงค์โปร์ก็ไม่รอช้า หนึ่งมือหิ้วกระเป๋าสองเท้าก้าวขึ้นรถไฟ มุ่งตรงไปยัง Terminal 2 (นั่งรถไฟไปอีกTerminal ฟรีค่ะ) เพื่อซื้อบัตร EZ-Link (เราซื้อตั๋ว Tourist 3-day pass ราคา 30$ สามารถ Refund ค่ามัดจำคืนได้ 10$ ขากลับ คุ้มค่ะคุ้ม)
เพราะการเดินทางในสิงค์โปร์ครั้งนี้จะเป็น Walking Tour (ทีน)ล้วนๆ โดยอาศัย MRT และ รถเมล์ เป็นภาชนะ เอ้ย พาหนะคู่กาย
เอาล่ะค่ะ จาก Changi Airport มุ่งหน้าไปไปเก็บของที่โรงแรมค่ะ
เราพักที่ Riverview Hotel โรงแรมและห้องพักจัดว่าใหญ่ สะอาด ได้มาตรฐาน แต่ติดอยู่ตรงที่ไม่มีอาหารเช้า+อยู่ไกล MRT ห่างจาก MRT China Town มา 2 ป้ายรถเมล์ ถ้าใครเน้นเดินทางสะดวกแนะนำให้พักใกล้ๆกับสถานี MRT China Town ค่ะ เพราะที่พีกแถวนั้นก็มีเยอะนะคะ ที่พักน่ารักราคาก็ไม่แพงด้วย ไว้แก้ตัวคราวหน้า ^^
อุปกรณ์ยังชีพ ในการท่องเที่ยวต่างแดน
รูปจากชั้นห้องพักในโรงแรม ด้านหลังโรงแรมมีสะพานเดินไปร้านกาแฟและร้านอาหารฝั่งตรงข้ามได้ใกล้ๆ สบายๆ
เมื่อเก็บของเสร็จออกเดินจากหลังโรงแรม เดินเลียบคลองมาเรื่อยๆ ถ่ายรูปไป นั่งพักไป
เจอร้านกาแฟ Tony’s Estate สาขา Singapore (ร้านนี้มีสาขาแม่อยู่ที่ Brooklyn New York City ด้วยนะแจ๊ะ)
ร้านกิ๊บเก๋น่านั่ง เจ้าของร้านก็อัธยาศัยดี ถ้ามีเวลาหยิบ Laptop มานั่งทำงาน หรือพ็อคเก็ตบุ๊คซักเล่มคงเกร๋ไม่เบาอะแกรรร!
เดินเลียบคลองไปเรื่อยๆ
ก็ถึงย่าน Clarke Quay ค่ะ (อ่านว่า คลาค-คีย์ อย่าไปอ่านออกเสียงแบบอื่นละแกร - -)
วิวตรงมันดีชริงๆเลออออออ
เดินมาเรื่อยๆ (ไกลพอสมควร) ขาเริ่มหมดแรงเลยต่อรถเมล์ไปยัง Merlion หรือสิงค์โปร์พ่นน้ำ
กะว่าจะมาสร้างแลนด์มาร์คที่นี่ แต่วันที่ไป (9ส.ค. เป็นวันชาติสิงค์โปร์) ก็เลยเจอเจ้าของประเทศมาสร้างแลนด์มาร์ค
กันอย่างเนืองแน่น คนไทยอย่างเราขอโบกมือบ๊ายบายคลื่นมหาประชาชน
หนีมากินเค้กแบบ New Yorker สวยๆที่ร้าน Lady M ตรง One Fullerton (ข้างๆ Merlion)
เครปเค้กชาเขียวที่นี้อร่อยอย่าบอกใคร (แต่ถ้าใบเสร็จมา ช่วยบอกคนอื่นด้วยจะได้มีคนช่วยหาร เพราะราคาเอาเรื่องอยู่เหมือนกัน)
กินเสร็จกลัวฝนถล่มเลยรีบเรียก Taxi (ตอนนั้นขาพี่ลากมาก มากกว่าพี่มากขาอีก) กลับไปดินเนอร์แถวโรงแรม
(เซเว่นอีเลเล่นเรสเทอร์รอล์งฟอร์ดินเนอร์)
กินเสร็จ ไปเดินเล่นหลังโรงแรมซะหน่อย ได้วิวนี้กลับมา หลับฝันดี
วันที่ 2 Universal Singapore >> Marina Bay Sands >> Singapore Flyer (แถมโรงพักสิงค์โปร์ให้ด้วย)
วันนี้ตื่นแต่เช้าตั้งใจจะไปกินอาหารเช้าแบบชาวสิงค์โปร์ที่ร้าน Ya Kun Kaya Toast สาขา China Street แต่ร้านปิดค่ะ! สันนิฐานว่าเจ้าของร้านชาวสิงค์โปร์เชื้อสายจีนน่าจะปิดไปไหว้สารทจีน (ไปถึงวันไหว้พอดี) ชาวไทยเชื้อชาติจีนแบบเราก็คอตก อกหัก รักคุด ตุ๊ดเมิน น้ำตาคลอ (อันนี้ก็เว่อร์ไป กะอิแค่ร้านอาหารปิดอะไรจะขนาดน้านนน)
ร้านปิด อดเลย T___T ใครอยากกินแบบไม่ต้องมาถึงสิงค์โปร์ ร้านนี้เพิ่งมาเปิดสาขาที่กรุงเทพ อยู่ที่ I'm Park Chula นะคะ
เราเลยเดินไปยัง China Town หาร้านอาหารเช้าแถวนั้นกินแทนค่ะ
จากนั้นก็มุ่งหน้าสู่ Universal Studio โดยขึ้น MRT Harbourfront เข้าสู่ห้าง Vivo City เพื่อนั่งรถไฟสาย Sentosa Express
ข้ามไปยังเกาะ Sentosa ค่ะ บัตร Ez-Link จ่ายค่ารถไฟ+เข้าเกาะเพิ่มคนละ 4$ ค่ะ
วิวระหว่างทาง
ถึงแล้วววววววววววววว!
บัตร Universal Studio เราซื้อจากเมืองไทยไปค่ะ ราคา 1,700 บาท
ข้างในมีร้านค้าและที่ให้ถ่ายรูปเยอะแยะเลย
อาจเป็นเพราะว่าวันที่ไปคือวันอาทิตย์ ทำให้เครื่องเล่น ต้องรอคิวนานมาก อย่างต่ำก็ 30 นาที บางอันฮ็อทหน่อยก็รอ 70นาทีค่ะ เรารอรถไฟเหาะตรงโซน Jurassic Park ไป 70นาที เล่นจริงไม่ถึง 5 นาที (คือร่ะะะะ!)
แต่ถ้าใครอยากประหยัดเวลา แนะนำบัตร Express ค่ะ เร็วปรื้ดๆ แต่ต้องจ่ายเพิ่มอีกคนละ 30$ นะคะ
จ่ายตังแล้วชีวิตจะดีขึ้นมาทันทีค่ะ
จาก Universal Studio นั่ง MRT มาลง สถานี Bayfront เดินมายัง Marina Bay Sands ขึ้นจากสถานีมาปุ๊ป จะเป็นห้าง The Shoppe@ Marina Bay Sands จะเจอ mini Venetian (ต้องจ่ายตังนั่งเรือนะเทอว์ จ่ายเงินแล้วยังต้องเป็นตัวประกอบในฉากให้คนอื่นถ่ายรูปด้วยนะเทอว์)
ใครอยาก Shopping แนะนำที่นี่ ที่เดียวจบ Orchard ยังต้องยอมแพ้ มีหลายแบรนด์ไฮโซโบว์ใหญ่ื ให้เลือกช้อป
เนื่องจากที่นี่ไม่ใช่แนวเรา เลยออกเดินมาข้างนอก ชักภาพอ่าวกับตึกไว้เป็นที่ระทึกดีกว่า
จาก Marina Bay Sands เราเดินต่อไปยัง Singapore Flyer เดินผ่านสะพาน Helix Bridge
ไม่ไกลก็ถึง Singapore Flyer เราซื้อตั๋วแบบช่วง Peak ราคา 630บาท ขึ้นได้ตั้งแต่6โมงเย็นเป็นต้นไป
(ตั๋วธรรมดา 530บาท ขึ้นได้ก่อน6 โมงเย็นเท่านั้น)
กระเช้าใหญ่มวาก 1กระเช้า สามารถจุคนได้ 23คน (1รอบ ใช้เวลา 30นาที)
วิวก็อลังการอย่างนี้ ถ้ามา่ช่วงพลบค่ำ มีแสงไฟจากตึกคงสวยน่าดู