“ฉอด สายทิพย์” งัดหลักฐานโชว์ โต้เมกเรื่อง “แอร์ คลับฟรายเดย์” หลอกสังคม ยันมีตัวตนจริง เผยไม่รู้เหตุผล “แอร์ คลับฟรายเดย์" นำรูป “แอร์ อภิรติ” มาสวมรอยสร้างแฟนเพจ แถมรับเงินบริจาคจากชายคนหนึ่ง 6 พันบาท เมิน "แอร์ อภิรติ" จ่อฟ้อง ชี้ทำรายการ 10 ปี ไม่เคยมีปัญหา อยากเป็นที่พึ่งพาของคนจิตป่วย ยันไม่ท้อแต่รำคาญโดนตั้งกระทู้ถามไม่เลิก ซัดไม่รู้จริงอย่าด่ามั่ว!
จากกรณีที่กำลังกลายเป็นกระแสวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนักในสังคม ว่าสรุปเรื่องราวของ “แอร์ คลับฟรายเดย์” ที่โทรศัพท์เข้ามาระบายความทุกข์ใจ เล่าเรื่องตนเองมีสามีคนเดียวกับแม่ ก่อนท้องและต้องระเห็จออกจากบ้าน อีกทั้งได้สร้างแฟนเพจจนมีคนเข้าไปแสดงความเห็นอกเห็นใจมากมาย แต่ไม่กี่วันต่อมาได้มีบุคคลที่อ้างตัวว่าเป็นแอร์ตัวจริงออกมาโวยว่าครอบครัวตนมีความสุขดี ไม่ได้มีสามีคนเดียวกับแม่ อีกทั้งแฟนเพจแอร์คลับฟรายเดย์ได้นำรูปของตนไปใช้โดยไม่ได้รับการอนุญาตสร้างความเสียหายให้กับตนและครอบครัว ก่อนแอร์ คลับฟรายเดย์จะแจ้นปิดแฟนเพจไปอย่างกะทันหัน จนทำให้สังคมตั้งคำถามว่าสรุปแล้วเรื่องราวที่แอร์ได้เล่าในรายการจนสะเทือนอารมณ์นั้นเป็นเรื่องจริงหรือหลอกลวงกันแน่ ไหนจะมีบุคคลที่อ้างตัวเป็นแม่แอร์โทรศัพท์เข้ามาขอโทษลูกสาวในรายการ จนทำให้มีการตั้งข้อสังเกตว่ามันเป็นเหตุบังเอิญเกินไปหรือเปล่า และทางกรีนเวฟได้มีส่วนรู้เห็นถึงเรื่องดังกล่าวหรือไม่
ล่าสุดวันนี้ (18 สิงหาคม 2557) “ฉอด สายทิพย์ มนตรีกุล ณ อยุธยา” ในฐานะผู้บริหารค่ายเอไทม์ ก็ได้ออกมาเปิดใจเคลียร์ผ่านรายการสน.แสนแสบ ณ สตูดิโอกรีนแชนแนล อาคารจีเอ็มเอ็ม แกรมมี่เพลส พร้อมโชว์หลักฐานเป็นข้อความสนทนาโต้ตอบกันระหว่างแอร์ คลับฟรายเดย์ และ “อ้อย นภาพร” ยันแอร์มีตัวตนจริง ส่วนรายการไม่เมกเรื่องดังกล่าวหลอกคนฟัง อีกทั้งยอมรับว่ารำคาญที่มีคนตั้งกระทู้ถึงเรื่องดังกล่าวไม่เลิก ท้าใครอยากรู้ความจริงให้มาถามได้เลย
"สำหรับกรณีของคุณแอร์(คลับฟรายเดย์) ที่กำลังเป็นประเด็นอยู่ในขณะนี้ว่ามันจริงหรือไม่จริง รายการสร้างเรื่องหรือเปล่า ก่อนอื่นต้องบอกก่อนว่าคุณแอร์มีตัวตนจริง รวมถึงรายการไม่จำเป็นต้องสร้างเรื่องขึ้นมาเพราะในทุกๆ ครั้งที่ออกอากาศมีเรื่องส่งเข้ามาเยอะมาก บางคนถามว่าเรื่องมันดูแรงไปหรือเปล่า เป็นไปไม่ได้หรอก แต่อยากจะบอกว่ามันยังมีเรื่องที่แรงกว่านี้เกิดขึ้นในสังคมไทยเยอะมาก ถ้าถามว่าเรื่องคุณแอร์เป็นประเด็นที่แปลกประหลาดจนเกิดขึ้นไม่ได้เลยเหรอ ตอบเลยว่าไม่ใช่ มันเป็นเพียงเคสต์ที่รุนแรงเคสต์หนึ่งเท่านั้นเอง แล้วต้องชี้แจงว่าเรื่องของคุณแอร์ คุณแอร์ไม่ได้โทร.เข้ามาเล่าเพื่ออยากดังหรืออยากออกอากาศ เพราะเขาส่งเรื่องของเขาเข้ามาทางเฟซบุ๊กของพี่อ้อย(นภาพร) เพื่อปรึกษาว่าจะทำยังไงดี(ยกข้อความสนทนาที่ปริ้นต์ออกมาให้ดู) ซึ่งจะเห็นว่ามีการคุยกันมาตั้งแต่วันที่ 3 ม.ค.ที่ผ่านมา แล้วก็มีการสนทนาโต้ตอบกับพี่อ้อยมาเป็นระยะเวลานาน จนพี่อ้อยเห็นว่าเรื่องนี้น่าสนใจ จึงขออนุญาตคุณแอร์ว่าจะเอามาออกอากาศ หลังจากนั้นก็มีกระแสมากมาย จนถึงวันหนึ่งที่เราจะทำซีรีส์ ซึ่งได้ตัดสินใจเรื่องของคุณแอร์ที่แม้มันจะแรงแต่มันมีประโยชน์มาทำ ในตอนแรกคุณแอร์ยังถามเลยว่าจะดีไหมเพราะเขาก็กังวลเพราะฟีดแบ็กตามมาทั้งทางบวกทางลบ ถึงได้บอกว่าคุณแอร์มีตัวตนจริงเพราะเราคุยกันตลอดเวลา”
ยันไม่เห็นด้วยหลัง “แอร์ คลับฟรายเดย์” ขอคำแนะนำเรื่องเปิดแฟนเพจ และไม่รู้เหตุผลที่อีกฝ่ายนำภาพของ “แอร์ อภิรติ” มาสวมรอยแทนรูปตนเอง ส่วนกรีนเวฟกำลังเช็กกฎหมายหลัง “แอร์ อภิรติ” จ่อฟ้อง
“ไม่แน่ใจว่าใครได้ฟังคลิปที่มีออกมาตอนนี้ไหม ในคลิปมีการอ้างชื่อพี่ฉอดกับพี่อ้อยต่างๆ นานา ซึ่งตรงนี้อธิบายก่อนว่าทุกคนที่เราได้นำเรื่องมาออกอากาศจนถึงตอนนี้ก็ยังมีการติดต่อพูดกันตลอด เช่นเดียวกันที่วันหนึ่งคุณแอร์มาปรึกษาพี่อ้อยว่าอยากเปิดเฟซบุ๊กของตัวเอง ซึ่งพี่อ้อยยังบอกไปว่าจะดีเหรอเพราะไหนบอกว่าอยากอยู่เงียบๆ ไม่อยากยุ่งกับใคร รวมถึงกลัวว่าคุณแม่จะตามมาเจอ คุณแอร์ก็บอกว่าเขาได้รับกระแสคนที่เข้ามาให้กำลังใจเยอะมาก เขาเลยอยากได้สัมผัสกำลังใจนั้นด้วยตัวเขาเอง พี่อ้อยก็ยังเตือนว่าอันนี้แล้วแต่น้องนะคะเพราะกระแสที่เข้ามามีทั้งบวกและลบ ถ้าน้องไม่แข็งแรงพอพี่อ้อยไม่เห็นด้วยนะที่จะเปิดเฟซบุ๊ก คุณแอร์ก็บอกว่าอ๋อเหรอคะถ้าอย่างนั้นไม่เปิดดีกว่า ไปปิดดีกว่า นั่นแหละคือสิ่งที่เรารู้ ขั้นตอนของเราคือทำได้แค่นั้น คุยได้แค่นั้น เพราะฉะนั้นหลังจากนั้นการที่มีคนออกมาแล้วบอกว่าน้องไปเอารูปของคนที่ชื่อ “แอร์ อภิรติ” มาเป็นหน้าเพจของตัวเอง จนเป็นที่มาของประเด็นที่ว่าคุณแอร์มีตัวตนจริงหรือเปล่า”
“ถ้าส่วนตัวพี่ให้พี่เดาก็พยายามจะจิ๊กซอว์ต่อเรื่องว่าคุณแอร์คงไม่อยากเอาหน้าตัวเองออกไป เลยไปคว้าเอารูปของใครมา แต่ว่าอันนี้คือพี่เดาเอานะคะ ไม่ได้ยืนยันว่าคุณแอร์ทำแบบนั้นด้วยเหตุผลนี้ไหม แค่เป็นความคิดเห็นส่วนตัว เพราะที่ผ่านมาพี่ฉอดพี่อ้อยก็โดนเอารูปไปใช้เป็นเพจปลอมมาตลอด แล้วพอคุณแอร์ที่เป็นเจ้าของรูปได้คุยกับคุณแอร์ตัวจริง อันนี้เป็นเรื่องที่อยู่เหนือดารควบคุมของเราแล้ว ไม่รู้ว่าหลังจากที่คุยกันเรื่องเป็นยังไงต่อไป แต่เห็นว่าคุณแอร์ที่เป็นเจ้าของรูปเตรียมจะเรียกร้องให้รายการรับผิดชอบไม่อย่างนั้นจะฟ้อง ซึ่งเราก็ไปเช็กทางกฎหมายก็ทราบว่าจริงๆ การเปิดเฟซบุ๊กใดๆ เป็นเรื่องส่วนตัว ฉะนั้นเราคงไม่สามารถตามไปรับผิดชอบในสิ่งที่เกิดขึ้นตรงนั้นได้เพราะมันคนละเรื่องกันกับสิ่งที่เรานำมาออกอากาศในรายการ”
เผยแอร์รับเงินจากผู้ชายคนหนึ่งจริง เป็นจำนวนเงิน 6 พันบาท แต่อีกฝ่ายยินดีใช้คืนหลังได้ทำงานแล้ว
“สิ่งที่เกิดขึ้นที่พวกเรารู้คือหลังจากที่เรื่องคุณแอร์ออกอากาศไปแล้ว มีคนเยอะมากอยากมาขอที่อยู่หรือขอเบอร์โทร. แต่โดยมารยาทแล้วทางรายการไม่เคยให้เบอร์ใดๆ กับใคร รวมถึงผู้ชายคนนี้ด้วย แต่หลังจากนั้นเราไม่ทราบว่าโดยวิธีไหนผู้ชายคนนี้ถึงได้ไปคุยกับคุณแอร์ได้ แต่เรามารู้เรื่องหลังจากนั้นคือคุณแอร์มาคุยกับพี่อ้อยว่ามีผู้ชายคนหนึ่งที่มีโอกาสได้คุยด้วย เขาดีมากเลย แล้วตอนนี้หนูมีปัญหาเรื่องเงิน เขาก็โอนเงินมาให้ 6 พันบาท ซึ่งพี่อ้อยก็ดุไปตามภาษาผู้ใหญ่อย่าไปทำแบบนี้ จะไปเอาเงินของเขามาง่ายๆ ได้ยังไงถ้าเขาไม่หวังอะไรจากตัวหนู ไม่ควรไปรับเงินจากใครนะ คุณแอร์ก็บอกว่าอ๋อเหรอคะ โอเคค่ะงั้นถ้าหนูทำงานได้หนูจะเอาเงินไปใช้เขา นี่คือสิ่งที่เรารับรู้”
ยันเจตนาบริสุทธิ์คลับฟรายเดย์ ทำงาน 10 ปีไม่เคยมีเรื่องฉาว ท้านักสืบโซเชียล อยากรู้ความจริงให้มาหาตนได้เลย
"พี่ฉอดจะได้คุยอะไรกับใครน้อยมาก ส่วนใหญ่จะเป็นพี่อ้อยกับทางทีมงาน ในขั้นแรกที่คุยกันเหมือนน้องปฎิเสธว่าน้องไม่ได้ทำ ไม่ได้เปิดหน้าเฟซบุ๊ก ไม่ได้เอาหน้าใครมา แต่ล่าสุดเหมือนน้องเขาก็โพสต์ข้อความยอมรับว่าทำจริงๆ แล้วเขาก็ขอโทษ พี่เดาเอาเองว่ามันน่าจะเป็นความรู้สึกประมาณหนึ่งน้องเขาถึงทำแบบนี้ ในที่สุดแล้วพี่อยากจะบอกว่าในบรรดาปัญหาทั้งหมดที่เกิดขึ้นในครั้งนี้ พี่อยากจะยืนยันในเจตนาอันบริสุทธิ์ของคลับฟรายเดย์ก่อนเลยเพราะเราทำงานตรงนี้มา 10 ปีเราไม่เคยมีกรณีอะไรแบบนี้มาก่อนเลย หลังจากที่มันเกิดเรื่องเราก็เข้ามาเช็คกัน ไปสรุป ประเมินผลกันดู ซึ่งเราทำแบบนี้กันมาตลอดอยู่แล้ว เรื่องราวที่เรานำเสนอมีคนจำนวนเยอะมากที่ได้ประโยชน์กับเรื่องราวที่ออกอากาศไป หลายคนบอกว่าคิดจะทำไม่ดี พอดูแล้วก็รู้ว่าถ้าทำไม่ดี มันก็จะได้ไม่ดี บางคนรู้สึกว่าชีวิตจะไม่รอดพอได้ดูแล้วเขาก็สบายใจขึ้น”
“เรายืนยันเจตนารมณ์ในการทำรายการของเราทุกอย่างยังเหมือนเดิม ทุกอย่างอยู่ที่เจตนา ผลที่เราได้รับกลับมามันยังทำให้เรารู้สึกดี ถ้าสิ่งที่เกิดขึ้นมันเป็นปัญหามันก็เป็นปัญหาที่บุคคล ไม่ได้เป็นปัญหาที่รายการ หรือเป็นปัญหาที่ความตั้งใจของรายการ ว่ารายการจะต้องเมกหรือสร้างเรื่องต่างๆ ณ วันนี้ฟีดแบ็กที่เข้ามาที่พี่ คนที่เป็นแฟน คนที่รู้จักคลับฟรายเดย์ ไม่มีใครถามเรื่องนี้สักคน ไม่มีใครตั้งประเด็นว่าเป็นเรื่องจริงหรือไม่จริงทุกคนรู้ว่าเป็นยังไง แต่คนที่พูดกันอยู่ตอนนี้เป็นคนที่ไม่รู้จักคลับฟรายเดย์ เป็นคนประเภทอยู่ในโซเชียลที่เข้ามาด่าๆๆๆๆแล้วก็ไป นึกจะพูดอะไรก็ได้ ตอนนี่เราโดนกระแสจากตรงนี้อยู่ มีนักสืบนั่นนี่เต็มไปหมด พี่เลยอยากจะบอกว่าไม่ต้องไปสืบที่ไหน คำว่าสืบที่ว่าคือไปจับเอาตรงโน้นตรงนี้มาก็มาผูกเป็นเรื่องคิดกันไป เราอ่านแล้วเราก็ขำกัน มันไม่ใช่เรื่องจริงเลย ตั้งประเด็นกันเอาเองหมด”
“อยากจะบอกว่าใครอยากสืบเรื่องคลับฟรายเดย์จริงๆ ไม่ต้องไปสืบที่ไหน พี่เชิญเลยนะคะ มานั่งจัดรายการกับพี่ทุกวันศุกร์ มานั่ง 1-2 อาทิตย์เดี๋ยวก็รู้ว่าเราทำงานกันยังไง มีเคสต์ยังไงที่เข้ามา มีรุนแรงกว่านี้ขนาดไหนที่เข้ามา ไม่ต้องไปสืบที่ไหนนะคะ มาสืบกับพวกพี่นี่แหละ เราเปิดกว้างให้มาสืบเต็มที่ อีกประเด็นหนึ่งน้องแอร์ที่เป็นเจ้าของรูปก็ดี หรือใครก็ตามที่มีผลพวงจากเรื่องนี้พี่คงไม่สามารถไปรับผิดชอบได้ในเชิงของกฏหมาย เราไม่เกี่ยว เราไม่สามารถทำตรงนั้นได้ แต่เราไม่ได้จะปัดความรับผิดชอบ เรายินดีช่วยเหลือถ้าน้องมีอะไรให้พี่ช่วย พี่ไม่รู้ว่าพอมีการเปิดเพจมาแล้ว มีหน้าน้องแล้วน้องเดือดร้อน น้องอยากให้พี่ช่วยอะไร อยากให้พี่ออกอากาศในรายการให้ อยากจะให้ประกาศว่าน้องคนนี้ไม่เกี่ยวหรืออะไรก็ตามแต่ พี่ยินดีช่วยเต็มที่ แต่ไม่ใช่ว่าเดี๋ยวจะมาฟ้องพี่ จะมาเรียกค่าเสียหายอะไรเพราะพี่ไม่เกี่ยว พี่ไม่ได้รู้เห็นในการเปิดเพจเหล่านั้น แต่พี่ยินดีให้ความช่วยเหลือ”
“ฉอด” งัดหลักฐานโชว์ โต้เมกเรื่อง “แอร์ คลับฟรายเดย์” เมิน "แอร์ อภิรติ" จ่อฟ้อง!
“ฉอด สายทิพย์” งัดหลักฐานโชว์ โต้เมกเรื่อง “แอร์ คลับฟรายเดย์” หลอกสังคม ยันมีตัวตนจริง เผยไม่รู้เหตุผล “แอร์ คลับฟรายเดย์" นำรูป “แอร์ อภิรติ” มาสวมรอยสร้างแฟนเพจ แถมรับเงินบริจาคจากชายคนหนึ่ง 6 พันบาท เมิน "แอร์ อภิรติ" จ่อฟ้อง ชี้ทำรายการ 10 ปี ไม่เคยมีปัญหา อยากเป็นที่พึ่งพาของคนจิตป่วย ยันไม่ท้อแต่รำคาญโดนตั้งกระทู้ถามไม่เลิก ซัดไม่รู้จริงอย่าด่ามั่ว!
จากกรณีที่กำลังกลายเป็นกระแสวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนักในสังคม ว่าสรุปเรื่องราวของ “แอร์ คลับฟรายเดย์” ที่โทรศัพท์เข้ามาระบายความทุกข์ใจ เล่าเรื่องตนเองมีสามีคนเดียวกับแม่ ก่อนท้องและต้องระเห็จออกจากบ้าน อีกทั้งได้สร้างแฟนเพจจนมีคนเข้าไปแสดงความเห็นอกเห็นใจมากมาย แต่ไม่กี่วันต่อมาได้มีบุคคลที่อ้างตัวว่าเป็นแอร์ตัวจริงออกมาโวยว่าครอบครัวตนมีความสุขดี ไม่ได้มีสามีคนเดียวกับแม่ อีกทั้งแฟนเพจแอร์คลับฟรายเดย์ได้นำรูปของตนไปใช้โดยไม่ได้รับการอนุญาตสร้างความเสียหายให้กับตนและครอบครัว ก่อนแอร์ คลับฟรายเดย์จะแจ้นปิดแฟนเพจไปอย่างกะทันหัน จนทำให้สังคมตั้งคำถามว่าสรุปแล้วเรื่องราวที่แอร์ได้เล่าในรายการจนสะเทือนอารมณ์นั้นเป็นเรื่องจริงหรือหลอกลวงกันแน่ ไหนจะมีบุคคลที่อ้างตัวเป็นแม่แอร์โทรศัพท์เข้ามาขอโทษลูกสาวในรายการ จนทำให้มีการตั้งข้อสังเกตว่ามันเป็นเหตุบังเอิญเกินไปหรือเปล่า และทางกรีนเวฟได้มีส่วนรู้เห็นถึงเรื่องดังกล่าวหรือไม่
ล่าสุดวันนี้ (18 สิงหาคม 2557) “ฉอด สายทิพย์ มนตรีกุล ณ อยุธยา” ในฐานะผู้บริหารค่ายเอไทม์ ก็ได้ออกมาเปิดใจเคลียร์ผ่านรายการสน.แสนแสบ ณ สตูดิโอกรีนแชนแนล อาคารจีเอ็มเอ็ม แกรมมี่เพลส พร้อมโชว์หลักฐานเป็นข้อความสนทนาโต้ตอบกันระหว่างแอร์ คลับฟรายเดย์ และ “อ้อย นภาพร” ยันแอร์มีตัวตนจริง ส่วนรายการไม่เมกเรื่องดังกล่าวหลอกคนฟัง อีกทั้งยอมรับว่ารำคาญที่มีคนตั้งกระทู้ถึงเรื่องดังกล่าวไม่เลิก ท้าใครอยากรู้ความจริงให้มาถามได้เลย
"สำหรับกรณีของคุณแอร์(คลับฟรายเดย์) ที่กำลังเป็นประเด็นอยู่ในขณะนี้ว่ามันจริงหรือไม่จริง รายการสร้างเรื่องหรือเปล่า ก่อนอื่นต้องบอกก่อนว่าคุณแอร์มีตัวตนจริง รวมถึงรายการไม่จำเป็นต้องสร้างเรื่องขึ้นมาเพราะในทุกๆ ครั้งที่ออกอากาศมีเรื่องส่งเข้ามาเยอะมาก บางคนถามว่าเรื่องมันดูแรงไปหรือเปล่า เป็นไปไม่ได้หรอก แต่อยากจะบอกว่ามันยังมีเรื่องที่แรงกว่านี้เกิดขึ้นในสังคมไทยเยอะมาก ถ้าถามว่าเรื่องคุณแอร์เป็นประเด็นที่แปลกประหลาดจนเกิดขึ้นไม่ได้เลยเหรอ ตอบเลยว่าไม่ใช่ มันเป็นเพียงเคสต์ที่รุนแรงเคสต์หนึ่งเท่านั้นเอง แล้วต้องชี้แจงว่าเรื่องของคุณแอร์ คุณแอร์ไม่ได้โทร.เข้ามาเล่าเพื่ออยากดังหรืออยากออกอากาศ เพราะเขาส่งเรื่องของเขาเข้ามาทางเฟซบุ๊กของพี่อ้อย(นภาพร) เพื่อปรึกษาว่าจะทำยังไงดี(ยกข้อความสนทนาที่ปริ้นต์ออกมาให้ดู) ซึ่งจะเห็นว่ามีการคุยกันมาตั้งแต่วันที่ 3 ม.ค.ที่ผ่านมา แล้วก็มีการสนทนาโต้ตอบกับพี่อ้อยมาเป็นระยะเวลานาน จนพี่อ้อยเห็นว่าเรื่องนี้น่าสนใจ จึงขออนุญาตคุณแอร์ว่าจะเอามาออกอากาศ หลังจากนั้นก็มีกระแสมากมาย จนถึงวันหนึ่งที่เราจะทำซีรีส์ ซึ่งได้ตัดสินใจเรื่องของคุณแอร์ที่แม้มันจะแรงแต่มันมีประโยชน์มาทำ ในตอนแรกคุณแอร์ยังถามเลยว่าจะดีไหมเพราะเขาก็กังวลเพราะฟีดแบ็กตามมาทั้งทางบวกทางลบ ถึงได้บอกว่าคุณแอร์มีตัวตนจริงเพราะเราคุยกันตลอดเวลา”
ยันไม่เห็นด้วยหลัง “แอร์ คลับฟรายเดย์” ขอคำแนะนำเรื่องเปิดแฟนเพจ และไม่รู้เหตุผลที่อีกฝ่ายนำภาพของ “แอร์ อภิรติ” มาสวมรอยแทนรูปตนเอง ส่วนกรีนเวฟกำลังเช็กกฎหมายหลัง “แอร์ อภิรติ” จ่อฟ้อง
“ไม่แน่ใจว่าใครได้ฟังคลิปที่มีออกมาตอนนี้ไหม ในคลิปมีการอ้างชื่อพี่ฉอดกับพี่อ้อยต่างๆ นานา ซึ่งตรงนี้อธิบายก่อนว่าทุกคนที่เราได้นำเรื่องมาออกอากาศจนถึงตอนนี้ก็ยังมีการติดต่อพูดกันตลอด เช่นเดียวกันที่วันหนึ่งคุณแอร์มาปรึกษาพี่อ้อยว่าอยากเปิดเฟซบุ๊กของตัวเอง ซึ่งพี่อ้อยยังบอกไปว่าจะดีเหรอเพราะไหนบอกว่าอยากอยู่เงียบๆ ไม่อยากยุ่งกับใคร รวมถึงกลัวว่าคุณแม่จะตามมาเจอ คุณแอร์ก็บอกว่าเขาได้รับกระแสคนที่เข้ามาให้กำลังใจเยอะมาก เขาเลยอยากได้สัมผัสกำลังใจนั้นด้วยตัวเขาเอง พี่อ้อยก็ยังเตือนว่าอันนี้แล้วแต่น้องนะคะเพราะกระแสที่เข้ามามีทั้งบวกและลบ ถ้าน้องไม่แข็งแรงพอพี่อ้อยไม่เห็นด้วยนะที่จะเปิดเฟซบุ๊ก คุณแอร์ก็บอกว่าอ๋อเหรอคะถ้าอย่างนั้นไม่เปิดดีกว่า ไปปิดดีกว่า นั่นแหละคือสิ่งที่เรารู้ ขั้นตอนของเราคือทำได้แค่นั้น คุยได้แค่นั้น เพราะฉะนั้นหลังจากนั้นการที่มีคนออกมาแล้วบอกว่าน้องไปเอารูปของคนที่ชื่อ “แอร์ อภิรติ” มาเป็นหน้าเพจของตัวเอง จนเป็นที่มาของประเด็นที่ว่าคุณแอร์มีตัวตนจริงหรือเปล่า”
“ถ้าส่วนตัวพี่ให้พี่เดาก็พยายามจะจิ๊กซอว์ต่อเรื่องว่าคุณแอร์คงไม่อยากเอาหน้าตัวเองออกไป เลยไปคว้าเอารูปของใครมา แต่ว่าอันนี้คือพี่เดาเอานะคะ ไม่ได้ยืนยันว่าคุณแอร์ทำแบบนั้นด้วยเหตุผลนี้ไหม แค่เป็นความคิดเห็นส่วนตัว เพราะที่ผ่านมาพี่ฉอดพี่อ้อยก็โดนเอารูปไปใช้เป็นเพจปลอมมาตลอด แล้วพอคุณแอร์ที่เป็นเจ้าของรูปได้คุยกับคุณแอร์ตัวจริง อันนี้เป็นเรื่องที่อยู่เหนือดารควบคุมของเราแล้ว ไม่รู้ว่าหลังจากที่คุยกันเรื่องเป็นยังไงต่อไป แต่เห็นว่าคุณแอร์ที่เป็นเจ้าของรูปเตรียมจะเรียกร้องให้รายการรับผิดชอบไม่อย่างนั้นจะฟ้อง ซึ่งเราก็ไปเช็กทางกฎหมายก็ทราบว่าจริงๆ การเปิดเฟซบุ๊กใดๆ เป็นเรื่องส่วนตัว ฉะนั้นเราคงไม่สามารถตามไปรับผิดชอบในสิ่งที่เกิดขึ้นตรงนั้นได้เพราะมันคนละเรื่องกันกับสิ่งที่เรานำมาออกอากาศในรายการ”
เผยแอร์รับเงินจากผู้ชายคนหนึ่งจริง เป็นจำนวนเงิน 6 พันบาท แต่อีกฝ่ายยินดีใช้คืนหลังได้ทำงานแล้ว
“สิ่งที่เกิดขึ้นที่พวกเรารู้คือหลังจากที่เรื่องคุณแอร์ออกอากาศไปแล้ว มีคนเยอะมากอยากมาขอที่อยู่หรือขอเบอร์โทร. แต่โดยมารยาทแล้วทางรายการไม่เคยให้เบอร์ใดๆ กับใคร รวมถึงผู้ชายคนนี้ด้วย แต่หลังจากนั้นเราไม่ทราบว่าโดยวิธีไหนผู้ชายคนนี้ถึงได้ไปคุยกับคุณแอร์ได้ แต่เรามารู้เรื่องหลังจากนั้นคือคุณแอร์มาคุยกับพี่อ้อยว่ามีผู้ชายคนหนึ่งที่มีโอกาสได้คุยด้วย เขาดีมากเลย แล้วตอนนี้หนูมีปัญหาเรื่องเงิน เขาก็โอนเงินมาให้ 6 พันบาท ซึ่งพี่อ้อยก็ดุไปตามภาษาผู้ใหญ่อย่าไปทำแบบนี้ จะไปเอาเงินของเขามาง่ายๆ ได้ยังไงถ้าเขาไม่หวังอะไรจากตัวหนู ไม่ควรไปรับเงินจากใครนะ คุณแอร์ก็บอกว่าอ๋อเหรอคะ โอเคค่ะงั้นถ้าหนูทำงานได้หนูจะเอาเงินไปใช้เขา นี่คือสิ่งที่เรารับรู้”
ยันเจตนาบริสุทธิ์คลับฟรายเดย์ ทำงาน 10 ปีไม่เคยมีเรื่องฉาว ท้านักสืบโซเชียล อยากรู้ความจริงให้มาหาตนได้เลย
"พี่ฉอดจะได้คุยอะไรกับใครน้อยมาก ส่วนใหญ่จะเป็นพี่อ้อยกับทางทีมงาน ในขั้นแรกที่คุยกันเหมือนน้องปฎิเสธว่าน้องไม่ได้ทำ ไม่ได้เปิดหน้าเฟซบุ๊ก ไม่ได้เอาหน้าใครมา แต่ล่าสุดเหมือนน้องเขาก็โพสต์ข้อความยอมรับว่าทำจริงๆ แล้วเขาก็ขอโทษ พี่เดาเอาเองว่ามันน่าจะเป็นความรู้สึกประมาณหนึ่งน้องเขาถึงทำแบบนี้ ในที่สุดแล้วพี่อยากจะบอกว่าในบรรดาปัญหาทั้งหมดที่เกิดขึ้นในครั้งนี้ พี่อยากจะยืนยันในเจตนาอันบริสุทธิ์ของคลับฟรายเดย์ก่อนเลยเพราะเราทำงานตรงนี้มา 10 ปีเราไม่เคยมีกรณีอะไรแบบนี้มาก่อนเลย หลังจากที่มันเกิดเรื่องเราก็เข้ามาเช็คกัน ไปสรุป ประเมินผลกันดู ซึ่งเราทำแบบนี้กันมาตลอดอยู่แล้ว เรื่องราวที่เรานำเสนอมีคนจำนวนเยอะมากที่ได้ประโยชน์กับเรื่องราวที่ออกอากาศไป หลายคนบอกว่าคิดจะทำไม่ดี พอดูแล้วก็รู้ว่าถ้าทำไม่ดี มันก็จะได้ไม่ดี บางคนรู้สึกว่าชีวิตจะไม่รอดพอได้ดูแล้วเขาก็สบายใจขึ้น”
“เรายืนยันเจตนารมณ์ในการทำรายการของเราทุกอย่างยังเหมือนเดิม ทุกอย่างอยู่ที่เจตนา ผลที่เราได้รับกลับมามันยังทำให้เรารู้สึกดี ถ้าสิ่งที่เกิดขึ้นมันเป็นปัญหามันก็เป็นปัญหาที่บุคคล ไม่ได้เป็นปัญหาที่รายการ หรือเป็นปัญหาที่ความตั้งใจของรายการ ว่ารายการจะต้องเมกหรือสร้างเรื่องต่างๆ ณ วันนี้ฟีดแบ็กที่เข้ามาที่พี่ คนที่เป็นแฟน คนที่รู้จักคลับฟรายเดย์ ไม่มีใครถามเรื่องนี้สักคน ไม่มีใครตั้งประเด็นว่าเป็นเรื่องจริงหรือไม่จริงทุกคนรู้ว่าเป็นยังไง แต่คนที่พูดกันอยู่ตอนนี้เป็นคนที่ไม่รู้จักคลับฟรายเดย์ เป็นคนประเภทอยู่ในโซเชียลที่เข้ามาด่าๆๆๆๆแล้วก็ไป นึกจะพูดอะไรก็ได้ ตอนนี่เราโดนกระแสจากตรงนี้อยู่ มีนักสืบนั่นนี่เต็มไปหมด พี่เลยอยากจะบอกว่าไม่ต้องไปสืบที่ไหน คำว่าสืบที่ว่าคือไปจับเอาตรงโน้นตรงนี้มาก็มาผูกเป็นเรื่องคิดกันไป เราอ่านแล้วเราก็ขำกัน มันไม่ใช่เรื่องจริงเลย ตั้งประเด็นกันเอาเองหมด”
“อยากจะบอกว่าใครอยากสืบเรื่องคลับฟรายเดย์จริงๆ ไม่ต้องไปสืบที่ไหน พี่เชิญเลยนะคะ มานั่งจัดรายการกับพี่ทุกวันศุกร์ มานั่ง 1-2 อาทิตย์เดี๋ยวก็รู้ว่าเราทำงานกันยังไง มีเคสต์ยังไงที่เข้ามา มีรุนแรงกว่านี้ขนาดไหนที่เข้ามา ไม่ต้องไปสืบที่ไหนนะคะ มาสืบกับพวกพี่นี่แหละ เราเปิดกว้างให้มาสืบเต็มที่ อีกประเด็นหนึ่งน้องแอร์ที่เป็นเจ้าของรูปก็ดี หรือใครก็ตามที่มีผลพวงจากเรื่องนี้พี่คงไม่สามารถไปรับผิดชอบได้ในเชิงของกฏหมาย เราไม่เกี่ยว เราไม่สามารถทำตรงนั้นได้ แต่เราไม่ได้จะปัดความรับผิดชอบ เรายินดีช่วยเหลือถ้าน้องมีอะไรให้พี่ช่วย พี่ไม่รู้ว่าพอมีการเปิดเพจมาแล้ว มีหน้าน้องแล้วน้องเดือดร้อน น้องอยากให้พี่ช่วยอะไร อยากให้พี่ออกอากาศในรายการให้ อยากจะให้ประกาศว่าน้องคนนี้ไม่เกี่ยวหรืออะไรก็ตามแต่ พี่ยินดีช่วยเต็มที่ แต่ไม่ใช่ว่าเดี๋ยวจะมาฟ้องพี่ จะมาเรียกค่าเสียหายอะไรเพราะพี่ไม่เกี่ยว พี่ไม่ได้รู้เห็นในการเปิดเพจเหล่านั้น แต่พี่ยินดีให้ความช่วยเหลือ”