.
สตรีชาวฝรั่งเศสที่เป็นมิตรกับนาซีเยอรมันนี
ด้วยการถูกขู่เข็ญ ถูกบีบบังคับ ยินยอมพร้อมใจ
หลังการมีเอกราชของประเทศฝรั่งเศส
(ด้วยการปลดปล่อยของทหารสัมพันธมิตร)
พวกเธอต่างได้รับโทษทัณฑ์
ด้วยการทำให้อัปยศ/อับอาย
สตรีในภาพนี้ถูกตั้งข้อหาว่า
ขายบริการให้กับทหารเยอรมันนี
.
.
.
เธอถูกโกนหัวโล้นโดยฝูงชน
ที่ต้องการประจานเธอ
ภาพนี้ถ่ายที่ Montelimar, France
29 สิงหาคม 1944
.
.
หลังสิ้นสุดสงครามโลกครั้งที่ 2
ชาวบ้านฝรั่งเศสจำนวนมากกว่า 20, 000 คน
ที่ถูกตั้งข้อหาสมคบคิดกับคนเยอรมัน
หรือร่วมมือกับฝ่ายศัตรูเยอรมันนี
ต่างได้รับการล้างแค้นให้ได้รับความอัปยศ
ได้รับความอับอายเสื่อมเสียชื่อเสียงเกียรติยศ
ส่วนมากผู้ที่ได้รับการลงโทษมักจะเป็นสตรี
โดยจะถูกจับโกนหัวให้โล้นในที่สาธารณะ
เหตุการณ์ครั้งนั้นในประวัติศาสตร์ฝรั่งเศส
เป็นเรื่องน่าอัปยศและสร้างความขายขี้หน้า
ให้กับคนในชาติฝรั่งเศสเช่นเดียวกัน
เพราะเป็นการกระทำที่ไม่มี
การพิจารณาสืบสวนสอบสวน
ตามหลักกระบวนการยุติธรรมอย่างชัดเจน
(เป็นการกระทำของพวกคนบ้าคลั่ง
หรือพวกมากลากไป หรือพวกฉวยโอกาส)
.
.
.
สตรีมากกว่า 20,000 คน ที่ถูกศาลเตี้ยจัดการ
ในปี 1943-1946(2486-2489)
.
.
ทั่วทุกมุมของประเทศฝรั่งเศส
ตั้งแต่ปี 1943 ถึงต้นปี 1946
สตรีกว่า 20,000 คนทุกวัยและทุกสาขาอาชีพ
ที่ถูกกล่าวหาว่าร่วมมือ/สมคบคิดกับเยอรมันนี
จะถูกบังคับให้ยอมจำนน/ถูกจับโกนผมให้หัวโล้น
โดยฝูงชนที่ทำเรื่องเลวร้ายเหล่านี้
มักจะเป็นอดีตนักรบต่อต้านกองทัพเยอรมันนี
หรือคนที่เพิ่งจะลุกขึ้นจับอาวุธต่อสู้
เพื่อปลดปล่อยฝรั่งเศสหลังรู้ว่าชนะแน่แล้ว
เพื่อนบ้านที่เพิ่งจะกล้าลงมาเดิน
บนท้องถนนหลังจากเยอรมันหนีไปแล้ว
หรือคนที่มีอำนาจเดิมที่เดินตามโรงพัก
หรือเดินตามตีนโรงตีนศาลหากินเศษเงิน
พวกคนเหล่านี้ต่างบ้าคลั่ง
และชอบใช้ความรุนแรง
ทำร้ายสตรีที่เป็นเหยื่อผู้เคราะห์ร้าย
ทั้งภายในบ้าน หลังกำแพง ในเรือนจำ
ในที่ชุมชนต่าง ๆ เพื่อแสดงความรักชาติ
ในช่วงหลัง ๆ แล้ว
พวกผู้ชายที่ถือกรรไกรตัดผมและใบมีดโกน
ที่จัดการโกนหัวของเหยื่อให้โล้นแล้ว
ยังกลายเป็นการแสดงมหกรรมความชั่วร้าย
ให้ผู้ชมต่าง ๆ ทั้งหญิง ชาย รวมทั้งเด็ก ๆ
ที่ต่างมาเข้าร่วมขบวนการเรื่องน่าตื่นเต้นเร้าใจ
ในการลงโทษคนทรยศเหล่านี้ตามข้อกล่าวหา
.
.
.
หน้าผากของเหยื่อมีเครื่องหมายสวัสดิกะ
(สัญญลักษณ์นาซี)
.
.
เหยื่อส่วนมากที่ถูกศาลเตี้ยจัดการ คือ
ข้อหาสบคบคิดหรือร่วมมือกับเยอรมัน
.
.
เป้าหมายการลงโทษในช่วงแรก
มีการกำหนดแบ่งแยกเพศ
และโทษทัณฑ์อย่างชัดเจน
เช่น การกำหนดรอยตรา
หรือขีดเขียนไว้บนหน้าผาก
หรือโกนผมให้หัวโล้น
แต่สุดท้ายมีการใช้รวม ๆ
ผสมปนเปไปกับการตั้งข้อหาทุกเรื่อง
ภาพที่ปรากฎจำนวนมาก
จะเป็นภาพสตรีถูกโกนผมให้หัวโล้น
แล้วถูกนำตัวมาเดินประจานไปตามท้องถนน
โดยเหยื่อผู้ถูกกระทำต่างปริปากเงียบ
แล้วต่างตัองเดินตามคำสั่งฝูงชนที่สั่งลงโทษ
ที่ไม่ทำตามกระบวนการยุติธรรม
ที่ต้องพิจารณาตามลำดับตามกฎหมาย
(การร่วมมือ การกล่าวหา การจับกุม
การตัดสิน การลงโทษ ต้องมีพยานหลักฐาน)
.
.
.
คนถูกลงโทษถูกจับกุมโดยพนักงานรัฐ
หรือสมาชิกกลุ่มต่อต้านเยอรมันนี
.
.
ดวงตาของความอัปยศหรืออับอาย
.
.
ข้อหาการสบคมคิดหรือการร่วมมือกับศัตรู
มี 4 ประการ
1. ทางการเมือง คือ
การร่วมมือกับหน่วยงานศัตรู
2. ทางพฤตินัย คือ
มีความคิดเห็นชอบด้วยกับฝ่ายศัตรู
หรือทำตัวเป็นปรปักษ์กับฝ่ายต่อต้านศัตรู
หรือฝ่ายสนับสนุนฝรั่งเศส
3. ทางการเงิน คือ
ได้ประโยชน์จากอาชีพหรือสัญญาทางธุรกิจ
4. ทางส่วนตัว คือ
มีสัมพันธ์ใกล้ชิดกับศัตรู
หรือน่าจะมีการแจ้งรายชื่อ/ที่หลบซ่อน
ผู้ต้องสงสัยให้กับฝ่ายศัตรู
เรื่องพิเศษประการที่ 5.
ใครก็ตามที่มาจากชาติศัตรู
ไม่จำเป็นต้องสมคบคิดหรือร่วมมือ
แต่ต้องระแวงสงสัยไว้ก่อนว่าผิด
มีจำนวนชาวบ้าน 22,315 คน
ที่ถูกลงโทษด้วยการถูกจับโกนหัวโล้น
ข้อหาสมคมคิด/ให้ความร่วมมือกับฝ่ายศัตรู
.
.
.
การตบตีและการถ่มน้ำลาย
กระหน่ำใส่เหยื่อผู้เคราะห์ร้าย
.
.
การเดินที่อัปยศผ่านใจกลางเมือง
.
.
Lee Miller หนึ่งในช่างภาพ
ที่บันทึกภาพในเหตุการณ์ครั้งนั้น
เล่าเหตุการณ์ที่ตนเองประสบและพบเห็นมา
" ผมเห็นเหยื่อสตรีสี่คน
เดินบนท้องถนนผ่านใจกลางเมือง
ผมรีบตรงรี่เข้าไปจะถ่ายภาพเหยื่อเหล่านั้น
ทันใดนั้น ผมอยู่ด้านหน้าของขบวนแห่ประจาน
ที่มีชาวบ้านท้องถิ่น/ทหารสตรีที่ควบคุมพวกเธอ
และแล้วมีบางสิ่งบางอย่างที่เป็นเช่นนั้น
ผมถูกหอมแก้มและแสดงความยินดี
ขณะเดียวกันชาวบ้านต่างตบตี
และถ่มน้ำลายกระหน่ำใส่เหยื่อผู้เคราะห์ร้าย "
หมายเหตุ
มีหนังสือเกี่ยวกับเหตุการณ์เรื่องราวเหล่านี้ชื่อ
Shorn Women: Gender and Punishment
in Liberation France by Fabrice Virgili
.
.
.
.
ภาพยนตร์อิตาลี เรื่อง “Malena”
แสดงนำโดย Monica Bellucci
.
.
Malena - Ennio Morricone
.
.
.
.
เรียบเรียง/ที่มา
http://goo.gl/7sen9B
เรื่องอัปยศของคนฝรั่งเศส
สตรีชาวฝรั่งเศสที่เป็นมิตรกับนาซีเยอรมันนี
ด้วยการถูกขู่เข็ญ ถูกบีบบังคับ ยินยอมพร้อมใจ
หลังการมีเอกราชของประเทศฝรั่งเศส
(ด้วยการปลดปล่อยของทหารสัมพันธมิตร)
พวกเธอต่างได้รับโทษทัณฑ์
ด้วยการทำให้อัปยศ/อับอาย
สตรีในภาพนี้ถูกตั้งข้อหาว่า
ขายบริการให้กับทหารเยอรมันนี
.
.
เธอถูกโกนหัวโล้นโดยฝูงชน
ที่ต้องการประจานเธอ
ภาพนี้ถ่ายที่ Montelimar, France
29 สิงหาคม 1944
.
หลังสิ้นสุดสงครามโลกครั้งที่ 2
ชาวบ้านฝรั่งเศสจำนวนมากกว่า 20, 000 คน
ที่ถูกตั้งข้อหาสมคบคิดกับคนเยอรมัน
หรือร่วมมือกับฝ่ายศัตรูเยอรมันนี
ต่างได้รับการล้างแค้นให้ได้รับความอัปยศ
ได้รับความอับอายเสื่อมเสียชื่อเสียงเกียรติยศ
ส่วนมากผู้ที่ได้รับการลงโทษมักจะเป็นสตรี
โดยจะถูกจับโกนหัวให้โล้นในที่สาธารณะ
เหตุการณ์ครั้งนั้นในประวัติศาสตร์ฝรั่งเศส
เป็นเรื่องน่าอัปยศและสร้างความขายขี้หน้า
ให้กับคนในชาติฝรั่งเศสเช่นเดียวกัน
เพราะเป็นการกระทำที่ไม่มี
การพิจารณาสืบสวนสอบสวน
ตามหลักกระบวนการยุติธรรมอย่างชัดเจน
(เป็นการกระทำของพวกคนบ้าคลั่ง
หรือพวกมากลากไป หรือพวกฉวยโอกาส)
.
.
สตรีมากกว่า 20,000 คน ที่ถูกศาลเตี้ยจัดการ
ในปี 1943-1946(2486-2489)
.
ทั่วทุกมุมของประเทศฝรั่งเศส
ตั้งแต่ปี 1943 ถึงต้นปี 1946
สตรีกว่า 20,000 คนทุกวัยและทุกสาขาอาชีพ
ที่ถูกกล่าวหาว่าร่วมมือ/สมคบคิดกับเยอรมันนี
จะถูกบังคับให้ยอมจำนน/ถูกจับโกนผมให้หัวโล้น
โดยฝูงชนที่ทำเรื่องเลวร้ายเหล่านี้
มักจะเป็นอดีตนักรบต่อต้านกองทัพเยอรมันนี
หรือคนที่เพิ่งจะลุกขึ้นจับอาวุธต่อสู้
เพื่อปลดปล่อยฝรั่งเศสหลังรู้ว่าชนะแน่แล้ว
เพื่อนบ้านที่เพิ่งจะกล้าลงมาเดิน
บนท้องถนนหลังจากเยอรมันหนีไปแล้ว
หรือคนที่มีอำนาจเดิมที่เดินตามโรงพัก
หรือเดินตามตีนโรงตีนศาลหากินเศษเงิน
พวกคนเหล่านี้ต่างบ้าคลั่ง
และชอบใช้ความรุนแรง
ทำร้ายสตรีที่เป็นเหยื่อผู้เคราะห์ร้าย
ทั้งภายในบ้าน หลังกำแพง ในเรือนจำ
ในที่ชุมชนต่าง ๆ เพื่อแสดงความรักชาติ
ในช่วงหลัง ๆ แล้ว
พวกผู้ชายที่ถือกรรไกรตัดผมและใบมีดโกน
ที่จัดการโกนหัวของเหยื่อให้โล้นแล้ว
ยังกลายเป็นการแสดงมหกรรมความชั่วร้าย
ให้ผู้ชมต่าง ๆ ทั้งหญิง ชาย รวมทั้งเด็ก ๆ
ที่ต่างมาเข้าร่วมขบวนการเรื่องน่าตื่นเต้นเร้าใจ
ในการลงโทษคนทรยศเหล่านี้ตามข้อกล่าวหา
.
.
หน้าผากของเหยื่อมีเครื่องหมายสวัสดิกะ
(สัญญลักษณ์นาซี)
.
.
เหยื่อส่วนมากที่ถูกศาลเตี้ยจัดการ คือ
ข้อหาสบคบคิดหรือร่วมมือกับเยอรมัน
.
เป้าหมายการลงโทษในช่วงแรก
มีการกำหนดแบ่งแยกเพศ
และโทษทัณฑ์อย่างชัดเจน
เช่น การกำหนดรอยตรา
หรือขีดเขียนไว้บนหน้าผาก
หรือโกนผมให้หัวโล้น
แต่สุดท้ายมีการใช้รวม ๆ
ผสมปนเปไปกับการตั้งข้อหาทุกเรื่อง
ภาพที่ปรากฎจำนวนมาก
จะเป็นภาพสตรีถูกโกนผมให้หัวโล้น
แล้วถูกนำตัวมาเดินประจานไปตามท้องถนน
โดยเหยื่อผู้ถูกกระทำต่างปริปากเงียบ
แล้วต่างตัองเดินตามคำสั่งฝูงชนที่สั่งลงโทษ
ที่ไม่ทำตามกระบวนการยุติธรรม
ที่ต้องพิจารณาตามลำดับตามกฎหมาย
(การร่วมมือ การกล่าวหา การจับกุม
การตัดสิน การลงโทษ ต้องมีพยานหลักฐาน)
.
.
คนถูกลงโทษถูกจับกุมโดยพนักงานรัฐ
หรือสมาชิกกลุ่มต่อต้านเยอรมันนี
.
.
ดวงตาของความอัปยศหรืออับอาย
.
ข้อหาการสบคมคิดหรือการร่วมมือกับศัตรู
มี 4 ประการ
1. ทางการเมือง คือ
การร่วมมือกับหน่วยงานศัตรู
2. ทางพฤตินัย คือ
มีความคิดเห็นชอบด้วยกับฝ่ายศัตรู
หรือทำตัวเป็นปรปักษ์กับฝ่ายต่อต้านศัตรู
หรือฝ่ายสนับสนุนฝรั่งเศส
3. ทางการเงิน คือ
ได้ประโยชน์จากอาชีพหรือสัญญาทางธุรกิจ
4. ทางส่วนตัว คือ
มีสัมพันธ์ใกล้ชิดกับศัตรู
หรือน่าจะมีการแจ้งรายชื่อ/ที่หลบซ่อน
ผู้ต้องสงสัยให้กับฝ่ายศัตรู
เรื่องพิเศษประการที่ 5.
ใครก็ตามที่มาจากชาติศัตรู
ไม่จำเป็นต้องสมคบคิดหรือร่วมมือ
แต่ต้องระแวงสงสัยไว้ก่อนว่าผิด
มีจำนวนชาวบ้าน 22,315 คน
ที่ถูกลงโทษด้วยการถูกจับโกนหัวโล้น
ข้อหาสมคมคิด/ให้ความร่วมมือกับฝ่ายศัตรู
.
.
การตบตีและการถ่มน้ำลาย
กระหน่ำใส่เหยื่อผู้เคราะห์ร้าย
.
.
การเดินที่อัปยศผ่านใจกลางเมือง
.
Lee Miller หนึ่งในช่างภาพ
ที่บันทึกภาพในเหตุการณ์ครั้งนั้น
เล่าเหตุการณ์ที่ตนเองประสบและพบเห็นมา
" ผมเห็นเหยื่อสตรีสี่คน
เดินบนท้องถนนผ่านใจกลางเมือง
ผมรีบตรงรี่เข้าไปจะถ่ายภาพเหยื่อเหล่านั้น
ทันใดนั้น ผมอยู่ด้านหน้าของขบวนแห่ประจาน
ที่มีชาวบ้านท้องถิ่น/ทหารสตรีที่ควบคุมพวกเธอ
และแล้วมีบางสิ่งบางอย่างที่เป็นเช่นนั้น
ผมถูกหอมแก้มและแสดงความยินดี
ขณะเดียวกันชาวบ้านต่างตบตี
และถ่มน้ำลายกระหน่ำใส่เหยื่อผู้เคราะห์ร้าย "
หมายเหตุ
มีหนังสือเกี่ยวกับเหตุการณ์เรื่องราวเหล่านี้ชื่อ
Shorn Women: Gender and Punishment
in Liberation France by Fabrice Virgili
.
.
.
ภาพยนตร์อิตาลี เรื่อง “Malena”
แสดงนำโดย Monica Bellucci
.
.
Malena - Ennio Morricone
.
.
.
เรียบเรียง/ที่มา
http://goo.gl/7sen9B