เด็กอายุ18 ที่พ่อแม่ไม่ได้เลี้ยงดูสามารถได้รับอะไรจากรัฐได้ไหมค่ะ เดือดร้อนมากค่ะ

คือชีวิตหนูเล่าไปอาจจะเหมือนละคร
ตอนเด็กตั้งแต่หนูเกิด หนูไม่มีแม่ คนที่ดูแลหนูอยู่ตอนเด็กคือแม่เลี้ยง แม่เลี้ยงแก่แล้ว และมีลูกอยู่แล้ว 3คน แก่กว่าหนูเกือบ10-20ปี มีผู้หญิง1คนชาย2
คนผู้หญิงเสียตอนหนูยังเด็ก และก็มีเด็กในบ้านอีก 3คนเป็นลูกของพี่ๆ อายุเท่าหนูคนนึง และอ่อนกว่า 3-4ปี อีก2คน เด็กผู้ชายหมดเลย รวมๆแล้วอยู่ที่บ้าน  ประมาน6คน รวมหนูด้วยนะ ส่วนน้องชายคนนึงจะไปๆมาระหว่างบ้านนี้กับบ้านของแม่เขา

ส่วน พ่อ หรือคนที่หนูที่คิดว่าเขาเป็นพ่อหนู ไม่ค่อยได้อยู่บ้านนี้เขาจะทำงานต่างจังหวัดและนานๆกลับมาที
เพราะอะไรที่หนูไม่แน่ใจว่าเขาเป็นพ่อรู้ไหมค่ะ เพราะในทะเบียนเกิดไม่ใช้ชื่อเขาตอนหนูอ่านเขียนเป็นหนูรู้ว่า
ทั่งชื่อพ่อและแม่เป็นชื่อใครไม่ก็ไม่รู้หนูไม่เคยได้ยินมาก่อนและไม่รู้จักเลย นามสกุลที่หนูใช้ก็ไม่เหมือนกับใครในบ้าน
และระหว่างที่อยู่บ้านนี้ หนูก็จะทะลาะ กับเด็กๆในบ้านและ โดนแม่เลี้ยงดุด่าเป็นประจำ เพราะหนูรู้ว่าแม่เขาเข้าค้าง หลานเขาอยู่แล้ว
จนวันนึงที่พ่อกลับมาหนูได้เล่นโทรสับพ่อ จนไปเจอเบอร์ๆนึงที่ เป็นชื่อของพ่อในทะเบียนเกิดตอนนั้นหนูอยากรู้มากว่าเขาเป็นใคร

และหลังจากนั่นได้ปีสองปี พ่อที่หนูรักและคิดว่าเขาเป็นพ่อก็หายไปแม่เลี้ยง บอกว่าพ่อมีแฟนใหม่ไปแล้วพ่อเป็นคนเจ้าชู้จนวันนึง
แล้วพอหนูขึ้น ม.ต้น หนูทำตัวไม่ดีหนักช่วงนั้นทะเลาะตบตีเหมือนเด็กมีปัญหา จนถึงม.2อายุประมาน14 หนูต้องไปอยู่มูลนิธิ
หนูขอไม่บอกรึกันว่าเรื่องอะไรหนูทำตัวไม่ดีมากๆตรงนั้นความผิดหนูเองหนูรู้ตัวดี และต่อมาทางมูลนิธิก็ได้ติดต่างทางครอบครัวเพื่อจะส่งกลับ
แต่แม่เลี้ยงที่เลี้ยงมาแต่เด็กเขาก็ไม่รับจะปล่อยไห้อยู่มูลนิธิ เพราะชื่อในทะเลียนเกิดก็ไม่ไช้ชื่อเขาแถมไม่ได้จดอะไรไว้ว่าอุปกาละมา
ตอนนั้นหนูเครียดมาก จนเขาต้องหาคนที่มีชื่ออยู่ในทะเบียนเกิดไห้หนูว่าพวกเขาเป็นใคร จนในที่สุดหนูได้เห็นรูปหน้าแม่ครั้งแรกในชีวิตแต่
เจอแค่รูปในระบบนะค่ะ หน้าเหมือนหนูเลย หนูไม่รู้จะดีใจหรือโกดที่เขาทิ้งหนูดี แต่ก็หาเขาไม่พบ แต่หนูได้พบกับพ่อที่มีชื่อในทะเบียนเกิดแทน
ตอนหนูเจอหนูเกร็งไม่ค่อยดีใจเท่าไรเพราะหนูไม่รู้จักเขาเลยแต่หนูก็ดีใจที่ได้ออกจากมูลนิธิ ซะที

หลังจากนั้นหนูย้ายมาอยู่นครปฐม ตอนแรกหนูอยู่กรุงเทพนะค่ะ พ่อในทะเบียนเกิดหนูก็มีครอบครัวอยู่แล้ว หนูไปถึงรู้สึกได้เลยว่าเป็นส่วนเกิน
ฐานะทางบ้านก็ไม่ค่อยดี พ่อเป็นราชการ และหนูก็ได้รู้ความจริงบ้างอย่างจากพ่อคนนี้แต่หนูก็ไม่รู้ว่าเขาโกหกรึป่าวยังไม่เชื่อ100เปอ
คือ เขาบอกเขาเป็นลูกน้องของพ่อหนูตอนเด็กและความเจ้าชู้ของพ่อคนแรกหนู ก็ได้ทำหญิงคนนึงที่เป็นแม่หนูท้องและด้วยความที่
ไม่อยากไห้เมียหลวงรู้เลยให้ลูกน้องตนเองจดชื่อเป็นพ่อแทน และเอาลูกตนเองมาเลี้ยงกับเมียหลวงและบอกเป็นลูกของลูกน้องที่เดือดร้อน
เลยรับมาเลี้ยง แต่หนูก็ยังไม่เชื่อ100เปอเซนนะค่ะ หนูโดนหลอกมาเยอะตอนเด็ก และพ่อคนใหม่การทำงานเหมือนพ่อคนเก่าเลย ไม่ค่อยได้อยู่บ้าน
หนูเลยต้องอยู่กับครอบครัวเขาแบบกดดัน กดดันมากๆ ทะเลาะกับเขาก็มี ตอนนั้นหนู 15และมีบัตรประชาชน แต่หนูต้องเรียน ม.2ใหม่อีกรอบที่โรงเรียน
แถวนครปฐม และไม่ทันได้จบ ม.2 หนูก็ได้ทะเลาะกับทางบ้านถึงขนาดที่หนูตัดสินใจ หนีออกจากบ้านมาอยู่บ้านเพื่อนสนิท แม่เขาไม่คิดอะไร
มากแต่ฐานะก็ไม่ได้ดีอะไร ต้องหาเลี้ยงตนเองตอนนั้น หนูได้งานแถวนั้นคือไปเป็นหางเครื่อง แดนเซอร์ เหนื่อยมากได้วันไม่ถึง 300 บาท

หลังจากนั้นหนูต้องหยุดเรียนไว้ก่อนเพื่อหาเลี้ยงชีวิตตัวเองตอนอายุ15 ตอนนั่นหนูมีแฟนคนนึง อายุแก่กว่าหนู2ปีครบกันดีไม่มีปัญหาจน
กระทั่งแฟนหนูขับมอไซต์และโดนรถชนจนเสียชีวิตหนูเสียใจที่เสียคนไว้ใจไปอีกตอนนนั้นเลยหยุดงานไปพักนึง ไปช่วยงานศพทางบ้านแฟน
และได้คุยกับแม่แฟนและคอยปอบแม่แฟนตลอดจนเขารู้สึกดีและ ระหว่างที่เขารู้สึกดีขึ้นเขาก็ถามถึงชีวิตหนูกลับมาบ้างว่าเป็นไง หนูก็เลยเล่าไห้
ฟังให้หมดเลย เขาก็เลยตัดสินใจว่าจะช่วยดูแลหนูเพราะหนูสามารถคุยกับเขาแล้วทำไห้เขาสบายใจขึ้นมาเพราะหนูรู้จักเขาดีเขาเลย คุยกับลูก
เขาอีก2คนทางบ้าน เป็นชาย1เรียนมหาลัยอยู่1คนละ คนหญิงจบแล้ว ตอนนั้นเขายอมรับหนู หนูก็โอเค ไม่มีไรจะเสียตอนนั้น หนูเลยเลิกงาน
หางเครื่องและจะกับมาเรียนต่อม.2 อีกทีอายุก็จะ 16แล้วตอนนั้น แต่ไม่เป็นไรไม่มีปัญหาหนูรักแม่คนนี้มาก เขาดีกับหนูมากๆ จนกระทั่งความซวย
ของหนูก็เกิดขึ้น ในเย็นวันนึงที่หนูกำลังกลับจากโรงเรียนปกติพี่ชายในบ้านจะมารับกลับประจำอยู่แล้วแต่เรื่องมันเกิดเย็นนั้น คือพี่ชายเขาจะข่มขืนหนู
เขาบอกว่าถ้าเขาไม่ได้ เขาจะบอกแม่ยังหนูก็ไม่ยอมอยู่แล้วเลยลงรถกลับกับเพื่อนซะเลย จนไปถึงบ้าน แม่ก็รออยู่เลยไม่มีใครฟังหนูใส่ความหนูเต็มที
หนูเสียใจมากไม่มีใครฟังแต่ก็ชั่งเถอะ ไม่โกดแม่หรอกยังไงก็ต้องรักลูกตนเองมากกว่าอยู่แล้วหนูเข้าใจ แม่ไล่หนูออกจากบ้านจะให้หนูกลับมา
อยู่แบบเดิมตอนนั้นอยู่บ้านนี้ได้ประมาน ครึ่งปีขนของมาไห้เลย ของเยอะมาก หนุแทบจะยกคนเดียวไม่ไหว6-7กระเป๋า ตังติดตัวพอมีอยู่เงินเก็บจาก
ทำงานและก็จากแม่ที่ไห้กินรายวัน ไม่รู้จะทำไงดีตอนนั้นหนูอยู่ไกล้ ม เกษตร กำแพงแสน ที่นครปฐม ที่มหาลัยมีรถตู้ไปกลับระหว่าง ม เกษตร
ที่กรุงเทพ นครปฐม หนูเลยตัดสินใจเข้ากรุงเทพละกันหางานทำตอนนั้นอายุ 16เอง ก็เอาวะสู้ตาย

เมื่อหนูถึงกรุงเทพ แถวแยกเกษตรพอดี หนูพอรู้ทางกลับไปแถวโรงเรียนเก่าระแหวกบ้านเก่าและเพื่อนๆเก่าหนู หนูคิดว่าอาจจะมีเพื่อนสักคนที่พอ
ช่วยได้มั่ง หวังไปงั่นแระสุดท้ายก็ไม่มีทำไงละ แต่โชคดีของหนู หนูเจอหอสตรีแห่งนึงค่อนข้างถูก1200-1400บาท ห้องน้ำร่วมห้องก็ไม่ค่อยจะ
ใหญ่เท่าไรแต่ไม่เป็นไรต้องอยู่ไปก่อน สำเนา บัตรประำชาชาชน ค่าห้อง1200+มัดจำ1เดือน วันนั้นจ่าย2400บาท เกือบหมดตัวเหลือตังไม่กี่ร้อย
ให้กินข้าว อดก็ต้องอดละตอนนั้น คืนแรกหนูแทบนอนไม่หลับ หมอนก็ไม่มี พัดลมก็ไม่มีมีแค่เตียงกับตู้ติดห้อง ตอนนั้นใช้เสื้อผ้าหนุนนอนไปก่อน
พรุ่งนี้ค่อยว่ากันใหม่

วันต่อมาหนูคิดอยู่สักหาคนช่วยเหลือไว้ก่อนเพราะหนูไม่ค่อยจะคิดเท่าไรว่า เขาจะรับเด็ก 16ทำงานเริ่มท้อนิดๆ จนหนูพอนึกออกสมัยม.ต้นที่
เคยอยู่กรุงเทพ ว่ามีเพื่อนอยู่แถวนี้ เลยคิดว่าไปหาดีกว่าเพื่อจะมีอะไรดีในที่สุดก็มาถึงเจอ อาแปะเป็นคนจีน เป็นอาแปะของเพื่อนหนูหนุก็ถาม
อาแปะ เพื่อนหนูอยู่ไหม แปะบอกเพื่อนหนูหนีตามผู้ชายไปแล้วหนูเศร้าเลยคนที่หนูพอนึกออกก็ไม่อยู่อีกเลยนั่ง นึกอยู่บ้านอาแปะสักพัก
อาแปะใจดีเลี้ยงข้าว จนมีป้าคนนึงมาชื้อของร้านอาแปะอาแปะขายของกระจุกกระจิกน้ำขนม หน้าบ้านบ้านแปะอยู่แถวๆ ตลาด
ป้าคนนั้นเข้ามาตอนหนูบ่นกับอาแปะอยู่เรื่องงาน ป้าถามหางานอยุ่หรอหนู หนูเลยบอกค่ะหนูบอกหนูอายุ16เองใครจะรับหนูทำ
ป้าบอกเนี่ยที่ที่ป้าทำป้าเป็นแม่ครัวที่โรงแรมดังแห่งนึงแถวหลักสี่ ของไม่บอกชื่อโรงแรมละกัน หนูเลยบอกจริงหรอป้าหนูอยากทำป้าเลยนัดว่า
พรุ่งนี้หนูมาเจอป้าหน้าร้านอาแปะละกัน 7โมงครึ่ง หนูตกลงทันทีไม่คิดเลย

จนมาถึงอีกวันหนูมาถึงรอป้าสักแปปป้าก็มาและป้าก็พาหนูมาถึงโรงแรมดังแห่งนึง หนูก็โหยป้าหนูจะได้ทำไหมเนี่ยป้าบอกได้สิ
และป้าก็พาไปสมัคร งานที่ป้าไห้หนูทำตอนนั้นคือ แคชชวล เด็กที่ค่อยเช็ดนู้น ยกนี้ แต่ต้องมาลงชื่อทำไว้ตอนเย็นถ้าจะทำต่อพรุ่งนี้
วันนึงมี2กะ กะเช้า กับดึก เช้านี้ต้องตื่น6โมงครึ่งเลยละเพื่อไปเข้าไห้ทัน ยัน 5โมงยัน คือกะเช้า ส่วนกะดึกคือหลังจาก5โมงยันปิด
ปิดไม่เท่ากันบ้างงาน ได้กะละ 300 แรกๆหนูทำ2กะเลย วันละ600 ดูเยอะนะค่ะแต่เหนื่อยมากๆ ตั่งแต่ 7-8โมงยันเที่ยงคืนกว่าตีหนึ่ง พักแค่ตอนกินข้าว
สักพักหนุไม่ไหวละมันเหนื่อยเกินไป เลยทำ วันละกะ หนูทำมาได้หลายเดือน จนเกือบปี หลังจากทำมาหลายเดือน บ้างอาทิตไม่มีงานเลยก็มีกินตังเก็บ
เอาบ้างวันก็มีแต่กะดึก จนหนูได้เจอกับคนๆนึง ที่มางานโรงแรมและ หนูก็ดูแลแถวโต๊ะเขาพอดี ตอนนั้นหนูดูแลเขาดีมั่งเาก็เลยแถวว่าอยากมีงานประจำ
ไหมพี่กำลังจะเปิดร้านใหม่แถวรังสิต หนูก็บอกว่าขอคิดดูก่อนเขาไห้เบอร์ติดต่อไว้ และหลังจากนั้นไม่นานก็เกิดเรื่องกับหนูอีกครั้ง
อันนี้หนุผิดเองหนุทำจานบนรถเข็นแตกหมดเลยทำรถเข็นล้มเอียงข้างแตกหมดเลย หนูชดใช้ไม่หมดเลย หนูเลยต้องชดใช้โดนที่ว่าเขา
ไม่ให้หนูกลับมาทำอีกแล้ว แต่ครั้งนี้หนูนึกออกถึงพี่คนนึงที่จะเปิดร้านแถวรังสิต พอดีหนูเลยไม่รีรอ รับโทรหาเขาทันที

หลังจากคุยกับพี่เขารู้เรื่องก็ตกลงทันทีเขาบอกว่าจะให้รายวันเนี่ยแระเพราะอายุยังไม่ถึงตอนนั้นกำลังจะ 17ละอีกนิด
เริ่มทำงานได้ สำหรับหนูไม่ค่อยต่างจากงานที่โรงแรมเท่าไรงานร้านอาหารแต่ต่างตรงที่ว่าหนูทำคนเดียวทั่งร้าน
ไม่ว่าจะล้างจาน จดอาหาร ยกอาหารไป ล้างห้อง แต่พี่กับพ่อครัวอีกคนจะค่อยทำอาหารมาให้ และพี่เขาเป็นคนชื้ออาหารและบ้างครั้งหนู
ก็ต้องไปชื้ออาหารกับเขาด้วยหลังจากทำงานได้เดือนนึงการเดินทางไปรังสิตค่อนข้างนาน พอสมควรพี่เขาก็บอก เอางี้เดียวพี่เช่าห้องแถวนี้ไห้อยู่ฟรีเลย
แต่ค่านำค่าไฟจ่ายเองนะ หนูดีใจเลยตอนนั้น เอาสิค่ะหอที่เขาเช่าไห้ปลอดภัยมีคีการ์ด มีห้องน้ำในตัว เดือนละ 3500 หนูก็สุขใจแล้วตอนนั้นคิด
ว่าโชคดีมากแต่ต้องแรกกลับมาช่วงเขาเปิดร้านไวขึ้นกลับต้องอยู่ดึกขึ้นจนปิดร้าน หนุก็ไม่เป็นไรลดค่าใช้จ่ายได้ เพราะหอที่เขาเช่าไห้เดินมาทำงาน
ได้เลยหนูอยู่อย่างงั่นได้เกือบปีตอนนั้นหนู 17กว่าและ หลังๆนานๆเขาพอร้านเปิดมานานคนก็น้อยลง จนบ้างที่ก็ไม่เปิด ไม่เปิดหนูก็ไม่ได้ตังหนูก็กินตังเก้บ
อีกแต่ยังดีค่าห้องไม่ต้องจ่าย และเกิดเรื่องกับหนูอีกครั้ง ฮ่าๆ บ้างคนอาจจะคิดและ ทำไมซวยอะไรขนาดนั้นเลยรึ วันนั้นหนูก็ทำความสะอาด ร้านอยุ่ดีดี
จนเปิดร้านได้สักพักพี่ เขาก็เดินมาถามว่าเช็คกระจกหน้าร้านรึป่าว เขาดูโกดมากๆ หนูก็บอกเช็คค่ะ  พี่เขาบอกมันเป็นรอยเต็มไปหมดเลยแทบทั่งบาน
หนูก็ใจเสียและ เดินไปดูหนูก็ไม่ค่อยจะเห็นเท่าไร สายตาหนูสั่นไม่ได้ใส่แว่นใส่คอนแท๊คอะไรไม่มี ตังชื้อ แล้วพี่เขาก็เคยจะชื้อไห้แล้วหนูไม่ยอมใส่เอง
พี่เขายิ่งโกดใหญ่เลยที่หนูไม่ยอมใส่แว่นจนมันเกิดเหตุ คือถ้าเป็นคนปกติ ใช้ผ้าที่มันเช็คแล้วมันเป็นรอย ก็คงเห็นละหยุดเช็ดเปลี่ยนผ้าอะไรไปแล้ว
แต่หนูไม่เห็น ก็เลยโดนไปอีกทีเลย คราวนี้พี่เขาโกดมากไม่เอาค่าเสียหายอะไรแต่ปิดร้านไปเลย เพราะทั่งร้านก็แทบจะมีพี่กะหนู2คนอยู่แล้วมีเพื่อน
พี่เขาแวะมาช่วยบ้างบางครั้ง  หนูก็ไม่มีตังสิคราวนี้ไม่ได้ตังเลยเป็นอาทิต2อาทิตกินตังเก็บทั่งนั้น จนถึงสิ้นเดือนพี่เขาก็หายไปค่าห้องก็ไม่จ่ายไห้ด้วย
หนูก็ทำใจไว้แล้วต้องเป็นแบบนี้หนูผิดเอง หนูทำได้อย่างเดียว ไห้เขายึดเงินประกันที่พี่เขาจ่ายไว้และ ออกซะ

สุดท้ายหนูก็ไช้ตังที่เหลือหนูกลับมาเช่าแถวเดิมราคาแพงกว่าเดิมหน่อย 1400 ห้องน้ำรวมเหมือนเดิม คราวนี้งานไม่ได้หาง่ายเหมือนเดิมหนูหามา
หลายเดือนละ จนตังหนูจะหมดและ ตอนนี้หนูอายุ18แล้วละเพิ่ง18ได้ เดือนมิถุนา ที่ผ่านมาหนูไม่มีงานทำ ไม่มีบ้านอยู่ไม่มีครอบครัว ไม่มีวุฒิการศึกษา
ไม่มีใครคอยรักหนู ไม่มีใครเลยสู้คนเดียวมาตลอด วันแม่ที่ผ่านมาหนูรู้สึกเฉยๆมาก อาจจะเพราะความชินแล้วมั่งต้องอยู่คนเดียว

หลังจากที่หนูเล่าชีวิตมาหนูอยากได้ความช่วยเลยบอกหนทางกับหนูหน่อย จะทำยังไงต่อไปดีรัฐบาลช่วยอะไรหนูได้บ้างไหมค่ะ
วุฒิ แค่ป.6 เรียนถึงม.2 หนูเริ่มท้อและหนูเลยอยากได้คำปรึกษามากๆ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่