งานที่เรากำลังทำอยู่นั้นจะเป็นพื้นฐานแห่งอาชีพของเราในอนาคต คนที่มุ่งหางานเพียงเพราะอยากได้แค่เงิน ทำงานไปวัน ๆ ขอเพียงได้เงินเดือนก็พอแล้ว คนแบบนี้อาจจะต้องหางานไปเรื่อย ๆ ถ้ารายได้ยังไม่เป็นที่พอใจ ก็หางานใหม่เพื่อให้ได้เงินตามที่ต้องการไปเรื่อย ๆ ....
   ซึ่งต่างกับคนที่มองอาชีพเลี้ยงตัวเอง คนกลุ่มนี้เขาจะมองการณ์ไกล มองเห็นอนาคต และไม่มุ่งเฉพาะหารายได้ แต่เขามุ่งที่การเรียนรู้ ต้องการพัฒนาความรู้ความสามารถของตนเองเป็นสำคัญ แม้จะเกิดภาวะสั่นคลอนองค์กร จากปัจจัยภายนอก จนอาจจะต้องลดพนักงาน หรือมีการปลดคนทำงานลง  ก็ไม่มีผลกระทบมากมายนักกับคนกลุ่มนี้ ... เพราะคนที่มุ่งสร้างอาชีพให้กับตนเองนั้นยังมี
" ทักษะการทำงาน " ...ที่สะสมไว้มาช่วยเลี้ยงตัวเองได้  

      
        สำหรับยุคการแข่งขันที่รุนแรงแบบนี้ คนที่ได้เปรียบมากกว่า ย่อมได้รับโอกาสมากกว่า และสำหรับคนทำงานทุกคนย่อมรู้ดีว่า ทุกวินาที มีคนที่พร้อมจะก้าวมาแทนเราได้ตลอดเวลา หากว่าเราไม่ยอมพัฒนาความสามารถตามวันเวลาที่เปลี่ยนไป  ผมเชื่อว่าทุกคนที่เป็นมนุษย์เงินเดือนทุกคน คาดหวังว่า สักวันหนึ่งคงอยากมีโอกาส นั่งตำแหน่ง เจ้าของ หรือไม่ก็คงแอบคิดไว้ใจว่าอยากมี กิจการเล็ก ๆ ของตนเอง บ้าง
สิ่งที่ต้องจำไว้เลยก็คือ ... การทำงานเพื่อสร้างการเรียนรู้ มากกว่า ทำงานเพื่อเงินเดือน เพียงอย่างเดียว อย่างที่บอกไว้ว่า อาชีพของคุณในวันนี้ ส่งผลกระทบต่ออาชีพในอนาคต เนื่องจะเป็นทักษะ และประสบการณ์ที่เราจะได้เก็บเกี่ยวไว้เป็นของตนเอง ถ้าวันนี้เราเริ่มมองหา อาชีพหลัก หรือ กิจการที่ตัวเองชอบแล้วก็ ชั่วโมงแห่งการทำงานประจำนี้ เองเป็นเหมือนโรงเรียนบ่มเพาะประสบการณ์ทักษะอย่างแท้จริง  ทำให้ได้เห็นโลกของจริงบนธุรกิจคนอื่น เพื่อสั่งสมชั่วโมงบินของการเป็นเจ้าของกิจการ  ลองทบทวนดูนะครับว่า เป้าหมายของการทำงานของคุณ อยู่ที่ตรงไหน และคุณเริ่มวางแผนสำหรับการทำสิ่งที่ใช่ หรือยัง ถ้าทำแล้ว หางานที่มาช่วยต่อยอดธุรกิจของคุณกันดีกว่าไหม กล่าวคือ การยอมทำงานบางอย่าง โดยมิได้หวังเพียงเงินเดือนเพียงอย่างเดียว ซึ่งอาจจะต้องยอมแลกกับประสบการณ์การเรียนรู้งานที่เราต้องการจริง ๆ  เพื่อเพิ่ม " ทักษะอาชีพ " ให้กับตัวเอง

  

  เครดิต :  หนังสือ โมเดลความคิด พลิกชีวิตสู่ความสำเร็จ  สนพ. ปราชญ์ ..... 2014