แม้จะถูกสังเวยจากการแบนโดยทางการจีนไปตั้งแต่เมื่อเดือนที่แล้ว แต่กระนั้น แอพพลิเคชั่น LINE จากญี่ปุ่นก็ยังคงเดินหน้าที่จะโกยเงินจากหนุ่มสาวแดนมังกรให้ได้ ด้วยการเปิดป๊อป-อัพสโตร์ตัวการ์ตูนสุดฮิตในห้างสรรพสินค้าขนาดใหญ่ในกรุงปักกิ่งเมื่อวานนี้
โดยป๊อป-อัพสโตร์ดังกล่าว ถูกเปิดตัวที่ช็อปปิ้งเซ็นเตอร์ใจกลางกรุงปักกิ่งที่มีชื่อว่า Sanlitun Village ซึ่งมีลักษณะคล้ายกับย่านการค้า SOHO ในกรุงนิวยอร์ค และมาพร้อมกับการตกแต่งต้อนรับด้วยรูปภาพตัวการ์ตูนคาแร็คเตอร์ขนาดใหญ่ที่หน้าประตูทางเข้า ซึ่งผู้จัดการฝ่ายขายของ LINE ระบุว่า "ชาวจีนต่างรักตัวการ์ตูน LINE"
ทั้งนี้ เมื่อสัปดาห์ก่อน ทางการจีนได้มีคำสั่งข้อบังคับใหม่ที่กำหนดให้ผู้ใช้บริการ instant messaging จะต้องทำการลงทะเบียนการใช้งานด้วยชื่อจริง และบรรดาค่ายแอพพลิเคชั่นก็จะต้องมีการขออนุญาตจากทางการก่อนที่จะมีการเผยแพร่ข่าวการเมือง ซึ่งส่งผลให้แอพพลิเคชั่นต่างชาติ LINE และ KakaoTalk ถูกแบนในประเทศทันที ขณะที่แอพพลิเคชั่นที่เป็นสัญชาติจีนอย่าง WeChat ก็ต้องปฏิบัติตามระเบียบด้วยเช่นเดียวกัน ส่วนเหตุผลที่ทำให้ทางการจีนต้องใช้มาตรการเช่นนี้ก็เพื่อป้องกันการส่งต่อข่าวโจมตีทางการเมืองในประเทศ
ที่มา CNET
LINE เดินหน้าเปิดป๊อป-อัพสโตร์ในจีน แม้ แอพฯ จะถูกแบนจากทางการแล้วก็ตาม
แม้จะถูกสังเวยจากการแบนโดยทางการจีนไปตั้งแต่เมื่อเดือนที่แล้ว แต่กระนั้น แอพพลิเคชั่น LINE จากญี่ปุ่นก็ยังคงเดินหน้าที่จะโกยเงินจากหนุ่มสาวแดนมังกรให้ได้ ด้วยการเปิดป๊อป-อัพสโตร์ตัวการ์ตูนสุดฮิตในห้างสรรพสินค้าขนาดใหญ่ในกรุงปักกิ่งเมื่อวานนี้
โดยป๊อป-อัพสโตร์ดังกล่าว ถูกเปิดตัวที่ช็อปปิ้งเซ็นเตอร์ใจกลางกรุงปักกิ่งที่มีชื่อว่า Sanlitun Village ซึ่งมีลักษณะคล้ายกับย่านการค้า SOHO ในกรุงนิวยอร์ค และมาพร้อมกับการตกแต่งต้อนรับด้วยรูปภาพตัวการ์ตูนคาแร็คเตอร์ขนาดใหญ่ที่หน้าประตูทางเข้า ซึ่งผู้จัดการฝ่ายขายของ LINE ระบุว่า "ชาวจีนต่างรักตัวการ์ตูน LINE"
ทั้งนี้ เมื่อสัปดาห์ก่อน ทางการจีนได้มีคำสั่งข้อบังคับใหม่ที่กำหนดให้ผู้ใช้บริการ instant messaging จะต้องทำการลงทะเบียนการใช้งานด้วยชื่อจริง และบรรดาค่ายแอพพลิเคชั่นก็จะต้องมีการขออนุญาตจากทางการก่อนที่จะมีการเผยแพร่ข่าวการเมือง ซึ่งส่งผลให้แอพพลิเคชั่นต่างชาติ LINE และ KakaoTalk ถูกแบนในประเทศทันที ขณะที่แอพพลิเคชั่นที่เป็นสัญชาติจีนอย่าง WeChat ก็ต้องปฏิบัติตามระเบียบด้วยเช่นเดียวกัน ส่วนเหตุผลที่ทำให้ทางการจีนต้องใช้มาตรการเช่นนี้ก็เพื่อป้องกันการส่งต่อข่าวโจมตีทางการเมืองในประเทศ
ที่มา CNET