สวัสดีเพื่อนทุกคนนะคะ
นี่เป็นครั้งแรกที่เราจะมาแชร์ประสบการณ์การจัดฟันของเรา จริงๆเราถอดมาตั้งแต่ตุลาปีที่แล้วค่ะ ระยะเวลาจัดก็ประมาณ2ปีพอดีค่ะ รีวิวนี้ก็เผื่อจะช่วยใครที่อยากจัดฟันได้ตัดสินใจนะคะ เพราะการจัดฟันมีทั้งข้อดีข้อเสีย ว่าแล้วก็เริ่มเลยละกันค่ะ
ขอส่งรูปนี้ลงประกวดก่อน 555
.
เริ่มกันที่รูปสมัยมอต้น และมอปลายนะคะ รูปซ้ายสุดประมาน ม1หรือม2 นี่แหละค่ะ จำไม่ได้แม่น ส่วนสองรูปขวาเป็นรูปตอนม.6 สังเกตฟันล้นปากออกมาเลย 555
.
ต่อมาเป็นสมัยมหาลัยค่ะ ยิ้มทีฟันล้ำหน้าตลอด โดนเพื่อนล้ออีกตะหาก ล้ำหน้า ฟันไม่เข้า โดยเฉพาะเขี้ยว จริงๆเราชอบเขี้ยวนะคะ ตอนจัดเสร็จเขี้ยวอยู่ครบค่ะไม่ได้ถอนเขี้ยว แต่มันหลบในเข้าไปเห็นไม่ชัดแล้ว สังเกตตอนนี้ก่อนจัดฟันข้างๆฟันกระต่ายเราผลุบเข้าไปหลังฟันล่าง เกิดเป็นช่องเหมือนฟันหลอเลยค่ะ แล้วถัดมาเป็นเขี้ยว ส่วนฟันกรามเล็กซี่ถัดไปมันเล็กมาก ทำให้หลังจัดเสร็จเวลายิ้มจะเห็นฟันข้างหน้าแค่5ซี่เท่านั้นเองค่ะ ช่วงนี้เราเริ่มถอดแว่นปล้ว แต่ไม่ได้ใส่คอนแท็คนะคะ พกแว่นไว้ตลอดแต่ไม่ได้ใส่ประจำ แค่เวลามองไกลๆ อ่านหนังสือ คนใส่แว่นประจำนึกออกไหมคะ ถอดแล้วหน้าจะแปลกๆ ตาห่างหน่อยๆ ช่วงนั้นมีแต่เพื่อนทัก ถอดแว่นทำไม ใส่ดีกว่า อย่าถอดเลย ยอมรับว่าเสียเซลฟ์มากจะกลับไปใส่ แต่เราคิดว่าบางทีแว่นมันอาจจะเป็นตัวที่ทำให้โครงหน้าเราไม่เป็นอย่างที่ควรจะเป็น เลยทนรับคำที่เพื่อนพูดต่อไป
.
ต่อไปใส่เหล็กค่ะ บอกรายละเอียดก่อนว่าเราถอนฟันบนสองซี่ คือซี่ที่ผลุบไปข้างใน เป็นซี่ข้างฟันหน้าด้านซ้าย กับฟันกรามเล็กด้านขวา ถอนฟันล่าง1ซี่ คือกรามเล็กด้านซ้าย แล้วก็ผ่าฟันคุดล่างไปสองซี่ ทั้งหมดทำในเวลา 1-2 เดือน ก่อนใส่เหล็ก การผ่าฟันคุดและถอนฟันเป็นอะไรที่ทรมานมากที่สุดแล้วสำหรับเรา ฟันคุดซี่แรกที่ผ่า หมอคำนวณผิด มันดันอยู่ลึกกว่าที่คิด ใช้เวลาผ่าไป เกือบๆ2ชั่วโมง ใช่ค่ะ 2ชั่วโมง นานมากกกกกแค่ซี่เดียว
ถอนฟันก็เหมือนกันค่ะ ไอฟันที่ผลุบเข้าไปนั่นแหละค่ะ ตอนแรกฉีดยา ไม่ชา ฉีดใหม่ ไม่ชา สรุปวันนั้นถอนสองซี่ ฉีดยาชาประมาน9เข็ม แล้วอีกอย่างคือเหมือนรากฟันมันแข็งแรงเกินไป จนหมอเอาอะไรไม่รู้มาค้ำ แล้วก็ตอกๆๆ สมองแทบระเบิดแน่ะ เป็นประสบการณ์ที่เลวร้ายสุดๆ TT^TT
ภาพซ้ายเป็นวันที่ใส่เหล็กเลยค่ะ พฤศจิกายน 2554 แรกๆไม่รู้สึก พอเริ่มผ่านไปหลายๆชั่วโมงก็ออกอาการ ปวดมากกกกกก แค่เคี้ยวข้าวยังแข็งเว่อ ระบม จำได้ว่าเป็นอาทิตย์ๆเลย ดูๆแล้วฟันยื่นออกมามากกว่าเก่าอีก แทบหุบปากไม่ลงเลย 555
.
ต่อมาเป็นปี2555ค่ะ ฟันยุบลงไปนิดดดนึง หน้ายังกลมๆ บวมๆเหมือนเดิม
.
ต่อเนื่องค่ะ เดือน 7และเดือน10ปีเดี่ยวกัน ปลายๆปี2555 นี้เริ่มรู้สึกได้ว่าหน้าเรียวลงนิดนึง ไม่เยอะนะคะ และดั้งก็โด่งขึ้นมา จริงๆเราเป็นคนดั้งโด่งเป็นกรรมพันธุ์อยู่แล้วค่ะ แต่ปีกจมูกค่อนข้างบานเหมือนกัน แต่พอมันโด่งขึ้นอีก ปีกจมูกก็เหมือนโดนดึงให้แคบลงหน่อย ยกเว้นเวลายิ้มก็บานเหมือนเดิมค่ะ แหะๆ
.
หลังจากในรูป เราตัดผมด้วยค่ะ ตัดสั้นเลยเหมือนเด็กมอต้น แต่ยาวกว่าหน่อย
ต่อมาปี 2556ค่ะ ฟันค่อยๆกระเถิบมาชิดกันแล้วววว ที่ถอนไป ตรงที่หลอๆ ช่วงนี้ใส่ยางดึงฟันค่ะ ขอบาอกว่าแรกๆใส่ทรมานมาก อย่างกับตอนใส่เหล็กแรกๆเลย อยากจะถอดมากค่ะ เจ็บปวด แต่ก็ไม่เคยมีสักวันที่ไม่ใส่นะคะ ใส่ตลอด อดทนเพราะอยากให้ฟันชิดเร็วๆ แล้วความอดทนก็เห็นผล ใช้เวลาไม่กี่เดือนค่ะหมอบอกไม่ต้องใส่แล้ว ฟันชิดจะหมดแล้ว เย่ๆๆๆ
พอฟันชิดกันแล้วก็มีคนทักเลยว่าหน้าเรียวขึ้น อาจจะเป็นเพราะเราเปลี่ยนทรงผมด้วย ไว้ผมม้ามาจะสิบปีเพิ่งคิดได้ว่าผมม้ามันไม่เหมาะกับเราเลย ทำให้หน้าเราดูสั้น บวม แต่ที่ไว้เพราะตัวเองหน้าผากเถิกมากค่ะ 8 เซน แถมโหนกๆชัดๆด้วย ลูกคนจีนก็งี้ 555 เลยไม่กล้าเปิดเหม่ง แต่พอลองเปิดดูแล้วปิดข้างๆไว้ก็ไม่แย่เท่าไร ดูดีกว่าเดิมด้วยซ้ำ เลยไว้ทรงผมแหวกแทนผมม้าตั้งแต่นั้นมาและคงไม่ตัดอีกแน่นอน 555
.
เวลาผ่านไปไวไหมคะ จะสองปีแล้ว 5555 ช่วงนี้ฟันก็ชิดหมดแล้วค่ะ สิงหา56 ช่วงประมาน4-5เดือนก่อนถอดเหล็กหมอใส่เชนค่ะ ปวดทรมานเหมือนกัน แต่ไม่เท่าตอนใส่เหล็ก กับดึงฟัน ช่วงเดือนสิงหา กันยาจนถึงถอดเหล็กรู้สึกว่าฟันไม่เปลี่ยนเท่าไรแล้ว
.
ตุลาคม ปี56 ค่ะ รูปนี้เป็นวันถอดเหล็กเลย เห่อมาก ถ่ายรูปเยอะมากกกก
เราใส่รีเทนเนอร์แบบใสนะคะ จะบอกว่ามันค่อนข้างบอบบางเลย แล้วก็สกปรก เป็นคราบง่าย ต้องแปรงตลอดทุกครั้งที่แปรงฟัน เราเป้นคนนอนกัดฟัรด้วยค่ะ สภาพรีเทนเนอร์ตอนนี้ตรงที่สบฟันเลยแตกกลายเป็นรูๆเรียบร้อย และรีเทนเนอร์ฟันบน ด้วยสภาพฟันของเราตรงเขี้ยว รีเทนเนอร์มันต้องง้างออกก่อนจะครอบเข้าพอดีฟัน ทำให้ตรงนั้นมันแตก แตกออกมาเป็นทรงด้านหน้าของฟันเขี้ยวทั้งอันเลย เลยต้องทำใหม่
แต่เราชอบนะคะที่เวลาใส่แล้วมันมองไม่เห็น เราไม่ค่อยชอบเวลาตัวเองยิ้มแล้วเห็นเหล็กหรือลวดเป็นเส้นๆ เราชอบแบบเห็นแต่ฟันมากกว่า
.
ต่อไปก็เป็นรูปช่วงหลังถอดเหล็กและช่วงปัจจุบันนะคะ
.
พอผมยาวก็มีแต่คนบอกว่าอย่าไปตัดอีกนะ ผมยาวดีกว่า 555 จริงๆเราชอบผมสั้นมาก แต่ก็ต้องทำใจว่ามันไม่เหมาะกับเรา หลังจัดฟันเสร็จหน้าเรียวลงอย่างเห็นได้ชัด แต่ก็ไม่ได้เรียวอะไรมากมายนะคะเพราะโครงหน้ามีโหนกแก้มและมีแก้ม ยังคงเป็นคนหน้ากลมอยู่ แต่ก็อาศัยทรงผมเอามาปิดๆหน้าด้านข้างเอา แต่หลังๆเริ่มเปิดผมแล้ว อาศัยเอาไรๆผมมาปิด เราตาคล้ำด้วยค่ะถ้าสังเกตเพราะเป็นภูมิแพ้มาแต่เด็ก และหน้าตาตอนไม่ยิ้มนี่ ดุค่ะ มีแต่คนบอกว่าดูหยิ่ง แต่มีคนบอกว่าจัดฟันแล้วดูดีขึ้น เราก็ดีใจมากกกก >< อาจจะไม่ได้ว่าดูดีอะไรมากมาย แต่จากจุดเริ่มต้นมาถึงตอนนี้เราก็รู้สึกว่าได้ขนาดนี้เราก็พอแล้ว เราก็หัดดูแลตัวเองมากขึ้น แต่งหน้าบ้าง แต่งตัวบ้าง
จบแล้วค่า หวังว่ารีวิวนี้จะช่วยให้ใครที่คิดอยากจะจัดฟันตัดสินใจได้นะคะ เอาตามตรงเราอยากให้ฟันเรามันยุบเข้าไปมากกว่านี้อีกหน่อย เพราะเราค่อนข้างมีเนื้อปาก ไม่ค่อยได้รูป อยากให้ปากมันเล็กๆลง แต่ฟันมันชิดแล้วได้แค่นี้คงเข้าอีกไม่ได้แล้วน่าจะเป็นที่รูปกระดูก กราม มากกว่า ถ้าอยากให้เข้าอีกคงต้องไปผ่า แต่เราคงไม่ทำ กลัวค่ะ 555
ยังไงก็ฝากไว้อีกนิดนึงว่า จัดฟันแล้วก็ไม่ใช่ว่าหน้าจะเรียวลง ดั้งโด่งขึ้นทุกคนนะคะ มันอยู่ที่โครงสร้างหน้าของแต่ละคนที่แตกต่างกันด้วย บางคนถ้าฟันไม่เหยินมาก จัดไปดั้งก็คงไม่โด่งขึ้น เหมือนเพื่อนเราน่ะค่ะ ไม่โด่งขึ้น เพราะฟันแค่เก ไม่ได้เหยิน และผลของการจัดอาจจะไม่ได้เป็นตามที่เราหวังไว้ว่าจะต้องสวยแบบนั้นๆเหมือนที่เราต้องการเสียหมด บางทีมันก็ทำไม่ได้ แล้วก็ต้องมาดูแลความสะอาดมากกว่าเดิมด้วย ไม่งั้นปัญหาฟันผุ ปากเหม็นก็ตามมาอีก แต่ถ้าตรงนี้ถ้าใครคิดว่าพร้อมดูแล รับได้ ทนเจ็บได้ ก็จัดโลดค่าา
ปล ค่าเสียหายในการจัด ไม่รวมการเคลียร์ปากนะคะ ที่ที่เราทำค่อนข้างแพง ใส่เครื่องมือบน8000 ล่าง 8000 ผ่อนเดือนละ 1200 ประมาณ24เดือนพอดี รีเทนเนอร์จ่ายแยก อันละ 4500 (แพงมากกกกก สองอัน 9000
)
ปล.2 บางทีรูปมันก็อาจจะสวยกว่าตัวจริงนะคะ อยู่ที่มุมกล้อง แสง การแต่งหน้าแต่งตัว ถ้าไม่แต่งหน้าก็โทรมได้โล่ห์เหมือนกันเพราะเป็นภูมิแพ้ ตาคล้ำ T^T 555 ถ้าตัวจริงไม่สวยเท่าในรูปก็กราบขออภัยด้วยค่ะ
ใครมีคำถามอะไรก็ฝากไว้ตรงนี้ หรือหลังไมค์มาได้นะคะ ขอบคุณทุกท่านที่ติดตามชมค่าาา บะบายย
รีวิว แชร์ประสบการณ์จัดฟันของเราเป็นระยะเวลา 2 ปีค่ะ
ขอส่งรูปนี้ลงประกวดก่อน 555
.
เริ่มกันที่รูปสมัยมอต้น และมอปลายนะคะ รูปซ้ายสุดประมาน ม1หรือม2 นี่แหละค่ะ จำไม่ได้แม่น ส่วนสองรูปขวาเป็นรูปตอนม.6 สังเกตฟันล้นปากออกมาเลย 555
.
ต่อมาเป็นสมัยมหาลัยค่ะ ยิ้มทีฟันล้ำหน้าตลอด โดนเพื่อนล้ออีกตะหาก ล้ำหน้า ฟันไม่เข้า โดยเฉพาะเขี้ยว จริงๆเราชอบเขี้ยวนะคะ ตอนจัดเสร็จเขี้ยวอยู่ครบค่ะไม่ได้ถอนเขี้ยว แต่มันหลบในเข้าไปเห็นไม่ชัดแล้ว สังเกตตอนนี้ก่อนจัดฟันข้างๆฟันกระต่ายเราผลุบเข้าไปหลังฟันล่าง เกิดเป็นช่องเหมือนฟันหลอเลยค่ะ แล้วถัดมาเป็นเขี้ยว ส่วนฟันกรามเล็กซี่ถัดไปมันเล็กมาก ทำให้หลังจัดเสร็จเวลายิ้มจะเห็นฟันข้างหน้าแค่5ซี่เท่านั้นเองค่ะ ช่วงนี้เราเริ่มถอดแว่นปล้ว แต่ไม่ได้ใส่คอนแท็คนะคะ พกแว่นไว้ตลอดแต่ไม่ได้ใส่ประจำ แค่เวลามองไกลๆ อ่านหนังสือ คนใส่แว่นประจำนึกออกไหมคะ ถอดแล้วหน้าจะแปลกๆ ตาห่างหน่อยๆ ช่วงนั้นมีแต่เพื่อนทัก ถอดแว่นทำไม ใส่ดีกว่า อย่าถอดเลย ยอมรับว่าเสียเซลฟ์มากจะกลับไปใส่ แต่เราคิดว่าบางทีแว่นมันอาจจะเป็นตัวที่ทำให้โครงหน้าเราไม่เป็นอย่างที่ควรจะเป็น เลยทนรับคำที่เพื่อนพูดต่อไป
.
ต่อไปใส่เหล็กค่ะ บอกรายละเอียดก่อนว่าเราถอนฟันบนสองซี่ คือซี่ที่ผลุบไปข้างใน เป็นซี่ข้างฟันหน้าด้านซ้าย กับฟันกรามเล็กด้านขวา ถอนฟันล่าง1ซี่ คือกรามเล็กด้านซ้าย แล้วก็ผ่าฟันคุดล่างไปสองซี่ ทั้งหมดทำในเวลา 1-2 เดือน ก่อนใส่เหล็ก การผ่าฟันคุดและถอนฟันเป็นอะไรที่ทรมานมากที่สุดแล้วสำหรับเรา ฟันคุดซี่แรกที่ผ่า หมอคำนวณผิด มันดันอยู่ลึกกว่าที่คิด ใช้เวลาผ่าไป เกือบๆ2ชั่วโมง ใช่ค่ะ 2ชั่วโมง นานมากกกกกแค่ซี่เดียว
ถอนฟันก็เหมือนกันค่ะ ไอฟันที่ผลุบเข้าไปนั่นแหละค่ะ ตอนแรกฉีดยา ไม่ชา ฉีดใหม่ ไม่ชา สรุปวันนั้นถอนสองซี่ ฉีดยาชาประมาน9เข็ม แล้วอีกอย่างคือเหมือนรากฟันมันแข็งแรงเกินไป จนหมอเอาอะไรไม่รู้มาค้ำ แล้วก็ตอกๆๆ สมองแทบระเบิดแน่ะ เป็นประสบการณ์ที่เลวร้ายสุดๆ TT^TT
ภาพซ้ายเป็นวันที่ใส่เหล็กเลยค่ะ พฤศจิกายน 2554 แรกๆไม่รู้สึก พอเริ่มผ่านไปหลายๆชั่วโมงก็ออกอาการ ปวดมากกกกกก แค่เคี้ยวข้าวยังแข็งเว่อ ระบม จำได้ว่าเป็นอาทิตย์ๆเลย ดูๆแล้วฟันยื่นออกมามากกว่าเก่าอีก แทบหุบปากไม่ลงเลย 555
.
ต่อมาเป็นปี2555ค่ะ ฟันยุบลงไปนิดดดนึง หน้ายังกลมๆ บวมๆเหมือนเดิม
.
ต่อเนื่องค่ะ เดือน 7และเดือน10ปีเดี่ยวกัน ปลายๆปี2555 นี้เริ่มรู้สึกได้ว่าหน้าเรียวลงนิดนึง ไม่เยอะนะคะ และดั้งก็โด่งขึ้นมา จริงๆเราเป็นคนดั้งโด่งเป็นกรรมพันธุ์อยู่แล้วค่ะ แต่ปีกจมูกค่อนข้างบานเหมือนกัน แต่พอมันโด่งขึ้นอีก ปีกจมูกก็เหมือนโดนดึงให้แคบลงหน่อย ยกเว้นเวลายิ้มก็บานเหมือนเดิมค่ะ แหะๆ
.
หลังจากในรูป เราตัดผมด้วยค่ะ ตัดสั้นเลยเหมือนเด็กมอต้น แต่ยาวกว่าหน่อย
ต่อมาปี 2556ค่ะ ฟันค่อยๆกระเถิบมาชิดกันแล้วววว ที่ถอนไป ตรงที่หลอๆ ช่วงนี้ใส่ยางดึงฟันค่ะ ขอบาอกว่าแรกๆใส่ทรมานมาก อย่างกับตอนใส่เหล็กแรกๆเลย อยากจะถอดมากค่ะ เจ็บปวด แต่ก็ไม่เคยมีสักวันที่ไม่ใส่นะคะ ใส่ตลอด อดทนเพราะอยากให้ฟันชิดเร็วๆ แล้วความอดทนก็เห็นผล ใช้เวลาไม่กี่เดือนค่ะหมอบอกไม่ต้องใส่แล้ว ฟันชิดจะหมดแล้ว เย่ๆๆๆ
พอฟันชิดกันแล้วก็มีคนทักเลยว่าหน้าเรียวขึ้น อาจจะเป็นเพราะเราเปลี่ยนทรงผมด้วย ไว้ผมม้ามาจะสิบปีเพิ่งคิดได้ว่าผมม้ามันไม่เหมาะกับเราเลย ทำให้หน้าเราดูสั้น บวม แต่ที่ไว้เพราะตัวเองหน้าผากเถิกมากค่ะ 8 เซน แถมโหนกๆชัดๆด้วย ลูกคนจีนก็งี้ 555 เลยไม่กล้าเปิดเหม่ง แต่พอลองเปิดดูแล้วปิดข้างๆไว้ก็ไม่แย่เท่าไร ดูดีกว่าเดิมด้วยซ้ำ เลยไว้ทรงผมแหวกแทนผมม้าตั้งแต่นั้นมาและคงไม่ตัดอีกแน่นอน 555
.
เวลาผ่านไปไวไหมคะ จะสองปีแล้ว 5555 ช่วงนี้ฟันก็ชิดหมดแล้วค่ะ สิงหา56 ช่วงประมาน4-5เดือนก่อนถอดเหล็กหมอใส่เชนค่ะ ปวดทรมานเหมือนกัน แต่ไม่เท่าตอนใส่เหล็ก กับดึงฟัน ช่วงเดือนสิงหา กันยาจนถึงถอดเหล็กรู้สึกว่าฟันไม่เปลี่ยนเท่าไรแล้ว
.
ตุลาคม ปี56 ค่ะ รูปนี้เป็นวันถอดเหล็กเลย เห่อมาก ถ่ายรูปเยอะมากกกก เราใส่รีเทนเนอร์แบบใสนะคะ จะบอกว่ามันค่อนข้างบอบบางเลย แล้วก็สกปรก เป็นคราบง่าย ต้องแปรงตลอดทุกครั้งที่แปรงฟัน เราเป้นคนนอนกัดฟัรด้วยค่ะ สภาพรีเทนเนอร์ตอนนี้ตรงที่สบฟันเลยแตกกลายเป็นรูๆเรียบร้อย และรีเทนเนอร์ฟันบน ด้วยสภาพฟันของเราตรงเขี้ยว รีเทนเนอร์มันต้องง้างออกก่อนจะครอบเข้าพอดีฟัน ทำให้ตรงนั้นมันแตก แตกออกมาเป็นทรงด้านหน้าของฟันเขี้ยวทั้งอันเลย เลยต้องทำใหม่
แต่เราชอบนะคะที่เวลาใส่แล้วมันมองไม่เห็น เราไม่ค่อยชอบเวลาตัวเองยิ้มแล้วเห็นเหล็กหรือลวดเป็นเส้นๆ เราชอบแบบเห็นแต่ฟันมากกว่า
.
ต่อไปก็เป็นรูปช่วงหลังถอดเหล็กและช่วงปัจจุบันนะคะ
.
พอผมยาวก็มีแต่คนบอกว่าอย่าไปตัดอีกนะ ผมยาวดีกว่า 555 จริงๆเราชอบผมสั้นมาก แต่ก็ต้องทำใจว่ามันไม่เหมาะกับเรา หลังจัดฟันเสร็จหน้าเรียวลงอย่างเห็นได้ชัด แต่ก็ไม่ได้เรียวอะไรมากมายนะคะเพราะโครงหน้ามีโหนกแก้มและมีแก้ม ยังคงเป็นคนหน้ากลมอยู่ แต่ก็อาศัยทรงผมเอามาปิดๆหน้าด้านข้างเอา แต่หลังๆเริ่มเปิดผมแล้ว อาศัยเอาไรๆผมมาปิด เราตาคล้ำด้วยค่ะถ้าสังเกตเพราะเป็นภูมิแพ้มาแต่เด็ก และหน้าตาตอนไม่ยิ้มนี่ ดุค่ะ มีแต่คนบอกว่าดูหยิ่ง แต่มีคนบอกว่าจัดฟันแล้วดูดีขึ้น เราก็ดีใจมากกกก >< อาจจะไม่ได้ว่าดูดีอะไรมากมาย แต่จากจุดเริ่มต้นมาถึงตอนนี้เราก็รู้สึกว่าได้ขนาดนี้เราก็พอแล้ว เราก็หัดดูแลตัวเองมากขึ้น แต่งหน้าบ้าง แต่งตัวบ้าง
จบแล้วค่า หวังว่ารีวิวนี้จะช่วยให้ใครที่คิดอยากจะจัดฟันตัดสินใจได้นะคะ เอาตามตรงเราอยากให้ฟันเรามันยุบเข้าไปมากกว่านี้อีกหน่อย เพราะเราค่อนข้างมีเนื้อปาก ไม่ค่อยได้รูป อยากให้ปากมันเล็กๆลง แต่ฟันมันชิดแล้วได้แค่นี้คงเข้าอีกไม่ได้แล้วน่าจะเป็นที่รูปกระดูก กราม มากกว่า ถ้าอยากให้เข้าอีกคงต้องไปผ่า แต่เราคงไม่ทำ กลัวค่ะ 555
ยังไงก็ฝากไว้อีกนิดนึงว่า จัดฟันแล้วก็ไม่ใช่ว่าหน้าจะเรียวลง ดั้งโด่งขึ้นทุกคนนะคะ มันอยู่ที่โครงสร้างหน้าของแต่ละคนที่แตกต่างกันด้วย บางคนถ้าฟันไม่เหยินมาก จัดไปดั้งก็คงไม่โด่งขึ้น เหมือนเพื่อนเราน่ะค่ะ ไม่โด่งขึ้น เพราะฟันแค่เก ไม่ได้เหยิน และผลของการจัดอาจจะไม่ได้เป็นตามที่เราหวังไว้ว่าจะต้องสวยแบบนั้นๆเหมือนที่เราต้องการเสียหมด บางทีมันก็ทำไม่ได้ แล้วก็ต้องมาดูแลความสะอาดมากกว่าเดิมด้วย ไม่งั้นปัญหาฟันผุ ปากเหม็นก็ตามมาอีก แต่ถ้าตรงนี้ถ้าใครคิดว่าพร้อมดูแล รับได้ ทนเจ็บได้ ก็จัดโลดค่าา
ปล ค่าเสียหายในการจัด ไม่รวมการเคลียร์ปากนะคะ ที่ที่เราทำค่อนข้างแพง ใส่เครื่องมือบน8000 ล่าง 8000 ผ่อนเดือนละ 1200 ประมาณ24เดือนพอดี รีเทนเนอร์จ่ายแยก อันละ 4500 (แพงมากกกกก สองอัน 9000)
ปล.2 บางทีรูปมันก็อาจจะสวยกว่าตัวจริงนะคะ อยู่ที่มุมกล้อง แสง การแต่งหน้าแต่งตัว ถ้าไม่แต่งหน้าก็โทรมได้โล่ห์เหมือนกันเพราะเป็นภูมิแพ้ ตาคล้ำ T^T 555 ถ้าตัวจริงไม่สวยเท่าในรูปก็กราบขออภัยด้วยค่ะ
ใครมีคำถามอะไรก็ฝากไว้ตรงนี้ หรือหลังไมค์มาได้นะคะ ขอบคุณทุกท่านที่ติดตามชมค่าาา บะบายย