หลังจากที่ตัดสินใจแล้วว่าจะมุ่งหน้าล่าความฝันตัวเอง ก็เริ่มปฏิบัติการ search หาที่เรียนใน California ว่ามีที่ไหนเค้าว่าเจ๋งๆกันมั่ง หาไปหามาก็สรุปได้ว่ามี 3 โรงเรียนที่ได้รับการยอมรับจาก Entertainment industry (อย่าหาว่ากระแดะใช้ภาษาอังกฤษนะ ถือว่าฝึกๆไว้เนอะ เผื่อในอนาคตจะได้ใช้งานบ้าง) มีรายชื่อดังนี้
1. Make-Up designory (MUD)
2. Cinema Make-Up School (CMS)
3. Joe Blasco
หลังจากเลือกโรงเรียนในดวงใจได้แล้ว ก็ทำตามแบบฉบับของคนที่อเมริกาเลยคือ ไปเยี่ยมชมโรงเรียน หรือที่เค้าเรียกว่า school touring พอไปถึงโรงเรียนก็เข้าไปนั่งคุยกับฝ่ายแนะนำโรงเรียน ถามรายละเอียดเกี่ยวกับคอร์สเรียน ค่าเรียน การชำระค่าเรียน นู้นนี่นู้นนี่ถามคำถามค้างคาใจเกี่ยวกับโรงเรียนที่เราสงสัย แล้วก็เค้าก็จะอธิบายว่าคุณครูของเราเป็นใคร ประสบการณ์มากน้อยแค่ไหน รับรางวัลอะไรมาแล้วบ้าง แต่ละโรงเรียนเค้ามีแผนกสำหรับพาทัวร์โรงเรียนโดยเฉพาะ หลังจากที่คุย คุย คุย กันเสร็จแล้วก็เดินดูโรงเรียนค่ะ ดูตั้งแต่ห้องเรียนแรกจนถึงห้องสุดท้าย ทั้งสามโรงเรียนมีสตูดิโอถ่ายภาพ เพื่อใช้ถ่ายผลงาน แล้วเอามาเช็คดูว่าผลงานแต่งหน้าที่ทำไปเป็นอย่างไร ต้องแก้ไขตรงไหน หลังจากนั้นก็พาไปดูโรงอาหาร ห้องสมุด ห้องคอมพิวเตอร์ (อย่าจินตนาการว่าโรงเรียนใหญ่นะคะ ไม่ใหญ่เลย แต่ละห้องๆเล็กมาก คิดเอาเองนะว่าค่าเช่าในแอลเอมันแพงมากขนาดไหน ถ้าทำใหญ่ๆค่าเช่าคงจะแพงน่าดู)
ที่แรกที่ไปทัวร์คือโรงเรียน Joe Blasco ค่ะ เป็นตึก 2 ห้อง 2 ชั้น เข้าไปคุยที่ office ดูดีมากค่ะ แต่พอเริ่มเดินทัวร์ รู้สึกว่าอึดอัดมาก ต้องเดินเข้าห้องนู้นเพื่อที่จะทะลุไปห้องนี้ ดูมึนๆ อึนๆ พอขึ้นไปชั้นสองก็มีสตูดิโอสำหรับนักเรียนแล้วก็มี theater เล็กๆอยู่ แต่ก็ไม่รู้มีไว้ทำไม โรงเรียนสอนแต่งหน้านะ ไม่ใช่ Theatrical School แต่ก็ดูเก๋ดี สรุปรวมๆว่า So-So ค่ะ ไม่ประทับใจเท่าไหร่
แล้วก็ไปทัวร์ต่อที่ Cinema Makeup Studio หรือ CMS โรงเรียนตั้งอยู่ในย่าน Korean Town หาที่จอดรถย๊าก ยาก แต่อยู่ใกล้สถานีรถไฟใต้ดิน ถ้าจะมาเรียนจริงๆคงต้องจอดรถทิ้งไว้ที่บ้าน แล้วนั่งรถไฟใต้ดินแทน โรงเรียนอยู่ในตึกเก่า (แต่สวย) ขึ้นลิฟท์ไปแอบน่ากลัวนิดนึง ขนาดพื้นที่ของโรงเรียนคือ พื้นที่ 1 ชั้นของตึก ตกแต่งได้ติสท์มาก เน้นแสงธรรมชาติส่องเข้ามาจากด้านนอก มี showroom เล็กๆแสดงผลงานนักเรียน โรงเรียนออกมืดๆหน่อย ผนังปูนดิบ เล็กมาก แต่คนสอนที่นี้ฝีมือระดับเทพทั้งนั้น มีทั้งรางวัลออสการ์ เอมมี่ เป็นตัวการันตีว่าคนสอนเจ๋งขนาดไหน แต่...ไม่การันตีว่าคนดังเหล่านี้จะมาสอนได้ทุกวัน เลยแอบงงๆว่าตกลงจะได้มีโอกาสเรียนกับเมคอัพอาร์ททิสระดับเทพ อย่าง Ve Neill หรือเปล่า เค้าจะว่างสอนไหมนี่ย ทัวร์โรงเรียนเสร็จก็ไปนั่งคุยกะครูใหญ่ เค้าก็อธิบายเรื่องค่าเรียน คอร์สเรียน ฟังๆแล้วก็โอเค สรุปว่าชอบที่นี่มาก บรรยากาศติสท์ดี แต่หาที่จอดรถยาก(สำคัญนะยะ) สถานที่เล็กและคับแคบไปหน่อย แสงในโรงเรียนดูมึนๆทึมๆ (ไม่ชอบที่มืดอ่ะ) แต่ก็ชอบแหละ ชอบมากกว่า Joe Blasco เยอะ
วันรุ่งขึ้นก็บึ่งไปดูที่ Makeup Designory หรือ MUD โห คนละเรื่องเลย สถานที่ใหญ่โตกว่าสองร.ร.แรกเยอะ ดูเป็นระเบียบไม่วุ่นวาย มี shop ของตัวเอง คนพาทัวร์แบบว่า professional มากๆ พาเข้าไปดูทุกซอกทุกมุม พาเข้าไปในห้องเรียนที่มีการเรียนการสอนจริง ให้ดูบรรยากาศการเรียนจริงๆ ห้อง special effect lab ก็ใหญ่กว่าที่อื่น สถานที่ดูเป็นระเบียบเรียบร้อย ทุกอย่างถูกจัดเรียงอย่างเป็นที่เป็นทาง จำนวนชั่วโมงเรียนแต่ละหลักสูตร ก็เยอะกว่าที่อื่น มี career service คอยช่วยนร.หางานทำ สรุปว่าที่นี่แหละ ถูกใจที่สุด
เออ ลืมบอกไปว่าทั้งสามโรงเรียนเค้ามีนโยบายประมาณเดียวกันคือ ถ้าเรียนจบไปแล้ว อยากกลับมาเรียนทบทวนอีกกี่รอบก็ได้ตลอดชีวิต เผื่อเรียนไปนานๆแล้วไม่ได้ใช้ อาจมีหลงๆลืมๆ ก็ขอเข้าไป audit หรือ sit in ได้เลย เป็นนโยบายที่ดีมากๆเลย
ค่าเรียนของทั้งสามโรงเรียนพอๆกันค่ะ Joe Blasco ถูกที่สุด ส่วน CMS กะ MUD ราคาพอๆกันต่างกันไม่เท่าไหร่
ค่าเรียนรวมๆแล้วตกประมาณ 3 หมื่นเหรียญ
แต่ข้อหนึ่งที่เป็นตัวแปรสำคัญที่เลือกเรียนที่ MUD คือทางร.ร.ช่วยจัดแจงหาทุนกู้ยืมค่าเล่าเรียนให้ทั้งหมด คือไปเรียนแบบไม่ต้องเสียตังค์ (แต่ต้องใช้คืนนะจ๊ะ ดอกเบี้ยถูก ระยะเวลาผ่อนนาน) คือเรียกว่าช่วยเต็มที่ ที่เค้าทำแบบนี้ได้ก็เพราะ เค้าขึ้นกับกระทรวงศึกษาธิการ รัฐบาลเลยช่วยเรื่องกู้ยืมเงินเรียน Joe Blasco ก็มีนะคะ แต่ไม่ค่อยชอบที่เรียนเท่าไหร่เลยไม่ได้เลือก ส่วน CMS มีแค่จ่ายก่อน 40% และต้องจ่ายส่วนที่เหลือทั้งหมดก่อนจะเรียนจบค่ะ
จขกท.เรียนจบมาสักพักแล้วนะคะ อย่างหนึ่งที่รู้สึกได้คือ แอบเสียดายนิดนึงที่ไม่ได้เลือกเรียน CMS เพราะโรงเรียนนี้ connection เค้าดีค่ะ ครูยังทำงานอยู่ในวงการ Hollywood บางทีเค้าก็ดึงนักเรียนเข้าไปทำงานกับเค้าค่ะ แต่ที่แน่ๆ นักเรียนที่เรียนจบจาก MUD ค่อนข้างเป็นที่ยอมรับในวงการค่ะ ด้วยชื่อเสียงของโรงเรียน และนักเรียนที่เรียนจบไปแล้วสร้างชื่อไว้ค่อนข้างดีค่ะ ส่วนใหญ่เวลาไปสมัครงานที่ไหน บอกว่าจบมาจาก MUD เค้าก็ยินดีรับเข้างานทันทีค่ะ
หรือถ้าจะให้แนะนำก็เลือกเรียน 2-3 คอร์สพื้นฐานที่ MUD และ 2-3 คอร์สขั้นสูงที่ CMS ก็น่าจะเป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่ดีค่ะ เพราะจะได้เรียนพื้นฐานแน่น และมี connection ตอนเรียนจบด้วย
นี่ก็เป็นเรี่องราวคร่าวๆเกี่ยวกับการเลือกโรงเรียนสอนแต่งหน้าที่อเมริกาค่ะ เป็นแค่ความคิดเห็นส่วนบุคคลนะ ใครเรียนที่ไหนก็ดีทั้งนั้นแหละค่ะ ถ้าตั้งใจเรียนแล้วเอาความรู้ไปประยุกต์ใช้ ส่วนใครที่ไม่ได้ไปโรงเรียนก็ไม่ต้องเสียอกเสียใจเสียดายอะไร เพราะว่าช่างแต่งหน้าระดับแนวหน้าที่มีชื่อเสียงหลายคนเค้า self-taught ค่ะ ไม่ได้ไปโรงเรียน แต่เรียนรู้ สั่งสมประสบการณ์ด้วยตัวเอง
โรงเรียนสอนแต่งหน้าในเมืองไทยดีๆก็มีอยู่หลายแห่งค่ะ ถ้าไม่อยากไปไกลบ้าน หรือทุนทรัพย์ยังไม่พร้อม ลองไปทัวร์โรงเรียนในเมืองไทยดูค่ะ
หรือถ้ายังไม่แน่ใจว่าชอบงานนี้จริงหรือเปล่า ขอแนะนำโรงเรียนฝึกอาชีพ หรือศูนย์ฝึกอาชีพดูนะคะ ราคาไม่แพง ครูก็เก่ง ลองไปเรียนดูก่อนว่าชอบจริงๆหรือเปล่า ถ้าเรียนแล้วชอบวิชาชีพนี้ อยากทำจริงๆจังๆ ก็ค่อยไปหาที่เรียนต่อเพิ่มเติมได้ค่ะ
ลาออกจากงานประจำ ไปเป็นช่างแต่งหน้า ภาค 3 ตอน กว่าจะหาโรงเรียนเรียนสอนแต่งหน้าที่ถูกใจได้
1. Make-Up designory (MUD)
2. Cinema Make-Up School (CMS)
3. Joe Blasco
หลังจากเลือกโรงเรียนในดวงใจได้แล้ว ก็ทำตามแบบฉบับของคนที่อเมริกาเลยคือ ไปเยี่ยมชมโรงเรียน หรือที่เค้าเรียกว่า school touring พอไปถึงโรงเรียนก็เข้าไปนั่งคุยกับฝ่ายแนะนำโรงเรียน ถามรายละเอียดเกี่ยวกับคอร์สเรียน ค่าเรียน การชำระค่าเรียน นู้นนี่นู้นนี่ถามคำถามค้างคาใจเกี่ยวกับโรงเรียนที่เราสงสัย แล้วก็เค้าก็จะอธิบายว่าคุณครูของเราเป็นใคร ประสบการณ์มากน้อยแค่ไหน รับรางวัลอะไรมาแล้วบ้าง แต่ละโรงเรียนเค้ามีแผนกสำหรับพาทัวร์โรงเรียนโดยเฉพาะ หลังจากที่คุย คุย คุย กันเสร็จแล้วก็เดินดูโรงเรียนค่ะ ดูตั้งแต่ห้องเรียนแรกจนถึงห้องสุดท้าย ทั้งสามโรงเรียนมีสตูดิโอถ่ายภาพ เพื่อใช้ถ่ายผลงาน แล้วเอามาเช็คดูว่าผลงานแต่งหน้าที่ทำไปเป็นอย่างไร ต้องแก้ไขตรงไหน หลังจากนั้นก็พาไปดูโรงอาหาร ห้องสมุด ห้องคอมพิวเตอร์ (อย่าจินตนาการว่าโรงเรียนใหญ่นะคะ ไม่ใหญ่เลย แต่ละห้องๆเล็กมาก คิดเอาเองนะว่าค่าเช่าในแอลเอมันแพงมากขนาดไหน ถ้าทำใหญ่ๆค่าเช่าคงจะแพงน่าดู)
ที่แรกที่ไปทัวร์คือโรงเรียน Joe Blasco ค่ะ เป็นตึก 2 ห้อง 2 ชั้น เข้าไปคุยที่ office ดูดีมากค่ะ แต่พอเริ่มเดินทัวร์ รู้สึกว่าอึดอัดมาก ต้องเดินเข้าห้องนู้นเพื่อที่จะทะลุไปห้องนี้ ดูมึนๆ อึนๆ พอขึ้นไปชั้นสองก็มีสตูดิโอสำหรับนักเรียนแล้วก็มี theater เล็กๆอยู่ แต่ก็ไม่รู้มีไว้ทำไม โรงเรียนสอนแต่งหน้านะ ไม่ใช่ Theatrical School แต่ก็ดูเก๋ดี สรุปรวมๆว่า So-So ค่ะ ไม่ประทับใจเท่าไหร่
แล้วก็ไปทัวร์ต่อที่ Cinema Makeup Studio หรือ CMS โรงเรียนตั้งอยู่ในย่าน Korean Town หาที่จอดรถย๊าก ยาก แต่อยู่ใกล้สถานีรถไฟใต้ดิน ถ้าจะมาเรียนจริงๆคงต้องจอดรถทิ้งไว้ที่บ้าน แล้วนั่งรถไฟใต้ดินแทน โรงเรียนอยู่ในตึกเก่า (แต่สวย) ขึ้นลิฟท์ไปแอบน่ากลัวนิดนึง ขนาดพื้นที่ของโรงเรียนคือ พื้นที่ 1 ชั้นของตึก ตกแต่งได้ติสท์มาก เน้นแสงธรรมชาติส่องเข้ามาจากด้านนอก มี showroom เล็กๆแสดงผลงานนักเรียน โรงเรียนออกมืดๆหน่อย ผนังปูนดิบ เล็กมาก แต่คนสอนที่นี้ฝีมือระดับเทพทั้งนั้น มีทั้งรางวัลออสการ์ เอมมี่ เป็นตัวการันตีว่าคนสอนเจ๋งขนาดไหน แต่...ไม่การันตีว่าคนดังเหล่านี้จะมาสอนได้ทุกวัน เลยแอบงงๆว่าตกลงจะได้มีโอกาสเรียนกับเมคอัพอาร์ททิสระดับเทพ อย่าง Ve Neill หรือเปล่า เค้าจะว่างสอนไหมนี่ย ทัวร์โรงเรียนเสร็จก็ไปนั่งคุยกะครูใหญ่ เค้าก็อธิบายเรื่องค่าเรียน คอร์สเรียน ฟังๆแล้วก็โอเค สรุปว่าชอบที่นี่มาก บรรยากาศติสท์ดี แต่หาที่จอดรถยาก(สำคัญนะยะ) สถานที่เล็กและคับแคบไปหน่อย แสงในโรงเรียนดูมึนๆทึมๆ (ไม่ชอบที่มืดอ่ะ) แต่ก็ชอบแหละ ชอบมากกว่า Joe Blasco เยอะ
วันรุ่งขึ้นก็บึ่งไปดูที่ Makeup Designory หรือ MUD โห คนละเรื่องเลย สถานที่ใหญ่โตกว่าสองร.ร.แรกเยอะ ดูเป็นระเบียบไม่วุ่นวาย มี shop ของตัวเอง คนพาทัวร์แบบว่า professional มากๆ พาเข้าไปดูทุกซอกทุกมุม พาเข้าไปในห้องเรียนที่มีการเรียนการสอนจริง ให้ดูบรรยากาศการเรียนจริงๆ ห้อง special effect lab ก็ใหญ่กว่าที่อื่น สถานที่ดูเป็นระเบียบเรียบร้อย ทุกอย่างถูกจัดเรียงอย่างเป็นที่เป็นทาง จำนวนชั่วโมงเรียนแต่ละหลักสูตร ก็เยอะกว่าที่อื่น มี career service คอยช่วยนร.หางานทำ สรุปว่าที่นี่แหละ ถูกใจที่สุด
เออ ลืมบอกไปว่าทั้งสามโรงเรียนเค้ามีนโยบายประมาณเดียวกันคือ ถ้าเรียนจบไปแล้ว อยากกลับมาเรียนทบทวนอีกกี่รอบก็ได้ตลอดชีวิต เผื่อเรียนไปนานๆแล้วไม่ได้ใช้ อาจมีหลงๆลืมๆ ก็ขอเข้าไป audit หรือ sit in ได้เลย เป็นนโยบายที่ดีมากๆเลย
ค่าเรียนของทั้งสามโรงเรียนพอๆกันค่ะ Joe Blasco ถูกที่สุด ส่วน CMS กะ MUD ราคาพอๆกันต่างกันไม่เท่าไหร่
ค่าเรียนรวมๆแล้วตกประมาณ 3 หมื่นเหรียญ
แต่ข้อหนึ่งที่เป็นตัวแปรสำคัญที่เลือกเรียนที่ MUD คือทางร.ร.ช่วยจัดแจงหาทุนกู้ยืมค่าเล่าเรียนให้ทั้งหมด คือไปเรียนแบบไม่ต้องเสียตังค์ (แต่ต้องใช้คืนนะจ๊ะ ดอกเบี้ยถูก ระยะเวลาผ่อนนาน) คือเรียกว่าช่วยเต็มที่ ที่เค้าทำแบบนี้ได้ก็เพราะ เค้าขึ้นกับกระทรวงศึกษาธิการ รัฐบาลเลยช่วยเรื่องกู้ยืมเงินเรียน Joe Blasco ก็มีนะคะ แต่ไม่ค่อยชอบที่เรียนเท่าไหร่เลยไม่ได้เลือก ส่วน CMS มีแค่จ่ายก่อน 40% และต้องจ่ายส่วนที่เหลือทั้งหมดก่อนจะเรียนจบค่ะ
จขกท.เรียนจบมาสักพักแล้วนะคะ อย่างหนึ่งที่รู้สึกได้คือ แอบเสียดายนิดนึงที่ไม่ได้เลือกเรียน CMS เพราะโรงเรียนนี้ connection เค้าดีค่ะ ครูยังทำงานอยู่ในวงการ Hollywood บางทีเค้าก็ดึงนักเรียนเข้าไปทำงานกับเค้าค่ะ แต่ที่แน่ๆ นักเรียนที่เรียนจบจาก MUD ค่อนข้างเป็นที่ยอมรับในวงการค่ะ ด้วยชื่อเสียงของโรงเรียน และนักเรียนที่เรียนจบไปแล้วสร้างชื่อไว้ค่อนข้างดีค่ะ ส่วนใหญ่เวลาไปสมัครงานที่ไหน บอกว่าจบมาจาก MUD เค้าก็ยินดีรับเข้างานทันทีค่ะ
หรือถ้าจะให้แนะนำก็เลือกเรียน 2-3 คอร์สพื้นฐานที่ MUD และ 2-3 คอร์สขั้นสูงที่ CMS ก็น่าจะเป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่ดีค่ะ เพราะจะได้เรียนพื้นฐานแน่น และมี connection ตอนเรียนจบด้วย
นี่ก็เป็นเรี่องราวคร่าวๆเกี่ยวกับการเลือกโรงเรียนสอนแต่งหน้าที่อเมริกาค่ะ เป็นแค่ความคิดเห็นส่วนบุคคลนะ ใครเรียนที่ไหนก็ดีทั้งนั้นแหละค่ะ ถ้าตั้งใจเรียนแล้วเอาความรู้ไปประยุกต์ใช้ ส่วนใครที่ไม่ได้ไปโรงเรียนก็ไม่ต้องเสียอกเสียใจเสียดายอะไร เพราะว่าช่างแต่งหน้าระดับแนวหน้าที่มีชื่อเสียงหลายคนเค้า self-taught ค่ะ ไม่ได้ไปโรงเรียน แต่เรียนรู้ สั่งสมประสบการณ์ด้วยตัวเอง
โรงเรียนสอนแต่งหน้าในเมืองไทยดีๆก็มีอยู่หลายแห่งค่ะ ถ้าไม่อยากไปไกลบ้าน หรือทุนทรัพย์ยังไม่พร้อม ลองไปทัวร์โรงเรียนในเมืองไทยดูค่ะ
หรือถ้ายังไม่แน่ใจว่าชอบงานนี้จริงหรือเปล่า ขอแนะนำโรงเรียนฝึกอาชีพ หรือศูนย์ฝึกอาชีพดูนะคะ ราคาไม่แพง ครูก็เก่ง ลองไปเรียนดูก่อนว่าชอบจริงๆหรือเปล่า ถ้าเรียนแล้วชอบวิชาชีพนี้ อยากทำจริงๆจังๆ ก็ค่อยไปหาที่เรียนต่อเพิ่มเติมได้ค่ะ