ผมรู้สึกระอากับบรรดาข้าราชการทั้งหลาย ที่เอาเงินภาษีของคนไทยทั้งประเทสไปเที่ยว โดยใช้ถ้อยคำสวยหรูว่า "ไปประชุม" ไปสัมมนา" "ไปดูงาน" " ไปเปิดโลกทัศน์"
ขอทีเถอะครับ ในฐานะที่ผมเป็นข้าราชการและเป็นคนไทยคนนึง อยากกู่ก้องร้องตะโกนให้บรรดาข้าราชการที่เรียกตัวเองว่าผู้บริหาร ได้รู้ว่า การไปของท่านมันเป็นการสิ้นเปลืองเงินของประชาชน
บางท่านที่ไปประชุม สัมมนา โดยไม่ได้ไปนำเสนอผลงานนี่ ฟังภาษาอังกฤษออกหรือเข้าใจได้กี่เปอร์เซ็นต์ของที่เค้าบรรยายครับ เวลาแสดงความคิดเห็นก็นั่งก้มหน้าซะงั้น เหมือนกับกลัวครูสบตาแล้วเรียกให้ตอบคำถาม เวลาเข้าห้องประชุม นั่งซะหลังห้อง จะได้หลับสบาย5555 อันนี้อาจจะเกิดจากเวลาที่ต่างกันมั้ง ผมเคยเจอท่านนึงปัจจุบันเป็นใหญ่เป็นโตไปแล้ว ต้องทำหน้าที่เป็นประธานในที่ประชุม เนื่องจากครบวาระของตัวเองพอดี ท่านก็ให้ผมร่างคำกล่าวเปิดและผลักภาระไปยังเลขาที่ประชุม ตัวเองก็ก้มหน้าอ่านแฟ้ม ในขณะที่ผู้เข้าร่วมประชุม ถกเถียงกันจะเป็นจะตาย แล้วทุกคนก็หันมามองท่าน แต่ปรากฎว่าท่านไม่รู้ เพราะท่านมัวแต่ก้มหน้าแล้วฟังไม่ออกว่าเค้าจะฆ่ากันตายอยู่แล้ว
บางกลุ่มไปลงชื่อเสร็จรับเอกสารแล้วก็เผ่นไปเที่ยว ก็ได้เอกสารแล้วนี่ครับ เดี๋ยวเอามาเขียนรายงานได้แล้ว บางคนนั่งอยู่จนได้กินอาหารกลางวันเรียบร้อย ตอนบ่ายเผ่นแนบ
พวกไปดูงาน อันนี้เค้าจะจ้างบริษัททัวร์ดำเนินการให้ เวลาทำโปรแกรมจะทำสองชุด ชุดนึงใส่โปรแกรมดูงานที่เกี่ยวข้องแน่นเอี้ยด ส่วนอีกชุดเป็นโปรแกรมดูงานเช้า บ่ายเที่ยว ผมเคยเจอคณะดูงานใส่เสื้อแจ๊กเก็ตของหน่วยงานที่เกี่ยวกับความมั่นคง ไปเดินดูงานที่ลาสเวกัส ดีสนีย์แลนด์ ยูนิเวอร์แซลสตูดิโอ ดูอะไรครับทำงานหน่วยนึงไปดูอีกอย่างนึงน่ะ
ท่านครับเวลาท่านไป เบิกได้ทั้งค่าตั๋ว ค้าแท๊กซี๋ภายในประเทศและในต่างประเทศ ค่าโรงแรม แถมมีเบี้ยเลี้ยงติดกระเป๋าอีกไม่น้อย สำหรับช้อปปิ้งแล้วก็ซื้อพวงกุญแจ กับขนมมาฝากลูกน้อง
เวลาเดินทางก็ต้องการบินไทยเพราะจะได้สะสมไมล์เก็บไว้แลกตั๋ว ซึ่งอันนี้ผมเห็นว่าเมื่อเอาเงินหลวงจ่ายไมล์สะสมควรเป็นของหน่วยงานนะ ไม่ควรเป็นของส่วนตัว
อายบ้างเถอะครับ อยากเที่ยวก็เอาเงินตัวเองเที่ยวเถอะครับ ขอเถอะไอ้ประเภทเขียนโครงการพัฒนาบุคลากรซะสวยหรู โดยใช้เงินภาษีของประชาชนน่ะ กระดากอายบ้างเถอะ
ที่เขียนมานี่เพราะเห็นพฤติกรรมของบางคนแล้วมันอดไม่ไหวจริงๆ สำหรับผมไปราชการต่างประเทศทีไร ไม่ได้ทุนก็ได้รับเชิญจากผู้จัดงาน ทุกปีผมไปเที่ยวต่างประเทศอย่างน้อยหนึ่งครั้งด้วยเงินตัวเอง บอกตรง ผมอายแทนน่ะท่านผู้บริหารทั้งหลาย
ผมขอเพิ่มเติมข้อมูลหน่อยแล้วกันนะครับ เพราะไม่คิดว่าจะเป็นกระทู้แนะนำ
เจตนาของผมก็คือ อยากให้รับรู้ว่าข้าราชการบางคน บางกลุ่ม บางพวก ใช้เงินภาษีของเราๆท่านๆ ไปในทางที่ไม่ได้ประโยชน์และไม่ถูกไม่ควร
ผมอยากจะบอกว่า ไม่มีใครรู้ว่าพวกคุณไปทำอะไรในต่างประเทส นอกจากตัวคุณเองและพวกพ้อง คุณไปเข้าร่วมประชุม สัมมนา โดยไม่มีทักษะในการสื่อสารภาษาอังกฤษ แล้วคุณจะได้อะไรจากกิจกรรมนั้นๆ จริงอยู่การประชุมสมัยก่อนผู้จัดจะแจกเอกสารให้ผู้ร่วมงาน แต่สมัยนี้การประชุมในแถบยุโรปและอเมริกาและบางภูมิภาค ไม่มีการแจกเอกสารนะครับ ถ้าสื่อสารไม่ได้แล้วจะได้อะไรกลับมา นอกจากไปเปิดหูเปิดตา
สำหรับการไปดูงานก็คือการไปเที่ยวนั่นเอง บางหน่วยงานตั้งงบพัฒนาบุคลากรไว้ทุกปี พาผู้บริหารไปดูงาน เลือกแต่แถบยุโรป กะว่าก่อนเกษียณ ก็ตะลุยครบยุโรปพอดี
ถ้าคิดว่าการดูงานคือรางวัลชีวิตในการรับราชการ ก็จัดให้ก่อนเกษียณสิครับ ให้คนที่ไม่เคยไปต่างประเทศเลยในชีวิตการรับราชการ ได้ไปเห็นโลกกว้าง อย่าผูกขาดการท่องเที่ยวไว้กับกลุ่มผู้บริหาร
ข้าราชการบางท่านอาจไม่พอใจ เพราะท่านมองในมุมของการเป็นข้าราชการ แต่ในทางกลับกันลองมองในมุมมองของประชาชนผู้เสียภาษี เพื่อมาจ่ายเงินให้ข้าราชการทำงานดูบ้าง ท่านจะรู้ว่ามันแตกต่างกันขนาดไหน
ขอโทษอีกครั้งที่ทำให้ข้าราชการบางท่านไม่พอใจ
...........
หลังจากปล่อยกระทู้ไหลไปสักระยะ ได้อ่านความคิดเห็นของแต่ละท่าน ผมจึงขอชี้แจงเพิ่มเติมดังนี้ครับ
1. กระทู้นี้ตั้งขึ้นเพื่อให้ข้าราชการ และประชาชนได้รู้ว่าเรื่องแบบนี้มันมีอยู่จริงในประเทศเรา ที่เกิดจาก บางคน บางกลุ่ม บางพวก ซึ่งผมไม่ได้เจาะจงไปที่ใคร ผมเน้นที่ผู้บริหารโดยตรงเลยในทุกระดับที่สามารถทำเรื่องแบบนี้ได้ ดังนั้นผมไม่เหมารวมนะครับ
2. ผมในฐานะที่เป็นข้าราชการทำงานให้กับประชาชน และในฐานะของประชาชน ไม่อยากถูกเอาเปรียบจากคนพวกนี้
3. การเดินทางไปราชการต่างประเทศ เป็นเรื่องที่ยังจำเป็นอยู่ แต่ ...ต้องให้เกิดประโยชน์กับประเทศชาติและประชาชนจริงๆ คนจะไปต้องรู้ตัวเองว่ามีความสามารถในการเก็บเกี่ยวประโยชน์ได้ขนาดไหน จะไปดูงานเอามาก่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงแก้ไข พัฒนา งานหรือไม่ สรปคือ ขอให้คุ้มกับเงินของพวกเรา
4. สำหรับเพื่อนห้องบลูฯ ผมในฐานะคนรักการท่องเที่ยว ที่วางแผนและเก็บเงินของตัวเองเพื่อทำฝันให้เป็นจริง ผมซึ่งได้รับข้อมูลการท่องเที่ยวจากห้องนี้ และได้รีวิวข้อมูลการท่องเที่ยวให้กับเพื่อนๆในห้องมาหลายครั้ง ต้องการจะบอกพวกเราว่า มีคนอยากเที่ยว ที่ได้แต่วางแผน แต่ไม่เก็บเงินอยู่ด้วยนะ แถมเอาเงินของเราไปใช้เสียด้วย
ขอโทษอีกครั้งนะครับถ้าทำให้ใครไม่พอใจ
เมื่อข้าราชการเอาเงินภาษีของประชาชนไปเที่ยว
ขอทีเถอะครับ ในฐานะที่ผมเป็นข้าราชการและเป็นคนไทยคนนึง อยากกู่ก้องร้องตะโกนให้บรรดาข้าราชการที่เรียกตัวเองว่าผู้บริหาร ได้รู้ว่า การไปของท่านมันเป็นการสิ้นเปลืองเงินของประชาชน
บางท่านที่ไปประชุม สัมมนา โดยไม่ได้ไปนำเสนอผลงานนี่ ฟังภาษาอังกฤษออกหรือเข้าใจได้กี่เปอร์เซ็นต์ของที่เค้าบรรยายครับ เวลาแสดงความคิดเห็นก็นั่งก้มหน้าซะงั้น เหมือนกับกลัวครูสบตาแล้วเรียกให้ตอบคำถาม เวลาเข้าห้องประชุม นั่งซะหลังห้อง จะได้หลับสบาย5555 อันนี้อาจจะเกิดจากเวลาที่ต่างกันมั้ง ผมเคยเจอท่านนึงปัจจุบันเป็นใหญ่เป็นโตไปแล้ว ต้องทำหน้าที่เป็นประธานในที่ประชุม เนื่องจากครบวาระของตัวเองพอดี ท่านก็ให้ผมร่างคำกล่าวเปิดและผลักภาระไปยังเลขาที่ประชุม ตัวเองก็ก้มหน้าอ่านแฟ้ม ในขณะที่ผู้เข้าร่วมประชุม ถกเถียงกันจะเป็นจะตาย แล้วทุกคนก็หันมามองท่าน แต่ปรากฎว่าท่านไม่รู้ เพราะท่านมัวแต่ก้มหน้าแล้วฟังไม่ออกว่าเค้าจะฆ่ากันตายอยู่แล้ว
บางกลุ่มไปลงชื่อเสร็จรับเอกสารแล้วก็เผ่นไปเที่ยว ก็ได้เอกสารแล้วนี่ครับ เดี๋ยวเอามาเขียนรายงานได้แล้ว บางคนนั่งอยู่จนได้กินอาหารกลางวันเรียบร้อย ตอนบ่ายเผ่นแนบ
พวกไปดูงาน อันนี้เค้าจะจ้างบริษัททัวร์ดำเนินการให้ เวลาทำโปรแกรมจะทำสองชุด ชุดนึงใส่โปรแกรมดูงานที่เกี่ยวข้องแน่นเอี้ยด ส่วนอีกชุดเป็นโปรแกรมดูงานเช้า บ่ายเที่ยว ผมเคยเจอคณะดูงานใส่เสื้อแจ๊กเก็ตของหน่วยงานที่เกี่ยวกับความมั่นคง ไปเดินดูงานที่ลาสเวกัส ดีสนีย์แลนด์ ยูนิเวอร์แซลสตูดิโอ ดูอะไรครับทำงานหน่วยนึงไปดูอีกอย่างนึงน่ะ
ท่านครับเวลาท่านไป เบิกได้ทั้งค่าตั๋ว ค้าแท๊กซี๋ภายในประเทศและในต่างประเทศ ค่าโรงแรม แถมมีเบี้ยเลี้ยงติดกระเป๋าอีกไม่น้อย สำหรับช้อปปิ้งแล้วก็ซื้อพวงกุญแจ กับขนมมาฝากลูกน้อง
เวลาเดินทางก็ต้องการบินไทยเพราะจะได้สะสมไมล์เก็บไว้แลกตั๋ว ซึ่งอันนี้ผมเห็นว่าเมื่อเอาเงินหลวงจ่ายไมล์สะสมควรเป็นของหน่วยงานนะ ไม่ควรเป็นของส่วนตัว
อายบ้างเถอะครับ อยากเที่ยวก็เอาเงินตัวเองเที่ยวเถอะครับ ขอเถอะไอ้ประเภทเขียนโครงการพัฒนาบุคลากรซะสวยหรู โดยใช้เงินภาษีของประชาชนน่ะ กระดากอายบ้างเถอะ
ที่เขียนมานี่เพราะเห็นพฤติกรรมของบางคนแล้วมันอดไม่ไหวจริงๆ สำหรับผมไปราชการต่างประเทศทีไร ไม่ได้ทุนก็ได้รับเชิญจากผู้จัดงาน ทุกปีผมไปเที่ยวต่างประเทศอย่างน้อยหนึ่งครั้งด้วยเงินตัวเอง บอกตรง ผมอายแทนน่ะท่านผู้บริหารทั้งหลาย
ผมขอเพิ่มเติมข้อมูลหน่อยแล้วกันนะครับ เพราะไม่คิดว่าจะเป็นกระทู้แนะนำ
เจตนาของผมก็คือ อยากให้รับรู้ว่าข้าราชการบางคน บางกลุ่ม บางพวก ใช้เงินภาษีของเราๆท่านๆ ไปในทางที่ไม่ได้ประโยชน์และไม่ถูกไม่ควร
ผมอยากจะบอกว่า ไม่มีใครรู้ว่าพวกคุณไปทำอะไรในต่างประเทส นอกจากตัวคุณเองและพวกพ้อง คุณไปเข้าร่วมประชุม สัมมนา โดยไม่มีทักษะในการสื่อสารภาษาอังกฤษ แล้วคุณจะได้อะไรจากกิจกรรมนั้นๆ จริงอยู่การประชุมสมัยก่อนผู้จัดจะแจกเอกสารให้ผู้ร่วมงาน แต่สมัยนี้การประชุมในแถบยุโรปและอเมริกาและบางภูมิภาค ไม่มีการแจกเอกสารนะครับ ถ้าสื่อสารไม่ได้แล้วจะได้อะไรกลับมา นอกจากไปเปิดหูเปิดตา
สำหรับการไปดูงานก็คือการไปเที่ยวนั่นเอง บางหน่วยงานตั้งงบพัฒนาบุคลากรไว้ทุกปี พาผู้บริหารไปดูงาน เลือกแต่แถบยุโรป กะว่าก่อนเกษียณ ก็ตะลุยครบยุโรปพอดี
ถ้าคิดว่าการดูงานคือรางวัลชีวิตในการรับราชการ ก็จัดให้ก่อนเกษียณสิครับ ให้คนที่ไม่เคยไปต่างประเทศเลยในชีวิตการรับราชการ ได้ไปเห็นโลกกว้าง อย่าผูกขาดการท่องเที่ยวไว้กับกลุ่มผู้บริหาร
ข้าราชการบางท่านอาจไม่พอใจ เพราะท่านมองในมุมของการเป็นข้าราชการ แต่ในทางกลับกันลองมองในมุมมองของประชาชนผู้เสียภาษี เพื่อมาจ่ายเงินให้ข้าราชการทำงานดูบ้าง ท่านจะรู้ว่ามันแตกต่างกันขนาดไหน
ขอโทษอีกครั้งที่ทำให้ข้าราชการบางท่านไม่พอใจ
...........
หลังจากปล่อยกระทู้ไหลไปสักระยะ ได้อ่านความคิดเห็นของแต่ละท่าน ผมจึงขอชี้แจงเพิ่มเติมดังนี้ครับ
1. กระทู้นี้ตั้งขึ้นเพื่อให้ข้าราชการ และประชาชนได้รู้ว่าเรื่องแบบนี้มันมีอยู่จริงในประเทศเรา ที่เกิดจาก บางคน บางกลุ่ม บางพวก ซึ่งผมไม่ได้เจาะจงไปที่ใคร ผมเน้นที่ผู้บริหารโดยตรงเลยในทุกระดับที่สามารถทำเรื่องแบบนี้ได้ ดังนั้นผมไม่เหมารวมนะครับ
2. ผมในฐานะที่เป็นข้าราชการทำงานให้กับประชาชน และในฐานะของประชาชน ไม่อยากถูกเอาเปรียบจากคนพวกนี้
3. การเดินทางไปราชการต่างประเทศ เป็นเรื่องที่ยังจำเป็นอยู่ แต่ ...ต้องให้เกิดประโยชน์กับประเทศชาติและประชาชนจริงๆ คนจะไปต้องรู้ตัวเองว่ามีความสามารถในการเก็บเกี่ยวประโยชน์ได้ขนาดไหน จะไปดูงานเอามาก่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงแก้ไข พัฒนา งานหรือไม่ สรปคือ ขอให้คุ้มกับเงินของพวกเรา
4. สำหรับเพื่อนห้องบลูฯ ผมในฐานะคนรักการท่องเที่ยว ที่วางแผนและเก็บเงินของตัวเองเพื่อทำฝันให้เป็นจริง ผมซึ่งได้รับข้อมูลการท่องเที่ยวจากห้องนี้ และได้รีวิวข้อมูลการท่องเที่ยวให้กับเพื่อนๆในห้องมาหลายครั้ง ต้องการจะบอกพวกเราว่า มีคนอยากเที่ยว ที่ได้แต่วางแผน แต่ไม่เก็บเงินอยู่ด้วยนะ แถมเอาเงินของเราไปใช้เสียด้วย
ขอโทษอีกครั้งนะครับถ้าทำให้ใครไม่พอใจ