Europe trip Day#6 : ไวน์ดีมีชื่อ ซื้อกางเกงใส่ ชัยชนะเยอรมัน

วันนี้เราจะไปยังเมืองที่เป็นที่พักสุดท้ายของทริปนี้คือเมืองแฟรงค์เฟิร์ต [Frankfurt]เมืองอุตสาหกรรมของเยอรมัน ซึ่งเวลาก็ประจวบเหมาะทำให้เราได้เชียร์บอลคู่ เยอรมัน VS ฝรั่งเศส  บรรยากาศที่นี้จะคึกครื้น คับคั้ง คลุ้มคลั่งแค่ไหน เชิญรับชมได้เลยครับ

ติดตามตอนอื่นๆได้ที่นี้เลยครับ
Europe Trip Day#0 : การเตรียมตัวและเดินทางไป Switzerland “ดินแดนแห่งช๊อกโกแลต” : http://ppantip.com/topic/32426455
Europe trip Day#1 : สไตน์แอมไลน์ สายน้ำตกไลน์ สบายๆเชียร์บอล : http://ppantip.com/topic/32430482
Europe trip Day#2 : เดินทางขึ้นเขา เล่าเรื่องลูเซิร์น เพลินๆยามเย็น : http://ppantip.com/topic/32433928
Europe trip Day#3 : เข้าสู่เยอรมัน ลั้นลาสตุจการ์ด ฟาดอาหารจานยักษ์ : http://ppantip.com/topic/32434213
Europe trip Day#4 : ปราสาทดิสนี่ Taxiลงเขา เมาเบียร์มิวนิค : http://ppantip.com/topic/32443263
Europe trip Day#5 : ขึ้นหอคอยชมเมือง เลื่องลือวู๊ดบวก ผู้คนหลงทาง : http://ppantip.com/topic/32454006

เช้านี้เรารับประทานอาหารที่โรงแรม Novotel เมือง Wurzburg ก่อนจะออกเดินทางไปเมือง Frankfurt
อาหารเช้านี้อร่อยมาก (แต่ผมลงมาสายที่สุดจึงต้องรีบรับประทาน) เมนูแนะนำ แซลมอนรมควันและมีตบอล



นั่งรถไฟมาเพียง 1 ชั่วโมงก็จะมาถึงเมือง Frankfurt พวกเรารีบเช็คอินเข้าโรงแรม “Colour Hotel” เพื่อเก็บสัมภาระ
โรงแรม Colour Hotel ได้รับ 3 ดาวจากการประเมินโรงแรมตามภาพครับ

[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้ซึ่งแต่ละดาวก็จะมีชื่อของมันประมาณนี้ครับ
1 ดาว : Tourist (ประมาณพออยู่ได้ พอค้างคืนได้)
2 ดาว : Standard (กลางๆ รับประกันคุณภาพพื้นฐาน)
3 ดาว : Komfort (อยู่ได้อย่างสบาย)
4 ดาว : First Class (ไฮโซ สะดวกสบายมาก)
5 ดาว :Luxus (หรูหรา อลังการ งานสร้าง พระเจ้าช่วยกล้วยทอด)



หลังจากนั้นเราขึ้นรถไฟไปยังเมืองสวยริมแม่น้ำไรน์ คือ เมืองรูเดสไฮม์ [Rudesheim] ซึ่งถูกกล่าวขานว่าเป็นเมืองยุคกลางที่สวยที่สุดในเยอรมัน
ก่อนขึ้นรถไฟผมก็ไม่ลืมที่จะสำรวจตู้ไอศกรีมหน้าสถานีรถไฟ (Magnum รสไวท์ช็อกโกแลตและคาราเมล)


ทางรถไฟทอดขนานแม่น้ำไรน์ เรานั่งรถไฟ1 ชั่วโมง ก็จะมาถึงเมืองรูเดสไฮม์ [Rudesheim] จากสถานีรถไฟเราเดินสำรวจรอบๆเมือง ซึ่งเราจะมองเห็นกระเช้าอยู่ไกลๆบนภูเขา (กระเช้านี้พานักท่องเที่ยงขึ้นไปชมสวนองุ่นและชิมไวน์)




iระหว่างทางเราพบพิพิธภัณฑ์ ไวน์ ซึ่งเสียค่าเข้าครอบครัวละ 10 Euro (3คน พ่อแม่ลูก) // เราไม่ได้เข้าเนื่องจากเวลาไม่พอครับ

เดินมาสักพัก เราก็สังเกตเห็นซอยแคบๆที่มีนักม่องเที่ยวมากมายทางด้านซ้ายมือจึงเลี้ยงเข้าไปดู



ภายในซอยก็มีร้านขายของที่ระลึก ร้านไอติม ร้านขายไวน์ ร้านอาหาร และร้านหนังสือครับ พวกเราได้ซื้อกรรไกรตัดเล็บเป็นจำนวนหนึ่งเพื่อเป็นของฝากครับ

เราเดินจนถึงสุดซอย ก็จะพบทางเดินไปทั้งซ้ายและขวา ทางซ้ายมีพิพิธภัณฑ์นาฬิกากลไก ส่วนทางด้านขวามีร้านอาหารอีกจำนวนหนึ่งและยังมีทางขึ้นกระเช้าที่ได้กล่าวไว้ก่อนหน้านี้ครับ//เราไม่ได้ขึ้นกระเช้านะครับ เวลาไม่พอ

ทางซ้ายมือ

ทางขวามือ



ทางขึ้นกระเช้า


เราเลือกรับประทานอาหารกลางวันบริเวณซอยแรกที่เราเข้ามา ซึ่งอาหารก็มีหลากหลายอย่างดังภาพ

จานนี้เป็นเมนูแนะนำของทางร้านเป็นเนื้อบดแบบท้องถิ่นซึ่งขอบอกตรงๆว่าปรุงรสได้เปรี้ยวมากกก (ถ้วยข้างๆเป็นน้ำจิ้ม รสคล้ายบ๊วย มีรสหวานช่วยกลบความเปรี้ยว)

กินอาหารอิ่มแล้ว พวกเราก็แยกย้ายกัน บางคนไปซื้อของฝาก บางคนไปเดินเล่นรอบๆ ส่วนผมและแม่เดินหาของหวานเป็น ไอศกรีมคาเฟ่ทานเล่นครับ


ทานของหวานเสร็จ เราก็รวมตัวกันเดินกลับสถานีรถไฟเพื่อกลับไปยังเมือง Frankfurt

ระหว่างทางเดินกลับ พวกเราเจอขบวนรถไฟขนส่งรถยนต์ เป็นขบวนรถไฟที่ยาวมากๆครับ คาดว่าน่าจะพ่วงรถยนต์ไว้ประมาณ 100 คัน (ภาพนี้ถ่ายทันแค่หางขบวน)


เมื่อเรานั่งรถไฟกลับมาถึงเมือง Frankfurt เราก็เดินทางไปยังถนน “Zeil” ซึ่งเป็นแหล่งของสินค้าแบรนเนมที่ใหญ่มากแห่งหนึ่ง เพื่อตอบสนองความต้องการของผู้ร่วมเดินทางบางคน

ด้วยเหตุที่ผมไม่มีความรู้เรื่องแบรนเนมและไม่มีความสนใจเท่าไหร่ จึงเดินตามผู้เชี่ยวชาญไปเรื่อยๆครับ

แต่ถ้าคุณไม่อยากเดิน จะนั่งรถจักรยาน 3 ล้อก็ได้ครับ


ร้านแรกที่เราเข้ามาเป็นแบรนราคาประหยัด ชื่อ Jack&Jone ซึ่งเราก็เคยเจอร้านนี้แล้วที่เมือง Luzern ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ (Day2)



ต่อมาเราก็เดินเล่นต่อครับ

Gucci

Longchamp

Hermes & Moncler

Burberry
Louis Vuitton

อื่นๆอีกมากมาย


หลังจากนั้นเราเดินไปอีกฝากเพื่อหากางเกงยีน Nudie บรรยากาศระหว่างทางประมาณนี้ครับ




หากใครเคยชมคลิปในที่แชร์กันใน facebook จะรู้จักการสร้างสรรค์งานศิลป์ในภาพข้างล่าง

และแล้วเราก็มาถึงห้างที่มีกางเกงยีนขาย ขณะนั้นบอลคู่เยอรมัน-ฝรั่งเศสก็เริ่มพอดีเลยครับ

สุดท้ายแล้วก็ไม่ใครได้ Nudie ไปครองเพราะไม่มี size แต่เราก็ได้ยีนแบรนรองลงมาชื่อ Cheap Monday มาแทนในราคา 27 Euro

ขณะที่เรากำลังจะจ่ายเงินค่ากางเกงยีน ก็มีเสียงโห่ร้องออกมาจากข้างนอกห้างผมจึงวิ่งไปดู ปรากฏว่าเยอรมันนำฝรั่งเศส 1-0 แล้วครับ

ผมจึงรีบวิ่งไปหาที่ชมการแข่งฟุตบอลโลก …… การเชียร์ของคนเยอรมัน ช่าง ดุเดือดจริงๆ
ก่อนหมดเวลา 15 นาที ผมและพ่อได้นั่งรถไฟไปสเตเดี่ยมของเมือง Frankfurt เพื่อชมบรรยากาศ ผู้คนที่มาเชียร์บอล  (แต่เราอดเข้าใปข้างในเพราะมาสายเกินไป) …สุดท้ายก็จบการแข่งขันด้วยชัยชนะของเยอรมัน 1-0

รถยนต์ทุกคันบีบแตรอย่างสนุกสนาน ผู้คนกู่ร้องดีใจกันอย่างบ้าคลั่ง บางคนก็เตะขวดเบียร์จนแตก เศษแก้วกระจัดกระจายไปทั่วพื้นถนน
รถไฟขบวนที่เรานั่งกลับมายังสถานีรถไฟกลางแน่นขนัดไปด้วยแฟนบอลชาวเยอรมัน ให้บรรยากาศครึกครื้นมากครับ
มื้อเย็นนี้เรารับประทานที่ร้านอาหารไทยภายในสถานีรถไฟกลาง (รสชาติออกหวานไปมาก)

ก่อนกลับโรงแรมเพื่อพักผ่อนผมได้เข้าร้านขายของเพื่อซื้อเบียร์ดำเยอรมันมา1กระป๋อง (กระป๋อง 1 ลิตร) เบียร์ออริจินัลอีก 1 กระป๋อง เครื่องดื่มค็อกเทลคล้าย Spy ยี่ห้อ “Beck” รสIce อีก 6 ขวด แต่ที่สะดุดตาผมอีกอย่างนอกจากเบียร์ในร้านคือ เครื่องดื่มชูกำลัง Monster ซึ่งมีหลากรสหลากสีมากมาย

คืนนี้เป็นคืนสุดท้ายในยุโรปของทริปในครั้งนี้แล้วครับ ราตรีสวัสดิ์ครับ

จบไปแล้วกับการเดินทางวันที่ 6 พรุ่งนี้เราจะเดินทางกลับประเทศไทยแล้วครับ ช่วงเช้าของพรุ่งนี้เราเดินเล่นอีกนิดหน่อยครับ ขอขอบคุณทุกคนที่อ่านมาจบถึงตอนนี้นะครับ