หลังจากที่สังคมออนไลน์ได้เผยแพร่ภาพ หลวงพ่อคูณ ปริสุทโธ เกจิอาจารย์ชื่อดัง เจ้าอาวาสวัดบ้านไร่ อ.ด่านขุนทด จ.นครราชสีมา ในวัย 91 ปีกำลังถือสายสิญจน์ปลุกเสกวัตถุมงคลขณะนั่งอยู่บนรถวีลแชร์
ก่อให้เกิดคำถามว่าเหตุใดยังให้หลวงพ่อรับกิจนิมนต์อยู่อีก ?
ทั้งที่สารพัดโรครุมเร้า ทั้งที่เรี่ยวแรงอ่อนล้าน่าเป็นห่วง ถึงขั้นลูกศิษย์ต้องคอยประคับประคองในทุกอิริยาบถเลยด้วยซ้ำ !!!
นานาทรรศนะจากชาวเน็ตเต็มไปด้วยความเป็นห่วงใย บ้างก็ว่าเห็นใจท่านหน่อย อายุท่านจะร้อยปีแล้ว ให้หลวงพ่อได้พักเถอะ บ้างว่าพระชราก็ไม่ต่างจากคนชราที่ต้องการพักผ่อน หลังจากทำงานหนักมาทั้งชีวิต ควรเลิก "ใช้พระ"เพื่อแสวงหาผลประโยชน์เสียที
"ผมขอยืนยันว่าไม่มีการนิมนต์ให้หลวงพ่อทำพิธีพุทธาภิเษกใดๆทั้งสิ้น"
เป็นคำตอบเสียงดังฟังชัดของ สมบูรณ์ โสตถิอนันต์ หรือ ไก่โต้ง เลขานุการวัดบ้านไร่
ตามคำบอกเล่าของลูกศิษย์คนสนิทคนนี้ หลังจากออกจากโรงพยาบาลมาตั้งแต่เดือนก.ค.2556 หลวงพ่อคูณก็กลับมาพักที่วัดบ้านไร่ภายใต้การดูแลจากคณะแพทย์อย่างใกล้ชิด
ปัจจุบันมีโรคประจำตัวคือ เบาหวาน รวมทั้งเคยเข้ารับการรักษาเส้นเลือดหัวใจตีบด้วยการทำบายพาสหัวใจถึง 5 เส้น เคยผ่านการผ่าตัดเส้นเลือดในสมองแตก โรคเกี่ยวกับกระดูกไขข้อ กลืนอาหารลำบาก นอกจากนี้ยังพบอาการถุงลมโป่งพองที่เกิดจากการสูบบุหรี่ ส่วนอาการอาพาธด้วยวัณโรค แพทย์ได้ทำการรักษาจนหายแล้ว แต่ยังต้องให้ฉันยารักษาโรคต่างๆอย่างต่อเนื่อง
"กิจวัตรประจำวัน หลวงพ่อจะตื่นมาฉันมื้อแรก (ให้อาหารเหลวผ่านทางสายยาง) ในเวลา 06.00 น. ซึ่งกว่าจะหมดก็ราว 09.00 น. แล้วต้องรอให้ย่อยอีก จนถึงช่วงเวลาประมาณ 13.00-14.00 น.เข้าสู่การทำกายภาพบำบัด ก็จะพาท่านออกจากห้องจำวัดมาที่ห้องกระจก ยืดเส้นยืดสาย ปั่นจักรยานไฟฟ้า เอาเท้าแช่น้ำอุ่น
ช่วง 30 นาทีนี้เองถือเป็นช่วงเวลาสั้นๆที่ญาติโยมจะได้เห็น ได้กราบไหว้ สมัยท่านยังสุขภาพแข็งแรง หลวงพ่อมักจะร้องหาไม้เท้า เรียกคนโน้นคนนี้มาเคาะหัว ตอนนี้หมอให้ออกกำลังแขน ท่านก็เลยอยากจะจับสายสิญจน์ให้พร ลูกศิษย์บางคนจึงถือโอกาสนำพระเครื่องมาวางไว้ใกล้สายสิญจน์เพื่อเสริมความขลัง
ห้องกระจกดังกล่าวเป็นห้องปลอดเชื้อโรค ผู้ดูแลประกอบด้วยทีมพยาบาล 3 คน และลูกศิษย์คนสนิทอีก 3 คน หมุนเวียนผลัดเปลี่ยนกันมาดูแล 24 ชั่วโมง ทั้งหมดต้องล้างมือฆ่าเชื้อและสวมหน้ากากอนามัยตลอดเวลา ผู้ใดที่เข้ามาในห้องนี้ต้องได้รับอนุญาตจากแพทย์ประจำตัวและให้เยี่ยมได้ครั้งละ 2 คนเท่านั้น
"ทุกๆวันที่ผมมาเดินทางถึงก็จะไปกระซิบข้างหูท่าน ท่านยังหยอกเล่นเลย "ก่อยไน้ ก่อยไน้ (ไก่น้อย ไก่น้อย) มาแล้วเน้อ" สติสัมปชัญญะหลวงพ่อยังดีเยี่ยม รู้ตัวตลอด ถ้าท่านไม่สมัครใจทำ ไม่มีใครบังคับท่านได้ นี่ท่านมีเมตตา ไม่อยากจะขัดศรัทธาคนมาเยี่ยมก็เลยออกมาให้คนกราบไหว้ จับสายสิญจน์ ไม่ได้สวดคาถาอะไร เพราะท่านพูดได้น้อย เน้นภาวนามากกว่า
ลูกศิษย์คนสนิทย้ำอีกครั้งว่านอกเหนือไปจากเวลากายภาพบำบัดในห้องกระจก ซึ่งถือว่าเป็นช่วงที่ออกโปรดญาติโยม ไม่มีใครรบกวนหลวงพ่อในยามพักผ่อนอย่างแน่นอน
นพ.พินิศจัย นาคพันธ์ หัวหน้าศูนย์โรคหัวใจและหลอดเลือด รพ.มหาราชนครราชสีมา ซึ่งเป็นเเพทย์ประจำตัว อธิบายว่าเมื่อเทียบอายุ 91 ปีกับโรคประจำตัวที่มีอยู่ สุขภาพของหลวงพ่อคูณตอนนี้อยู่ในเกณฑ์ที่น่าพอใจ อย่างไรก็ตามก็ยังต้องเฝ้าระวังอย่างใกล้ชิด
ถามว่าเพราะเหตุใดถึงยังให้หลวงพ่อคูณออกโปรดญาติโยม ทำไมไม่งดเยี่ยมเด็ดขาด เพื่อให้ท่านพักผ่อนอย่างเต็มที่?
หลวงพ่อคูณเป็นพระของประชาชน การที่เรามาวางระบบห้องปลอดเชื้อโรคที่วัดบ้านไร่ โดยไม่พาไปพักผ่อนที่โรงพยาบาล เหตุผลหลักก็คือท่านยังพอใจที่ได้พบได้เจอกับญาติโยมที่มากราบไหว้ ในขณะที่ท่านยังรู้ตัวดี ไม่เจ็บป่วย เห็นชัดว่าวันที่ท่านแข็งแรง หลวงพ่อจะมีอาการแจ่มใส ลืมตาแป๋ว พยายามจะสื่อสารกับลูกศิษย์ลูกหาอยู่เสมอ แต่บางวันท่านเหนื่อย ท่านก็ไม่ออกมา ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับตัวหลวงพ่อเป็นสำคัญ
ผมขอเรียนว่าคณะแพทย์และลูกศิษย์ได้เอาใจใส่ในเรื่องนี้อย่างเต็มที่ แต่บางครั้งซึ่งเป็นส่วนน้อยมากๆก็อาจมีลูกศิษย์วีไอพีบางกลุ่มถือโอกาสเข้าไปใกล้ตัวท่าน ทำให้ท่านพักผ่อนไม่เพียงพอ เราเองก็ไม่สบายใจนัก"นพ.พินิศจัย กล่าว
อภินิหารความศักดิ์สิทธิ์ของหลวงพ่อคูณ ปริสุทโธ ส่งผลให้ท่านได้รับการบันทึกให้เป็นพระที่ออกวัตถุมงคลมากที่สุดในบรรดาเกจิอาจารย์ในเมืองไทย มีการสร้างออกมาหลายร้อยรุ่น แต่ข้อมูลจากเว็บไซต์ web-pra.com ระบุว่ามีพระเครื่องหลวงพ่อคูณ ปริสุทฺโธ ทั้งสิ้น 94 รุ่นเท่านั้น ที่ผ่านการตรวจสอบจากผู้เชี่ยวชาญสายตรงว่าเป็นรุ่นที่ยอดนิยมของนักสะสม
การปลุกเสกพระเครื่องอย่างไม่บันยะบันยังนี้เองที่ถูกมองว่าเป็นปัญหารบกวนความสงบในบั้นปลายชีวิตของหลวงพ่อคูณ
สนาน มาเลิศพรสกุล หรือ "โกใหญ่ พระเครื่อง" ตั้งข้อสังเกตว่าเร็วๆนี้ หลวงพ่อคูณคงจะ "ยุติ" การปลุกเสกพระเครื่องอย่างเป็นทางการ
"หลวงพ่อคูณเป็นพระที่มีเมตตาบารมีสูง ท่านบริจาคเงินมากกว่า 6 พันล้านบาท ช่วยเหลือคนมาทั้งชีวิต เวลาใครมาขอให้ท่านปลุกเสกพระเครื่องก็ไม่เคยขัดศรัทธา เอาเงินที่คนถวายนั้นไปพัฒนาวัด สร้างโรงเรียน สร้างโรงพยาบาลไม่รู้กี่แห่ง
งานสำคัญที่ท่านเคยพูดไว้กับลูกศิษย์ใกล้ชิดคือ การสร้างวิหารเทพวิทยาคมที่วัดบ้านไร่ ซึ่งตอนนี้เสร็จแล้ว แต่พระพุทธรูปหลวงพ่อคูณที่ใหญ่ที่สุดในโลกที่วัดบุไผ่ จ.นครราชสีมา 150 ล้านบาท รวมถึงความตั้งใจที่จะถวายเงินพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวในวาระที่ท่านอายุครบ 90 พรรษา 90 ล้านบาทยังดำเนินการไม่แล้วเสร็จ ... ด้วยเหตุนี้ล่ะมั้งที่ยังมีคนพยายามไปขอให้ท่านปลุกเสกพระอยู่ทุกวันนี้"
นี่คือข้อเท็จจริงจากปากคำของลูกศิษย์คนสนิท-คนใกล้ชิดที่ออกมาชี้แจง แต่เชื่อว่าสังคมออนไลน์จะยังคงจับตามองและวิพากษ์วิจารณ์กันต่อไป
โดย...อินทรชัย พาณิชกุล
http://www.posttoday.com/
๙๑ ปี หลวงพ่อคูณ ไม่รับกิจนิมนต์ทำพิธีพุทธาภิเษกทั้งสิ้น
ก่อให้เกิดคำถามว่าเหตุใดยังให้หลวงพ่อรับกิจนิมนต์อยู่อีก ?
ทั้งที่สารพัดโรครุมเร้า ทั้งที่เรี่ยวแรงอ่อนล้าน่าเป็นห่วง ถึงขั้นลูกศิษย์ต้องคอยประคับประคองในทุกอิริยาบถเลยด้วยซ้ำ !!!
นานาทรรศนะจากชาวเน็ตเต็มไปด้วยความเป็นห่วงใย บ้างก็ว่าเห็นใจท่านหน่อย อายุท่านจะร้อยปีแล้ว ให้หลวงพ่อได้พักเถอะ บ้างว่าพระชราก็ไม่ต่างจากคนชราที่ต้องการพักผ่อน หลังจากทำงานหนักมาทั้งชีวิต ควรเลิก "ใช้พระ"เพื่อแสวงหาผลประโยชน์เสียที
"ผมขอยืนยันว่าไม่มีการนิมนต์ให้หลวงพ่อทำพิธีพุทธาภิเษกใดๆทั้งสิ้น"
เป็นคำตอบเสียงดังฟังชัดของ สมบูรณ์ โสตถิอนันต์ หรือ ไก่โต้ง เลขานุการวัดบ้านไร่
ตามคำบอกเล่าของลูกศิษย์คนสนิทคนนี้ หลังจากออกจากโรงพยาบาลมาตั้งแต่เดือนก.ค.2556 หลวงพ่อคูณก็กลับมาพักที่วัดบ้านไร่ภายใต้การดูแลจากคณะแพทย์อย่างใกล้ชิด
ปัจจุบันมีโรคประจำตัวคือ เบาหวาน รวมทั้งเคยเข้ารับการรักษาเส้นเลือดหัวใจตีบด้วยการทำบายพาสหัวใจถึง 5 เส้น เคยผ่านการผ่าตัดเส้นเลือดในสมองแตก โรคเกี่ยวกับกระดูกไขข้อ กลืนอาหารลำบาก นอกจากนี้ยังพบอาการถุงลมโป่งพองที่เกิดจากการสูบบุหรี่ ส่วนอาการอาพาธด้วยวัณโรค แพทย์ได้ทำการรักษาจนหายแล้ว แต่ยังต้องให้ฉันยารักษาโรคต่างๆอย่างต่อเนื่อง
"กิจวัตรประจำวัน หลวงพ่อจะตื่นมาฉันมื้อแรก (ให้อาหารเหลวผ่านทางสายยาง) ในเวลา 06.00 น. ซึ่งกว่าจะหมดก็ราว 09.00 น. แล้วต้องรอให้ย่อยอีก จนถึงช่วงเวลาประมาณ 13.00-14.00 น.เข้าสู่การทำกายภาพบำบัด ก็จะพาท่านออกจากห้องจำวัดมาที่ห้องกระจก ยืดเส้นยืดสาย ปั่นจักรยานไฟฟ้า เอาเท้าแช่น้ำอุ่น
ช่วง 30 นาทีนี้เองถือเป็นช่วงเวลาสั้นๆที่ญาติโยมจะได้เห็น ได้กราบไหว้ สมัยท่านยังสุขภาพแข็งแรง หลวงพ่อมักจะร้องหาไม้เท้า เรียกคนโน้นคนนี้มาเคาะหัว ตอนนี้หมอให้ออกกำลังแขน ท่านก็เลยอยากจะจับสายสิญจน์ให้พร ลูกศิษย์บางคนจึงถือโอกาสนำพระเครื่องมาวางไว้ใกล้สายสิญจน์เพื่อเสริมความขลัง
ห้องกระจกดังกล่าวเป็นห้องปลอดเชื้อโรค ผู้ดูแลประกอบด้วยทีมพยาบาล 3 คน และลูกศิษย์คนสนิทอีก 3 คน หมุนเวียนผลัดเปลี่ยนกันมาดูแล 24 ชั่วโมง ทั้งหมดต้องล้างมือฆ่าเชื้อและสวมหน้ากากอนามัยตลอดเวลา ผู้ใดที่เข้ามาในห้องนี้ต้องได้รับอนุญาตจากแพทย์ประจำตัวและให้เยี่ยมได้ครั้งละ 2 คนเท่านั้น
"ทุกๆวันที่ผมมาเดินทางถึงก็จะไปกระซิบข้างหูท่าน ท่านยังหยอกเล่นเลย "ก่อยไน้ ก่อยไน้ (ไก่น้อย ไก่น้อย) มาแล้วเน้อ" สติสัมปชัญญะหลวงพ่อยังดีเยี่ยม รู้ตัวตลอด ถ้าท่านไม่สมัครใจทำ ไม่มีใครบังคับท่านได้ นี่ท่านมีเมตตา ไม่อยากจะขัดศรัทธาคนมาเยี่ยมก็เลยออกมาให้คนกราบไหว้ จับสายสิญจน์ ไม่ได้สวดคาถาอะไร เพราะท่านพูดได้น้อย เน้นภาวนามากกว่า
ลูกศิษย์คนสนิทย้ำอีกครั้งว่านอกเหนือไปจากเวลากายภาพบำบัดในห้องกระจก ซึ่งถือว่าเป็นช่วงที่ออกโปรดญาติโยม ไม่มีใครรบกวนหลวงพ่อในยามพักผ่อนอย่างแน่นอน
นพ.พินิศจัย นาคพันธ์ หัวหน้าศูนย์โรคหัวใจและหลอดเลือด รพ.มหาราชนครราชสีมา ซึ่งเป็นเเพทย์ประจำตัว อธิบายว่าเมื่อเทียบอายุ 91 ปีกับโรคประจำตัวที่มีอยู่ สุขภาพของหลวงพ่อคูณตอนนี้อยู่ในเกณฑ์ที่น่าพอใจ อย่างไรก็ตามก็ยังต้องเฝ้าระวังอย่างใกล้ชิด
ถามว่าเพราะเหตุใดถึงยังให้หลวงพ่อคูณออกโปรดญาติโยม ทำไมไม่งดเยี่ยมเด็ดขาด เพื่อให้ท่านพักผ่อนอย่างเต็มที่?
หลวงพ่อคูณเป็นพระของประชาชน การที่เรามาวางระบบห้องปลอดเชื้อโรคที่วัดบ้านไร่ โดยไม่พาไปพักผ่อนที่โรงพยาบาล เหตุผลหลักก็คือท่านยังพอใจที่ได้พบได้เจอกับญาติโยมที่มากราบไหว้ ในขณะที่ท่านยังรู้ตัวดี ไม่เจ็บป่วย เห็นชัดว่าวันที่ท่านแข็งแรง หลวงพ่อจะมีอาการแจ่มใส ลืมตาแป๋ว พยายามจะสื่อสารกับลูกศิษย์ลูกหาอยู่เสมอ แต่บางวันท่านเหนื่อย ท่านก็ไม่ออกมา ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับตัวหลวงพ่อเป็นสำคัญ
ผมขอเรียนว่าคณะแพทย์และลูกศิษย์ได้เอาใจใส่ในเรื่องนี้อย่างเต็มที่ แต่บางครั้งซึ่งเป็นส่วนน้อยมากๆก็อาจมีลูกศิษย์วีไอพีบางกลุ่มถือโอกาสเข้าไปใกล้ตัวท่าน ทำให้ท่านพักผ่อนไม่เพียงพอ เราเองก็ไม่สบายใจนัก"นพ.พินิศจัย กล่าว
อภินิหารความศักดิ์สิทธิ์ของหลวงพ่อคูณ ปริสุทโธ ส่งผลให้ท่านได้รับการบันทึกให้เป็นพระที่ออกวัตถุมงคลมากที่สุดในบรรดาเกจิอาจารย์ในเมืองไทย มีการสร้างออกมาหลายร้อยรุ่น แต่ข้อมูลจากเว็บไซต์ web-pra.com ระบุว่ามีพระเครื่องหลวงพ่อคูณ ปริสุทฺโธ ทั้งสิ้น 94 รุ่นเท่านั้น ที่ผ่านการตรวจสอบจากผู้เชี่ยวชาญสายตรงว่าเป็นรุ่นที่ยอดนิยมของนักสะสม
การปลุกเสกพระเครื่องอย่างไม่บันยะบันยังนี้เองที่ถูกมองว่าเป็นปัญหารบกวนความสงบในบั้นปลายชีวิตของหลวงพ่อคูณ
สนาน มาเลิศพรสกุล หรือ "โกใหญ่ พระเครื่อง" ตั้งข้อสังเกตว่าเร็วๆนี้ หลวงพ่อคูณคงจะ "ยุติ" การปลุกเสกพระเครื่องอย่างเป็นทางการ
"หลวงพ่อคูณเป็นพระที่มีเมตตาบารมีสูง ท่านบริจาคเงินมากกว่า 6 พันล้านบาท ช่วยเหลือคนมาทั้งชีวิต เวลาใครมาขอให้ท่านปลุกเสกพระเครื่องก็ไม่เคยขัดศรัทธา เอาเงินที่คนถวายนั้นไปพัฒนาวัด สร้างโรงเรียน สร้างโรงพยาบาลไม่รู้กี่แห่ง
งานสำคัญที่ท่านเคยพูดไว้กับลูกศิษย์ใกล้ชิดคือ การสร้างวิหารเทพวิทยาคมที่วัดบ้านไร่ ซึ่งตอนนี้เสร็จแล้ว แต่พระพุทธรูปหลวงพ่อคูณที่ใหญ่ที่สุดในโลกที่วัดบุไผ่ จ.นครราชสีมา 150 ล้านบาท รวมถึงความตั้งใจที่จะถวายเงินพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวในวาระที่ท่านอายุครบ 90 พรรษา 90 ล้านบาทยังดำเนินการไม่แล้วเสร็จ ... ด้วยเหตุนี้ล่ะมั้งที่ยังมีคนพยายามไปขอให้ท่านปลุกเสกพระอยู่ทุกวันนี้"
นี่คือข้อเท็จจริงจากปากคำของลูกศิษย์คนสนิท-คนใกล้ชิดที่ออกมาชี้แจง แต่เชื่อว่าสังคมออนไลน์จะยังคงจับตามองและวิพากษ์วิจารณ์กันต่อไป
โดย...อินทรชัย พาณิชกุล
http://www.posttoday.com/